ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 118

บทที่ 118

บทที่ 118 ให้กำเนิดลูกชาย

ไม่นานนักหลังโจวชิงไป๋ออกจากบ้าน เด็ก ๆ ก็ตื่นนอน แตงโมที่เหลือจึงถูกพวกเขาเขมือบจนหมด

ในตอนแรกหลินชิงเหอกังวลว่าพวกเขาจะท้องเสียไหม หากกินของฤทธิ์เย็นเข้าไปเป็นจำนวนมากในวันนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าท้องของเด็ก ๆ พวกนี้ช่างอึดถึกแบบนี้

ในตอนที่พวกเขาออกไปเล่น หลินชิงเหอก็ลงมือนวดแป้ง

เย็นนี้พวกเขาจะทานหมั่นโถวแป้งถั่วกับปลาหนีชิวตุ๋นกัน

ปลาหนีชิวตุ๋นที่หลินชิงเหอทำรสชาติอร่อยเป็นพิเศษ เนื่องจากเธอใส่วัตถุดิบลงไปมากมาย

มีทั้งเหล้า ขิงซอย ต้นหอม พริก น้ำตาล เกลือ กระเทียม

ปลาหนีชิวถูกผ่าท้องออกและดึงไส้ออกมาจนหมด จากนั้นก็ใส่ลงไปในหม้อพร้อมกับวัตถุดิบอื่น ๆ สุดท้ายก็ตักปลาหนีชิวตุ๋นจากหม้อได้หนึ่งจานใหญ่เต็มๆ

เรื่องนี้ยุ่งยากเล็กน้อย แต่โจวชิงไป๋ต้องออกไปทำงานทุกวัน หลินชิงเหอจึงยินดีใส่ใจทำอาหารอร่อยให้เขามากขึ้นเพื่อให้เขาทานได้มากขึ้น

นอกจากปลาหนีชิวตุ๋นแล้วก็ยังมีแตงกวาเย็นกับซุปไข่คนใส่มะเขือเทศเหมือนอย่างที่กินไปเมื่อตอนกลางวัน

มองดูสวนผักหลังบ้านที่มีจำนวนไม่เยอะเท่าไร แต่ถึงจะไม่ค่อยมีผักให้กินหลากหลายชนิดมากนัก แต่หลินชิงเหอก็พยายามทำอาหารให้ออกมาอร่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

และตอนนี้ทั้งพ่อกับลูกชายทั้งสามต่างก็ยอมรับในอาหารของเธออย่างสุดหัวใจแล้ว

เจ้าใหญ่ เจ้ารอง และเจ้าสามกลับมาที่บ้านหลังสี่โมงเย็น พวกเขายังหิ้วถังที่มีปลาไหลอยู่ในนั้นครึ่งถังกลับมาด้วย

หลินชิงเหอนิ่งไปครู่หนึ่ง “ลูกได้ปลาไหลมาจากไหนน่ะ?”

“พี่โจวต้งให้มาครับ” เจ้าใหญ่ตอบ

หลินชิงเหอยิ้มเมื่อได้ยินดังนี้ เธอพยักหน้าและไม่พูดอะไร

นับตั้งแต่ที่โจวชิงไป๋กลับมา เธอก็ไม่จำเป็นให้โจวต้งหาฟืนมาให้อีก ตอนนี้โจวต้งโตขึ้นแล้วและทำงานได้แต้มค่าแรงแปดแต้มเหมือนกับผู้ใหญ่คนอื่น เขาสามารถเลี้ยงดูน้องสาวเป็นอย่างดีแล้ว

โจวซีน้องสาวของเขาก็เป็นคนแข็งแรงเช่นกัน เธอเป็นฝ่ายเก็บผักขมเพื่อแลกแต้มค่าแรง แต้มค่าแรงของสองพี่น้องรวมกันนั้นไม่ได้น้อยเลยและทำให้พวกเขาสามารถอยู่ดีกินดีได้

ในที่สุดโจวซีก็เติบโตเป็นสาว ก่อนหน้าที่เธอมีรอบเดือนและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็มีหลินชิงเหอที่เห็นรอยเลือดบนกางเกงและพาเธอกลับมา

เธอสอนความรู้บางอย่างให้กับเด็กสาวและยังให้น้ำตาลทรายแดงไปครึ่งชั่งเพื่อเอาไปต้มกับขิงไว้ดื่ม

โจวซีไม่กล้ารับไว้ แต่หลินชิงเหอก็ทำให้เธอรับไว้และบอกว่าเธอแค่มาหาที่บ้านและช่วยเย็บรองเท้าให้เด็ก ๆ เมื่อมีเวลาว่างก็พอ

โจวต้งผู้เป็นพี่ชายรู้สึกซาบซึ้งใจ เขาจึงให้ปลาไหลมาครึ่งถังเล็กเพื่อเป็นการตอบแทน

หลินชิงเหอตัดปลาไหลออกเป็นครึ่งท่อน เธอทำอาหารมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว แต่ในเมื่อมีปลาไหลมาเพิ่ม เธอก็เลยทำปลาไหลตุ๋นอีกจานหนึ่ง เธอปรุงปลาไหลครึ่งหนึ่งเป็นอาหารเย็นนี้และอีกครึ่งหนึ่งไว้ปรุงเป็นอาหารวันพรุ่งนี้

ดังนั้นอาหารเย็นนี้จึงมีปลาไหลตุ๋น ปลาหนีชิวตุ๋น แตงกวาเย็น และซุปมะเขือเทศไข่คน เป็นมื้อที่อุดมสมบูรณ์อย่างเห็นได้ชัด

โจวชิงไป๋กับคนอื่น ๆ เพิ่งจะหว่านเมล็ดเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม และฝนก็เริ่มตกหนักอีกครั้ง

ฝนที่ตกหนักนี้ช่างสดชื่นนักในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้

ยิ่งกว่านั้นทุกคนยังปิติยินดี เพราะพวกเขาเพิ่งหว่านเมล็ดไป เหลือแค่ต้องการรดน้ำหลังฝนตกเท่านั้น

ฝนตกหนักติดต่อกันห้าวัน เป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าพวกเขาไม่ต้องไปทำงานในตอนบ่าย โจวชิงไป๋จึงได้มีเวลาพักเสียที

โจวชิงไป๋สามารถพักได้ แต่หลินชิงเหอไม่ได้พัก

ชายคนนี้มักมาหาเธอตอนที่ไม่มีงานทำ

ทุกคืนเขาจะก่อกวนเธอและขอทำเพิ่มอีกยกหรือสองยก

ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะอยากได้ลูกสาวจริงๆ เสียด้วย

หลินชิงเหออยากให้เขาเก็บพลังนี้ไว้ในเมื่อไม่ได้ออกไปทำงาน แต่ชายคนนี้ก็ใช้พลังของเขาไปกับเธอจนหมด…

ไม่นานนักเวลาก็ผ่านไปจนถึงเดือนกันยายนที่เจ้าใหญ่ต้องไปโรงเรียนอีกครั้ง

หลินชิงเหอเตรียมล้างไหเพื่อที่จะหมักซอสพริก

พริกยังไม่สุกดี แต่พวกมันคงสุกในเดือนหน้า ตอนนี้จึงเป็นเวลาดีที่จะล้างไหเตรียมไว้ก่อน

หญิงสาวล้างไหขนาดใหญ่ไว้สองไห พวกมันก็คือไหที่เคยใส่น้ำผึ้งมาก่อน ไหหนึ่งใส่ของได้มากเหลือเฟือ ดังนั้นสองไหน่าจะพอ

เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนนี้ก็จะเป็นเวลาเก็บเกี่ยวประจำฤดูใบไม้ร่วง

การเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงนี้ยังเริ่มต้นในวันสิ้นเดือนอีกด้วย และมันก็จะต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนหน้า มันเป็นการเก็บเกี่ยวประจำฤดูใบไม้ร่วงที่ยิ่งใหญ่มากเหมือนกับในทุก ๆ ปี

ในตอนนี้เอง โจวเสี่ยวเม่ยที่อยู่ในเมืองก็ได้คลอดบุตรพอดี

หลินชิงเหอคิดว่าเธอคงไม่มีอะไรต้องทำมากนัก จึงเป็นตัวแทนท่านแม่โจวไปเยี่ยมเสี่ยวเม่ย เธอนำขาหมูสองขาเช่นเดียวกับน้ำตาลทรายแดงหนึ่งชั่ง โดยที่ท่านแม่โจวฝากไข่มาด้วยครึ่งตะกร้า

ของพวกนี้สามารถซื้อมาได้

“พี่สะใภ้สี่ พี่สะใภ้สามเป็นอย่างไรบ้างคะ?” โจวเสี่ยวเม่ยถาม

ครั้งนี้เธอให้กำเนิดลูกชาย ซึ่งทำให้ซูต้าหลินดีใจสุดขีด ครอบครัวของเขามีเขาเพียงคนเดียว และครั้งนี้ภรรยาก็ให้ลูกชายกับเขา แล้วเขาจะไม่ดีใจได้อย่างไร?

ทั้งคุณลุงกับคุณป้าก็ดีใจไปกับเขาด้วย พวกเขาพอใจในตัวโจวเสี่ยวเม่ยหลานสะใภ้คนนี้มาก

“หล่อนสบายดี เดือนหน้าหล่อนถึงจะฟื้นตัวแล้วเธอก็ค่อยส่งตัวลูกของเธอไปก็ได้” หลินชิงเหอบอก

ซูต้าหลินส่งของมากมายไว้ให้สะใภ้สามได้ทานบำรุงหลังคลอด

มีทั้งปลาจี้อวี๋ ขาหมู เนื้อหมู และอื่น ๆ

จุดประสงค์ก็เพื่อที่พวกเขาจะได้ฝากลูกของพวกเขาให้หล่อนเลี้ยงกับลูกของหล่อนในเดือนหน้า

สะใภ้สามเต็มใจกับเรื่องนี้และไม่อาจดีใจไปได้มากกว่านี้แล้ว

ขณะที่ทางฝั่งสะใภ้รองกำลังหงุดหงิดที่ซูต้าหลินไม่มีของแบ่งมาให้หล่อน หล่อนถึงกับระเบิดอารมณ์ในบ้านอยู่เป็นประจำ

ครั้งนี้สะใภ้รองให้กำเนิดลูกสาวเหมือนกันกับสะใภ้สาม

ทั้งคู่มีลูกชายแล้ว จึงไม่สนใจว่าครั้งนี้จะเป็นลูกชายหรือลูกสาว แค่ของบำรุงร่างกายหลังคลอดจะมีปริมาณแตกต่างกันเล็กน้อย

ไม่มีใครพูดอะไรในเรื่องนี้ เพราะซูต้าหลินต้องการส่งลูกชายของเขากลับมาให้ครอบครัวของภรรยา ทารกน้อยยังตัวเล็กนักและจำเป็นต้องดื่มนมในปริมาณที่เพียงพอ พวกเขาจึงต้องรบกวนสะใภ้สามที่มีช่วงเวลาตั้งครรภ์เกือบจะเป็นช่วงเดียวกับโจวเสี่ยวเม่ยให้เป็นผู้เลี้ยงดู

สะใภ้รองรีบประกาศทันทีว่าหล่อนจะไม่ขอเลี้ยงหลาน

ทุกคนทำได้แต่ฟัง ไม่มีใครเข้าไปยุ่งกับหล่อน

ตอนนี้พวกเขาอยู่แยกกันแล้ว ทุกคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง ใครจะกล้ารับใช้ให้กับใครได้ล่ะ? ถ้าพวกเขาไปกันด้วยดีก็สานสัมพันธ์กันมากขึ้น หากไปกันไม่ได้ก็ต่างคนต่างอยู่

หลังฟังพี่สะใภ้สี่แล้ว โจวเสี่ยวเม่ยก็โล่งใจ

พอถึงสิ้นเดือนกันยายน โจวเสี่ยวเม่ยกับซูต้าหลินก็ฝากลูกของพวกเขาให้กับท่านแม่โจว

ท่านแม่โจวเลี้ยงดูหลานและได้รับเงินเดือนค่าเลี้ยงดูหลานตามที่ตกลงกันไว้เมื่อก่อนหน้านี้

ท่านแม่โจวเองก็ดีใจกับเรื่องนี้ นางทำงานมาเกือบทั้งชีวิต ตอนนี้ลูกชายของนางโตกันหมดแล้ว นางจึงได้พักอยู่กับบ้านและทำอาหารให้สามี ใครจะกล้าพูดอะไรกับนางล่ะ?

นอกจากนั้นมันก็แค่เลี้ยงดูหลานชายคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ท่านแม่โจวทำได้อยู่แล้ว

ซูต้าหลินกับโจวเสี่ยวเม่ยลังเลเล็กน้อยที่จะจากลูกไป แต่ในที่สุดพวกเขาก็ต้องไปทำงานในวันพรุ่งนี้ หลังใช้เวลาอยู่ที่บ้านแม่ยายค่อนวันแล้ว พวกเขาก็ลาจากลูกของตนเองและกลับเข้าไปในเมือง

ครั้งนี้พวกเขานำของมาด้วยหลายอย่าง รวมถึงเนื้อ ปลา และไข่ ต่อให้มีของเยอะแบบนี้ พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะให้ลูกกวาดถุงหนึ่งกับเจ้าใหญ่และน้อง ๆ

หลินชิงเหอเองก็เสนอตัวช่วยเลี้ยงเด็กเหมือนกัน หากท่านแม่โจวยุ่งเกินไป เธอก็จะช่วยเลี้ยงดูหลานในแบบของเธอ ทั้งคู่จึงวางใจและวางแผนว่าจะมาเยี่ยมลูกของพวกเขาในตอนที่มีวันหยุด

นอกจากนี้สะใภ้สามยังนิสัยดีไม่น้อย เมื่อรับของมากมายหลายสิ่งแล้ว หล่อนก็จะต้องดูแลเด็กได้เป็นอย่างดีแน่นอน

…………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ตอนนี้มีแต่อาหารน่ากินอีกแล้วค่ะ ใครนึกไม่ออกว่าจะกินอะไรลองทำตามเมนูที่แม่ทำก็ได้นะคะ

เสี่ยวเม่ยคลอดลูกชายแล้ว ยินดีด้วยค่า ส่วนสะใภ้รองก็อดไปนะคะ แล้งน้ำใจกับเขาเอง

สะใภ้สามสู้ ๆ นะคะ มีเด็กมาเพิ่มอีกคนหนึ่งต้องบำรุงตัวเองเยอะ ๆ เลยค่ะ

ไหหม่า (海馬)

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

Status: Ongoing

<strong>*นิยายเรื่องนี้อยู่ในยุค 1960 เทียบกับ พ.ศ. คือ 2503 เป็นยุคที่ประเทศจีนอยู่ในช่วงปฏิรูปการปกครองโดยมีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้นำ ดังนั้นสรรพนาม ฉากเรื่อง ตัวละคร จะไม่เหมือนกับภาพในนิยายจอมยุทธ์กำลังภายใน</strong>

<strong>จู่ ๆ ก็ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสามในยุคปฏิรูปการปกครองปี 60 …</strong>

<strong>ใครจะไปคิดว่าชีวิตธรรมดาของ หลินชิงเหอ ผู้จัดการฝ่ายขายสาวจะเผชิญกับความไม่ธรรมดา หลังทะลุมิติเข้าไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่เธออ่าน ซึ่งต้องเผชิญกับความยากลำบากของสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ไม่มีอะไรจะกินและไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะสวมใส่ แต่โชคยังดีที่เธอได้พื้นที่มิติส่วนตัวไว้เก็บของ ทำให้เธอรอดตายไปได้ชั่วคราว แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่านั้นก็คือ บุตรชายทั้งสามของเธอดันเป็นตัวร้ายในอนาคตของนิยายเรื่องนี้น่ะสิ แถมสามีในมิตินี้ของเธอยังต้องพบกับจุดจบน่าอนาถอีกด้วย</strong>

<strong>ตัวประกอบแม่ลูกสามอย่างเธอจะเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องและเอาตัวให้รอดอย่างไรดีเนี่ย…</strong>

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท