หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 454 ปรมาจารย์ผู้หลักแหลม! หลัวช่าน้อย!

บทที่ 454 ปรมาจารย์ผู้หลักแหลม! หลัวช่าน้อย!

ฝ่ามือนี้ทั้งรวดเร็ว รุนแรงและคาดไม่ถึง ราชาหลัวช่ายังไม่ทันออกแรงเท่าไร ก็พบจุดจบเสียแล้ว คนทั้งคนถูกกระแทกจนปลิว ร่างสูงใหญ่กำยำลอยคว้างเป็นเส้นโค้งสง่างามและรวดเร็ว ทุกคนที่ได้เห็นฉากนี้ต่างเบิกตาโพลง

พวกเขาควรกล่าวเช่นไร?

ราชาหลัวช่าถูกลอบโจมตี? คลื่นพลังนี้แข็งแกร่งเกินไป?

“นี่…นี่ก็โกงไปแล้วกระมัง…” ชิงเหยียนไม่ทนมองตรงๆ ถูความฉลาดของราชาหลัวช่าไปกับพื้นชัดๆ

“เจ้าจะเข้าใจอะไร? นี่น่ะเรียกว่าการทหารไม่หน่ายกลอุบาย!” อิ่งลิ่วกล่าวอย่างภูมิใจ คุณชายกล่าวถูกเสมอ ทำสิ่งใดล้วนถูกทุกอย่าง!

ชิงเหยียนกลอกตา เมื่อนึกบางอย่างได้ ก็มองไปที่ซือคงเย่ที่อยู่ไกลออกไป “จะว่าไป ปรมาจารย์คงบรรลุถึงขั้นเก้าแล้วกระมัง? น่าจะจัดการกับราชาหลัวช่าได้แล้วใช่หรือไม่?”

การฝึกฝนวิชาอายุวัฒนะถึงระดับเก้า ในด้านขอบเขตพลังไม่ต่างจากราชาหลัวช่ามากนัก ทว่าฝ่ายหนึ่งธรรมะ ฝ่ายหนึ่งอธรรม ในด้านความแข็งแกร่งที่เป็นรูปธรรมยังนับว่ามีความแตกต่าง

ราชาหลัวช่าฝึกฝนวิชาอธรรม จนกลายเป็นปีศาจ คนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่เชิง ภายใต้ขอบเขตพลังเดียวกัน ปีศาจแข็งแกร่งกว่ายอดฝีมือมาก แต่ความแข็งแกร่งเช่นนี้ หาใช่ไร้สิ่งใดแลกเปลี่ยน หลังจากการต่อสู้ ความเสียหายสะท้อนกลับที่ปีศาจต้องแบกรับนั้น น่ากลัวกว่ายอดฝีมือมาก กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อทั้งสองหมดสิ้นกำลังภายใน ซือคงเย่ยังคงสามารถใช้เพลงยุทธ์ครั้งสุดท้ายตอบโต้ราชาหลัวช่า ทว่าราชาหลัวช่าแทบไม่อาจต้านทานได้เลย

นี่คืออย่างแรก และอย่างที่สอง ในอนาคต ราชาหลัวช่าอาจเลื่อนระดับขอบเขตพลังได้ยากกว่าซือคงเย่

แน่นอน อย่างแรกและอย่างที่สองล้วนเอาไว้ภายหลัง ไม่มียอดฝีมือคนใดในขอบเขตพลังเดียวกันสามารถถ่วงรั้งปีศาจได้จนถึงที่สุด เพราะบ่อยครั้งก่อนหน้านั้น พวกเขาก็ถูกปีศาจฆ่าตายหมดแล้ว

วันนี้กลับเป็นอุบัติเหตุ เพราะราชาหลัวช่าประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป ถูกปรมารย์ซือคงทำให้บาดเจ็บ เป็นผลให้ความได้เปรียบที่มีมาแต่กำเนิดในการฝึกพลังของราชาหลัวช่าหายไป ความแข็งแกร่งของทั้งสองตีเสมอ ต่อมาคงต้องดูว่า ราชาหลัวช่าจะรวดเร็วเฉียบขาดสังหารซือคงเย่ หรือซือคงเย่จะใช้ความสามารถดับน้ำมันตะเกียงของราชาหลัวช่าได้ก่อนกัน

ซิวหลัวระดับสูงอีกตนหนึ่งของสกุลซางพุ่งเข้ามา น่าเสียดายที่มีเยี่ยนจิ่วเฉาอยู่ ผู้ใดก็ไม่อาจเข้าใกล้หมิงซานแม้เพียงครึ่งก้าว

การต่อสู้กันของยอดฝีมือในขอบเขตพลังนี้ แค่แรงปะทะของกำลังภายในเพียงพอที่จะทำลายเขาหมิงซานทั้งลูก เพื่อไม่ให้หมิงซานได้รับผลกระทบ ซือคงเย่จึงล่อราชาหลัวช่าขึ้นไปบนที่สูงและต่อสู้กับเขาอย่างดุเดือด

ไข่ดำน้อยทั้งสามถูกชุยเฒ่ากอบเข้าไปในห้อง และหลบซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ

ทั้งสามไม่เชื่อฟัง เบียดเสียดกันออกไป ชุยเฒ่าจับปูใส่กระด้งเสียอลหม่าน ชุยเฒ่ากล่าวด้วยความปวดหัว “พวกนี้มันเด็กอะไรกัน? ด้านนอกเป็นเช่นไรไม่เห็นรึ?”

“อื้อๆ!” ต้าเป่าดิ้นรนเพื่อคลานออกมา

ชุยเฒ่ามือหนึ่งจับเขาไว้ ในไม่ช้า เอ้อร์เป่าก็คลานออกมา ชุยเฒ่าจำต้องใช้มืออีกข้างจับเขา เมื่อเหลือเพียงเสี่ยวเป่า เขาก็ไม่มีมือเหลือแล้ว “เจ้าคนแซ่ฉิวน่ะ ช่วยข้าทีสิ!”

อาม่าจาม!

การดวลระหว่างสองยอดฝีมือ ไม่สนความเป็นตายไม่ต้องเอ่ยถึง การต่อสู้นั้นแสนวิเศษยิ่ง นับตั้งแต่การล่มสลายของเผ่าพ่อมด สกุลซือคงไม่เคยมียอดฝีมือวิชาอายุวัฒนะขั้นเก้าอีกเลย หลัวช่าโลหิตยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ปีศาจประเภทนี้ ผู้คนในหมิงตูก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ ก็ไม่ต้องพูดถึงเห็นกับตาตนเองแล้ว

ช่างเป็นขวัญตายิ่งนัก!

หลายคนลอบกลืนน้ำลาย พวกเขาได้เห็นเช่นนี้ครั้งหนึ่งในชีวิตก็ตายตาหลับแล้ว

“พวกเจ้าว่า…ใครจะชนะ?” อิ่งลิ่วกระซิบถาม ทั้งสองคนผ่านการต่อสู้มานับร้อย ก็ยังดูไม่ออกว่าใครมีโอกาสชนะมากกว่ากัน “ราชาหลัวช่าสกุลซางบาดเจ็บมิใช่หรือ? เหตุใดยังต่อสู้ได้เช่นนี้?”

ชิงเหยียนทอดถอนใจ “นั่นเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย ไม่เคยได้ยินคำกล่าวว่า สูงหนึ่งฉื่อ ปีศาจสูงหนึ่งจั้งรึ?”

อิ่งลิ่วทำปากยื่น “พูดอย่างกับเจ้าเป็นคนจงหยวน”

ชิงเหยียนกล่าวเนิบๆ “ข้าไม่ใช่คนจงหยวน แต่ข้ามีอารยธรรมมากกว่าคนจงหยวน”

“ชิ~” ตอนนี้ เป็นอิ่งลิ่วที่กลอกตา

อิ่งสือซันไม่ลังเล รีบสับเปลี่ยนตำแหน่ง ยืนคั่นระหว่างอิ่งลิ่วและชิงเหยียน

ชิงเหยียนเหลือบมองอิ่งสือซันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ต้องปกป้องเสี่ยวลิ่วเช่นนี้เชียวหรือ? ทำเหมือนใครไม่มีคนรักเก่าเช่นนั้นแหละ!

