หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 373.2 พี่จิ่วปะทะราชาเผ่าปีศาจ (2)

บทที่ 373.2 พี่จิ่วปะทะราชาเผ่าปีศาจ (2)

อาเว่ยกดหน้าอกเอาไว้ ในร่างมีเสียงกระตูกค่อยๆ แตกออก

เขาออกจากเผ่าไปเพียงสามปี ท่านอ๋องก็แข็งแกร่งขึ้นเหนือขีดจำกัด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาสามปีนี้ ไฉนท่านอ๋องจึงน่ากลัวยิ่งกว่าซิวหลัวเสียอีก?

“คิดไม่ถึงกระมัง” ฉิวอู๋หยายกยิ้มมุมมากอย่างได้ใจ “ท่านอ๋องในตอนนี้ ไม่ใช่ท่านอ๋องคนก่อนอีกต่อไป”

อาเว่ยคุกเข่าอยู่ที่พื้น เขาพยายามฝืนไว้ไม่ให้ตนเองล้มลง “เจ้าทำอะไรกับท่านอ๋อง”

ฉิวอู๋หยามองลงต่ำ ยิ้มอย่างเย็นชาพลางตอบว่า “ข้าปรุงยาให้ท่านอ๋อง ทำให้ท่านอ๋องแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม”

อาเว่ยกัดฟัน “เจ้า…เจ้าบ้าไปแล้ว! ”

เดิมทีการที่ท่านอ๋องเข้าไปฝึกฝนในเขตหวงห้ามก็นับว่าผิดมหันต์แล้ว อาม่าพยายามกำจัดวรยุทธ์ของท่านอ๋องมาโดยตลอด แต่เจ้างั่งนี่กลับมาทำให้ท่านอ๋องแข็งแกร่งขึ้น เขาไม่ใช่ประมุขที่คนเผ่าปีศาจต้องการล้มล้างหรอกหรือ?

ฉิวอู๋หยากล่าวด้วยความลำพองใจว่า “ท่านอ๋องไม่ได้เพียงแข็งแกร่งขึ้น ทว่าใบหน้าก็กลับไปเป็นดังเดิม ข้าไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างศิษย์พี่ สิ่งที่เขาทำไม่สำเร็จ ข้าทำสำเร็จแล้ว!”

อาเว่ยถลึงตาใส่เขา “อาม่าบอกว่าหากท่านอ๋องฝึกวิชาเช่นนี้ต่อไป ก็จะกลายเป็นซิวหลัวคนที่สอง”

ฉิวอู๋หยาเค้นกำปั้นแน่น “เป็นไปไม่ได้”

“เจ้าโกหก!” อาเว่ยกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง “เจ้ากำลังหลอกใช้ท่านอ๋อง! เจ้ามีแผนการในใจ! เจ้า…”

ฉิวอู๋หยาพูดตัดบทอาเว่ยด้วยความเกรี้ยวโกรธ “เจ้าคนทรยศ! ยังมีหน้ากลับมาอีก! ก็ดี วันนี้ข้าจะใช้ตำแหน่งนักบวชจัดการเจ้า! ลงไปอยู่ในนรกพร้อมกับเจ้าพวกนี้เลยไป!”

“อาจารย์” เสี่ยวเป่าร้องเรียก!

อาเว่ยต้านแรงกดของอ๋องแห่งเผ่าปีศาจ พุ่งขึ้นชนฉิวอู๋หยาจนล้มลงกับพื้น เขาคว้าเสี่ยวเป่าเข้ามาในอ้อมอก แล้วกลิ้งไปบนพื้นเพื่อรักษาสมดุล

จากนั้นอาเว่ยก็พาเสี่ยวเป่ารุดออกไปด้านนอก

เขารู้ว่าเอ้อร์เป่าและต้าเป่ายังอยู่ด้านใน แต่ตอนนี้เขาสามารถช่วยได้เพียงคนเดียว

ทันทีที่เขาออกมา แรงกดอันน่าสะพรึงกลัวนั้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

อาโต้วกระโดดขึ้นกลางอากาศ ใช้พลังภายในกำบังแรงกดของท่านอ๋องไว้ “พวกเจ้ารีบหนีไปเร็ว! ข้ากันไว้ได้ไม่นาน!”

อาเว่ยส่งเสี่ยวเป่าให้เยว่โกว ขณะที่กำลังจะกลับไปช่วยเอ้อร์เป่าและต้าเป่านั้น พลังของเขาก็ไม่อาจต้านทานไหว เส้นเลือดในร่างของเขาฉีกขาด

“อ๊ากกกกก”

เขาร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา ร่างกระแทกลงกับพื้น

แรงกดของอ๋องแห่งเผ่าปีศาจกดลงมา

ขณะคิดว่าตนคงไม่รอดแล้ว พลังภายในอันแข็งแกร่งสายหนึ่งก็แผ่ขยายไปทุกสารทิศ และปะทะเข้ากับพลังของท่านอ๋อง

ทุกคนล้วนแต่รู้สึกเบาหวิวขึ้นทันใด

ซิวหลัว!

ซิวหลัวมาแล้ว!

อิ่งสือซันเป็นอิสระ เขาพุ่งเข้าไปในเรือนอย่างรวดเร็ว

ชางอิงไล่ตามไปด้วยสีหน้าเย็นเยียบ แต่กลับถูกพลังของซิวหลัวโจมตีเข้าอย่างแรง

พลังภายในทั้งสองหลั่งรินเข้าไปในวังหลวงและปะทะกันอย่างดุเดือด

พลังอันบ้าคลั่งในร่างของซิวหลัวพลุ่งพล่านขึ้นมา

อาม่าซึ่งอยู่ในอุโมงค์กลางหุบเขาเงยหน้าขึ้นทันใด

อิ่งลิ่วดวงตาเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ “ซิวหลัวเขา…”

“เขาไม่ใช่ซิวหลัวธรรมดาอีกต่อไป” อาม่าตอบ “เขากลายเป็นราชาซิวหลัว พลังของเขาทะลุขีดจำกัดแล้ว”

ซิวหลัวยังคงอ้าปากค้าง พลังทะลุขีดจำกัดเมื่อถึงสถานการณ์คับขัน เจ้านี่จะแข็งแกร่งถึงเพียงใดกัน?

อย่างไรก็ดี หากมองจากอีกมุมหนึ่ง ผู้ที่บีบบังคับให้พลังของซิวหลัวเพิ่มขึ้นจนทะลุขีดจำกัดเช่นนี้ จะต้องแข็งแกร่งขนาดไหน

พลังของเขาไม่เป็นรองราชาซิวหลัวอย่างแน่นอน

น้อยครั้งนักที่อาม่าจะเผยสีหน้าวิตกกังวล “พลังเพิ่มจนทะลุขีดจำกัดในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดี”

ชั่วขณะที่พลังทะลุขีดจำกัด เป็นช่วงที่ยอดฝีมือจะอ่อนแอที่สุด และง่ายต่อการถูกโจมตีจนถึงแก่ชีวิตมากที่สุด…

“ท่านพ่อ!”

ใบหูของเยี่ยนจิ่วเฉาขยับเล็กน้อย

อิ่งลิ่วถามว่า “คุณชาย มีอะไรหรือขอรับ?”

“เสี่ยวเป่าเรียกข้า” เยี่ยนจิ่วเฉาบอก

“ข้าไม่ได้ยินนะขอรับ” อิ่งลิ่วขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ

“ข้าจะไปหาพวกเขา!” เยี่ยนจิ่วเฉากระโดดลงจากหลังของอิ่งลิ่ว

อิ่งลิ่วรีบบอกว่า “ไม่ได้นะขอรับคุณชาย! อันตรายเกินไป! หากจะไปข้าจะไปเอง! ท่านไปกับอาม่าก่อน! ข้าไปเอง!”

ไม่ทันเสียแล้ว

พลังของทุกคนล้วนแต่ถูกดูดไปหมด ไม่เหลือแม้แต่แรงต่อต้าน

อ๋องแห่งเผ่าปีศาจปรากฏกายแล้ว เขากระโดดขึ้นกลางอากาศ สวมหน้ากากประดับเขี้ยว ผ้าคลุมสีดำผืนใหญ่โบกสะบัดกลางอากาศ จิตสังหารเปี่ยมไปด้วยพลังทำลายล้างแผ่ไปรอบตัว

อิ่งลิ่วรู้สึกราวกับพลังภายในของเขาไหลออกจากร่างไปหมด

เขาตั้งสติ “แย่แล้ว! เขากำลังดูดวรยุทธ์ของพวกเรา!”

“อุแว้” เสี่ยวเป่าร้องไห้ มือเล็กของเขาเกาะลำคอของอาเว่ย

วรยุทธ์ของอาเว่ยกำลังเหือดแห้ง ร่างของเขาชาไปครึ่งหนึ่ง เขาจับเสี่ยวเป่าไว้ไม่ไหว

“อุแว้” เสี่ยวเป่าถูกอ๋องแห่งเผ่าปีศาจดูดไป

เยี่ยนจิ่วเฉาเปิดกลไกอาวุธลับ เส้นเงินบางพุ่งออกไปพันรอบเสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่าถูกดึงเข้ามาในอ้อมอกของเขา เขากอดเสี่ยวเป่าไว้ หันหลัง จากนั้นก็โจมตีอ๋องแห่งเผ่าปีศาจ

ทันใดนั้นเอง เข็มเงินนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกจากอาวุธลับ

อ๋องแห่งเผ่าปีศาจสะบัดแขนเสื้อขึ้นมากำบัง

ด้วยวรยุทธ์ของเขา อาวุธง่อนแง่นเช่นนี้ป้องกันได้ไม่ยาก แต่ไหนเลยจะรู้ว่าอยู่ๆ พลังภายในของเขาก็ลดฮวบลงทันที

และในตอนนั้นเอง เข็มเล่มหนึ่งก็ปักลงบนหน้าอกของเขา

เข็มเงินนี้เป็นเข็มอาบยาพิษ

เดิมทียาพิษปริมาณน้อยนิดเช่นนี้ไม่อาจสังหารอ๋องแห่งเผ่าปีศาจได้ แต่วันนี้เขาไม่ได้กินยา สิ่งที่เขากินเข้าไปนั้นคือลูกกวาดของต้าเป่า พลังภายในของเขาจึงอ่อนแอ กอปรกับพิษนั้นแล่นปราดเข้าที่หัวใจของเขา ทำให้เขาทรงตัวไม่อยู่และล้มลงทันใด

วินาทีที่ล้มลงไปนั้น อ๋องแห่งเผ่าปีศาจก็เอื้อมมือมาคว้าข้อเท้าของเยี่ยนจิ่วเฉา ทำให้เยี่ยนจิ่วเฉาและเสี่ยวเป่าล้มลงพร้อมกัน

เยี่ยนจิ่วเฉาตกลงไปในสระน้ำ

เยี่ยนจิ่วเฉาว่ายน้ำเก่ง เขาจึงพาเสี่ยวเป่าขึ้นจากน้ำได้อย่างง่ายดาย

ทันใดนั้นเอง อ๋องแห่งเผ่าปีศาจก็พุ่งขึ้นกลางอากาศ และโผเข้ามาจากด้านหลังของเยี่ยนจิ่วเฉา

อ๋องแห่งเผ่าปีศาจไม่มีวันปล่อยผู้ที่แย่งของของเขาไป เขายื่นมือออกมาคว้าเข้าที่ลำคอของเยี่ยนจิ่วเฉา พร้อมกับจับเขาขึ้นมาโดยปราศจากความปรานี

แม้ว่าเยี่ยนจิ่วเฉาจะไร้พลังภายใน แต่เขาก็ยังมีวิญญาณและมีพลังปราณ เมื่อพลังเหล่านี้ถูกดูดออกไปแล้ว เขาก็จะกลายเป็นเพียงซากศพแห้งเหี่ยว

เสี่ยวเป่าตวาดขึ้นว่า “จะ…เจ้า…เจ้าปล่อยท่านพ่อเดี๋ยวนี้นะ! ข้าจะปล่อยหนอนพิษไปกัดเจ้า!”

เขาคลำหาหนอนพิษ ทว่านอนพิษของเขาตกน้ำไปแล้ว

เสี่ยวเป่ากระทืบเท้าด้วยความลนลาน “ขะ…ข้า…ข้าจะกัดเจ้าเอง”

เสี่ยวเป่าพูดพร้อมกับพุ่งไปข้างหน้า เขาอ้าปากกัดเข้าที่แก้มก้นของอ๋องแห่งเผ่าปีศาจ

อ๋องแห่งเผ่าปีศาจ “…”

อ๋องแห่งเผ่าปีศาจ “?!!”

……

ตู้ม!

เสียงดังกัมปนาท ทำให้อิ่งสือซันและอาโต้วซึ่งรุดหน้ามาตามหาเด็กอีกสองคนตื่นตะลึง

เกิดอะไรขึ้น

ท่านอ๋องระเบิดพลังหรือ?

แย่แล้ว!

เยี่ยนจิ่วเฉา!

เสี่ยวเป่า!

ทุกคนตกใจจนพุ่งไปยังสถานที่เกิดเหตุอย่างฉับไว แต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของท่านอ๋องและเยี่ยนจิ่วเฉา มีเพียงเสี่ยวเป่าซึ่งนั่งอยู่ข้างบ่อน้ำด้วยความมึนงง จ้องมองลงไปยังหลุมขนาดใหญ่บนพื้น

พวกเขารีบเข้าไปมอง

อาเว่ยอุ้มเสี่ยวเป่าออกมา

เสี่ยวเป่าชี้ไปยังหลุมกว้างซึ่งเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง แล้วร้องไห้โฮ “ท่านพ่อ ท่านพ่อลงไปแล้ว…”

หลังจากที่อ๋องแห่งเผ่าปีศาจถูกเสี่ยวเป่ากัด เส้นเลือดในร่างของเขาก็วิ่งสวนทางและธาตุไฟเข้าแทรก เยี่ยนจิ่วเฉาเห็นท่าไม่ดี จึงเข้าไปกอดอ๋องแห่งเผ่าปีศาจไว้ และทิ้งตนเองลงไปในสระน้ำ หลังจากนั้นบ่อน้ำก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและระเบิดออก ทั้งสองคนถูกกลบอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

เยี่ยนจิ่วเฉาไม่มีวรยุทธ์ เมื่อถูกพลังรุนแรงเช่นนี้เข้า เห็นทีจะไม่มีชีวิตรอดแล้ว

อิ่งลิ่วเขาอ่อน ทรุดลงกับพื้น

อิ่งสือซันขอบตาแดงก่ำ

ชิงเหยียนกำหมัดแน่น

ในตอนนั้นเองอวี๋หวั่นก็มาถึงพอดี

“เยี่ยนจิ่วเฉาละ?” อวี๋หวั่นถาม

“ท่านแม่!” เสี่ยวเป่าโผเข้าหาอวี๋หวั่น

“ท่านพ่อละ?” เธอลูบศีรษะน้อยๆ ของเขา

เสี่ยวเป่าร้องไห้สะอึกสะอื้น “ท่านพ่อ…ท่านพ่อ…”

ชิงเหยียนจึงเอ่ยปากขึ้นด้วยความลำบากใจ “อาหวั่น…เจ้าทำใจดีๆ นะ จิ่วเฉาเขา…”

เขาไม่รู้ว่าจะบอกอวี๋หวั่นว่าอย่างไรดี ใต้ซากปรักหักพังนี้ไม่มีกลิ่นอายของเยี่ยนจิ่วเฉาแล้ว

มีเพียงกลิ่นอายของอ๋องแห่งเผ่าปีศาจ เขายังมีชีวิตอยู่

ชิงเหยียนตั้งสติ แล้วบอกว่า “อาหวั่น ไม่ว่าเจ้าจะได้ยินสิ่งใด อย่าได้เสียใจไป จิ่วเฉาเขา…เขาตาย…”

ชิงเยียนยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยค ซากปรักหักพังในหลุมนั้นก็ขยับเล็กน้อย ทันใดนั้นเศษซากในหลุมก็ถูกพลังมหาศาลดันออกมาอย่างรุนแรง ทุกคนจึงรีบเข้าไปช่วยคุ้มกันอวี๋หวั่นและเสี่ยวเป่า

ภายใต้เศษซากนั้น ร่างสูงโปร่งก็ลุกขึ้นช้าๆ เขาพยุงศีรษะอันมึนงงให้เงยขึ้น แล้วมองไปรอบกาย

…………………….

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2]

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2]

Status: Ongoing

เธอคือหมอ(รักษาสัตว์)เทวดาคนแรกของอาณาจักร

เริ่มจากข้ามมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวบ้านผู้แสนยากจน

ทางซ้ายมีท่านแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ทางขวาก็มีน้องชายตัวน้อยคอยให้ป้อนข้าว

ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอถูกผู้ชายเฮงซวยยกเลิกการแต่งงาน…

ให้ตายเถอะ! เสือไม่โอ้อวดพลังก็จริง แต่เห็นเธอเป็น HelloKitty หรืออย่างไร ถึงมารังแกกันแบบนี้?!

สั่งสอนผู้ชายเฮงซวย รักษาอาการป่วยของท่านแม่ เลี้ยงดูน้องชายที่ผอมแห้งแรงน้อย

บุกเบิกที่นารกร้าง ปลููกพืชบนที่ดินว่างเปล่า นั่งดูความอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

วันเวลาอันแสนสุขค่อยๆ ผ่านไป…

วันหนึ่งก็ได้ยินว่าเทพแห่งความตายผู้น่าสะพรึงกลัวจะมาเยือนถึงหน้าบ้าน บังคับขู่เข็ญให้เธอแต่งงานด้วย?

ถึงเธอจะชอบผู้ชายหน้าตาดีก็เถอะ แต่ได้ยินว่าท่านอ๋องผู้นี้…

“ท่านอ๋อง พวกเราไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย!” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“เหอะๆ” ท่านอ๋องยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วคว้าเด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำสามคนออกมาจากด้านหลัง

“เรียกแม่สิ”

เธอล่ะอยากจะเป็นลม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท