ระหว่างทางกลับบ้าน ซ่งซินไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธของเธอเอาไว้ได้ หญิงสาวบังคับให้เซียวอวี่เหอหยุดรถแล้ววิ่งลงไปทำลายแปลงดอกไม้ที่อยู่ข้างถนน
เซียวอวี่เหอเดินตามหญิงสาวไป เมื่อเห็นเธอกำลังบันดาลโทสะใส่ดอกไม้เหล่านั้น เขาจึงเข้าไปหยุดเธอไว้ อย่าเป็นแบบนี้เลยครับ…
ฉันไม่มีสิทธิ์ระบายความโกรธของฉันเหรอคะ ผู้จัดการและเพื่อนสนิทที่สุดของฉันแอบไปเดบิวต์ลับหลังฉันและอนาคตของหล่อนก็สดใสกว่าอนาคตของฉันนะคะ ขอระบายสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ ซ่งซินหมุนตัวกลับไปทุบอกเซียวอวี่เหอ ฉันรู้ว่าถังหนิงวางแผนเรื่องทั้งหมดนี่ มันอยากให้พวกเราหันมาสู้กันเองในขณะที่มันนั่งรับผลประโยชน์อยู่เฉยๆ แต่นังสารเลวต้วนจิ่งหงก็ยังตัดสินใจที่จะไว้ใจมัน!
ไม่ว่าจะทางไหน ต้วนจิ่งหงก็เดบิวต์ไปแล้วนะครับ ทำไมคุณถึงทำใจยอมรับมันไม่ได้ล่ะ
ฉันจะยอมรับมันได้ยังไงล่ะคะ จู่ๆ เงาที่ติดตามฉันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็กลับมีชื่อเสียงมากกว่าฉันขึ้นมา จะให้ฉันยอมรับได้ยังไง ซ่งซินโอดครวญ
เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาเห็นเข้า เซียวอวี่เหอแสดงความเข้าใจแล้วพยุงซ่งซินกลับเข้าไปในรถก่อนจะพาเธอไปส่งที่บ้าน
ทว่าหลังจากที่ซ่งซินกลับถึงบ้านแล้ว หญิงสาวก็ยังคงเหวี่ยงอารมณ์โกรธใส่คนอื่นไปทั่ว อันที่จริง เธอหยาบคายแม้กระทั่งกับผู้อาวุโสซ่ง
เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ ผู้อาวุโสซ่งเอ่ยถาม
เซียวอวี่เหอถอนหายใจแล้วอธิบายไปแค่ว่าซ่งซินกำลังอารมณ์ไม่ดี
ชายชราพยักหน้าแล้วโบกมือใส่เซียวอวี่เหออย่างสบายๆ ฉันชินแล้วล่ะ ไม่ต้องแก้ตัวแทนเธอหรอก
ชายทั้งสองเข้าใจนิสัยของซ่งซินดี เธอจะไม่มีวันปล่อยให้ใครทำเธอเจ็บปวดเพราะเธอไม่เคยคิดถึงและอดทนกับคนอื่นๆ
ดังนั้นเธอจะไปยอมรับเรื่องที่ต้วนจิ่งหงเดบิวต์แล้วได้อย่างไร
หลังจากผ่านไปสักพัก เซียวอวี่เหอก็อธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้ผู้อาวุโสซ่งอย่างละเอียด ดังนั้นหลังจากที่ชายชราได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น เขาก็ยิ้มเยาะ ไม่เคยคิดเลยว่าจิ้งหงจะเป็นคนที่ทะเยอทะยานเช่นนี้ ดูเหมือนว่าปู่จะต้องสั่งสอนบทเรียนแบบเดียวกับถังหนิงให้แก่เด็กคนนี้เสียแล้ว
เซียวอวี่เหอไม่ตอบ ผู้อาวุโสซ่งสามารถสร้างผลกระทบต่อภาพยนตร์ของถังหนิงได้ แต่เขาจะสร้างผลกระทบต่ออัลบั้มของต้วนจิ่งหงอย่างไรกันล่ะ ผู้หญิงสองคนนี้อยู่คนละวงการกันโดยสิ้นเชิง
อีกอย่าง เหล่าคนที่เคยช่วยผู้อาวุโสซ่งนั้นก็ดูไม่เต็มใจจะเสี่ยงอีกครั้งเท่าไหร่
สยายปีกอย่างเต็มที่แล้วสินะ แต่อย่าลืมสิว่านกกระจอกก็คือนกกระจอกอยู่วันยังค่ำ! ถึงจะเปลี่ยนลักษณะภายนอกไป เธอก็ไม่มีวันได้เป็นหงส์หรอก!
จากคำพูดของผู้อาวุโสซ่งแล้ว เซียวอวี่เหอนั้นดูออกว่าเขาจะไม่ปล่อยต้วนจิ่งหงไป แต่อีกปัญหาหนึ่งก็คือ ต้วนจิ่งหงรู้ความลับของซ่งซินเยอะเกินไป
หากชายชราลงมือกดดันต้วนจิ่งหงจนเกินพอดี คนที่จะเจ็บปวดก็คือซ่งซิน
อันที่จริง ผู้อาวุโสซ่งยังไม่รู้เรื่องกรรมชั่วของซ่งซิน เขายังคงสันนิษฐานว่าหลานสาวของตัวเองถูกคนในวงการรังแกอย่างไม่หยุดหย่อน ทว่าชายชราไม่เคยพินิจเลยว่าด้วยอารมณ์ของซ่งซินแล้ว มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
ทว่าเซียวอวี่เหอกลับไม่พูดอะไร…
การแสดงของวงเอโอบีนั้นคือความสำเร็จครั้งใหญ่ เป็นผลให้สาวๆ ได้แสดงความสามารถของพวกเขาให้คนทั้งประเทศได้เห็น เพราะถึงอย่างไร ไห่รุ่ยก็ทุ่มเทไปมากกับการฝึกเด็กหน้าใหม่และใช้ทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขาอย่างไม่มีกั๊ก
ดังนั้นต้วนจิ่งหงจึงได้ลิ้มรสชาติของชื่อเสียงและไม่มีเหตุผลที่จะยอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อกลับไปมีชีวิตเหมือนเมื่อก่อน แม้ซ่งซินจะกำลังหาทางชำระแค้น เธอก็จะสู้ด้วยทั้งชีวิตของเธอ
…
คืนนั้นต้วนจิ่งหงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ถังหนิงฟังผ่านทางโทรศัพท์ หญิงสาวเพิ่งจะพาเด็กแฝดทั้งสองเข้านอน หลังจากได้ฟังต้วนจิ่งหงแล้ว เธอก็ตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ ว่า ฉันรู้แล้วล่ะว่าวันนี้เธอทำได้ดีมาก
ซ่งซินดูโกรธมาก ฉันมั่นใจว่าเธอจะหาทางชำระแค้นแน่ๆ
อย่าห่วงเลย ตอนนี้เธอคือศิลปินของไห่รุ่ยแล้ว ไห่รุ่ยจะปกป้องเธอเอง ถังหนิงตอบนิ่งๆ เธอไม่ต้องทำอะไรเลย สนใจแค่การแสดงของตัวเองก็พอ นั่นคือการโจมตีซ่งซินที่ดีที่สุดแล้วล่ะ
เพราะถึงยังไง ผู้หญิงคนนั้นก็ทนไม่ได้เวลามีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับเธอ ไม่มีทางเลยที่หล่อนจะรับมือการข่มเหงจากเธอได้!
แล้วคุณล่ะคะ คุณจะปล่อยเธอไปทั้งแบบนี้เหรอ ต้วนจิ่งหงเอ่ยถาม ตอนนี้ถังหนิงเป็นแม่คนแล้ว เธอจะไม่แยแสต่อปัญหานี้ไหมนะ
ทุกครั้งที่ฉันมองดูลูกๆ ทั้งสองคน ฉันก็คิดอยู่ตลอดว่าพวกเขาเกือบจะไม่ได้ออกมาลืมตาดูโลกนี้เพราะอะไร
ถังหนิงจำความแค้นนี้ได้เสมอ
แต่เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับเธอ ทำตามที่ฉันบอกแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อยเอง อีกอย่าง ในเมื่อเธอตัดสินใจจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นแล้ว ก็อย่ามีความคิดร้ายๆ ขึ้นมาเชียวล่ะ อย่าใช้วิธีการสกปรกที่เคยใช้มาก่อนแม้ว่าเธอจะกำลังรับมือกับซ่งซินอยู่ มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะฉีกตัวออกมาจากการควบคุมของซ่งซินได้ อย่าทำพลาดซ้ำสอง ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้
รับทราบค่ะ! ต้วนจิ่งหงจะจดจำสิ่งนี้เอาไว้เสมอ ฉันไม่ได้โง่นะคะ ฉันจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนอีก อย่าห่วงเลยค่ะ เมื่อเทียบกับการใช้วิธีการอันโหดเ**้ยมและมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวแล้ว ฉันพอใจที่จะมีชีวิตในแบบตอนนี้มากกว่า!
ถังหนิงไม่ต้องการให้ต้วนจิ่งหงเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะการมีอยู่ของต้วนจิ่งหงนั้นก็มาพอที่จะกระตุ้นและเยาะเย้ยซ่งซินได้แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่หญิงสาวจะต้องมาเสียเวลากับศัตรูของเธอ
แม้ต้วนจิ่งหงจะไม่ทำอะไรเลย แต่ตราบใดที่เธอเป็นที่นิยมมากกว่า ซ่งซินก็เจ็บปวดแล้ว
ครู่ต่อมา ถังหนิงวางสายแล้วหันกลับไปมองโม่ถิง ตอนนั้นเองที่ชายหนุ่มกำลังอุ้มลูกคนหนึ่งขึ้นมาอย่างระมัดระวังแล้วปลอบโยนเขา
นี่ฉันกวนลูกหรือเปล่าคะ
ไม่เป็นไรครับ กล่อมเขาอีกสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว โม่ถิงตอบนิ่งๆ แม้ว่าเขาเพิ่งจะเป็นพ่อคนได้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ชายหนุ่มก็ได้รับประสบการณ์มามากมายแล้ว
แน่นอนว่าในฐานะนายใหญ่แห่งเอเจนซี่ระดับโลก ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะเข้าใจอารมณ์ของเด็กน้อยทั้งสอง ดังนั้นโม่ถิงจึงเข้าใจอารมณ์และนิสัยการเข้านอนของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มทำให้ถังหนิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากชื่นชมในความสามารถของเขา
เมื่อเห็นวิธีที่โม่ถิงอุ้มลูกของพวกเขา ถังหนิงก็อยากจะเอาตัวเข้าไปซุกใกล้ๆ ด้วยเหลือเกิน ภาพตรงหน้านี้มันสมบูรณ์แบบมากเกินไป
อันที่จริง หญิงสาวสามารถจินตนาการภาพที่เด็กๆ วิ่งรอบตัวโม่ถิงหลังจากที่พวกเขาโตจนเดินได้กันแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น ภาพที่ว่าคงดูอบอุ่นไม่น้อยเลย
ซ่งซินได้รับของขวัญแล้ว…ถึงเวลาที่ตระกูลซ่งจะได้รับของขวัญบ้างแล้วล่ะครับ
อ่อนโยนกว่านี้อีกหน่อยสิคะ ถึงยังไงคุณก็เริ่มอายุเยอะแล้ว และพวกเราก็ไม่รู้ว่าคุณจะรับมือกับเรื่องดราม่าได้อีกมากแค่ไหนนะ! ถังหนิงพูดกับโม่ถิงพลางลูบแก้มของลูกน้อยอย่างอ่อนโยน
ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ครับ โม่ถิงกล่าวพลางวางลูกน้อยลงในเปลแล้วดึงตัวถังหนิงมาไว้ในอ้อมแขน ในอีกสองสามวันต่อจากนี้ ผมจะพาคุณทั้งสามคนกลับบ้านครับ
ในเมื่อมีโชว์ให้ดู จะสนุกกว่าถ้าได้ดูกับตาตัวเองนะ
ฉันรอแทบไม่ไหวเลยค่ะ ถังหนิงตอบอย่างจริงจังพลางซบลงที่แผ่นอกของโม่ถิง
มีบางสิ่งที่หญิงสาวจะยอมปล่อยผ่าน แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่เธอจะไม่มีวันปล่อยไป แม้พวกเขาจะลงหลุมไปแล้วก็ตาม!
ในขณะเดียวกันนั้น สิ่งเดียวที่หญิงสาวทำได้ก็คือรอดูโชว์ดีๆ