หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 520 คุ้มครองต๋าหว่า

บทที่ 520 คุ้มครองต๋าหว่า

“ผู้อาวุโสสาม เรื่องนี้ ท่านเห็นว่าอย่างไร?”

หลังออกจากตำหนักราชินีแม่มด ผู้อาวุโสห้าและผู้อาวุโสเจ็ดก็เรียกหยุดผู้อาวุโสสาม ผู้ที่ถามเมื่อครู่ก็คือผู้อาวุโสห้า

ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน เป็นสหายรักสนิทสนม ทั้งในยามแรกก็ติดค้างบุญคุณสกุลเนี่ย หลายปีมานี้ ทั้งสองจึงสนับสนุนผู้อาวุโสสามอย่างสุดความสามารถ

เรื่องในวันนี้ พวกเขาเชื่อว่าผู้อาวุโสสามก็เห็นปัญหาเช่นกัน สิ่งที่พวกเขาต้องการคือความเห็นของผู้อาวุโสสาม จะปล่อยให้ราชินีแม่มดสร้างปัญหา หรือจะคิดหาวิธีหยุดยั้งนาง

ผู้อาวุโสสามนิ่งเงียบไม่โต้ตอบ

ผู้อาวุโสห้ากล่าวว่า “เราเป็นสหายกันมาหลายปี ข้าจะไม่อ้อมค้อม เรื่องในวันนี้ ชัดเจนว่าเป็นข้อแก้ตัวของราชินีแม่มด เจ้าคิดจะทำเช่นไร?”

ผู้อาวุโสสามทอดถอนใจ

เขาก็สับสนมากเช่นกัน

หากไม่พูดถึงความสัมพันธ์กษัตริย์กับราษฎร ราชินีแม่มดเป็นน้องสาวของเวินซวี่ หากเวินซวี่กับเนี่ยหวั่นโหรวยังเหมือนน้ำกับไฟยังพอว่า หากเขาเอะอะ ก็ไม่แน่ว่าอาจรับบุตรีกลับบ้านได้อย่างมีเหตุผลสมควร แต่…โหรวเอ๋อร์กับเวินซวี่ดูเหมือนจะไปกันได้ดีแล้ว

ผู้อาวุโสสามรู้ดีว่าไม่ควรใช้ความรู้สึกส่วนตัวกับราชกิจของเผ่าพ่อมด แต่เขาอายุมากแล้ว นับวันยิ่งไม่ได้มีจิตใจแข็งกร้าวเช่นยามหนุ่ม เมื่อนึกย้อนถึงหนี้ที่ติดค้างบุตรสาวในยามนั้น ไม่มีคราใดที่เขาไม่เสียใจ

“พวกเจ้าให้ข้าคิดดูอีกทีเถิด” ผู้อาวุโสสามกล่าว

ผู้อาวุโสเจ็ดกล่าวว่า “หากเจ้าไม่คำนึงถึงชาวเผ่าพ่อมด ก็คำนึงถึงโหรวเอ๋อร์สักหน่อย หากมีสิ่งใดผิดพลาด ในฐานะสะใภ้สกุลเวิน นางก็อาจถูกลากไปเกี่ยวด้วย”

ต่อให้ผู้อาวุโสสามจะคำนึงถึงโหรวเอ๋อร์ก็ยังไม่ได้รีบร้อนเปิดโปงราชินีแม่มด ทว่าชีวิตรักของสตรีนั้นไม่ง่ายที่จะอธิบายให้ผู้อาวุโสทั้งสองเข้าใจ

ผู้อาวุโสสามกล่าว “ข้าก็ไม่จำเป็นต้องตามใจนางสุ่มสี่สุ่มห้า ข้าต้องการเวลาคิดหาทางรับมือ” และต้องการหยั่งความรู้สึกของบุตรีด้วย

ผู้อาวุโสห้าตบไหล่เขา “แม้ข้ากับผู้อาวุโสเจ็ดจะมีความคิดเดียวกับเจ้า แต่เรื่องหลัวช่าวิญญาณ เราเห็นด้วยกับผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสี่ เจ้าควรตัดสินใจโดยเร็วที่สุด พวกเราจะได้รู้ว่าต้องวางแผนอย่างไรต่อไป”

“ข้าเข้าใจแล้ว” ผู้อาวุโสสามทอดถอนใจ

เหล่าผู้อาวุโสแยกย้ายกลับจวนของตน

ในเรือนจวนสกุลเวิน อวี๋หวั่นและคนอื่นๆ ก็กำลังปวดหัวกับหลัวช่าวิญญาณ

“ตามที่อาม่ากล่าวมา แม้แต่ราชาศักดิ์สิทธิ์กับราชาพ่อมดก็ยังฆ่ามันไม่ได้ จะมีวิธีจัดการกับมันจริงๆ หรือ?” อวี๋หวั่นถามด้วยใบหน้าโศกเศร้า

ชุยเฒ่านั่งแทะขาแพะข้างเตียง เหลือบมองอาม่าที่นั่งตรงข้ามอวี๋หวั่น “ฉิวเฒ่า เจ้าพูดสิ!”

อวี๋เซ่าชิง อิ่งสือซัน อิ่งลิ่ว และโจวอวี่เยี่ยนก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน พวกเขาต่างมองไปที่อาม่า

อาม่ากล่าวว่า “ยามนั้น มีโอกาสที่จะสังหารหลัวช่าวิญญาณอยู่จริงๆ ราชาศักดิ์สิทธิ์ตัดสินใจทุ่มสุดตัวดับสูญไปพร้อมกับหลัวช่าวิญญาณ ทว่าจู่ๆ กลับพบว่าตนกำลังตั้งครรภ์ นางไม่อาจปล่อยให้เด็กในท้องตายไปพร้อมกับตน จึงทำได้เพียงร่วมมือกับราชาพ่อมดกักขังพลังของหลัวช่าวิญญาณ”

อวี๋หวั่นพึมพำ “กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากจะฆ่าหลัวช่าวิญญาณ ต้องมียอดฝีมือที่เก่งกาจเทียบเท่าราชาศักดิ์สิทธิ์ตายไปพร้อมกับมันหรือ? อย่ามองข้านะ แม้ข้าจะทรงพลังนัก แต่ก็ยังไม่อยากตาย!”

ทุกคน “…”

พวกเราแค่กังวลว่าหลัวช่าวิญญาณจะมาตามหาราชาศักดิ์สิทธิ์ในท้องของเจ้าเท่านั้น เจ้าคิดอะไร…

ทั้งยังทรงพลัง…

เฮอะ!

อวี๋เซ่าชิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกเจ้าก็อย่ามองข้า แม้ข้าจะแข็งแกร่งกว่าอาหวั่นอยู่บ้าง แต่ข้าจะไม่มีทางตายไปพร้อมกับหลัวช่าวิญญาณ”

เขาเป็นบิดาของบุตรสองคน เป็นสามีของอาซู ใต้หล้ากว้างใหญ่เช่นนั้น เขายังคิดจะพาอาซูไปเดินเล่นอยู่!

ทุกคน “…”

พวกเราไม่ได้มองเจ้าเลยสักนิด

แล้วภาพลวงตาที่คิดว่าตนแข็งแกร่งกว่าอาหวั่นอยู่บ้างนั่นมาจากที่ใด?

ฮูหยิน ท่านไม่สนใจสามีของท่านจริงๆ หรือ?

เจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์ที่นั่งอยู่ในเรือน ส่องกระจกแปะฮัวหวง คะนึงถึงเงาหลัวช่าวิญญาณ บุรุษสุดงดงามยิ่ง อดไม่ได้ที่จะ…ซู้ด!

ทุกคน “…”

โอ๊ยยยย! ครอบครัวนี้มันอะไรกัน?!!

อิ่งสือซันกระแอมในลำคอ “ไม่เช่นนั้น…พวกเราไม่สนเรื่องของเผ่าพ่อมด เพียงแต่ช่วยราชาพ่อมดออกมาก็พอ” มีราชาพ่อมดแล้ว โจวจิ่นก็มีบิดาแล้ว คุณชายก็ได้ส่วนผสมยาอย่างสุดท้าย เช่นนี้นับว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับพวกเขาแล้ว

ทุกคนไม่มีข้อโต้แย้งในเรื่องนี้

โจวจิ่นเข้าวังไปแล้ว แม้ว่าเขาจะไปอย่างรีบร้อน ไม่มีเวลาทิ้งคำพูดใดๆ แต่พวกเขาเชื่อว่าโจวจิ่นเป็นคนฉลาด เดาได้ว่าพวกเขาจะตัดสินใจอย่างไร และร่วมมือกับพวกเขา ช่วยเหลือราชาพ่อมดออกมา

และโจวจิ่นก็เดาว่าพวกเขาจะสามารถเดาความคิดของโจวจิ่นได้ ดังนั้นโจวจิ่นจึงไม่ต้องพยายามอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้

นี่คือข้อดีของการคบหากับคนฉลาด

อิ่งสือซันกล่าวว่า “คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง คุณชายสูญจะเสียพลังทั้งหมด ต้องรบกวน…นายท่านอยู่ดูแลคุณชายที่จวน ข้ากับอิ่งลิ่วจะเข้าวัง”

“ข้าก็ไปด้วย!” โจวอวี่เยี่ยนเอ่ยปาก

มู่ชิงก็อยากไป ทว่าเขาไม่รู้วรยุทธ์ คงช่วยอะไรไม่ได้มาก “เช่นนั้นข้าจะรอฟังข่าวพวกเจ้าอยู่ที่จวน”

เมื่อเห็นอิ่งสือซันและอิ่งลิ่วออกมา เจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์ก็แวบไปอยู่ต่อหน้าทั้งสอง ดวงตาเป็นประกาย “จะเข้าวังแล้วหรือ?”

“ไม่อนุญาตให้ท่านไป!”

ทั้งสองประสานเสียง!

พอเห็นบุรุษรูปงามก็เดินไม่ไหว นี่จะไปสู้กันเอง หรือสู้กันเองกันแน่?

เจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์มุ่ยปากอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

ฮึ

นึกถึงเรื่องเมื่อคืนนั้น ทั้งสองต่างก็หวั่นวิตก หลัวช่าวิญญาณใช้วิชาดูวิญญาณกับฮูหยิน สวรรค์รู้ว่าพวกเขากังวลว่าจะมีผลกระทบภายหลังกับฮูหยินมากเพียงใด แต่ผลชัดเจนว่าฮูหยินไม่เป็นไรแม้แต่น้อย ดูแล้วฮูหยินเพียงแค่กระหายในความงามของบุรุษผู้นั้น

ว่ากันว่าความงามทำให้คนหลงผิด คำกล่าวนี้เป็นเรื่องจริง

วังหลวงเพิ่มความคุ้มกันเข้มงวด ความเป็นไปได้ที่จะใช้วิชาตัวเบาแอบเข้าไปมีไม่มากนัก พวกเขาหาต๋าหว่าพบแล้วปลอมตัวเป็นองครักษ์ของต๋าหว่าเข้าวัง

ต๋าหว่าหาข้ออ้างมาเยี่ยมเยียนเยี่ยยาง เขาเดินทางไปถวายพระพร ‘พี่สาว’ ที่ตำหนักราชินีแม่มดก่อน ราชินีแม่มดได้ยิน ‘เยี่ยยาง’ กล่าวว่าเขาไม่ได้พบต๋าหว่าเลยในช่วงที่ถูกจับตัวไป จึงลดความสงสัยในตัวต๋าหว่าไปหลายส่วน

แต่เมื่อได้ยินว่าเขากำลังจะไปพบเยี่ยยาง ราชินีแม่มดก็ยังคงส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

ต๋าหว่าเข้าใจบทบาทลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ การแสดงก็ยิ่งพัฒนา เขากล่าวอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “เหตุใดรึ? หรือว่าท่านพี่ยังสงสัยว่าข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้? ข้าก็บอกไปแล้ว ข้าเองก็ถูกหลอก ไม่รู้ว่าสตรีผู้นั้นเป็นสายสืบของเผ่าศักดิ์สิทธิ์! วันนั้นหลังจากนางหนีออกจากวัง ข้าก็ไม่ได้เจอนางอีกเลย ส่วนพรรคพวกของนาง ข้ายิ่งไม่รู้จัก”

ราชินีแม่มดกล่าวว่า “ข้าไม่ได้สงสัยเจ้า แต่เยี่ยยางไม่อยากพบผู้ใด เขาอาจจะกำลังตกใจ หลังจากกลับมาก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง แม้แต่ข้าก็ยังไม่อยากพบ”

“เช่นนั้นเขากินข้าวหรือยัง?” ต๋าหว่าถามด้วยความเป็นห่วง

ราชินีแม่มดพูดด้วยความปวดหัว “กินแล้ว ข้าให้คนส่งไป เห็นเขากินสองคำ”

ดวงตาของต๋าหว่าเป็นประกาย เขาหยิบกล่องอาหารขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “ข้านำขนมอบพันชั้นพุทราจีนที่เขาโปรดปรานที่สุดมาให้ ให้ข้าไปเกลี้ยกล่อมเขาดูเถิด บุรุษด้วยกัน บางทีเขาอาจจะฟังข้าก็ได้”

“ก็ดี ข้าจะไปกับเจ้า” หลังจากราชินีแม่มดกล่าวจบ นางก็ลุกขึ้น

ต๋าหว่าลอบบ่นพึมพำ เจ้าไปกับข้า แล้วข้าจะจัดการอย่างไร?

แต่ราชินีแม่มดยืนยันจะทำเช่นนี้ เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องฝืนใจไปตำหนักของเยี่ยยางพร้อมกับราชินีแม่มด

เมื่อไปถึง เหล่านางข้าหลวงกลับบอกว่าองค์ชายเยี่ยยางเสด็จออกไปแล้ว

“เขาไปที่ใด?” ราชินีแม่มดถาม

ไม่แปลกที่นางจะตกใจปานนี้ เด็กคนนี้ขังตัวเองอยู่ในห้องตั้งแต่กลับมา เหตุใดถึงออกไปกะทันหันเช่นนี้?

นางข้าหลวงกล่าว “ทูลองค์ราชินีแม่มด ฝ่าบาทไปหาราชาพ่อมดเพคะ”

“อ้อ” ราชินีแม่มดเผยสีหน้าครุ่นคิด

ราชาพ่อมดเจ็บป่วยมาหลายปี ราชินีแม่มดไม่ต้องการให้เยี่ยยางพบความผิดปกติของราชาพ่อมด จึงใช้เหตุผลที่ไม่อยากให้เขาติดอาการป่วย ห้ามองค์ชายเยี่ยยางไปเยี่ยมเป็นการส่วนตัว หากว่ากันตามหลัก องค์ชายเยี่ยยางไม่ควรไปพบราชาพ่อมดคนเดียวถึงจะถูก

เมื่อต๋าหว่าเห็นท่าทีของราชินีแม่มด ก็เดาว่าการกระทำของโจวจิ่นอยู่นอกเหนือบุคลิกของเยี่ยยาง เขากลอกตา “รอดจากเหตุกาณ์เลวร้ายมา จู่ๆ จึงคิดถึงบุญคุณของบิดามารดากระมัง?”

ราชินีแม่มดขมวดคิ้ว “ทว่ายามที่ข้าไปพบเขา ก็ไม่รู้สึกว่าเขาจะคิดถึงข้านัก…”

ต๋าหว่าระงับความรู้สึกผิด “ไม่เช่นนั้น…ท่านกลับตำหนักไปก่อน แล้วให้ข้าไปหาเยี่ยยางดีหรือไม่?”

ราชินีแม่มดลังเล

ต๋าหว่าแอบภาวนาให้ราชินีแม่มดไม่ไปกับตน ไม่เช่นนั้น เขาก็หมดหนทางจะทำน้ำลอดใต้ทรายกับโจวจิ่นแล้ว

“ช่างเถอะ ข้า…” ราชินีแม่มดกำลังจะกล่าวว่าไปกับต๋าหว่า แต่จู่ๆ องครักษ์จากวิหารกวังหมิงก็เข้ามากระซิบบางอย่างกับนางอย่างรีบร้อน เรียวคิ้วนางขมวดมุ่น “เร็วเช่นนี้เชียว?”

ต๋าหว่าจิตใจกระวนกระวาย สิ่งใดเร็วเช่นนี้ หรือว่าบุรุษนั่นตื่นเร็วเช่นนี้?

เช่น เช่นนั้นจะให้พบโจวจิ่นไม่ได้ เขาจะมองทะลุภาพลวงตาของโจวจิ่น!

เจ้าต้องรีบพาโจวจิ่นออกจากวัง!

ราชินีแม่มดกล่าวว่า “ข้ามีธุระ เจ้าไปเถอะ จำไว้ว่าอย่าให้เยี่ยยางเห็นสภาพบิดาของเขา”

ต๋าหว่าทอดถอนใจโล่งอก ไม่ตามไปก็ดีๆ…

เขารีบตอบ “ข้าเข้าใจ ท่านพี่!”

ราชินีแม่มดหันตัวกลับไปที่วิหารกวังหมิง

ต๋าหว่ารีบไปยังตำหนักราชาพ่อมด

หลัวช่าวิญญาณตื่นขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้ว ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นจะยิ่งแข็งแกร่งและยาวนานกว่าครั้งก่อน บัดนี้เป็นโอกาสเดียวของพวกเขาแล้ว!

พาโจวจิ่นกับราชาพ่อมดออกไป หากล้มเหลว ก็อาจไม่มีครั้งที่สอง!

พระพุทธเจ้า ท่านเทพเซียน เทพพ่อมดสูงสุด…คุ้มครองต๋าหว่า! คุ้มครองต๋าหว่า! คุ้มครองต๋าหว่า!

…………………………………………

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2]

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2]

Status: Ongoing

เธอคือหมอ(รักษาสัตว์)เทวดาคนแรกของอาณาจักร

เริ่มจากข้ามมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวบ้านผู้แสนยากจน

ทางซ้ายมีท่านแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ทางขวาก็มีน้องชายตัวน้อยคอยให้ป้อนข้าว

ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอถูกผู้ชายเฮงซวยยกเลิกการแต่งงาน…

ให้ตายเถอะ! เสือไม่โอ้อวดพลังก็จริง แต่เห็นเธอเป็น HelloKitty หรืออย่างไร ถึงมารังแกกันแบบนี้?!

สั่งสอนผู้ชายเฮงซวย รักษาอาการป่วยของท่านแม่ เลี้ยงดูน้องชายที่ผอมแห้งแรงน้อย

บุกเบิกที่นารกร้าง ปลููกพืชบนที่ดินว่างเปล่า นั่งดูความอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

วันเวลาอันแสนสุขค่อยๆ ผ่านไป…

วันหนึ่งก็ได้ยินว่าเทพแห่งความตายผู้น่าสะพรึงกลัวจะมาเยือนถึงหน้าบ้าน บังคับขู่เข็ญให้เธอแต่งงานด้วย?

ถึงเธอจะชอบผู้ชายหน้าตาดีก็เถอะ แต่ได้ยินว่าท่านอ๋องผู้นี้…

“ท่านอ๋อง พวกเราไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย!” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“เหอะๆ” ท่านอ๋องยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วคว้าเด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำสามคนออกมาจากด้านหลัง

“เรียกแม่สิ”

เธอล่ะอยากจะเป็นลม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท