Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 641

ตอนที่ 641

มหาสมุทรกว้างใหญ่ มันดูไร้จุดสิ้นสุดจนดูลึกลับเกินไป

มันเปี่ยมไปด้วยโอกาสและความเสี่ยง

ภาพทะเลสีทองได้ถูกทำลายด้วยภาพที่น่าสะพรึงกลัวแทน

คลื่นที่มีความสูงเกือบร้อยเมตรช่างดูยิ่งใหญ่นัก แต่ภายใต้ความงดงามมันเปี่ยมไปด้วยพลังทำลายที่สามารถทำลายโลกได้ !

หากเปลี่ยนเป็นที่โลกใบเดิม คลื่นที่น่าสะพรึงกลัวนี้เมื่อปรากฎบนผืนดิน มันเพียงพอที่จะสังหารมนุษย์หลายล้านคน !

เป่ยเฟิงเงยหน้าขึ้นมองคลื่นที่กำลังถล่มลงมา เขาไม่ขยับแม้แต่น้อย ใบหน้าของเขายังคงนิ่งสงบ

ลมทะเลพัดผ่านเสื้อผ้าของเขาโดยมีผมสีดำของเขาสะบัดไปด้านหลัง

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆพร้อมกับฝนที่เทลงมา ในเมฆมีสายฟ้ากระพริบไปมาส่องสว่างไปทั่วสวรรค์และโลก

อย่างไรก็ตาม มันไม่มีฝนหรือน้ำทะเลใด ๆ สัมผัสกับเป่ยเฟิงได้ น้ำทั้งหมดระเหยทันทีที่เข้าใกล้เป่ยเฟิง

เมื่อเทียบกับคลื่นลูกใหญ่แล้ว เป่ยเฟิงดูตัวเล็กจนไม่สามารถนำมาเทียบได้

เรือลำนี้แข็งแกร่งและมันใช้หินวิญญาณเป็นพลังงาน มันสามารถเร่งความเร็วเหนือเสียงได้ทำให้สามารถย่นเวลาการเดินทางได้หลายวัน

แต่ตอนนี้มันกำลังเผชิญหน้ากับทะเลที่เต็มไปด้วยคลื่น คลื่นที่มีความเร็วเหนือเสียงถึง 4 เท่า !

และด้วยสภาพอากาศในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจับปลานิรันดร์

เป่ยเฟิงสั่งให้หลี่ปู้เร่งความเร็วเต็มที่โดยไม่จำเป็นต้องกังวลใด ๆ

ตัวเรือและคลื่นมีขนาดใกล้กัน แต่ตัวเรือตอนนี้มันได้หล่นมาอยู่ด้านล่างของคลื่นขนาดใหญ่ !

คลื่นมีความสูงถึง 100 เมตรและไม่รู้ว่ามีน้ำทะเลกี่ตันสะสมอยู่ ต่อให้เรือจะแข็งแกร่งมากแต่หากได้ปะทะกับคลื่นขนาดใหญ่ด้วยความเร็วมหาศาล มันคงไม่แตกต่างจากการที่เรือพุ่งปะทะกับหน้าผา !

เรือลำใหญ่ลอยปะทะเข้ากับคลื่นที่โหมกระหน่ำเข้ามา มันดูราวกับก้อนหินที่กำลังเผชิญหน้ากับน้ำที่พุ่งเข้ามาปะทะ !

คลื่นขนาดใหญ่ปกคลุมตัวเรือพร้อม ๆ กับน้ำที่เริ่มตกลงมา

“สะบั้นความว่างเปล่า !”

ไม่รู้ว่าเป่ยเฟิงหยิบอาวุธของเขาขึ้นมาเมื่อไหร่ มันดูไม่เหมือนมีดและไม่เหมือนดาบ แต่มันทำให้คนที่จ้องมองรู้สึกเย็นไปทั้งหลัง เป่ยเฟิงไม่เห็นคลื่นลูกใหญ่อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ใบหน้าของเขายังคงสงบและเมื่อคลื่นเข้ามาใกล้อีกสิบเมตรเขาถึงจะเคลื่อนไหว !

การขยับมันดูเร็วมาก !

คนทั้งหมดยืนอยู่บนดาดฟ้าพร้อมกับยกอาวุธขึ้นมาอย่างช้า ๆ โดยมีรอยหยักคล้ายฟันฉลามที่เหมือนกำลังจะกลืนกินอะไรบางอย่างค่อย ๆ ครอบคลุมตัวพวกเขา !

ภายใต้การโจมตีของเป่ยเฟิง เลือดฉีของเขาพุ่งเข้าไปในอาวุธจากนั้นก็พุ่งออกไปยังความืดมิดที่อยู่รอบ ๆ !

กระดูกสันหลังของเป่ยเฟิงเหมือนมังกร พลังของเขาที่พุ่งออกไปมันน่ากลัวมาก ยิ่งกว่านั้นคือมันเป็นพลังที่เขารวบรวมแล้วใช้ออกไปในทีเดียว !

เมื่อการโจมตีของเขาพุ่งออกไป พื้นที่เหมือนกับถูกตัดก็ปรากฎบนคลื่น !

“บูม !”

ดาบฉีปะทะเข้ากับคลื่นที่มีขนาดใหญ่กว่า 100 เมตรด้านหน้า !

ฉากที่น่าตกใจปรากฎขึ้น คลื่นขนาดใหญ่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยมีช่องว่างขนาดใหญ่กว่า 30-40 เมตรปรากฎคั่นกลาง !

ฉากนี้มันน่าตกใจอย่างยิ่ง มันยากที่จะจินตนาการว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติ พลังของมนุษย์จะแข็งแกร่งขนาดที่ปะทะกับมันได้ !

เรือพุ่งไปทิศทางที่เป่ยเฟิงตัดคลื่น คลื่นทั้งสองด้านค่อย ๆ แยกออกจากกันทำให้ฉากนี้ดูสวยงามอย่างมาก !

แค่พริบตาความเร็วของเรือก็พุ่งเหนือเสียงเกือบสิบเท่า จากนั้นมันก็แล่นออกมาจากคลื่น

เมื่อเรือปรากฎขึ้นอีกครั้ง คลื่นขนาดใหญ่ที่แยกจากกันก็เริ่มถล่มลงมา !

“บูม !”

เสียงระเบิดดังชึ้นจากการที่คลื่นถล่มลงมา น้ำทะเลปะทะกันไปมาจากนั้นคลื่นก็ค่อย ๆ หายไป

เป่ยเฟิงไม่ได้สนใจอะไรมาก สำหรับผู้ฝึกตนที่มาถึงจุดนี้ได้ ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะฆ่าเขาได้

เว้นเสียแต่ว่าเขาจะโชคร้ายจริง ๆ ถึงจะตายได้

เป่ยเฟิงหันมาให้ความสนใจคลื่นลูกใหญ่จากระยะไกล

คลื่นที่ใหญ่เกือบ 100 เมตรแต่สุดท้ายเป่ยเฟิงก็ทำเหมือนเดิม เขาเพียงแค่โจมตีออกไปและจากนั้นคลื่นก็แยกเป็นสองส่วน !

“แรงกดดันของมันรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ฉีของสวรรค์และโลกก็รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน”

เป่ยเฟิงขมวดคิ้ว เขาใช้ความแข็งแกร่งไปถึง 30% และพลังของเขาในตอนนี้ก็ถูกระงับจนเหลือเพียงครึ่งเดียว

ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่ฉีที่อยู่รอบ ๆ ก็รุนแรงมากขึ้นจนไม่เหมาะที่จะดูดซับ

หรืออีกคำกล่าวก็คือเจ้าไม่สามารถอาศัยฉีในอากาศเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเจ้าได้อีกต่อไป

ความเร็วของเรือเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เป่ยเฟิงไม่รู้ว่าเขาตวัดอาวุธออกไปกี่ครั้ง เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ห่างจากเมืองสีทองไกลแค่ไหน

เมฆบนท้องฟ้าลอยต่ำลงพร้อมกับสายฟ้าจำนวนมากที่กระพริบไปมาในอากาศ หากสัมผัสกับเสื้อผ้าก็จะพบว่ามีไฟฟ้าสถิตย์บนเสื้อผ้า

“บูม !”

เสียงระเบิดดังขึ้นไม่ไกลจากเป่ยเฟิง ท้องทะเลบริเวณนั้นราวกับมีบางอย่างดูดจนกลายเป็นหลุมเหมือนชาม

เหนือท้องทะเลจุดนั้นเป็นก้อนเมฆสีขาว

มันเป็นพายุสายฟ้าที่พุ่งลงมาทำให้พื้นที่รอบ ๆ กว่าร้อยเมตรถูกทำลาย !

พายุสายฟ้าอยู่ไม่ไกลจากเป่ยเฟิง และเป่ยเฟิงสามารถรับรู้ได้ถึงความรุนแรงของสายฟ้านั่น

เมื่อตอนที่สายฟ้าพุ่งลงมา เหงื่อของเป่ยเฟิงก็ถูกระเหยด้วยกระแสไฟฟ้าไปแล้ว

“ดูเหมือนมีโอกาสที่สายฟ้าจะพุ่งลงมาอีก หากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ข้าคงรับมือไม่ไหวแน่”

เป่ยเฟิงขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่ามันเป็นปัญหา

ความเร็วของสายฟ้ามันเร็วเกินไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบ

เป่ยเฟิงยังไม่รู้วิธีหลบสายฟ้านั้น

หากเขาใช้พลังจิตกระจายตัวไปรอบ ๆ แน่นอนว่าเขาจะสัมผัสและหลบหลีกมันได้

แต่เป่ยเฟิงในตอนนี้ไม่กล้าปลดปล่อยพลังจิตออกไป

สายฟ้ามันรุนแรงจนส่งผลต่อสวรรค์และโลกเกินไป หากเขาปลดปล่อยพลังจิตออกมานั่นเท่ากับการสร้างแม่เหล็กดึงดูดมันเข้ามาโดยตรง

ถ้าเมฆมันอยู่สูงกว่านี้เป่ยเฟิงจะปลดปล่อยพลังจิตออกมาได้

แต่ตอนนี้เขาทำไม่ได้ การปลดปล่อยพลังจิตเท่ากับการเป็นสายล่อฟ้าเท่านั้น

ห่างจากเป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ สิบกิโลเมตร ปลานิรันดร์ฝูงใหญ่ยังคงมุ่งหน้าไปทิศหนึ่งโดยไม่สนใจว่าเป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ จะตามมาหรือไม่

“ท่านหัวหน้าตระกูล พักผ่อนที่ห้องเถอะ ให้ข้าจัดการเอง”

หลี่ปู้ก้าวออกมาและพูดด้วยเสียงเคารพ

“ไม่ การสนุกไปกับการฝึกฝนถือว่าเป็นการละเล่นอย่างหนึ่ง การละเล่นที่เหมือนกับเทียนโต๋ว”

เป่ยเฟิงส่ายหัวหลังจากนั้นก็เก็บดาบของเขา

ถึงแม้เขาจะไม่รู้วิธีฝึกฝน แต่ภายใต้การใช้ดาบมันทำให้เป่ยเฟิงรับรู้ได้ถึงบางอย่างที่แผ่วเบา

เป่ยเฟิงเคยใช้อาวุธมาก่อน แต่ส่วนใหญ่เขาพึ่งพาแต่ร่างกายและเลือดฉีที่แข็งแกร่งในการเอาชนะอีกฝ่าย

หากใช้อาวุธแล้วยังอ่อนแอ มันจะไปแตกต่างจากตอนที่ใช้มือเปล่ายังไง ?

สำหรับนักสู้หลายคน มันไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากนักสำหรับการใช้อาวุธหรือมือเปล่า

แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป เป่ยเฟิงรับรู้บางอย่างได้จากดาบ

หลังจากตวัดดาบซ้ำไปซ้ำมา เขารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเขาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

พลังของดาบที่ปลดปล่อยออกไปในแต่ละครั้งมันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

เป่ยเฟิงรับรู้ได้ว่ามันเริ่มเสมือนส่วนหนึ่งในร่างกายของเขาเหมือนมือและเท้า

แม้ว่าจะไม่มีพื้นฐานในวิชาดาบมาก่อน แต่อาศัยเพียงการควบคุม เป่ยเฟิงก็สามารถก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว !

คนธรรมดาที่ฝึกดาบ พวกเขาจะได้เพียงพื้นฐานและต้องใช้เวลานานมากกว่าจะเข้าใจ

นี่คือพื้นฐานของการฝึกฝนดาบ นักดาบแต่ละคนจะมีพลังที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจเป็นหนาม บางคนปลดปล่อยความคม และสิ่งที่คล้าย ๆ กัน

พลังของพวกเขาแตกต่างกัน ก็เหมือนเลือดและฉีที่แตกต่างกัน

วิธีการฝึกฝนของทุกคนย่อมไม่เหมือนกัน

ทักษะต่อสู้แบบเดียวกันที่ฝึกฝนโดยคนสองคน มันย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

คน ๆ หนึ่งอาจจะเหมาะกับการฝึกฝนทางด้านเลือดฉี แต่อีกคนอาจจะเหมาะกับด้านกายา

เป่ยเฟิงคว้าอะไรบางอย่างทั้ง ๆ ที่มันไม่มีอะไร

“สิ่งที่เรียกว่าทักษะต่อสู้ มันคือสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง เช่นเดียวกับวิชาสัตว์อสูร วิชาสัตว์อสูรของข้ามันมีวิถีเดินทางของตัวมันเอง ถึงแม้ว่ามันจะมีวิธีฝึกฝน แต่หากข้าเปลี่ยนมันไปเพียงเล็กน้อย มันก็จะเหมาะกับร่างกายของข้าที่สุดแตกต่างจากที่เคยมีบันทึกการฝึกฝน”

หลี่ปู้ยืนเงียบ ๆ ด้านหลังเป่ยเฟิงโดยไม่พูดอะไร เป่ยเฟิงดื่มดำกับการนึกคิดของเขา แต่เมื่อใดก็ตามที่มีคลื่นขนาดใหญ่พุ่งมาหา เขาก็จะตวัดดาบของเขาทันที

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท