บทที่ 76 เยาะเย้ย
สำหรับเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดในบ้านตระกูลโจว หลินชิงเหอไม่สนใจทั้งนั้น
เนื้อพวกนั้นเธอให้ไปเพราะต้องการแสดงความกตัญญูกับท่านพ่อท่านแม่โจว เช่นเดียวกับเป็นการปิดปากสะใภ้รอง เท่ากับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
หลินชิงเหอคิดจะทานข้าวสวยเป็นอาหารกลางวัน ส่วนกับข้าวนั้นเธอต้มไข่ 8 ถึง 9 ฟองจนสุกก่อนจะปอกเปลือก จากนั้นก็สับซี่โครงหมูและหั่นเนื้อสามชั้น ใส่ในหม้อดินและตุ๋นกับซีอิ๊ว
อาหารจานอื่นนอกจากนั้นก็มีผัดผักกับแกงจืดสาหร่ายใส่กุ้งแห้ง
แน่นอนว่าเธอทำเสร็จตอนที่โจวชิงไป๋กลับถึงบ้านพอดี ก่อนหน้านั้นหลินชิงเหอก็มีงานต้องทำหลายอย่างตอนที่โจวชิงไป๋ไม่อยู่บ้าน แม้เขาจะให้อาหารหมูไปแล้วในตอนเช้า แต่เธอก็ต้องเลี้ยงพวกมันอีกครั้ง
เมื่อกระเพาะของเจ้าหมูสองตัวใหญ่ขึ้น ความต้องการอาหารของพวกมันก็มีมากขึ้นตามไปด้วย
หลินชิงเหอคิดจะงีบตอนกลางวันสักครู่หนึ่ง เธอจึงพาเจ้ารองกับเจ้าสามไปขุดผักป่า
โจวชิงไป๋กลับมาในเวลากลางวัน แก้มของเขากลายเป็นสีแดงจากการถูกแดดเผาจนหลินชิงเหอเห็นแล้วระคายตา หญิงสาวยื่นน้ำให้เขาใช้ล้างหน้า จากนั้นก็ปล่อยให้เขาได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นทั้งครอบครัวจึงได้ล้อมวงกันกินอาหารกลางวัน
เนื้อสามชั้นและเนื้อซี่โครงตุ๋นซีอิ๊วใส่ไข่ต้ม กับแกงจืดสาหร่ายกุ้งแห้ง ช่างเข้ากันได้ดีกับข้าวสวยเหลือเกิน
หลินชิงเหอคะยั้นคะยอให้โจวชิงไป๋ทานมากกว่านี้ ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกายเมื่อจ้องมองเธอ หลินชิงเหอไม่เข้าใจเลยว่าเขาดีใจเรื่องอะไร เธอจึงบอกให้เขารีบทานและรีบเข้านอนหลังทานเสร็จแล้ว
อย่างที่คิดไว้ โจวชิงไป๋รู้สึกพอใจกับอาหารที่ได้กิน ไม่ต้องบอกเลยว่าอาหารฝีมือภรรยาของเขาอร่อยขนาดไหน
“เจ้าใหญ่ล้างจานนะ ส่วนเจ้ารองเก็บกวาดโต๊ะซะ” หลินชิงเหอทานเสร็จแล้วก็บอกให้เด็ก ๆ ทำงานบ้าน
สองพี่น้องที่คุ้นชินกับงานบ้านที่ได้รับมอบหมายแล้วก็เริ่มลงมือทำงาน ส่วนเจ้าสามเล่นกับเฟยอิง ขณะที่หลินชิงเหอกลับเข้าไปในห้อง
โจวชิงไป๋รอเธออยู่ก่อนแล้ว เมื่อหญิงสาวเข้ามาในห้อง สายตาของเขาก็กวาดมองเธอ หลินชิงเหอเห็นแล้วก็กระแอมไอและเอ่ยขึ้น “ฉันตกลงทุกอย่างกับเม่ยเจี่ยเรียบร้อยแล้ว คุณจะกลับคำพูดไม่ได้นะคะ”
โจวชิงไป๋ดึงตัวเธอเข้ามาในอ้อมแขนและเอ่ยตอบ “ผมจะให้โอกาสคุณแค่ครั้งเดียว ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้น คุณต้องเลิกนะ”
“ค่ะ” หลินชิงเหอตอบรับอย่างดีใจ
มีพื้นที่มิติอยู่กับตัวแล้ว จะไม่เกิดอะไรขึ้นอย่างแน่นอน
“เมื่อคืนผมทำคุณเจ็บ ตอนนี้คุณค่อยยังชั่วแล้วหรือยัง?” โจวชิงไป๋ถามอู้อี้
ใบหน้าของหลินชิงเหอฉายแววกระดากอายเล็กน้อย ได้รับบาดเจ็บเหรอ? เธอไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำ
แต่เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหมาป่าหื่นกัดทึ้งในตอนกลางคืนอีก เธอเลยบอกไปว่า “ยังไม่หายเลยค่ะ”
“ผมจะลองตรวจดูนะ” โจวชิงไป๋พยายามจะสำรวจเธอ
หลินชิงเหอหน้าแดง “คุณจะทำอะไรตอนกลางวันแสก ๆ น่ะคะ? เด็ก ๆ อยู่ข้างนอกนะ”
“ประตูปิดอยู่ พวกเขาเข้ามาไม่ได้หรอก” โจวชิงไป๋บอก
แต่ถึงอย่างนั้น หลินชิงเหอจะปล่อยให้เขาตรวจตราได้อย่างไรล่ะ? ต้องไม่ยอมอยู่แล้วล่ะ! ในที่สุดเธอก็ถูกโจวชิงไป๋กดลงกับเตียงและบดจูบจนกระทั่งหายใจหอบและตกอยู่ในอาการเคลิบเคลิ้ม
“ภรรยาครับ” โจวชิงไป๋เอ่ยเรียกเสียงทุ้ม
หลินชิงเหอเห็นดวงตาของเขามีไฟลุกโชนก็โพล่งออกมา “เมื่อคืนคุณทำนานมาก แล้ววันนี้คุณก็ออกไปทำงานตลอดทั้งเช้า คุณยังมีแรงเหลืออยู่อีกเหรอคะ?”
“ใช่ครับ” โจวชิงไป๋มองเธอด้วยสายตาเสน่หา
“ต่อให้คุณทำ ฉันก็จะสั่งให้คุณพักค่ะ” หลินชิงเหอถลึงตากลับ
ชายหยาบคายคนนี้มีพลังกายสมบูรณ์ดีอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแค่มองรูปร่างของเขาก็บอกได้แล้วว่าไม่มีชายใดในหมู่บ้านนี้มีรูปร่างดีเท่าเขาหรอก
อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ว่าเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่ในหมู่บ้านต่างมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย ขณะเดียวกันก็ส่งรังสีคุกคามสาดใส่เธอเสียใหญ่โต
ส่งรังสีคุกคามใหญ่โตแล้วอย่างไรล่ะ? ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่พวกหล่อนจะได้ครอบครองซักหน่อย เขาเป็นของหลินชิงเหอต่างหาก!
“ต่อให้ไม่ได้พักผมก็ยังสบายดี” โจวชิงไป๋จูบเธอและพยายามจะทาบทับบนร่างของหญิงสาว
“แต่ฉันยังได้พักผ่อนไม่พอเลยค่ะ เมื่อคืนนี้คุณทำราวกับว่าอดอยากปากแห้งไม่ได้กินเนื้อมาเป็นศตวรรษอย่างไรอย่างนั้น สภาพของฉันยังไม่พร้อมเลย” หลินชิงเหอเอ่ยด้วยสีหน้าอ่อนแรง
ได้ยินดังนี้แล้ว โจวชิงไป๋ก็ทำได้เพียงยอมแพ้ “งั้นคุณพักผ่อนเถอะ”
โจวชิงไป๋คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมาหน่อย ๆ เช่นกัน เมื่อคืนนี้เขาทำรุนแรงเกินไปจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ ภรรยาของเขาช่างเย้ายวนเสียจนเขาอดไม่ได้ที่จะเกิดความต้องการซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลินชิงเหอได้ฟังก็โล่งใจและเอนตัวซบกับอ้อมกอดของเขา
หลังจากเมื่อคืนนี้ทั้งคู่ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริง เธอก็มีความรู้สึกผูกพันรักใคร่ชายคนนี้ขึ้นมาจริง ๆ
“ถึงคุณจะได้แต้มค่าแรงมา คุณก็ไม่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจหมดหน้าตักหรอกนะคะ ช่วงไหนที่ขี้เกียจได้ก็ทำตัวขี้เกียจบ้าง ครอบครัวเราไม่ได้อดอยากอะไร ไม่ต้องโหมทำงานหนักขนาดนั้นหรอกค่ะ” หลินชิงเหอบอก
“งานไม่หนักขนาดนั้นหรอก” โจวชิงไป๋ส่ายหน้า
สำหรับชายหนุ่มแข็งแกร่งอย่างเขา การทำไร่ทำนาไม่คณามือเขาแต่อย่างใด
“ไม่หนักได้อย่างไรคะ? ก็ไม่ผิดหรอกค่ะที่จะเรียกงานพวกนั้นว่างานใช้แรงงาน แต่ตอนนี้ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยว่าถ้าคุณไม่ถนอมร่างกายให้ดีและเกิดพิการขึ้นมา ฉันอาจจะเขี่ยคุณทิ้งก็ได้นะ” หลินชิงเหอร้องแหว
“งั้นผมก็จะคอยดูว่าคุณจะเขี่ยผมทิ้งจริงไหม” โจวชิงไป๋จ้องมองหญิงสาว
หลินชิงเหอเอื้อมมือแตะใบหน้าของเขาอีกครั้ง “คุณยังหนุ่ม ตอนนี้ยังไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่โจวชิงไป๋คะ ใบหน้าของคุณจะยังความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานเท่าไหร่เชียวหากต้องตากแดดตากลมข้างนอก?”
“เกิดเป็นผู้ชายมีหน้าที่แบกรับความรับผิดชอบก็พอแล้วล่ะ ใบหน้าจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญหรอก” โจวชิงไป๋ยังคงเอ่ยหนักแน่น
เขาเอ่ยออกมาอย่างสมชายชาตรี ดลใจให้หลินชิงเหอโน้มเข้าไปจูบ ซึ่งเขาก็เกิดความตื่นตัวขึ้นมา
แต่เมื่อรู้ว่าสภาพของหญิงสาวยังไม่สู้ดีนัก เขาจึงไม่แตะต้องเธอ
“ฉันน่ะชอบคนหน้าตาดี ดังนั้นอย่าเปลี่ยนไปเป็นชายแก่ก่อนวัยเลยนะคะ ฉันไม่ชอบ” หลินชิงเหอบอก
โจวชิงไป๋ส่งเสียง “อืม” ในลำคอแทนคำสัญญา
มากกว่านั้นเขายังรู้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ เหตุผลที่ว่าทำไมภรรยาถึงชอบเขาก็เป็นเพราะว่าเขาหน้าตาดี
เพราะในช่วงที่ผ่านมา บางครั้งเธอจะมองเขาด้วยอาการเคลิบเคลิ้ม หลายครั้งที่ดวงตาของเธอจะเป็นประกายวับวาวยามได้เห็นรูปร่างของเขา
เขาจึงรู้ว่าควรจะดึงดูดภรรยาอย่างไร
“นอนเถอะ” โจวชิงไป๋กอดเอวเธอพลางเอ่ยกระซิบ
หลินชิงเหอปล่อยให้เขางีบหลับแล้วเธอก็ออกมาตรวจการบ้านของเจ้าใหญ่ เจ้ารองนับเลขต่อจากเมื่อวานได้แล้ว และเจ้าสามก็ต้องล้างมือล้างหน้าก่อนที่จะงีบตอนกลางวัน
โจวชิงไป๋เหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงนอนหลับในห้องนั้นที่ยังมีกลิ่นอายของภรรยาอยู่
จากนั้นเขาก็เริ่มงานอีกครั้งตอนบ่ายโมงตรง
หลินชิงเหอรู้สึกหงุดหงิด แต่โชคดีช่วงนี้อากาศดี และแสงแดดไม่แรงมากนัก แต่ถ้าถึงเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมเมื่อไหร่มันก็จะลำบากเมื่อนั้น มันคงจะร้อนอบอ้าวจนแทบตาย
เมื่อเจ้าใหญ่ไปโรงเรียนแล้ว หลินชิงเหอก็พาเจ้ารองกับเจ้าสามออกไปขุดหาผักป่า โดยปล่อยให้เฟยอิงเฝ้าบ้าน
ต้องบอกว่าเมื่อมีนักสังเกตการณ์ชั้นยอดอย่างเฟยอิง หลินชิงเหอก็วางใจที่จะออกไปนอกบ้านมากขึ้น
แม้ของสำคัญส่วนใหญ่ในบ้านจะถูกเก็บในมิติของเธอแล้ว แต่ก็ยังมีของอื่น ๆ อีก
ในตอนนี้มีคนจำนวนมากออกมาขุดหาผักป่า หลินชิงเหอจึงปล่อยให้เจ้ารองกับเจ้าสามวิ่งเล่นเข้าไปในหมู่ของหญิงสาวชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่ออกมาขุดหาผักป่าเช่นกัน
“อ๊ะ ภรรยาของโจวชิงไป๋ก็ออกมาขุดหาผักป่าเหมือนกันเหรอเนี่ย ปกติจะคอยดูถูกผักป่าพวกนี้ว่าไม่มีทางกินพวกมันไม่ใช่เหรอ” หนึ่งในหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลินชิงเหอแต่หน้าตาดูสูงวัยกว่าเธอเอ่ยขึ้นมา
คำพูดนี้เป็นการดูถูกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้หลินชิงเหอไม่ต่างอะไรจากหงส์ปีกหัก
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สะ…สำรวจอะไรแม่คะพ่อ พอได้กินแม่แล้วเอาใหญ่เลยนะคะ จะตรวจร่างกายแม่ตอนกลางวันแสก ๆ แบบไม่อายผีบ้านผีเรือนเลยทีเดียว
หยุดสาระแนแม่เดี๋ยวนี้ค่ะซิส ถึงแม่จะเป็นหงส์ปีกหักแต่แม่ก็ยังเป็นหงส์อยู่ดี พวกหล่อนสู้แม่ไม่ได้หรอก
ไหหม่า (海馬)