หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 527 ฆ่า

บทที่ 527 ฆ่า

ฝีมือการทำอาหารของพ่อครัวเทพเป้าจับใจไข่น้อยทั้งสามได้อย่างลึกซึ้ง หลังมื้อเย็น อวี๋หวั่นกับเยี่ยนจิ่วเฉาค่อยๆ สูญเสียความโปรดปราน ไข่ดำน้อยทั้งสามกลายเป็นหางที่คอยติดหลังพ่อครัวเทพเป้า สองมือถือขวดนม เดินเตาะแตะตามพ่อครัวเทพเป้า เขาไปที่ใด พวกเขาก็ไปที่นั่น

พ่อครัวเทพเป้าติดพันจนหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขาลงมือทำซาลาเปาหมูให้ทั้งสาม

ซาลาเปาหมูของลุงใหญ่อวี๋ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่ของพ่อครัวเทพเป้านั้นยอดเยี่ยมที่สุด หลังจากกินซาลาเปาหมูของเขาเข้าไป ก็สามารถหัวเราะออกมาเป็นเสียงหมูได้จริงๆ

“ปู่ทวดเป้าดีที่สุดเลย”

“ชอบปู่ทวดเป้าที่สุดเลย!”

“เสี่ยวเป่าก็ชอบ!”

“ต้าเป่าบอกว่าเขาก็ชอบเหมือนกัน!”

“เช่นนั้นข้าเป็นปู่ทวดที่พวกเจ้าโปรดปรานที่สุดใช่หรือไม่?”

“ใช่!!!” เอ้อร์เป่าเสี่ยวเป่าตอบพร้อมกัน ส่วนต้าเป่าก็พยักหน้าอย่างจริงจัง

เสี่ยวเป่ากล่าว “ดีกว่าปรมาจารย์ด้วย!!!”

ไข่น้อยทั้งสามขายปรมาจารย์ซือคงทิ้งอย่างไม่ลังเล!

ห่างออกไปในดินแดนหนานจ้าว ซือคงเย่ที่ทรมานองค์ประมุขจนพึงพอใจ รู้สึกจั๊กจี้ฟันอย่างอธิบายไม่ถูก เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น…

องค์ประมุขที่ร่าย ‘วิชานินจา’ สิบแปดกระบวนท่าอย่างยากลำบาก ฝ่าห้าด่านสังหารหกขุนพล[1] สยบความโกรธของท่านพ่อตา ถูกอัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น…

พ่อครัวเทพเป้าพัวพันกับไข่น้อยทั้งสาม เบิกบานกับช่วงเวลาครอบครัวพร้อมหน้าที่หาได้ยากนัก ราชาพ่อมดอดอิจฉาไม่ได้ จึงเข้าไปพัวพันกับโจวจิ่นน้อย

คนอื่นๆ ไปที่ห้องของอาม่า หารือกันเรื่องแผนการถัดไป

อวี๋หวั่นเท้าคางถอนหายใจ “ต่างพูดกันว่ารับของคนมือไม้อ่อน กินของคนปากอ่อน[2] แต่ราชาพ่อมดกินอาหารท่านปู่เป้าแล้ว ก็ยังไม่ยอมถอยแม้สักครึ่งก้าว ต้องการให้ขโมยกระดูกของราชาศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังต้องกำจัดหลัวช่าวิญญาณ เราจะทำเช่นไรดี? ท่านพ่อกับท่านแม่ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด”

เธอทอดถอนใจ โจวอวี่เยี่ยนก็ทอดถอนใจ

เยี่ยนจิ่วเฉาเล่นกับข่งหมิงสั่วในมือราวกับว่าเขาอยู่ในโลกของตัวเอง ฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไม่รับรู้การสนทนาของพวกเขา

อิ่งสือซันถามว่า “อาม่า หลัวช่าวิญญาณขาดร่างแยกไปร่างหนึ่ง จะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของร่างแท้หรือไม่?”

อาม่ากล่าวว่า “อาจมีผลกระทบ บัดนี้มันยังคงถูกปิดผนึกอยู่ในโลง สามารถทำเรื่องชั่วร้ายผ่านร่างแยกได้เท่านั้น แต่มันไม่มีร่างแยกแล้ว นั่นก็หมายความว่ามันจะไม่สามารถลงมือกับพวกเราได้ง่ายๆ”

ดังนั้น อวี๋เซ่าชิงฉุดร่างแยกของหลัวช่าวิญญาณลงไปในหลุมลึกก็ถูกต้องแล้ว อย่างน้อยก็เกือบจะช่วยพลิกสถานการณ์ตรงหน้าได้

แต่ไม่รู้ว่ายามนี้พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง

เรื่องหลุมลึกไร้ก้นบึ้ง ทุกคนไม่รู้จะทำเช่นไร ทำได้เพียงดูแลสถานการณ์ปัจจุบันให้ดีเสียก่อน

อิ่งลิ่วกะพริบตา “มันลงมือกับเราไม่ได้ เช่นนั้นมิใช่ว่าเราจะฆ่ามันง่ายดายราวพลิกฝ่ามือหรอกหรือ?”

อาม่าส่งสายตาพ่อเฒ่าแก่เขา “เจ้าอยู่ห่างจากเขตเมืองเผ่าพ่อมด มันย่อมไม่สามารถโจมตีเจ้าได้ง่ายๆ แต่หากเจ้าเข้าไปใกล้ มันก็ยังฆ่าเจ้าได้”

หลัวช่าวิญญาณเก่งในการโจมตีจิตวิญญาณ ขอเพียงเข้าใกล้มากพอก็สังหารยอดฝีมือได้อย่างง่ายดาย

ความฮึกเหิมที่ลุกโชนของทุกคนถูกอาม่าราดน้ำเย็นใส่จนมอดดับ

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังปัง เยี่ยนจิ่วเฉาวางข่งหมิงสั่วในมือลงกับโต๊ะ “พรุ่งนี้ ข้าจะไปฆ่ามัน”

“คุณชาย!” อิ่งสือซันสีหน้าเปลี่ยน

อวี๋หวั่นกล่าวว่า “พรุ่งนี้ คืนพระจันทร์เต็มดวงเพิ่งผ่านพ้นไป พลังของท่านจะฟื้นตัวได้เพียงห้าหรือหกส่วน วิ่งไปฆ่ามันเช่นนี้ จะไม่มีโอกาสชนะเพียงน้อยนิดหรอกหรือ?”

เยี่ยนจิ่วเฉาใช้ปลายนิ้วเรียวเคาะข่งหมิงสั่วเบาๆ สองสามครั้ง “ก็แค่หลัวช่าวิญญาณ”

ซึ่งก็หมายความว่า เขาไม่ได้เห็นปีศาจตนนั้นอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย

ทุกคนเผชิญกับสายลมหวีดหวิวที่พัดผ่าน!

คุณชายอะไรนี่ น่าจะรู้จักประเมินตนเองเสียบ้าง!

ทว่าทุกคนก็เข้าใจ ว่าเหตุใดเยี่ยนจิ่วเฉาถึงร้อนใจอยากสังหารหลัวช่าวิญญาณนัก สำหรับหลัวช่าวิญญาณ รออีกหนึ่งวันก็เท่ากับฟื้นตัวมากขึ้นอีกหนึ่งวัน การฟื้นคืนพลังของมันไม่ได้คำนวณเพียงหนึ่งหรือสองส่วน วันพรุ่งนี้เยี่ยนจิ่วเฉาที่มีพลังห้าส่วนอาจเผชิญกับหลัวช่าวิญญาณที่มีพลังห้าส่วน วันมะรืน เยี่ยนจิ่วเฉาที่มีพลังเจ็ดส่วนอาจต้องเผชิญกับหลัวช่าวิญญาณที่มีพลังถึงสิบส่วนหรือมากกว่านั้น

พลังของหลัวช่าวิญญาณมีไม่จำกัด ไม่มีผู้ใดรู้ว่าแท้จริงแล้วมันแข็งแกร่งเพียงใด

อิ่งสือซันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เช่นนั้นข้าจะเข้าวังไปกับคุณชาย”

อิ่งลิ่วนั่งยืดตัวตรง “ยังมีข้า! ข้าไปด้วย!”

เยี่ยนจิ่วเฉาชะงัก และพยักหน้าอย่างจริงจัง “ก็ดี พวกเจ้าไปขโมยกระดูก”

คนทั้งสอง “…”

เห็นชัดๆ ว่าพวกเขาอยากไปช่วยต่อสู้กับปีศาจ!!!

ฟ้าใกล้สาง กำลังภายในของเยี่ยนจิ่วเฉาค่อยๆ ฟื้นตัว เขานำอิ่งสือซันและอิ่งลิ่วไปที่วังหลวงเผ่าพ่อมด

ด้วยความช่วยเหลือของราชาพ่อมด ทำให้ทั้งสามคนรู้จักประตูข้างเล็กๆ ที่เปิดไปสู่วังหลวง เดิมทีประตูนั้นเป็นคุกของเผ่าพ่อมด เป็นที่สำหรับให้อัครสาวกทำพิธีตอน ภายหลังเผ่าพ่อมดยกเลิกพิธีตอน ที่แห่งนั้นจึงค่อยๆ ว่างเปล่า

ปีแรกๆ ที่ราชาพ่อมดขึ้นครองราชย์ ที่นั่นถูกดัดแปลงเป็นคลังเก็บของ ยามนี้เขาล้มป่วยมานาน ไม่รู้ว่าราชินีแม่มดได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่นั้นขึ้นมาใหม่หรือไม่

หากเปลี่ยนใหม่ ถนนเส้นนั้นก็คงใช้การไม่ได้

โชคดีที่ทั้งสามมีโชคอยู่บ้าง ราชินีแม่มดปรับเปลี่ยนพื้นที่นั้นใหม่จริง ทว่าไม่ได้เปลี่ยนเป็นป้อมปราการ กลับกลายเป็นลานฝึกม้า ในลานฝึกม้ามีองครักษ์เพียงไม่กี่คน เยี่ยนจิ่วเฉาใช้วิชาตัวเบาหลบองครักษ์ลาดตระเวน เดินเต๊ะท่าเข้าวังอย่างง่ายดาย

อีกด้านหนึ่ง องครักษ์ของสภาอาวุโสและราชสำนักพบชุยเฒ่าที่กำลังซื้อวัตถุดิบยา หนึ่งในนั้นเคยอยู่ในเหตุการณ์จับกุมตัวพวกเขาและเห็นชุยเฒ่าถูกจับเป็นตัวประกันกับตาของตน เขาจึงจำชุยเฒ่าได้ทันที

ชุยเฒ่าที่เห็นท่าไม่ดีรีบสับขาวิ่ง!

แต่ไหนเลยเขาจะเป็นคู่ปรับขององครักษ์ทั้งกลุ่มได้? เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะถูกจับตัว โจวอวี่เยี่ยนก็ปรากฏตัวขึ้น

โจวอวี่เยี่ยนตวัดแส้มัดตัวชุยเฒ่าเพื่อดึงเข้ามา จากนั้นก็สาดยาแฝดออกไปถุงหนึ่ง อาศัยความโกลาหลพาชุยเฒ่ากลับไปที่พักของพ่อครัวเทพเป้า

“อย่าหายใจ! มันมีพิษ!” องครักษ์นายหนึ่งตะโกน

คนที่เหลือรีบปิดปากและจมูกของตน ขณะนี้เองผู้อาวุโสสามได้นำกำลังคนมากลุ่มหนึ่ง เขานั่งบนม้าฝีเท้าดีตัวหนึ่ง เรียวคิ้วขมวดเล็กน้อย สั่งลูกน้องเรียกองครักษ์ราชสำนักผู้นั้นมา

“ผู้อาวุโสสาม!” องครักษ์ราชสำนักทำความเคารพ

ผู้อาวุโสสามมองดูความเละเทะ พลันขมวดคิ้วถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

องครักษ์ราชสำนักกล่าวว่า “เรียนผู้อาวุโสสาม เมื่อครู่ข้าน้อยพบหนึ่งในบรรดาสายสืบพวกนั้น เป็นชายชราคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุม แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกช่วยไปได้ขอรับ”

“เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นเขา?” ผู้อาวุโสสามถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

องครักษ์ราชสำนักกล่าวว่า “ข้าน้อยมั่นใจขอรับ! เดิมทีข้าน้อยคิดจะจับกุมเขา แต่จู่ๆ ก็มีสตรีวรยุทธ์สูงส่งคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาและพาชายชราผู้นั้นไปขอรับ”

บัดนี้ ยาแฝดทั้งหมดตกลงสู่พื้น สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ

ผู้อาวุโสสามลงจากหลังม้า ส่งบังเหียนให้กับคนสนิท เขาก้าวไปข้างหน้า และหยุดลงตรงจุดที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน

ทุกคนเห็นเขาขมวดคิ้วนั่งยองๆ ปลายนิ้วหยิบใบไม้ใบหนึ่งขึ้นจากพื้นมาสูดดมที่ปลายจมูก จากนั้นก็ทิ้งมันไป และยืนขึ้นกล่าวอย่างเฉยเมย “ละแวกนี้มีที่ใดขายสุรา?”

ราวๆ ครึ่งเค่อต่อมา ลานบ้านของพ่อครัวเทพเป้าก็ถูกล้อมด้วยองครักษ์

น่าเสียดายที่เยี่ยนจิ่วเฉาจากไปพร้อมกับอิ่งลิ่วและอิ่งสือซัน อวี๋หวั่น มู่ชิงและโจวจิ่นก็ออกไปจากบ้านแล้ว นอกจากโจวอวี่เยี่ยนและต๋าหว่าที่อยู่ในเรือนแล้ว ก็เป็นบ้านของเหล่าชายชราอ่อนแอเท่านั้น การต่อสู้นี้ไม่ต้องพูดก็รู้ผล

แม้โจวอวี่เยี่ยนจะมีศิลปะการต่อสู้สูงส่ง ทว่านางก็ไม่อาจรับมือกับคนจำนวนมากได้ ไม่ช้านางและต๋าหว่าก็ถูกองครักษ์พาดดาบบนคอ

ต๋าหว่ายังคงมีใบหน้าของเวินซวี่ แต่ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าเขาคือเวินซวี่ตัวปลอม ย่อมไม่มีผู้ใดสนใจเขาอีกต่อไป

“ผู้อาวุโสสาม ยังมีคนอีกขอรับ!” องครักษ์กล่าวพลางฉุดพ่อครัวเทพเป้า ชุยเฒ่าและอาม่าออกมา

“ยังมีเด็กอีกสามคนขอรับ!” องครักษ์อีกคนหนึ่งก็นำทหารไปฉุดไข่น้อยทั้งสามออกมา หากบอกว่าฉุดก็ไม่ถูกต้องนัก ทั้งสามผล็อยหลับไปโดยที่ไม่รู้ว่าศัตรูบุกมาถึงบ้านแล้วเสียด้วยซ้ำ

องครักษ์สามนายที่อุ้มพวกเขารู้สึกราวกับถือตุ้มน้ำหนักหมื่นจิน หนักจนแขนแทบหัก

เจ้า เจ้าหนูน้อยพวกนี้กินอะไรเข้าไป? เหตุใดถึงได้หนักเช่นนี้!!!

แต่หลังจากอุ้มได้เพียงครู่หนึ่ง แขนครึ่งหนึ่งขององครักษ์ทั้งสามก็หลุดออกมา

หัวหน้าองครักษ์กล่าวว่า “ผู้อาวุโสสาม ในเมื่อจับคนได้แล้ว เราก็ควรกลับไปรายงานองค์ราชินีและผู้อาวุโสใหญ่ได้แล้วขอรับ”

“พากลับไปทั้งหมดรึ?” ผู้อาวุโสสามถามอย่างเฉยเมย

หัวหน้าองครักษ์กล่าว “แน่นอนว่าไม่ขอรับ ราชินีแม่มดรับสั่งว่า ในกลุ่มสายสืบเผ่าศักดิ์สิทธิ์ นอกจากสตรีผู้นั้นกับเด็กๆ ยังมีประโยชน์อยู่บ้าง ส่วนที่เหลือ…ให้ฆ่าทิ้งให้หมด!”

“ดี เช่นนั้นก็ฆ่า” ผู้อาวุโสสามกล่าวอย่างเฉยเมย คิ้วของต๋าหว่ากระตุกขึ้น เขามองบิดาผู้ให้กำเนิดของเนี่ยหวั่นโหรวอย่างสยดสยอง

“ฆ่า!”

ผู้อาวุโสสามออกคำสั่ง ลูกน้องของเขาชักดาบขึ้นฟัน เลือดแดงสดสาดกระเซ็น!

ต๋าหว่ารู้สึกว่าลำคอและแก้มร้อนผ่าว ในวินาทีต่อมา องครักษ์ของผู้อาวุโสใหญ่และราชินีแม่มดล้มลงบนกองเลือด

……………………

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2]

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2]

Status: Ongoing

เธอคือหมอ(รักษาสัตว์)เทวดาคนแรกของอาณาจักร

เริ่มจากข้ามมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวบ้านผู้แสนยากจน

ทางซ้ายมีท่านแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ทางขวาก็มีน้องชายตัวน้อยคอยให้ป้อนข้าว

ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอถูกผู้ชายเฮงซวยยกเลิกการแต่งงาน…

ให้ตายเถอะ! เสือไม่โอ้อวดพลังก็จริง แต่เห็นเธอเป็น HelloKitty หรืออย่างไร ถึงมารังแกกันแบบนี้?!

สั่งสอนผู้ชายเฮงซวย รักษาอาการป่วยของท่านแม่ เลี้ยงดูน้องชายที่ผอมแห้งแรงน้อย

บุกเบิกที่นารกร้าง ปลููกพืชบนที่ดินว่างเปล่า นั่งดูความอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

วันเวลาอันแสนสุขค่อยๆ ผ่านไป…

วันหนึ่งก็ได้ยินว่าเทพแห่งความตายผู้น่าสะพรึงกลัวจะมาเยือนถึงหน้าบ้าน บังคับขู่เข็ญให้เธอแต่งงานด้วย?

ถึงเธอจะชอบผู้ชายหน้าตาดีก็เถอะ แต่ได้ยินว่าท่านอ๋องผู้นี้…

“ท่านอ๋อง พวกเราไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย!” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“เหอะๆ” ท่านอ๋องยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วคว้าเด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำสามคนออกมาจากด้านหลัง

“เรียกแม่สิ”

เธอล่ะอยากจะเป็นลม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท