บทที่ 10 มีปัญหาอะไร คุณก็ไปหาท่านโดยตรง
เย้นหว่านใจเต้นแรงมาก สมองของเธอตอนนี้ว่างเปล่า นี่เธอไปกอดกับเค้าได้ยังไง ? เธอยังไม่ทันได้สติกลับมา
ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก “ กรึ๊ก ! ”
“ ท่านประธานคะ ดิฉันมีธุระสำคัญจะคุยด้วยกับท่าน …… “
เสิ่นโป๋เม๋ยเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ยังไม่ทันพูดจบก็เห็นภาพบาดตาฉากนี้ ทำเธอตกตะลึงอึ้งไป
ท่านประธานคนใหม่หล่อกว่าในจินตนาการเป็นหลายเท่าเลย แต่ท่านทำไมถึงได้กอดกับ เย้นหว่านได้ ? ทั้งสองคน
ดูใกล้ชิดกันขนาดนี้ ท่าทางเหมือนกำลัง ……..
หน้าตาหล่อเหลาของโห้หลีเฉินได้ห้อยลงมา น้ำเสียงปนไปด้วยความโกรธ “ ใสหัวออกไป “
เสิ่นโป๋เม๋ยเธอตกใจจนตัวสั่น เธอเพิ่งได้สติกลับมา ตื่นตกใจแล้วรีบเดินออกไป ระหว่างที่เค้ากำลังคุยกับเธอ เย้นหว่านเลยรีบโผล่หัวออกมาจากอกเค้า หน้าเธอแดงก่ำ ท่าทางแตกตื่น เธอพยายามทิ้งระยะห่างจากตัวเค้าไว้
ในระยะที่ปลอดภัยที่สุด
“ คุณโห้ ฉันช่วยคุณวัดตัวเสร็จแล้วค่ะ ฉันออกไปได้ยังคะ ? “
สีหน้าของโห้หลีเฉินไม่ค่อยดีนัก แววตาเค้าที่มอง เย้นหว่านรู้สึกสับสน ถึงเค้าจะยังไม่ได้จับต้องตัวเธอ และยังไม่
แน่ชัดกับสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ แต่ตอนที่เขาได้กอดเธอ เขาก็ไม่มีความรู้สึกที่ว่าจะรังเกียจเธอ เย้นหว่านถูกโห้หลีเฉิน
จ้องจนเธอกระวนกระวาย และกลัวเขาจะขอเธอให้ทำเรื่องอย่างที่ว่าอีก เธอไม่รอให้ได้รับการอนุญาตจากเขา
กัดฟันไว้รีบเดินไปทางออก
“ ฉันไปก่อนนะคะ “
ท่าทางเร็วมาก เดินออกจากออฟฟิศของเขาไป เย้นหว่านได้เดินตรงเข้าไปในลิฟต์ เหมือนกำลังจะหนีตายจากชั้นนี้
“ คุณเย้น รอสักครู่ครับ “
ตอนที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิด เว่ยชีได้วิ่งมาทางเธอ เค้ากดปุ่มประตูเปิดอีกครั้ง ประตูก็ได้เปิดออก ตอนที่เห็น
หน้าเขา เธอก็นึกถึงหน้าโห้หลีเฉินมาทันที เธอเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา เขาคงไม่มาเปลี่ยนใจตอนนี้ แล้วจะให้เธอ
กลับไปอีกหรอกนะ ?
เธอยืนอยู่ในลิฟต์ ไม่ยอมออกมา “เลขาเว่ยมีธุระอะไรเหรอ ? “
“ นี่เป็นเอกสารที่ท่านประธานให้ผมเอามาให้คุณครับ “ เว่ยชีเอาเอกสารหนาปึกยื่นให้เธอไป
นี่คงเป็นเอกสารที่เขาพูดถึง สไตล์การแต่งตัวที่เค้าชอบซินะ แต่ดูแล้วมันก็เยอะไปนะ ! ผู้ชายคนนี้เรื่องมากจริงๆ
ซะด้วย
เธอพูดแขวะเค้าในใจ แต่ก็ยิ้มรับเอกสารมา
เว่ยชีไม่ได้รีบเดินจากไป ขาอีกข้างยังขว้างกั้นอยู่ที่ประตูลิฟต์ไม่ให้ประตูปิดลง
เค้าพูดขึ้นกับเธออย่างเป็นทางการ “ ท่านบอกว่าให้คุณดูจบวันนี้แล้ว พรุ่งนี้ให้ส่งโครงสร้างการออกแบบมา “
“ พรุ่งนี้ ? “
เธอฟังแล้วตกใจเอามาก เอกสารเยอะขนาดนี้ให้ดูจบวันเดียว เธอก็คิดว่าก็ช่างมัน นี่ยังจะให้ส่งโครงสร้างการ
ออกแบบภายในพรุ่งนี้ นี่มันตั้งใจแกล้งคนชัดๆ
“ เลขาเว่ย คุณรองคุยกับคุณโห้หลีเฉินได้มั้ยคะ การออกแบบมันซับซ้อนมีลายละเอียดหลายขั้นตอน
ให้ส่งพรุ่งนี้ ฉันคิดว่าคงไม่ทัน ให้เขาให้เวลาอีกหน่อย “
“ ผมก็ไม่ชำนาญด้านนี้ ถึงผมไปพูดกับท่านๆก็คงไม่เข้าใจ “ เว่ยชีทำอะไรไม่ถูกได้แต่สั่ยหัว
“ แต่ท่านก็บอกด้วยว่า ถ้าคุณมีปัญหาอะไร ก็ไปคุยกับท่านโดยตรงได้เลย ท่านจะรองพิจารณาดูอีกที “
“ งั้น ไม่เป็นไร ! ไม่ต้องดีกว่าค่ะ ! “
เธอไม่รองคิดด้วยซ้ำ ก็ปฏิเสธคำแนะนำของเขาไป เธอยอมอดนอนทำโอที ก็ไม่ริเริ่มไปหาเขาก่อน ไปขอร้องเขา
อย่างนี้ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะคิดทำอะไรเธออีก
“ งั้น คุณเย้นต้องการให้ช่วยอะไร มาหาผมได้ตลอดนะครับ “
เว่ยชีถอยออกจากประตูลิฟต์ ช่วยเธอกดปุ่มปิดประตูลิฟต์อย่างมีมารยาท แล้วกลับไปที่ห้องทำงานของท่าน
ประธาน
โห้หลีเฉินตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่โซฟา ในมือถือแก้วไวน์แดง เค้าค่อยๆจิบไวน์อยู่ สีหน้าไม่ดีเท่าไหร่
ราวกับกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่
จากนั้น เขาก็ได้สั่ง “ ไปเช็ดหน่อย เรื่องของเธอคืนนั้นที่เกิดในโรงแรงซ่างผิ่น
ฉันต้องการรายละเอียดทุกอย่าง “
สืบคุณ เย้นหว่าน?
เว่ยชีทำท่าสงสัยสักครู่ แล้วนึกออกอะไรบางอย่าง
ถึงว่า ทำไมท่านจู่ๆถึงได้เข้าซื้อบริษัทนี้ ที่แท้ก็เพราะคุณ เย้นหว่าน
งั้นก็แปลว่า มีโอกาสสูงมากที่คุณ เย้นหว่านจะเป็นผู้หญิงในคืนนั้น ?
ถ้าหากเป็นเธอจริงๆ เริ่มสืบเช็ดจากตัวเธอ ก็คงง่ายต่อการสือหาข้อเท็จจริง
“ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ “
เลขาเว่ยชีรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
เค้าได้ออกไปสั่งการทุกอย่าง