“เยว่โกว!” ชิงเหยียนยกแขนวางบนไหล่เยว่โกว

เยว่โกวเหลือบมองชิงเหยียนอย่างเฉยเมย “เจ้าทำเช่นนี้ ข้ารู้สึกแปลกๆ”

ชิงเหยียนที่ถูกรังเกียจ “…”

อวี๋หวั่นจ้องมองคนทั้งสองที่กำลังต่อสู้กลางอากาศนานครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำ “ท่านตาทวด ท่านจะแพ้ไม่ได้นะ…”

หากแพ้ ด้วยนิสัยดุร้ายของราชาหลัวช่า พวกเขาคงไม่มีใครรอดไปได้

ราชาหลัวช่าตบฝ่ามือไปที่ซือคงเย่ ซือคงเย่หลบออกด้วยความเร็วไปข้างกายเขา แล้วตบกลับไปในมุมที่เจ้าเล่ห์อย่างยิ่ง คราวนี้ราชาหลัวช่าไม่ประมาทศัตรู ตั้งรับฝ่ามือนั้นอย่างดี

จู่ๆ ซือคงเย่ก็มองไปด้านหลังราชาหลัวช่า “เยี่ยนจิ่วเฉา โจมตีเลย!”

ราชาหลัวช่าหันขวับ

แต่มีจิ่วเฉาสือเฉาที่ใดกัน?

ซือคงเย่ใช้ฝ่ามือเฉือนไหล่ของราชาหลัวช่า เขาได้รับความเจ็บปวด ถูกผลักไปไกลหลายสิบก้าว

ราชาหลัวช่าโกรธเกรี้ยว แผดเสียงร้องคำราม พุ่งไปหาซือคงเย่

ซือคงเย่พลันยื่นมือออกมา “ช้าก่อน! เราจะสู้กันเช่นนี้ไม่ได้! เจ้ายังจำข้อตกลงกับข้าในตอนนั้นได้หรือไม่?”

ข้อ…ตกลง?

ซือคงเย่กล่าวอย่างจริงจัง “เจ้ารับปากข้าแล้ว หรือว่าเจ้าลืม?”

เขา…รับ…ปาก…อะ…ไร…?

ซือคงเย่สองนิ้วขยับ ก็มีเม็ดยาสีดำมาอยู่ที่ปลายนิ้วของเขา “เจ้าบอกว่า เมื่อใดก็ตามที่ข้าเอามันออกมาได้ เจ้าจะรับปากข้าเรื่องหนึ่ง”

ราชาหลัวช่ามองซือคงเย่ด้วยความประหลาดใจ

“ไม่เชื่อ เจ้าก็ดูเอาเอง ดูซิว่าเจ้าจะจำมันได้หรือไม่” ซือคงเย่โยนให้ราชาหลัวช่าอย่างเฉยเมย

ราชาหลัวช่าหยิบเม็ดยาไว้ในมือ มองซ้ายมองขวา ก็ได้ยินเสียงดังปัง เม็ดยาระเบิด!

ราชาหลัวช่าถูกระเบิด ใบหน้าเป็นสีดำ เส้นผมไหม้เกรียม

ซือคงเย่ลอบโจมตีอีกครั้ง แล้วก็สำเร็จอีกครั้งเช่นกัน

อวี๋หวั่นมองออกแล้วว่า ราชาหลัวช่าใช้พละกำลังต่อสู้ แต่ตาทวดของเธอใช้สมองต่อสู้ หากทั้งสองมีแถบเลือดอยู่บนหัว ถูกลอบโจมตีหลายครั้งเช่นนี้ หลอดเลือดของราชาหลัวช่าก็คงหมดไปครึ่งหนึ่งแล้ว

ดังนั้นแล้ว ความต่างระหว่างของความแข็งแกร่งในการต่อสู้มีที่ใดกัน? กลยุทธ์ดี ก็ตีจนอีกฝ่ายหาทิศเหนือไม่เจอได้เช่นกัน!

แน่นอนว่าสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับขอบเขตพลังที่สูงพอของซือคงเย่ด้วย หากเป็นคนอื่น เพียงพลังกดดันครั้งเดียวของราชาหลัวช่าก็สามารถบดขยี้อีกฝ่ายจนแหลกเหลวแล้ว

“เยี่ยนจิ่วเฉา โจมตีเลย!” ซือคงเย่มองไปด้านหลังราชาหลัวช่าอีกครั้ง

ใช้แผนเดิม? ราชาหลัวช่าแสดงให้เห็นว่าตนไม่มีวันถูกหลอก!

ผลคือเยี่ยนจิ่วเฉาใช้ฝ่ามือตบไปที่หลังของเขา

ราชาหลัวช่าที่ถูกลอบโจมตีอีกครั้ง “…!!!”

ราชาหลัวช่าโกรธแค้น เขาออกท่าสังหาร เหาะขึ้นไปในอากาศ กางสองแขน หงายฝ่ามือ ควบแน่นไอสังหารราวกับพายุหมุนสองลูก

ทุกคนคิดว่าเขาถูกลอบโจมตีมากเช่นนี้ คงบาดเจ็บจนดูไม่ได้แล้ว ไม่ช้าก็เร็วต้องพ่ายแพ้ ไหนเลยจะคิดว่าเขายังสามารถใช้ทักษะที่ทรงพลังเช่นนี้? แม้แต่ซือคงเย่ที่ประมือกันอยู่นาน ยังอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าเคร่งเครียดออกมา

หากกล่าวว่าน่าเหลือเชื่อ ก็มิอาจไม่ยอมรับ ซางชิวหาน ไม่ใช่พวกขี้แพ้ที่จัดการได้อย่างง่ายดายเช่นยามแรกอีกแล้ว ขอบเขตพลังและความแข็งแกร่งของเขา เพียงพอที่จะทำให้ซือคงเย่ต้องมองเขาใหม่

หากสิ่งที่ซางชิวหานทำทั้งหมด เพื่อให้ซือคงเย่มองเห็นเขาในสายตา หรือกระทั่งหวาดกลัวเขาจริงๆ เช่นนั้นเขาก็ทำสำเร็จแล้ว

เมื่อเห็นไอเลือดที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในอากาศ ซือคงเย่ก้มหน้าลงและกล่าวว่า “ซางชิวหาน เจ้าอย่าได้หุนหันพลันแล่น ความแค้นระหว่างเจ้ากับข้าเป็นเรื่องของเราสองคน ไม่เกี่ยวข้องกับศิษย์แห่งหมิงซาน ไม่เกี่ยวข้องกับชาวหมิงตู หากเจ้าอยากสู้ ข้าก็จะสู้กับเจ้า พวกเราหาที่ที่ไม่มีคน ต่อสู้กันอย่างเต็มที่! จนกว่าเจ้าจะพอใจ! ชีวิตเป็นตายตนรับเอง ข้าพูดคำไหนคำนั้น!”

ราชาหลัวช่าไม่ได้กล่าวออกมา ทว่าดวงตาได้เผยคำตอบของเขาแล้ว

ในยามนั้นราชาหลัวช่ายังเป็นซางชิวหานแห่งสกุลซาง และเป็นลูกศิษย์ของซือคงเย่ เขาต้องการสู้กับซือคงเย่อย่างเต็มที่นับครั้งไม่ถ้วน น่าเสียดายที่ซือคงเย่ไม่เคยให้โอกาสเขา ซือคงเย่รังเกียจที่จะสู้กับเขา!

กระทั่งดวลความสามารถกันครั้งสองครั้ง ซือคงเย่ก็ทำลวกๆ อย่างขอไปที ซือคงเย่ไม่เคยมองเขาตรงๆ สักครั้ง!

อัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้อย่างเขา ในสายตาซือคงเย่ กลับไม่มีค่าพอให้มองตรงๆ ด้วยซ้ำ!

คำพูดนั้น หากบอกกับเขาเมื่อหลายสิบปีก่อน เขาอาจตอบรับด้วยความยินดี แต่ตอนนี้ คนที่ไม่มีค่าพอจะต่อรองคือซือคงเย่!

ราชาหลัวช่าระเบิดกำลังภายใน เมฆสีเลือดปกคลุมทั่วท้องฟ้าเหนือหมิงตู มันคือหยาดเลือดของผู้คนในหมิงตู ซึ่งถูกราชาหลัวช่าดูดขึ้นไปในอากาศทีละนิดจนกายเหือดแห้ง หมิงตูจะกลายเป็นเมืองร้างอย่างสมบูรณ์

หมิงซานได้รับผลกระทบมากที่สุด ศิษย์บางคนเสียเลือดมากเกินไปจนหมดสติ

“จิงหง!” อวี๋หวั่นมองศิษย์ที่ล้มลงตรงหน้าเธอ และนำยาจับลิ่มเลือดใส่เข้าปากของเขา แต่ทว่าก็เปรียบดั่งน้ำแก้วหนึ่งดับรถขนฟืนที่ไฟไหม้ ประสิทธิภาพของยาจับลิ่มเลือดไม่อาจไล่ทันความเร็วในการสูญเสียเลือด

ซือคงเย่กล่าวน้ำเสียงเย็นชา “ซางชิวหาน เจ้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้! ไม่ใช่เพราะข้ากลัวเจ้า แต่เดิมเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า และไม่มีวันเป็น! เข้าใจแล้วก็รีบหยุดซะ ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า!”

ราชาหลัวช่ากล่าวด้วยความมั่นใจ “เอา…เลย…”

ดวงตาซือคงเย่เกิดประกาย เพิ่มพลังวิชาอายุวัฒนะถึงขีดสุด ใช้กำลังภายในสร้างดาบแหลมคม “วิชาอายุวัฒนะขั้นเก้า เจ้าดูให้ดี”

ดาบกำลังภายในของซือคงเย่พุ่งเข้าหาราชาหลัวช่าอย่างโหดเหี้ยม และเป็นจังหวะเดียวกับที่ราชาหลัวช่าสะบัดแขนเสื้อต้านกลับไป ซือคงเย่ยิงอาวุธลับอีกชิ้นตามไป ดาบที่ควบรวมพลังของซือคงเย่เอาไว้ถูกตีจนเปลี่ยนทิศ พลาดราชาหลัวช่าไปต่อหน้าต่อตา พุ่งไปยังหลัวช่าน้อยที่ห้อยหัวอยู่ใต้กิ่งไม้ด้วยความเร็ว

นี่คือวิชาอายุวัฒนะขั้นเก้า ทันทีที่หลัวช่าน้อยถูกโจมตี ไม่มีทางรอดไปได้อย่างแน่นอน

ราชาหลัวช่าใช้กำลังส่วนใหญ่ไปกับการต่อต้าน กำลังภายในจึงเหลืออยู่ไม่มากแล้ว ไม่อาจรวบรวมกำลังภายในพอที่จะสกัดดาบในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ได้

หลัวช่าน้อยเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

อวี๋หวั่นไม่คิดว่าตาทวดจะใช้วิธีนี้ พลันสูดหายใจเฮือก กลั้นหายใจ

แม้กำลังภายในที่หลงเหลืออยู่ของราชาหลัวช่าไม่เพียงพอที่จะใช้โจมตีและป้องกัน แต่ยังสามารถใช้วิชาตัวเบาได้ ในช่วงเวลาแสนวิกฤตนั้น เขาแวบกายไปใต้ต้นไม้ ใช้ร่างกายป้องกันการโจมตีที่รุนแรงของซือคงเย่

กำลังภายในวิชาอายุวัฒนะทะลวงเข้าสู่ร่างกายของราชาหลัวช่า ราวกับดอกไม้น้ำแข็งที่ระเบิดออกมาภายในเส้นเลือดและอวัยวะภายใน ราชาหลัวช่ากระอักเลือด พลังกดดันสลายสิ้น ละอองเลือดค่อยๆ จางหายไป เขาสิ้นหวังแล้ว!

เมื่อเห็นราชาหลัวช่ากระอักเลือดอย่างรุนแรง หลัวช่าน้อยก็ร่ำไห้!

ราชาหลัวช่าเหาะขึ้นไป ตัดทำลายโซ่เหล็กนิล แล้วอุ้มหลัวช่าน้อยไปจากหมิงซานด้วยวิชาตัวเบา

ทุกคนทอดถอนใจด้วยความโล่งอก

ชิงเหยียนกล่าวว่า “เราชนะแล้วหรือ?”

อวี๋หวั่นจ้องมองไปยังทิศที่หลัวช่าน้อยจากไป โดยไม่มีคำพูดใด

“หากราชาหลัวช่าไม่ตาย หมิงตูก็ไม่มีวันสงบสุข” ซือคงเย่ทรุดตัวลงกับพื้น มองไปยังทิศที่ราชาหลัวช่าจากไป เขาถึงระดับที่เก้าแล้วก็จริง แต่ซางชิวหานยังไม่ใช่ เขาฝืนยกระดับทักษะของตน จนกลายเป็นราชาหลัวช่า ความจริงแล้วขอบเขตพลังยังไม่เสถียร แต่ต่อให้ไม่เสถียร ก็ยังต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมจึงจะสามารถเอาชนะเขาได้ หากวันใดขอบเขตพลังเขาเสถียร แม้จะเล่นเล่ห์อย่างไร ก็ยากจะหลอกล่อลอบโจมตีเขาได้อีกครั้ง

มีคำกล่าวหนึ่งว่าอย่างไรนะ?

เอาชีวิตเจ้า ยามเจ้าล้มเจ็บ!

“ท่านตาทวด ท่านจะไปที่ใด?” อวี๋หวั่นเอ่ยถามซือคงเย่ที่กำลังคิดจะใช้วิชาตัวเบาจากไป

“ข้าจะไปฆ่าราชาหลัวช่า ยามนี้เขาบาดเจ็บสาหัส เป็นโอกาสที่ดีที่จะลงมือจัดการ!” ซือคงเย่ไม่ใช่คนใจดี ที่จะเมตตาเพราะอีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัส เขารู้ดีกว่าใครว่า ราชาหลัวช่าไม่ใช่ซางชิวหานคนเดิมอีกต่อไป เขาไม่มีความเป็นมนุษย์ เมื่อเขาหายดีแล้ว สิ่งแรกที่เขาจะทำก็คือทำลายหมิงซาน ถึงยามนั้นผู้คนจะล้มตายมากมาย

“ท่านตาทวด… ท่านตาทวด ท่าน…” อวี๋หวั่นไม่สามารถหยุดซือคงเย่ไว้ได้

ราชาหลัวช่าได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ยากที่ซือคงเย่จะใช้วิชาตัวเบาตามเขาทัน

ราวครึ่งชั่วยามต่อมา ซือคงเย่ขวางราชาหลัวช่าที่กระอักเลือดไม่หยุด บริเวณใกล้กับเขตต้องห้ามสกุลซาง

ซือคงเย่ใช้ฝ่ามือตบราชาหลัวช่าลอยกระเด็นไปบนพื้น

ราชาหลัวช่ากลิ้งไปบนพื้นอยู่หลายตลบ กอดหลัวช่าน้อยไว้ในอ้อมแขน

“ซางชิวหาน เจ้าทำสิ่งใดไม่ดี ต้องเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นหลัวช่าโลหิต หากไม่ฆ่าเจ้าในวันนี้…” ซือคงเย่ไม่กล่าวต่อ เขากับราชาหลัวช่ารู้จักกันดี หากราชาหลัวช่าไม่ตายด้วยน้ำมือของซือคงเย่ วันหน้าหมิงตูก็จะล่มสลายด้วยน้ำมือของราชาหลัวช่า

ซือคงเย่ใช้วิชาอายุวัฒนะ เปลี่ยนกำลังภายในเป็นดาบ แทงไปที่หัวใจของราชาหลัวช่าอย่างรุนแรง

ไม่คาดคิดว่าทันใดนั้น หลัวช่าน้อยจะโผเข้ามา นอนบังร่างของราชาหลัวช่า——

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2]

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2]

Status: Ongoing

เธอคือหมอ(รักษาสัตว์)เทวดาคนแรกของอาณาจักร

เริ่มจากข้ามมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวบ้านผู้แสนยากจน

ทางซ้ายมีท่านแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ทางขวาก็มีน้องชายตัวน้อยคอยให้ป้อนข้าว

ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอถูกผู้ชายเฮงซวยยกเลิกการแต่งงาน…

ให้ตายเถอะ! เสือไม่โอ้อวดพลังก็จริง แต่เห็นเธอเป็น HelloKitty หรืออย่างไร ถึงมารังแกกันแบบนี้?!

สั่งสอนผู้ชายเฮงซวย รักษาอาการป่วยของท่านแม่ เลี้ยงดูน้องชายที่ผอมแห้งแรงน้อย

บุกเบิกที่นารกร้าง ปลููกพืชบนที่ดินว่างเปล่า นั่งดูความอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

วันเวลาอันแสนสุขค่อยๆ ผ่านไป…

วันหนึ่งก็ได้ยินว่าเทพแห่งความตายผู้น่าสะพรึงกลัวจะมาเยือนถึงหน้าบ้าน บังคับขู่เข็ญให้เธอแต่งงานด้วย?

ถึงเธอจะชอบผู้ชายหน้าตาดีก็เถอะ แต่ได้ยินว่าท่านอ๋องผู้นี้…

“ท่านอ๋อง พวกเราไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย!” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“เหอะๆ” ท่านอ๋องยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วคว้าเด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำสามคนออกมาจากด้านหลัง

“เรียกแม่สิ”

เธอล่ะอยากจะเป็นลม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท