บทที่20 คำว่าชอบรู้สึกห่างเหินจากตัวเขามาก
ทันใดนั้น เย้นหว่านรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตระหนกขึ้นมา ถึงเธอเป็นว่าที่ภรรยาของโห้หลีเฉิน
แต่คนส่วนใหญ่ในบริษัทไม่รู้ หนึ่งเดือนผ่านไป ถ้าเธอกับโห้หลีเฉินถอนหมั้น
ในบริษัทก็จะไม่มีคนพูดซุบซิบนินทาเยอะ งั้นดึกดื่นป่านนี้เธออยู่กับโห้หลีเฉิน แถมยังมีท่าทีกุ๊กกิ๊กแบบนี้
จะให้พนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นไม่ได้เด็ดขาด “คุณโห้คะ ขอบคุณคืนนี้ที่คุณช่วยฉัน
คราวหน้าฉันขอเลี้ยงข้าวคุณนะคะ” เย้นหว่านเอาเสื้อสูทยัดไปในมือของโห้หลีเฉิน
หันข้างก็วิ่งไปจากข้างกายของโห้หลีเฉิน เธอวิ่งออกจากห้องโถงบริษัทอย่างไวมากโดยที่ไม่หันกลับมามอง
มือของโห้หลีเฉินจับเสื้อสูทไว้ สีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งแย่ มีคนนับไม่ถ้วนใช้ทุกวิถีทาง
แทบอยากจะมีความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกับเขาสักนิดก็ยังดี แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่ยินยอมขนาดนั้นเชียว?
อาคารส้ายน่า รถเพิ่งจอดนิ่ง เว่ยชีก็ใช้เวลารวดเร็วที่สุดในการเปิดประตูรถด้านหลัง
แล้วยืนข้างๆประตูรถอย่างสุภาพ ดูออกคืนนี้คุณผู้ชายอารมณ์แย่เป็นพิเศษ
เขาทำตัวเงียบๆไม่กล้าทำให้เขาไม่พอใจ จะได้ไม่เป็นที่ระบายอารมณ์ของเขา
แต่มีคนจำนวนนึงที่ดูสีหน้าแววตาไม่เป็น ฉินฉู่ใส่ชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะคีบอยู่
เหมือนกับว่าอยู่บ้านตนเองยังไงอย่างงั้น เปิดประตูของวิลล่าแล้วเดินออกไปอย่างสง่างาม
เขาเดินวนรอบๆรถแล้วถามด้วยความสงสัย “พี่สะใภ้ล่ะ? เธอไม่สบายไม่ใช่หรอ ทำไมไม่ได้มาพร้อมนายล่ะ?”
จู่ๆโห้หลีเฉินโทรหาเขา แถมยังให้เขามารอที่วิลล่า เขาก็เดาออกแล้วว่า เย้นหว่านไม่สบาย
เพราะไม่มีทางที่คนอย่างโห้หลีเฉินคนนี้จะป่วย ร่างกายของเขาแข็งแรงจนน่าทึ่ง
สามปีก็ไม่ต้องพบหมอครั้งนึง โห้หลีเฉินสีหน้ายิ่งบึ้งเข้าไปอีก เขาไม่สนใจฉินฉู่
ก็เดินเข้าไปด้านในโดยตรงเลย ตอนที่เว่ยชีเดินผ่านได้ตักเตือนฉินฉู่อย่างเสียงเบา
“คุณฉินครับ ไม่มีคนไข้ให้ตรวจแล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะครับ”
“จู่ๆเย้นหว่านก็หายดีแล้วหรอ? เป็นไปไม่ได้” ฉินฉู่คิดอะไรขึ้นมาได้
มองดูร่างเงาที่ทั้งเย็นชาและแข็งกระด้างของโห้หลีเฉินแล้ว เขาหัวเราะด้วยความสนุกแล้วเดินตามไป
“หลีเฉิน นายทะเลาะกับพี่สะใภ้หรือ?” ทะเลาะ?
ผู้หญิงคนนั้นวิ่งไวกว่ากระต่ายเสียอีก ห่างเหินกับเขาจะตาย แม้แต่โอกาสทะเลาะกันยังไม่ให้เขาเลย
เห็นสีหน้าโห้หลีเฉินแย่ ฉินฉู่ก็แน่ใจการคาดเดาของเขาแล้ว หลายปีมานี้โห้หลีเฉิน
ยิ่งอยู่ยิ่งมีความเป็นผู้ใหญ่ เฉลียวฉลาดและมองการไกล ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา
ระหว่างยิ้มและใจเย็นก็จัดการเรื่องทุกอย่างได้เสร็จสับแล้ว แทบจะไม่เคยเห็นเขาโกรธหรือโมโหเลย
ยากที่จะได้เห็นเขาโกรธเหมือนวันนี้ ฉินฉู่รู้สึกให้ความสนใจมาก ก็ไม่พลาดโอกาสซ้ำเติมนี้
“หลีเฉิน หลายปีมานี้นายก็ไม่ได้มีแฟน นายไม่รู้วิธีจีบหญิงใช่มั้ยล่ะ?
ตอนเช้าฉันเห็นพี่สะใภ้มีท่าทีเกรงใจและห่างเหินนายมากเลย ดูท่าแล้วเธอน่าจะไม่ค่อยชอบนายเท่าไหร่นัก”
โห้หลีเฉินสายตามืดมน คำว่า’ชอบ’คำนี้ เขาไม่เคยคิดพิจารณามาก่อน
เย้นหว่านคือผู้หญิงที่อยู่กับเขาคืนนั้น เขาหาเธอเจอ เธอก็ควรจะเป็นผู้หญิงของเขา
และเป็นภรรยาในอนาคตของเขา ส่วนความคิดของเธอ…………
“เฮ้อ! นายทั้งเย็นชาและแข็งกระด้างแบบนี้ นิสัยไม่อ่อนโยนและไม่มีอารมณ์ ผู้หญิงจะชอบได้ยังไง?
ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป กลัวแต่ว่าที่ภรรยาปลอมคนนี้จะกลายเป็นของปลอมจริงๆซะแล้ว
แต่เราเป็นพี่น้องกันฉันมีวิธีจีบหญิง360วิธี จะให้ฉันสอนนายมั้ย?”
ฉินฉู่ยิ้มอย่างประสงค์ร้าย
ให้โห้หลีเฉินขอคำชี้แนะการจีบผู้หญิงจากเขา เรื่องมีเกียรติยศแบบนี้
เขาสามารถเอาไปโม้ให้เพื่อนพี่น้องเป็นร้อยปีแล้ว ฟังฉินฉู่พูดฉอดๆไม่ยอมหยุด
โห้หลีเฉินเปิดปากพูดอย่างรำคาญ “นายกลับได้แล้ว” ฉินฉู่สำลักไปทีนึง ไล่เขาไปหน้าตาเฉยแบบนี้
ความเฮฮาที่เขาอยากดูก็ไม่ได้เห็นแล้วนะสิ เขาถามอีกรอบด้วยความไม่ยอมแพ้
“นายแน่ใจว่าจะไม่ให้ฉันสอนนายจริงๆหรอ? งั้นฉันช่วยนายออกความคิดเห็นก็ได้ เรื่องจีบผู้หญิงฉันถนัดมาก”
โห้หลีเฉินขี้เกียจพูดจาไร้สาระกับฉินฉู่ต่อ ก็เดินขึ้นชั้นบนไปเลย
แถมยังทิ้งท้ายไว้คำนึง “เว่ยชี ส่งแขก”
ฉินฉู่“……” โหดจริงๆ
โห้หลีเฉินเดินอย่างสง่าผ่าเผย อารมณ์ที่เก็บกดมาทั้งวันกลับรู้สึกเบาใจลงไม่น้อย
ตอนนี้เย้นหว่านทำตัวห่างเหินกับเขาไม่มีอะไรนอกเหนือจากเพราะการหมั้นที่จอมปลอม
ดูจากมุมเธอหนึ่งเดือนต่อไปพวกเขาก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันอีก เธอย่อมต้องรักษาระยะห่างกับเขาอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องคืนนั้น เธอก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นก็คือเขา ดูท่าเขาควรจะบอกเธอแล้ว
——— เช้าวันรุ่งขึ้น เย้นหว่านยังหลับอย่างสะลึมสะลืออยู่ก็ได้รับสายจากกู้จื่อเฟย
“เสี่ยวหว่าน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” เสียงของกู้จื่อเฟยร้อนรนมาก ทำใหเย้นหว่านตกใจจนตื่นตัวขึ้นมา
เธอรีบพูด “อย่ารีบ เธอค่อยๆพูด”
“ไม่รีบไม่ได้ ต่างหูเพชรสีน้ำเงินคู่นั้นของเธอ วันก่อนเธอไม่ใช่บอกว่าหายไปข้างนึงหรอ?
คนของฉันเพิ่งตรวจสอบเจอว่าต่างหูของเธออยู่ที่ห้องนั้นของโรงแรมซ่างผิ่น
ถูกพนักงานทำความสะอาดหาเจอจากใต้เตียง! ว่ากันว่าห้องนั้นเป็นห้องส่วนตัว
มีแต่คนๆนั้นที่จะพักห้องนั้น ถ้าเขาไม่ได้พาผู้หญิงคนอื่นเข้าไป ก็จะสามารถหาเธอเจอผ่านต่างหูนั่น”
“อะไรนะ?!” เย้นหว่านตกใจจนเกือบจะโดดลงมาจากเตียง รู้สึกจะหน้ามืด
นึกไม่ถึงว่าเธอจะทำต่างหูหล่นไว้ที่โรงแรม? แต่นั่นเป็นของที่คุณยายเธอได้มอบให้แก่เธอ
เป็นต่างหูที่สั่งทำโดยเฉพาะแถมยังมีรุ่นลิมิเต็ดด้วย แค่ตรวจก็สามารถตรวจหาเจ้าของได้ง่ายๆเลย
“แล้ว…….ตอนนี้เธอรู้ว่าต่างหูนั่นอยู่ที่ไหนมั้ย?มีความเป็นไปได้มั้ยที่จะเอากลับมาก่อน?”
เสียงของเย้นหว่านสั่นเล็กน้อย “ยังอยู่ที่โรงแรมซ่างผิ่น แต่ที่ผ่านมาโรงแรมซ่างผิ่น
ขึ้นชื่อเรื่องเก็บความลับมากกว่าธนาคารสวิสเซอร์แลนด์ซะอีก
ก่อนหน้านั้นอยากเอารายชื่อเข้าพักยังเอาไม่ได้เลย ยิ่งอย่าบอกว่าจะเอาต่างหูออกมาเลย”
โรงแรมซ่างผิ่นต้องเอาต่างหูนั่นให้ผู้ชายคนนั้นแน่ๆ
คืนนั้นความรู้สึกที่เขาให้เธอก็ดุและน่ากลัวมาก แถมเธอยังตีจนเขาได้รับบาดเจ็บ ถ้าถูกเขาหาตัวเจอ
เขาไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่ แค่คิดเย้นหว่านก็หนาวจนสั่นแล้ว ในใจรู้สึกสับสน
“เสี่ยวหว่าน ยังมีอยู่หนึ่งวิธี” เสียงของกู้จื่อเฟยค่อนข้างต่ำ
เหมือนกับว่ากว่าจะพูดคำแนะนำนี้ออกมาได้ช่างยากเย็นเหลือเกิน เย้นหว่านรีบถาม “วิธีอะไร?”
ตอนนี้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เธอก็จะลองดู เพราะเธอกลัวจะได้เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้นอีกจริงๆ
เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ตอนนี้ยังทำให้เธอฝันร้ายอยู่ตลอด กู้จื่อเฟยหยุดไปครู่นึงถึงพูด
“โรงแรมซ่างผิ่นเป็นธุรกิจในเครือของตระกูลโห้ โห้หลีเฉินเป็นว่าที่สามีเธอ
เธอไปขอความช่วยเหลือจากเขา ถึงเขาไม่เอาต่างหูให้เธอ งั้นเธอขอคีย์การ์ดและไปเอาเองก็ยังดี”
“แต่ว่า…….” กู้จื่อเฟยเสียงต่ำมาก
“ทีนี้ แค่โห้หลีเฉินถามก็รู้ว่าคืนนั้นเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นว่าที่สามีเธอ
ถ้ารู้เรื่องคืนนั้น จะทำให้เธอ……..” ตกที่นั่งลำบากมาก
เย้นหว่านกุมมือถือไว้แน่น อารมณ์กดดันถึงขีดสุด เธอไม่อยากให้โห้หลีเฉินรู้เรื่องนี้เลย
แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นหาเธอเจอ มีแต่จะทำให้เรื่องยิ่งบานปลายเข้าไปใหญ่ เธอไม่มีทางเลือกเลยด้วยซ้ำ