หล่อนหาวิธีแก้ไขปัญหาได้สินะ ช่างเป็นพวกขยะที่น่าสิ้นหวังจริงๆ ซ่งซินกำลังนั่งอ่านข่าวอยู่ที่บ้าน หญิงสาวปาแก้วไวน์แดงในมือลงกับพื้นเมื่อได้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น นี่คือวิธีระบายความโกรธของเธอ ทว่าซ่งซินกลับรู้สึกรำคาญยิ่งกว่าเดิมขณะที่มองของเหลวสีแดงกระจายไปทั่ว
ความตั้งใจเดิมของเธอคือหยุดยั้งการฉายภาพยนตร์ของถังหนิง ทว่าหญิงสาวต้องประหลาดใจที่ตัวเองไม่ได้ล้มเหลวเพียงอย่างเดียว แต่เธอยังช่วยถังหนิงโปรโมตอย่างฟรีๆ อีกด้วย
พรุ่งนี้ ‘คนรักที่สาบสูญ’ จะทำได้ดีแค่ไหนในโรงภาพยนตร์กันนะ
ซ่งซินคิดแค่ว่าแผนของเธอนั้นล้มเหลว แต่เธอไม่รู้เลยว่าถังหนิงเล็งเป้ามาที่เธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้ ถังหนิงจะสลับบทบาทและเล่นเกมกับเธอ
…
ขณะเดียวกัน ผู้เขียนนิยายเรื่อง ‘นักแกะรอย’ นั้นก็ได้หายตัวไปอย่างสมบูรณ์ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้กลัวว่าไห่รุ่ยจะออกตามหาเขาเพียงอย่างเดียว ชายหนุ่มยังกังวลอีกว่าพวกเขาจะบังคับให้เขาต้องหักมือของตัวเอง ดังนั้นผู้เขียนจึงหนีไปซ่อน ไม่กล้าออกมาปรากฏตัว
ทว่าการสะกดรอยตามใครสักคนนั้นไม่ใช่งานยากสำหรับไห่รุ่ย โดยเฉพาะเมื่อมีความช่วยเหลือจากสังคมออนไลน์ที่ประกอบด้วยผู้คนจากร้อยพ่อพันแม่ ดังนั้นไห่รุ่ยจึงพบตัวผู้เขียนได้ในเวลาไม่นาน
ถังหนิงไม่สนใจจะไปพบกับเดนคนนั้น แต่หญิงสาวกลับคุยกับฟังอวี้ผ่านทางโทรศัพท์นานถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่พบตัวชายคนนั้น เนื้อหาในสายสนทนานี้เป็นความลับ นอกเหนือจากฟังอวี้ โม่ถิง และตัวเธอเองแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องที่พวกเขาคุยกันอีก
ไม่นานจากนั้น ผู้เขียนก็ถูกเชิญให้ไปที่ห้องประชุมของไห่รุ่ย แม้ว่าผู้เขียนจะเตรียมใจรับสิ่งที่กำลังจะมาถึงเอาไว้แล้ว เขาก็ยังอดตัวสั่นตอนที่ไปถึงตึกนั้นไม่ได้
ฟังอวี้เจียดเวลามาดูหน้าขยะผู้ไร้ยางอายคนนี้ หลักๆ อนั้นเป็นเพราะเขาและถังหนิงจะไม่อุ่นใจหากพวกเขามอบความรับผิดชอบนี้ให้คนอื่น
ผม ฟังอวี้ เป็นรองประธานของไห่รุ่ย ฟังอวี้กล่าวขณะที่ก้าวเข้าไปในห้องประชุม ทว่าชายหนุ่มไม่ได้ยื่นมือออกมาจับมือกับผู้เขียน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีความนับถือใดๆ ต่อชายคนนี้เลย
ผะ…ผมรู้ว่าต้องทำอะไรครับ ผู้เขียนคือชายรูปร่างผอมแห้งผมเกรียนอายุราวยี่สิบสี่ยี่สิบห้าปี ดูเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่ใครจะคาดคิดล่ะว่าชายคนนี้คือคนที่สร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่หลวงให้กับวงการบันเทิงของกรุงปักกิ่ง
รู้ก็ดีแล้วครับ ผมจะไม่ถามคุณเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เพราะตอนนี้ไห่รุ่ยเองก็กำลังทำการสอบสวนอยู่ ผมต้องการให้คุณบอกผมมาว่าใครเป็นผู้ยุยงให้เกิดเหตุการณ์นี้และเป็นคนสอนคุณว่าต้องทำอะไรบ้าง ฟังอวี้กล่าวพลางนั่งลงบนมุมโต๊ะกาแฟก่อนจะโน้มตัวมาด้านหน้า ผมมั่นใจว่าคุณรู้นะครับว่าถ้าโกหกแล้วผลที่ตามมาจะเป็นยังไง การที่ไห่รุ่ยจะทำให้คุณทุกข์ทรมานนั้นง่ายเป็นอย่างยิ่งเลยล่ะครับ
ชายคนนั้นกลัวจนพูดไม่ออก เขาเอามือไพล่หลังไว้ตลอดเวลาเพราะกลัวว่าไห่รุ่ยจะจำคำสัญญาของเขาได้
ผะ…ผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อผมมาทางอินเทอร์เน็ตแล้วจ้างผมทำเรื่องนี้ด้วยเงินจำนวนมากครับ ผมเพียงแค่ทำตามคำสั่งของเธอ ผมไม่รู้จริงๆ ครับว่าเรื่องราวทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้ ขอร้องล่ะครับ อย่าหักมือผมเลย
หักมือคุณ ฟังอวี้หัวเราะพลางส่ายหน้า เราเป็นคนที่มีอารยธรรมแล้วนะครับ เราไม่ใช้ความรุนแรงอย่างนั้นหรอก คุณไม่ใช่เหรอครับที่เสนอแนะขึ้นมาเองตั้งแต่แรก
ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นครับ…แค่ล้อเล่น
‘งั้นจากนี้เรามาล้อเล่นกันต่ออีกหน่อยเถอะครับ พูดจบ ฟังอวี้ก็มอบข้อมูลส่วนหนึ่งให้ชายคนนั้น ชายหนุ่มยังจำความแค้นเรื่องฮั่วจิงจิงได้อย่างแม่นยำ
หลังจากพบกับผู้เขียนเสร็จ ฟังอวี้ก็กำลังจะนำข้อมูลที่ได้ไปยังห้องทำงานของท่านประธาน ทว่าซ่งซินผู้สวมแว่นกันแดดที่มีสไตล์กลับเข้ามาหาเขาเสียก่อน
ไห่รุ่ยวางแผนที่จะเมินเฉยฉันไปอีกนานแค่ไหนคะ ซ่งซินเอ่ยถามขณะที่ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของฟังอวี้แล้วถอดแว่นกันแดดออก ผู้จัดการของฉันยังอยู่ในโรงพยาบาลนะคะ นี่ไห่รุ่ยลืมฉันไปหมดแล้วงั้นเหรอ
อย่างที่คุณก็ทราบนะครับว่าผู้จัดการส่วนตัวของคุณเป็นขโมย ดังนั้นสาธารณชนจึงเชื่อมโยงคุณทั้งสองคนเข้าด้วยกัน เหตุผลที่ไห่รุ่ยทำเช่นนั้นก็เพราะพวกเขาหวังว่าสถานการณ์จะซาลงไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณเองก็คงไม่อยากให้แฟนคลับของคุณมองคุณด้วยความอคติใช่ไหมครับ ฟังอวี้เอ่ยถามพลางเลิกคิ้วขึ้น
ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณจะพูดแบบนั้น นั่นคือหตุผลที่ฉันอยากยกเลิกสัญญากับไห่รุ่ยยังไงล่ะ ซ่งซินเอ่ยพลางเคาะโต๊ะของฟังอวี้ ฉันจะจ่ายค่าชดเชยเอง
ผมคุยเรื่องนี้กับท่านประธานโม่แล้ว เขาบอกว่าอยากจะรอจนกว่าโชคชะตาของคุณกับไห่รุ่ยจะไปจนสุดทาง แต่เวลานั้นยังมาไม่ถึงอย่างแน่นอนครับ หลังจากตอบไปเช่นนั้น ฟังอวี้ก็เอ่ยถาม ผมกำลังจะไปห้องทำงานของท่านประธาน แล้วคุณล่ะครับ
นี่ไห่รุ่ยคิดจะทำแบบนี้กับฉันต่อไปอย่างนั้นเหรอ
อย่าห่วงเลยครับ ท่านประธานโม่พูดแล้วว่าจะจ้างผู้จัดการคนใหม่และจัดตารางงานชิ้นใหม่ๆ มาให้คุณ กลับบ้านไปรอการแจ้งเตือนเถอะครับ
ซ่งซินจ้องหน้าฟังอวี้และส่งเสียงฮึดฮัดก่อนจะสวมแว่นกันแดดแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป
ท่าทีของฟังอวี้เยือกเย็นลงขณะที่มองซงซินเดินจากไป เธอเป็นคนมีความสามารถแต่ชั่วร้ายและไม่คิดถึงชีวิตของคนอื่นบอกได้ยากเหลือเกินว่าหัวใจของเธอทำจากอะไร
เธอกำลังรองานเข้าเพิ่ม
เธอควรจะรอผลกรรมสนองมากกว่าเพราะนั่นจะมาถึงเร็วขึ้นอย่างแน่นอน!
…
แน่นอนว่าวันนี้ยังเป็นวันแรกของการฉาย ‘คนรักที่สาบสูญ’ อีกด้วย ตามสถิติแบบเรียลไทม์จากห้องขายตั๋วแล้ว พวกเขาขายได้มากกว่าหนึ่งร้อยล้านหยวน ทภายในเวลาสี่โมงเย็น นี่คือภาพยนตร์อาชญากรรมที่มีรายได้ทะลุหนึ่งร้อยล้านหยวนเร็วที่สุดในกรุงปักกิ่ง แน่นอนว่าต้องขอบคุณการประชาสัมพันธ์จากซ่งซิน
[พอดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วฉันถึงได้ตระหนักว่าไม่มีทางเลยที่ผู้อาวุโสอู๋จะลอกงานใคร ภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ‘สไตล์ของผู้อาวุโสอู๋’ ชัดๆ]
[เราต้องขอโทษผู้อาวุโสอู๋กับถังหนิงจริงๆ ผู้อาวุโสอู๋ทุ่มเทหัวใจไปกับการเขียนบทและถังหนิงก็แสดงบทของเธอด้วยความจริงจัง พวกเขาทั้งคู่สมควรได้รับความเคารพ]
[ฉันรู้สึกตะลึงเพราะถังหนิงอีกแล้ว ภาพยนตร์สามเรื่อง ตัวละครสามแบบ และเธอก็เข้ากับทุกๆ บ ทได้อย่างไร้ที่ติโดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยของการแสดงเอาไว้เลย น่าตกใจจริงๆ!]
[ดูแล้วตื่นเต้นมาก พระเจ้า นี่ฉันขนลุกแล้วนะ! ถังหนิงมีพลังที่น่าอัศจรรย์จริงๆ! ถึงตัวละครของเธอจะบังเอิญไปเจอสามีโดยที่จำเขาไม่ได้อยู่หลายครั้งก็เถอะ แต่ฉากต่อสู้น่ะดูเพลินสุดๆ]
[ยากมากเลยนะที่จะได้เห็นนักแสดงหญิงที่จริงจังแบบนี้ ฉันอยากเห็นถังหนิงถ่ายทอดตัวละครในนิยายเล่มโปรดของฉันทุกเล่มเลย ฉันมั่นใจว่าเธอจะทำได้ตามความคาดหวังแน่]
[ภาพยนตร์เรื่องนี้ควรได้รับการชื่นชมและควรค่าแก่การดูซ้ำ!]
[คืนนี้ฉันจะไปดูกับแฟนอีกรอบ!]
ด้วยความที่เริ่มต้นได้ดี ‘คนรักที่สาบสูญ’ จึงไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่าประชาสัมพันธ์อีก เมื่อเสริมด้วยความรู้สึกผิดของสาธารณชน ห้องจำหน่ายตั๋วจึงลอยตัวและทิ้งให้ภาพยนตร์เรื่องอื่นจมกองฝุ่นไป…
ถังหนิงพิสูจน์ทั้งความสามารถและสถานะของเธอ
มีตัวละครอะไรบ้างเหรอที่ถังหนิงเล่นไม่ได้
ตอนนั้นเองที่ผู้เขียนเรื่อง ‘นักแกะรอย’ ไม่สามารถทนรับแรงกดดันได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยนอกในของการลอกเลียนแบบผลงานทั้งหมดให้สาธารณชนได้ทราบ ขณะที่เขากำลังเตรียมพร้อม ซ่งซินกลับไม่ได้ตระหนักถึงภัยพิบัติที่กำลังมุ่งหน้ามาทางเธอเลย…