ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 238 เจ้ามีคุณสมบัติเป็นหลุมหรือไร

ตอนที่ 238 เจ้ามีคุณสมบัติเป็นหลุมหรือไร

 บันไดสวรรค์หรือ จุดสิ้นสุดการทดสอบอย่างนั้นหรือ 

 หรือว่านี่จะเป็นการทดสอบรายการสุดท้าย 

 คำนวณเวลาก็จวนแล้ว 

 เช่นนั้นยังรออะไรอยู่ รีบขึ้นไปเร็ว! 

 จุดสิ้นสุดการทดสอบหรือ อย่าบอกนะว่าภารกิจสุดท้ายคือยอดบันไดหินนี้ 

น่าจะเป็นเช่นนั้น 

 รีบไป! 

 บนบันไดหินนี่เป็นจุดสิ้นสุดการทดสอบจริงหรือ คงเป็นภารกิจที่มีคะแนนมากแน่นอน รีบเดินสิ อย่าให้ใครแย่งไปได้ก่อน 

 แต่ว่าบันไดหินอยู่ตรงนี้ พวกเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีใครขึ้นไปก่อนหรือมีใครตามมาทีหลัง 

 หึ หากข้างหน้ามีคนก็ฆ่าเอาคะแนน หากมีคนตามมาข้างหลังก็ถือว่าพวกเขาโชคร้ายก็แล้วกัน 

เริ่มมีบันไดหินมากมายปรากฏขึ้นในสนามทดสอบเพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าร่วมทดสอบเดินขึ้นไป

ในเวลาเดียวกันพวกของเจียงหลีทั้งสี่คนเดินขึ้นมาบนบันได้หินใกล้จุดสิ้นสุดมาเรื่อยๆ

 พวกเจ้าสังเกตหรือเปล่าว่ายิ่งเดินขึ้นไปยิ่งรู้สึกว่าเท้ายิ่งหนักขึ้น  เจียงเฮ่านำความสงสัยในใจพูดออกมา

 ข้าก็รู้สึกเช่นนี้ เจ้าไม่พูด ข้ายังคิดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะข้าหมดแรงเอง  ลู่เสวียนตอบอย่างทันควัน

หลังจากทั้งสองพูดจบก็หันไปมองพวกเจียงหลีสองคน

เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้วฝีเท้าของเจียงหลีเบากว่าเล็กน้อย แต่ก็สามารถมองออกว่าทุกย่างก้าวที่นางลดเท้าลงและยกขึ้นความเบาต่างลดลงจากก่อนหน้านี้

แล้วมู่ชิงเกอล่ะ

ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าฝีเท้าของมู่ชิงเกอเบาและรวดเร็วมาก ถ้าหากไม่ใช่เพราะจงใจเดินช้าๆ เป็นเพื่อนเจียงหลีก็เกรงว่าอาจเดินนำไปข้างหน้าตั้งนานแล้ว

ทำไมเขาแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้

เขาแข็งแกร่งมาก

ทั้งสองแอบตกใจ สายตาที่มองมู่ชิงเกอพลันแปรเปลี่ยน โดยเฉพาะเจียงเฮ่า เขาไม่รู้มาก่อนว่าน้องสาวคู่ควรรู้จักกับคนที่เก่งกาจขนาดนั้น

 บันไดหินนี้ดูเหมือนจะธรรมดา แต่กลับมีผลต่อประสิทธิภาพของร่างกาย ยิ่งปีนยิ่งสูงก็ยิ่งสามารถเอาชนะพลังร่างกายของเราและขับไล่สิ่งสกปรกออกไปได้  จู่ๆ มู่ชิงเกอก็ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นมองไปทางสองคนนั้น

เจียงหลีก็ดูอย่างจริงจัง  ถึงจะช้าไปสักหน่อยก็อย่าหยุด พอหยุดชะงักประสิทธิภาพของการฝึกร่างกายก็จะสูญหายไป 

ทั้งสองตกใจแล้วพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักแน่น

เมื่อครู่ตอนรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าพวกเขาเคยคิดอยากจะพักจริงๆ เพียงแต่เมื่อมองไปทางผู้หญิงอย่างเจียงหลีที่ไม่มีหยุดพัก พวกเขาจึงรู้สึกเละอายใจ

เฉียดฉิวๆ!

หลังจากเตือนสติสองคนนั้นแล้ว ทั้งสี่ก็เดินขึ้นบันไดหินต่อ

ตลอดทางยิ่งปีนขึ้นก็ยิ่งสูง ป่าเขาลำเนาไพรข้างล่างค่อยๆ ผลุบหายไปกลายเป็นเมฆหมอกโอบล้อมรอบกาย เมื่อช้อนสายตาขึ้นมองก็ยังคงไม่เห็นปลายทางของบันไดหิน

หรือบางทีปลายบันไดหินอาจซ่อนอยู่ในส่วนลึกของเมฆหมอก

เดินหน้าต่อไปโดยไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไหร่แล้ว เพราะมันนานเสียจนลืมเวลาไปแล้ว

เสียงหอบหายใจของเจียงเฮ่าและลู่เสวียนกระหืดหอบหนัก เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลพลั่กจากแก้มของพวกเขาหยดลงบนขึ้นบันไดหิน

แม้กระทั่งเจียงหลีก็ยังมีสีหน้าตึงเครียด เส้นผมเปียกชื้นแนบใบหน้า

 เดินต่อไป อย่าเพิ่งท้อ  เจียงหลีตะโกนเสียงดังพร้อมกับเดินขึ้นไปอีกขั้น

ลู่เสวียนและเจียงเฮ่าเห็นเง่าร่างของเจียงหลีที่เดินนำหน้าก็กัดฟันรีบตามขึ้นไปติดๆ

ในบรรดาสามคนเจียงหลีดีหน่อยแต่ก็เริ่มหมดแรงเช่นกัน ขาทั้งสองข้างของเจียงเฮ่าและลู่เสวียนเริ่มอ่อนราวกับว่าไม่ใช่ตนเองเสียแล้ว

พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าปีนบันไดหินจะเหนื่อยขนาดนี้

หากยามนี้เจอศัตรูเข้า พวกเขาไม่มีแรงสู้กลับไปอย่างแน่นอน แต่ยังโชคดี พวกเขาเดินมาตั้งนานแล้วไม่ยักเห็นใครสักคน ข้างหลังก็ไร้ร่องรอยคนที่ตามมา

 สรุปว่าต้องนานอีกเท่าไรกว่าจะถึง  ลู่เสวียนกระหืดหอบเงยหน้ามองข้างหน้าอย่างหมดหวัง

 ใกล้แล้ว อดทนหน่อย  เจียงหลีเอ่ยตอบ

รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเพียงการปลอบใจเขาเท่านั้นแต่ลู่เสวียนก็ยังยอมถอนหายใจแล้วเดินขึ้นต่อไป

หนึ่งก้าว! สองก้าว! สามก้าว!

บนบันไดหินนี้ทำได้เพียงพึ่งพาตนเอง ใครก็มิสามารถช่วยเหลือได้

ในที่สุดเจียงหลีก็เหยียบเท้าไปที่บันไดหินขั้นสุดท้าย ตู้ม! ในขณะที่นางถึงบันไดขั้นสุดท้าย หมอกควันสีเทาก็ระเบิดออกมาจากภายในร่างกายของนางแล้วสูญสลายไร้ร่องรอย ทันใดนั้นความเหนื่อยล้าทั่วร่างพลันหายไปด้วยและร่างกายของนางก็เบาขึ้นมาก

นางรู้สึกประหลาดใจก็เลยรีบโคจรพลังวิญญาณจึงพบความน่าทึ่ง หลังจากขึ้นสู่ขั้นบันไดนี้พบว่าพลังวิญญาณของนางโคจรได้ราบรื่นมากกว่าเดิม

 รู้สึกถึงประโยชน์ของมันแล้วใช่ไหม  มู่ชิงเกอยืนข้างกายนางแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เจียงหลีกำมือทั้งสองข้างแน่นแล้วพยักหน้าหงึกหงัก

จนกระทั่งเจียงเฮ่ากับลู่เสวียนตามขึ้นมา สิ่งสกปรกสีเทาก็ถูกสกัดออกจากร่างกายของพวกเขาเหมือนกันและพวกเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับเจียงหลี

เมื่อได้รับประโยชน์ ทันใดนั้นเขาสองคนก็รู้สึกไม่น่าบ่นมาตลอดทางเลย

 พวกเราเข้าไปกันเถอะ  เจียงหลีพูดจบก็หันกลับไปมองประตูหินโค้งที่เชื่อมกับบันไดหิน

ข้างในประตูนั้น อาจจะเป็นสถานที่ทดสอบแห่งสุดท้ายก็ได้

เพียงแต่ไม่รู้ว่าภารกิจทดสอบสุดท้ายจะเป็นสิ่งใด

ประตูหินปิดสนิท แต่ทว่ากลับถูกผลักเปิดได้อย่างง่ายดาย

เมื่อประตูหินถูกผลักเปิดออกแสงอันแรงกล้าก็ส่องมาจากประตูและปกคลุมคนทั้งสี่ไว้ ในบรรดาสี่คนมีเพียงมู่ชิงเกอเท่านั้นที่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในห้วงอากาศ

ในชั่วพริบตาแสงจ้าพลันหานไป การมองเห็นกลับคืนมา

พวกเจียงหลีทั้งสี่ปรากฏตัวขึ้นแล้วในจัตุรัสที่ใหญ่เกินกว่าจะล้อมรอบได้

อีกทั้งสนามจัตุรัสแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงพวกเขา

 เจียงหลี! 

เสียงที่ไม่เป็นมิตรแสดงความไม่พอใจดังขึ้นและดึงดูดความสนใจของพวกเจียงหลีทั้งสี่คนทันที

จากนั้นเมื่อพวกเขามองเห็นคนที่พอจะมองเห็นได้กลับทำให้เจียงหลีหรี่ตาลง คนที่ถูกนางกำจัดออกอย่างเฉียนจวิ้นปรากฏตัวอยู่ที่นี่จริงด้วย

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ผู้คุ้มกันของเขาก็คอยปกป้องเขาเช่นกัน

 โจวยวน? 

เจียงหลีได้ยินน้ำเสียงตกใจของลู่เสวียนดังขึ้นมาข้างหู

นางมองข้ามไปในที่ไม่ห่างจากเฉียนจวิ้นก็เห็นโจวยวนกำลังใช้แววตาเกลียดแค้นจ้องมองมาที่พวกเขาไม่วางตา

 คนที่ตกรอบไปแล้ว เหตุใดจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ล่ะ  เจียงหลีเอ่ยถามเสียงต่ำด้วยความแปลกใจในน้ำเสีย

 อา! ทำไมถึงเป็นเจ้า 

 หึๆ คิดไม่ถึงใช่ไหมล่ะ ก่อนหน้าเจ้าฆ่าข้า คราวนี้ถึงตาข้าเอาคืนบ้างแล้ว 

 เหตุใดผู้ที่ตกรอบถึงยังมีชีวิตอยู่ 

 เสียแรงที่ข้านับถือเจ้าเหมือนพี่น้อง แต่เจ้ากลับลงมือกับข้าหนักขนาดนี้ 

 … 

ในจัตุรัสมีผู้คนมากมายมารวมตัวกันบางคนประหลาดใจ บางคนโกรธและบรรยากาศระหว่างพวกเขาก็ตึงเครียดมาก

ผู้ที่ถูกกำจัดออกเมื่อไม่กี่วันก่อนต่างพากันมาฟื้นคืนชีพที่นี่ การกำหนดบททดสอบนี้คืออะไร

 การทดสอบรายการสุดท้ายไม่มีการให้คะแนน วิธีเดียวที่จะชนะคะแนนคือกำจัดฝ่ายตรงข้ามและเอาคะแนนมา ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีวิธีการและสิบคนสุดท้ายที่มีคะแนนสูงสุดการทดสอบจะสิ้นสุดลง สำหรับผู้เข้าสอบที่ตกรอบก่อน นี่เป็นโอกาสเดียวของพวกเจ้าที่จะพลิกตัวกลับมา ดังนั้นจงรับมือให้ดี 

เหนือจัตุรัสในความว่างเปล่าของท้องฟ้ามีเสียงโบราณคร่ำครึมาอ่านกฎเกณฑ์การประเมินขั้นสุดท้าย

แน่นอนว่าเมื่อกฎนี้ออกมาหลายคนก็ก่นด่าด่าไปถึงมารดา!

เจียงหลีก็อดสบถออกมาไม่ได้  คุณสมบัติของกฎนี่เป็นหลุมหรือไง  เมื่อเห็นชัยชนะอยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นมันก็มาถึง

เป็นเรื่องกะทันหันที่ตั้งรับไม่ทันจริงๆ ทำเอาใครหลายคนหวาดเสียวไม่น้อย

…………………..

 

ราชินีพลิกสวรรค์

ราชินีพลิกสวรรค์

Status: Ongoing

หลังศึกใหญ่กับมู่เทียนอินร่างของ เจียงหลี ก็ถูกดูดเข้าไปในมิติอื่นจนเหลือเพียงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในมิติเคว้งคว้างไร้ขอบเขต แม้จะมีเพียงวิญญาณอ่อนแอ แต่จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของนางนั้นกลับไม่อนุญาตให้ตัวเองยอมพ่ายแพ้ นางจะต้องกลับไปให้ได้ เพื่อไปหาสหายสนิทของนางผู้นั้น…

ในสนามประลองยิ่งใหญ่แห่งแคว้นซูหนาน สถานที่ที่ชีวิตของทาสทั้งหลายมีค่าเท่าเศษธุลี สถานที่ที่มีไว้เพื่อให้ความบันเทิงกับบรรดาผู้สูงศักดิ์ และนาง เจียงหลี ก็ดันฟื้นขึ้นมาในร่างของนางทาสแห่งสถานที่นี้เสียได้!

โลกแปลกหน้าที่ยึดถือผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ หลิงซือ เนี่ยนซือ วิญญาณยุทธ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเจียงหลี แต่นางคือผู้ใด นางคือราชินีผู้เก่งกล้าแห่งแคว้นกู่วูเชียวนะ ก็แค่ต้องฝึกฝนเบิกเนตรญาณด้วยร่างเด็กน้อยอ่อนแอ สถานะกลับตาลปัตรจากผู้สูงศักดิ์กลายเป็นทาสในเรือนของ ลู่เจี้ย ผู้ที่ได้รับฉายาหนุ่มรูปงามขี้โรค ไหนจะยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการเพื่อหาหนทางกลับไปยังโลกเดิมของตนเองอีก เพียงเท่านี้เอง นางทำได้สบายอยู่แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท