ความประหลาดใจวาดผ่านนัยน์ตาของท่านโม่ แม้ว่าเมื่อครู่จะใช้พลังไม่เต็มที่ แต่นั่นก็มิใช่การโจมตีธรรมดาที่จะปล่อยไปได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงมีดสั้นเล่มนั้นที่ทำจากเหล็กนิลของสกุลจูเก๋อ ตัดโลหะได้ง่ายดายดุจดินเหนียว แข็งแกร่งไม่เป็นรองหินผานหลงเท่าไร แต่กลับถูกทำให้งอผิดรูปร่างเช่นนี้?
นั่นคือ…
เสียงคำรามยังคงดังขึ้นไม่หยุด คนทั่วไปไม่ได้ยิน ทว่าสำหรับยอดฝีมือแล้ว เสียงนี้ก็เปรียบเสมือนหมุดแหลมที่ตอกลงบนสมองของพวกเขา
“อ๊าาาา” สตรีศักดิ์สิทธิ์ยกมือขึ้นกุมศีรษะ นางรู้สึกเจ็บปวดจนล้มลงไปบนพื้นอันเย็นเฉียบ
ด้วยพลังซิวหลัวระดับห้าของท่านโม่ แม้ว่าจะสามารถสกัดเสียงนี้ได้ แต่ก็ยังคงรู้สึกไม่คุ้นเคย
พลังของราชันสัตว์พิษก็แผ่ปกคลุมไปทั่วทุกอณูในสุสาน
ท่านโม่รวบรวมสมาธิ เขาสามารถสัมผัสได้ว่าราชันสัตว์พิษยังอยู่ไกลออกไป แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ พลังของมันก็ยังสามารถปกป้องซือคงเย่ไว้ได
ได้ยินมานานแล้วว่าปรมาจารย์ซือคงมีหนอนพิษที่เก่งกาจตัวหนึ่งอยู่ในครอบครอง แต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะเก่งกาจถึงเพียงนี้
ถ้าหากเขาประเมินไม่ผิด ราชันสัตว์พิษตัวนี้มีพลังเทียบเท่ากับซิวหลัวระดับห้า
แม้ว่าตนจะไม่กลัว แต่จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ก่อนที่จะตามไปสังหารมัน ทางที่ดีควรต้องจัดการซือคงเย่เสียก่อน!
ท่านโม่ใช้อาวุธ เขารวบรวมพลังภายในไว้กลางฝ่ามือ แล้วฟาดลงไปหมายเอาชีวิตซือคงเย่
“อ๊ากกกก”
เสียงหวีดร้องกลับเป็นเสียงของสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับบาดเจ็บจากพลังของราชันหมื่นสัตว์พิษ ร่างของนางทรุดฮวบลงบนพื้น พลังของนางตีกลับจนกระอักเลือดสดออกมา!
นางเป็นภรรยาของซือคงอวิ๋น เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งหมิงตู นางมีค่ามหาศาล ท่านโม่ไม่อาจปล่อยให้นางตายไปต่อหน้าต่อตาด้วยน้ำมือของราชันหมื่นสัตว์พิษ
ท่านโม่จำต้องแบ่งพลังภายในเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคุ้มกันอยู่เบื้องหน้าของสตรีศักดิ์สิทธิ์ เพื่อคุ้มกันนางจากพลังของราชันหมื่นสัตว์พิษ
ราชันหมื่นสัตว์พิษนั้นรวดเร็ว ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว มันก็มาถึงสุสานแล้ว
ราชันหมื่นสัตว์พิษชนเข้ากับพลังภายในที่ท่านโม่รวบรวมไว้หมายจะใช้ปลิดชีพซือคงเย่ ทำให้ซือคงเย่กระเด็นลงไปที่พื้น
ราชันหมื่นสัตว์พิษเข้าไปขวางหน้าซือคงเย่ มันจ้องท่านโม่เขม็งราวกับเพิ่งลืมตาเป็นครั้งแรกในรอบหมื่นปี ดวงตาของมันราวกับเป็นเส้นทางสู่ประตูนรก ส่องแสงเรืองรองพร้อมดูดกลืนวิญญาณ
สัตว์พิษตัวน้อยถูกลมโหมคลั่งพัดกระแทกมาตลอดทาง มันรู้สึกราวกับร่างน้อยๆ จะระเบิดออก หากไม่ใช่เพราะจับไว้แน่น มันคงกระเด็นหลุดไปไม่รู้กี่รอบแล้ว
ในที่สุดก็หยุดสักที สัตว์พิษตัวน้อยยังคงเกาะอยู่บนหลังของราชันหมื่นสัตว์พิษ เหนื่อยจนตาเหลือกลิ้นห้อยออกมา!
โมโหจริงๆ!
อยู่ๆ ก็พุ่งออกมาโดยไม่บอกไม่กล่าว!
สัตว์พิษตัวน้อยยกกำปั้นขึ้นมา แล้วต่อยลงบนเกราะของราชันหมื่นสัตว์พิษ นี่แน่ะ หมัด! อร! หันต์!
ตุบๆๆ! ตุบๆๆ!
ท่านโม่หรี่ตา
ที่แท้ก็มีราชันสัตว์พิษสองตัว
อีกตัวหนึ่งตัวเล็กนัก เห็นทีคงเป็นหนอนพิษที่ยังไม่โตเต็มวัย แต่ว่า…พลังก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวที่แก่กว่าเลย
ท่านโม่กล่าวอย่างได้ใจว่า “มาพอดี วันนี้ข้าจะได้จัดการพวกเจ้าพร้อมกัน ราชันหมื่นสัตว์พิษเป็นของเสริมวรยุทธ์ รอข้าดูดซับพลังของเจ้าตัวใหญ่นี่ก่อน แล้วค่อยจัดการเจ้าตัวเล็ก!”
ยิ่งราชันหมื่นสัตว์พิษมีพลังมากเท่าใด ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพในการเสริมพลังมากเท่านั้น เขาวนเวียนอยู่ที่ระดับห้ามานานสามปีแล้ว ยังไม่บรรลุถึงระดับหกสักที เมื่ออยู่ในระดับที่สูงเช่นนี้ ย่อมไม่มียาเสริมพลังในหมิงตูชนิดใดสามารถช่วยได้ อีกทั้งไม่อาจหาราชันสัตว์พิษที่มีคุณสมบัติเพียงพอ เขาไม่ใช่ไม่รู้ว่าปรมาจารย์ซือคงมีราชันสัตว์พิษในครอบครอง แต่ใครจะกล้าไปชิงมาจากมือของเขาเล่า?
เขาไม่ได้ไปตามหาพวกมัน แต่พวกมันมาหาเขาถึงที่ ต่อให้เขาไม่กล้าก็ต้องกล้าแล้ว
ท่านโม่ใช้พลังขั้นสูงสุดในทันใด
การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือ ไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนท่าหวือหวาแต่อย่างใด เพียงแต่ใช้แรงกดของพลัง จนอีกฝ่ายยอมศิโรราบไปเอง
สัตว์พิษตัวน้อยผู้เหิมเกริมกลับตกใจกลัวเมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือ พลังโหมซัดเข้ามาระลอกหนึ่ง ทำเอามันต้องรีบเก็บหมัดลงไป แล้วเปลี่ยนไปเกาะเขาของราชันหมื่นสัตว์พิษแทน!
แม้ว่าจะมีพลังที่อยู่ในระดับห้า แต่ขั้นสูงของระดับห้า ย่อมเหนือกว่าซิวหลัวแรกเข้าระดับห้า
ท่านโม่สะบัดแขนเสื้อ แล้วกล่าวอย่างเย่อหยิ่งว่า “เป็นแค่หนอนตัวหนึ่ง แต่กล้าจองหองกับข้าถึงเพียงนี้? ไม่สำเหนียกตนเองเอาเสียเลย!”
พลังสูงสุดของระดับห้า เปรียบเสมือนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ สุสานทั้งหลังจมอยู่ใต้พลังนี้ มีเพียงสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่จะอยู่ภายใต้การอารักขาของเขา ส่วนคนอื่น…
เขายื่นมือออกมา หมายจะจับราชันหมื่นสัตว์พิษที่ได้รับบาดเจ็บเก็บเข้าไปในกระเป๋า
ทว่าในตอนนั้นเอง เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
กลิ่นอายของราชันหมื่นสัตว์พิษระดับห้าขั้นแรกเริ่ม กลับเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ระดับห้าขั้นกลาง ระดับห้าขั้นสูง ระดับห้าขั้นสูงสุด เต็มขั้นระดับห้า…ระดับหก!
ระดับของมันเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง!
ระดับหกขั้นแรกเริ่ม ระดับหกขั้นกลาง…ระดับหกขั้นสูงสุด!
พลังของราชันหมื่นสัตว์พิษเพิ่มมาถึงหนึ่งระดับ!
นี่เป็นสิ่งที่ยอดฝีมือทั้งหลายไม่อาจทำได้ในช่วงเวลาหลายสิบปี แต่ราชันสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทำได้อย่างง่ายดาย…
เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่คือพลังที่แท้จริงของราชันหมื่นสัตว์พิษ? พลังที่ถูกซ่อนเร้นมาโดยตลอด?!
เป็นเพียงซิวหลัวระดับห้า หากจะคิดสู้ราชันสัตว์พิษระดับหก เกรงว่าคงจะมีแต่ตายอนาถ
ในที่สุดท่านโม่ก็ตัดสินใจได้ว่าควรหนี!
น่าเสียดาย ที่เขาหนีไปไม่ได้แล้ว
ราชันสัตว์พิษคำรามลั่น พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากราชันสัตว์พิษราวกับคลื่นของแสง กระแทกเข้ากับหน้าอกของราชาซิวหลัวระดับห้า เขาทรุดลงกับพื้น ร่างกระตุกอยู่หลายครั้ง
แกร็ก! แกร็กๆๆ …
แรงกดจากราชันหมื่นสัตว์พิษทำให้กระดูกของเขากำลังแตกละเอียด
หลังจากที่ไม่อาจใช้วรยุทธ์ป้องกันตัวได้แล้ว เขาก็ไม่อาจต้านทานความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามา เขากรีดร้องออกมาด้วยความปวดร้าว “อ๊ากกกกก”
เสียงร้องโหยหวนน่าเวทนา สัตว์พิษตัวน้อยยกมือขึ้นปิดตา ผ่านไปไม่นานก็แอบลืมตามอง และเห็นเจ้าก้อนซิวหลัวนั่นล้มลงกับพื้น ไม่อาจโต้กลับได้ มันกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างลิงโลด! ท่าทางเหิมเกริมเหลือเกิน!
มันกระโดดขึ้นไปบนร่างของราชาซิวหลัวระดับห้า ชูหมัดเล็กๆ ขึ้นมา แล้วต่อยลงไปดัง ‘อั่กๆๆๆๆๆ’!
……
ในเรือนทางทิศตะวันออก ราชาซิวหลัวระดับห้ากำลังหมายหัวซิวหลัวฟันน้ำนม การโจมตีซิวหลัวระดับหนึ่งนั้นง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ เขามิได้เห็นซิวหลัวฟันน้ำนมอยู่ในสายตา เขาคิดเพียงจะสังหารซิวหลัวและคนที่ชื่อเยี่ยนจิ่วเฉานั่นให้ตกตายไปพร้อมกัน
ซิวหลัวฟันน้ำนมเองก็รู้ว่าระดับของตนสู้เขาไม่ได้ และไม่คิดอยากเปิดฉากสู้กับเขา จึงแบกเยี่ยนจิ่วเฉาขึ้นหลัง และใช้วิชาตัวเบาหนีไปท่ามกลางรัตติกาลอันมืดมิด
“คิดหนีรึ?” ราชาซิวหลัวระดับห้าแค่นเสียงขึ้นจมูก แล้วไล่ตามพวกเขาไป
เป้าหมายของเขาคือเยี่ยนจิ่วเฉาและเจ้าซิวหลัวฟันน้ำนมนั่น ส่วนคนที่เหลือนั้น มีมือสังหารคนอื่นตามจัดการ
เป็นดังคาด หลังจากที่เขาออกไปไม่นาน มือสังหารกลุ่มหนึ่งก็กรูกันออกมา อาเว่ยพาเด็กๆ หนีไปแล้ว เยว่โกวและชิงเหยียนก็พาอาม่า ท่านยายหลาน และคนอื่นๆ หนีไปอย่างรีบร้อน
ทันทีที่มือสังหารเหล่านั้นกำลังจะตวัดกระบี่ใส่อิ่งสือซันซึ่งร่างอาบด้วยเลือด ลูกดอกเหมยฮวากลุ่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับพลังมหาศาล โจมตีมือสังหารชุดดำห้าคนจนล้มลง
ลูกดอกเหมยฮวาเหล่านี้เป็นลูกดอกอาบยาพิษ ทำให้มือสังหารทั้งห้าคนตายคาที่!
อิ่งสือซันนอนหายใจรวยรินจมกองเลือด ไร้ซึ่งแรงลุกขึ้นยืน เขานอนหันข้าง มองไปยังทิศทางที่คนผู้นั้นปรากฏกาย เลือดสดไหลรินลงจากหน้าผาก ทำให้สายตาของเขาพร่ามัว
อิ่งลิ่วเกลียดการฆ่าคน
อย่างน้อยเขาก็เกลียดการสังหารหมู่
ในตอนนี้เขาดูคล้ายกับอสูรร้ายที่สูญเสียสติสัมปชัญญะ มีดของเขาพร้อมดื่มเลือด
อิ่งสือซันอ้าปาก คล้ายกับพยายามพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงของเขาก็ไม่ออกมาแม้แต่น้อย
หยุดฆ่าได้แล้ว…
เขาไม่ได้รู้สึกสงสารคนเหล่านั้น แต่เขาไม่อยากให้มือของอิ่งลิ่วแปดเปื้อน
หลังจากที่จัดการมือสังหารชุดดำจนหมด ก็ไม่มีที่ใดบนร่างของอิ่งลิ่วที่ไม่เปื้อน เนื้อตัวของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงฉานราวกับเพิ่งแช่ลงในบ่อเลือด เลือดสดหยดไปตามทางที่เขาเดิน
เขาเดินมาเบื้องหน้าของอิ่งสือซัน แล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
แปะ แปะ
น้ำตาร้อนหยดลงบนใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือดของอิ่งสือซัน
ความทรมานกอบกุมหัวใจของอิ่งสือซัน “อิ่ง…อิ่งลิ่ว”
“ไม่ต้องพูด!” อิ่งลิ่วยังคงคุกเข่าข้างเดียว ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา จากนั้นจึงเข้ามาอุ้มอิ่งสือซันด้วยความระมัดระวัง “ข้าจะพาเจ้าไปหาชุยเฒ่า”
อิ่งสือซันจึงบอกอย่างอ่อนแรงว่า “ไปช่วย…คุณชาย”
ยามราตรีลมพัดแรง ความมืดมิดเข้าปกคลุมท้องฟ้า บดบังร่างของซิวหลัวและเยี่ยนจิ่วเฉา กระนั้นเสียงของลมที่พวกเขาพุ่งผ่านนั้น กลับไม่อาจรอดพ้นความสามารถในการฟังของราชาซิวหลัวระดับห้าไปได้
ราชาซิวหลัวระดับห้ายังคงตามไปไม่เลิกรา
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ แม้ว่าเจ้าซิวหลัวฟันน้ำนมคนนี้จะอยู่ในระดับหนึ่ง แต่วิชาตัวเบากลับนับว่าไม่เลว เห็นได้ชัดว่ากำลังแบกบุรุษร่างสูงใหญ่ แต่เขากลับตามไม่ทัน
ทุกครั้งที่เขาคิดว่าตนเองตามพวกเขาทัน อีกฝ่ายก็จะนำหน้าไปอีกหน้าไปอีกหนึ่งก้าวและหายไปโดยไม่เหลือแม้แต่เงา
ราชาซิวหลัวระดับห้าขมวดคิ้ว “นี่มันวิชาตัวเบาแบบไหนกัน?”
ซิวหลัวฟันน้ำนมหันหน้ามาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ แบร่ๆๆๆ!
อย่างไรก็ดี หมิงตูใหญ่โตถึงเพียงนี้ ย่อมต้องมีสถานที่ที่เป็นทางตัน ซิวหลัวฟันน้ำนมข้ามมายังตรอกแห่งหนึ่ง ราชาซิวหลัวระดับห้าลอบยิ้มอย่างเย็นชา แล้วอ้อมไปยังทางลับ จากนั้นจึงไปดักทางซิวหลัวฟันน้ำนมและเยี่ยนจิ่วเฉา
ที่นี่คือถนนร้างสายหนึ่ง บ้านเรือนโดยรอบล้วนแต่ว่างเปล่า ไม่มีผู้อยู่อาศัย ดังนั้นโดยรอบจึงดูมืดและน่าขนลุกเหลือเกิน
ราชาซิวหลัวระดับห้าเดินตรงไปยังพวกเขาช้าๆ อย่างไม่ยินดียินร้าย “ยังจะหนีอีกหรือ?”
ซิวหลัวฟันน้ำนมมองเขาด้วยสีหน้าไร้เดียงสา แล้วเดินถอยไปอีกสองก้าว
ราชาซิวหลัวระดับห้าพูดว่า “บอกมา เมื่อครู่เจ้าใช้วิชาตัวเบาชนิดใด?”
ซิวหลัวฟันน้ำนมไม่ตอบ เขายังคงมองอีกฝ่ายด้วยสายตาบ้องแบ๊ว อีกฝ่ายเดินไปข้างหน้า เขาก็ก้าวถอยหลัง จนเมื่อไม่อาจถอยได้อีก เขาก็เบ้ปากด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
ราชาซิวหลัวระดับห้าข่มขู่ว่า “มอบเคล็ดลับวิชาตัวเบาของเจ้ามาให้ข้า แล้วข้าจะให้เจ้าตายอย่างไม่ทรมาน ไม่เช่นนั้นข้าจะค่อยๆ หักกระดูกเจ้าทีละชิ้น กัดเนื้อของเจ้าทีละชิ้นๆ ให้เจ้าได้รู้ซึ้งถึงสิ่งที่เรียกว่า อยู่ ไม่ สู้ ตาย!”
ซิวหลัวฟันน้ำนมยังคงไม่ขยับ
ราชาซิวหลัวระดับห้าหัวเราะเย็นชา “ย่อมได้ ข้าจะจัดการเจ้าก่อน แล้วก็ทรมานเจ้า ดูซิว่าปากแข็งๆ ของเจ้า จะสู้หมัดของข้าได้ไหม!”
พูดจบ เขาก็ขยับพร้อมจะโจมตี ทว่าซิวหลัวฟันน้ำนมกลับยกมือขึ้นมา และทำสัญลักษณ์ว่า ‘ช้าก่อน’
ราชาซิวหลัวระดับห้ากลับคิดว่านั่นคือการข่มขู่ จึงมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
ซิวหลัวฟันน้ำนมลูบศีรษะและหยิบขวดนมออกมาจากอกเสื้อ ดื่มนมเข้าไป จากนั้นก็โยนคนบนหลังออกไปให้ราชาซิวหลัวระดับห้า ส่วนตนเองก็วิ่งหนีไป!
ราชาซิวหลัวระดับห้ามองไปยังหุ่นมนุษย์ในมือ จึงตระหนักได้ว่าตนถูกหลอกเข้าแล้ว โทสะของเขาพลุ่งพล่าน พร้อมกับกล่าวว่า “กล้าหลอกข้ารึ พวกเจ้าจะต้องชดใช้!”
ราชาซิวหลัวระดับห้าถูกซิวหลัวฟันน้ำนมทำให้โมโหจัด เขาไม่สนอีกต่อไปว่าเยี่ยนจิ่วเฉาจะอยู่ที่ไหน และตามไปโดยไม่สนเรื่องใดทั้งสิ้น
ในครั้งนี้ เขาไม่ใช้วิชาตัวเบามาต่อกรกับอีกฝ่าย แต่ใช้พลังของซิวหลัวระดับห้ากดเอาไว้จนซิวหลัวฟันน้ำนมร้องโหยหวน และร่วงลงจากกลางอากาศ
ซิวหลัวฟันน้ำนมหล่นลงบนพื้น
ทันใดนั้นซิวหลัวฟันน้ำนมก็ลุกขึ้น ยกมือขึ้นมา แล้วยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้
ราชาซิวหลัวระดับห้าหรี่ตา “ยอมมอบเคล็ดลับวิชาตัวเบาให้ข้าแล้วหรือ?”
ซิวหลัวฟันน้ำนมพยักหน้าด้วยท่าทางเศร้าสร้อย
ราชาซิวหลัวระดับห้าแบมือออกมา “นำออกมา!”
ซิวหลัวฟันน้ำนมหยิบของมากมายออกมากอง ซึ่งได้แก่ขวดนมใบเล็ก ฝากาต้มน้ำ ลูกแก้ว เชือกสีแดง ผ้าอ้อม
ราชาซิวหลัวระดับห้ามุมปากกระตุก
เจ้าเป็นผู้ใหญ่ ใช้ผ้าเช็ดหน้าก็ว่าไปอย่าง แต่ทำไมต้องใช้ผ้าอ้อมด้วย?!
อ้าว…ผ้าอ้อมของพวกเด็กๆ นี่ หยิบผิด
ซิวหลัวฟันน้ำนมยัดผ้าอ้อมกลับเข้าอกเสื้อ หลังจากหยิบของตนเองออกมาหมดแล้ว ในที่สุดก็หยิบกล่องใบหนึ่งออกมา ซิวหลัวฟันน้ำนมส่งกล่องให้เขาอย่างระมัดระวัง
ราชาซิวหลัวระดับห้ากลับไม่หลงกลง่ายๆ “เปิดดู!”
ซิวหลัวเปิดกล่องดูอย่างเชื่อฟัง ด้านในไม่มีสิ่งใดนอกจากตำราพับหนึ่ง
เพื่อป้องกันตนเองถูกโจมตี ราชาซิวหลัวระดับห้าจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “โยนมา”
ซิวหลัวฟันน้ำนมโยนกล่องใบนั้นไปอย่างไม่เต็มใจ
ทันทีที่โยนออกไป ซิวหลัวฟันน้ำนมก็วิ่งหนีไปทันที!
ซิวหลัวระดับห้าขมวดคิ้ว คิดจะหนีรึ?
เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างผิดปกติ!
ราชาซิวหลัวระดับห้ามองไปยังกล่องในมือ
กล่องอาวุธลับระเบิดออกในทันใด!
ราชาซิวหลัวระดับห้ายังไม่ทันได้ตกใจเสียด้วยซ้ำ ก็ถูกกลไกลับระเบิดใส่จนร่างกลายเป็นเพียงเศษเนื้อ…
……………………………