บทที่ 46 ดูสิว่าใครอยู่เบื้องหลัง
“ไม่เป็นไรนะ” ในเวลานี้ทำได้แค่ตบไหล่เย้นหว่านเบาๆ เพื่อปลอบโยนเธอ มู่จื่ออี้ยังคงยืนอยู่ข้างๆ เธอ เขาแผ่รังสีคุกคามออกไปแสดงออกถึงอารมณ์ที่แตกต่างจากปกติที่เป็นคนสบายๆ โดยสิ้นเชิง เขามองไปที่โกย่านีแล้วพูดว่า “ในเมื่อไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสองปีก่อน ใครก็เอามาพูดเท็จได้ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ต้องมีการพิจารณา ในวิดีโอนั้นตั้งแต่ต้นจนจบเย้นหว่านก็ไม่ได้ยอมรับการติดสินบนกับยามคนนั้นและเป็นไปได้ว่าบางทียามคนนั้นจำคนผิด เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับอาชีพนักออกแบบจึงไม่สามารถตัดสินอย่างลวกๆ ได้แน่นอนต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน”
“ความจริงทั้งหมดก็อยู่ตรงหน้าแล้วไงยังจะต้องตรวจสอบอะไรอีก?” โอวน่อหย่าพูดอย่างไม่พอใจ “อย่างไรก็ตามวันนี้ก็ต้องแถลงกฎเกณฑ์การแข่งขันถัดไป หรือว่ายังอยากให้คนทุจริตอย่างเย้นหว่านเข้าร่วมการแข่งขันต่อไปหรอ?”
“ใช่แล้ว ถ้าให้เธอเข้าร่วมแล้วการแข่งขันยังมีความยุติธรรมอะไรอีกหรอ?”
“ไม่ยอมให้เธอเข้าร่วมต่อหรอกมันสมเหตุสมผลที่สุดแล้วที่ให้เธอออกไป”
นักออกแบบคนอื่นๆ ก็เริ่มเปิดปากซุบซิบนินทาถึงเย้นหว่านอย่างรังเกียจและสีหน้าของมู่จื่ออี้ขรึมลงอย่างเห็นได้ชัดแล้วมองไปที่โอวน่อหย่าอย่างเย็นยะเยือก เธอดูเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ แต่เป็นเธอที่ใช่จังหวะในช่วงเวลาสำคัญ
“ผอ.โก คุณจะว่ายังไง? ฉันเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนไร้เหตุผล” มู่จื่ออี้มองตรงไปหาโกย่านีมีการเอ่ยเตือนแฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้น
โกย่านีตกใจเล็กน้อย เมื่อเธอมีประสบการณ์ที่โชกโชนในตำแหน่งงานนี้และยิ่งเคยพบบุคคลที่มีชื่อเสียงที่มีทั้งอำนาจและอิทธิพลมามากมายและมู่จื่ออี้ที่อยู่ตรงหน้านี้ทำให้เธอรู้สึกถึงอันตรายเช่นกัน เธอเกือบจะพึ่งพาสัมผัสที่หกของเธอแล้วและรู้สึกว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ช่วยธรรมดา มีคนแบบนี้มาช่วยเย้นหว่าน ทำให้เธอลังเลที่จะไล่เย้นหว่านออกไปในเวลานี้……
“ผอ.โก ฉันยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบตราบใดที่ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ค่ะ” เย้นหว่านพูดด้วยสายตามั่นคง “ก่อนที่ผลการตรวจสอบออกมา ฉันจะไม่รู้กฎเกณฑ์การแข่งขันครั้งนี้” นี่คือการประนีประนอมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอแล้ว ในการแข่งขันรอบถัดไปมีเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ การออกแบบเป็นเรื่องของเวลา หากได้รับเกณฑ์ล่าช้าไปสองวันคุณอาจจะไม่สามารถออกแบบออกมาได้และยิ่งไปกว่านั้นการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร็วสุดก็สองถึงสามวันช้าสุดก็อาจจะไม่มีผลหลังการการแข่งขันจบแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเสียงไม่พอใจพูดขึ้นมา “ก็เมื่อคืนเธอดูข้อมูลไปหมดแล้วถึงจะไม่บอกเกณฑ์เธอยังไงเตรียมมันเป็นการส่วนตัวได้”
เย้นหว่านขมวดคิ้ว “ฉันสาบานว่าฉันยังไม่เคยอ่านข้อมูลเลย”
“มีวิดีโอเป็นหลักฐาน เธอมาพูดข้างๆ คูๆ แบบนี้ ใครจะเชื่อในคำสาบานของเธอกัน?” โอวน่อหย่าว่าอย่างเหน็บแนมแล้วยิ้มเยาะใส่
“เธอ!” เย้นหว่านกัดฟันแน่น เรื่องที่โอวน่อหย่าถนัดที่สุดก็คือการทุ่มหินซ้ำให้คนตกบ่อ
โกย่านีขมวดคิ้วแน่น สถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่สามารถจัดการอะไรได้มาก อีกด้านหนึ่งโอวน่อหย่ากับนักออกแบบทุกท่านได้แสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนว่าอยากให้เย้นหว่านออกจากการแข่งขันและเบื้องหลังของน่อหย่ายังมีอำนาจของตระกูลซืออยู่ ในอีกด้านที่เธอไม่รู้จักฐานะเขาแต่มู่จื่ออี้ให้ความรู้สึกอันตรายและในใจลึกๆ เธอก็ไม่กล้าทำให้เขาขุ่นเคือง ในขณะที่เธอกำลังลังเลอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วโทรศัพท์ภายในของเธอก็ดังขึ้น โทรศัพท์นี้เป็นโทรศัพท์พิเศษมีเพียงหัวหน้าเท่านั้นที่รู้
“ฉันขอรับสายสักครู่” โกย่านีพูดกับทุกคนแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วรีบเดินออกไปข้างนอก
เธอรับสายด้วยเสียงนอบน้อม “สวัสดีค่ะ ท่านประธานกรรมการ” ในระหว่างการโทรศัพท์ก็ได้ยินน้ำเสียงที่ออกคำสั่งของชายคนหนึ่งว่า “ไม่อนุญาตให้ไล่เย้นหว่านออกจากการแข่งขันออกแบบ” โกย่านีตกตะลึง แม้แต่ท่านประธานก็รู้เรื่องนี้หรอ? ยิ่งไปกว่านั้นประธานยังสั่งโดยตรงซึ่งหมายถึงว่าต้องทำตามคำสั่ง ความหมายคิดให้รักษาเย้นหว่านไว้
เธองุนงงแล้วพูดว่า “ท่านประธานคะ เรื่องของเย้นหว่านมันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการเรื่องนี้ เพราะมีวิดีโอหลักฐาน…… ”
“ฉันไม่สนว่าจะมีหลักฐานอะไร แต่เย้นหว่านคนนี้แตะต้องไม่ได้” ท่านประธานเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็ลดเสียงลงแล้วเอ่ยว่า “เธอเป็นคนของคุณโห้”
โกย่านีตะลึงงันกล่าวโดยไม่รู้ตัวว่า “เธอไม่ใช่แค่พนักงานสาขาย่อยของคุณโห้หรอคะ?”
“ถ้าเป็นแค่พนักงานจริงแล้วคุณโห้จะสั่งคนให้โทรมาหาฉันด้วยตัวเองหรอ?” ประธานพูดขึ้นมาเหมือนใจยังมีความกลัวอยู่ หากเย้นหว่านถูกพวกเขาไล่ออกไปจริง พวกเขาคงไม่ต้องคิดที่จะไปทำงานที่บริษัทนี้อีกต่อไป
โกย่านีรู้สึกตกใจและในเวลาเดียวกันก็สับสนอย่างมาก “แต่เรามีวิดีโอของเมื่อวานนี้เป็นหลักฐานที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง ถ้าฉันข้ามเรื่องนี้ไปฉันกลัวว่านักออกแบบคนอื่นจะไม่ยอมรับแน่นอน”
“นั่นเป็นเรื่องของคุณ คุณต้องหาวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง” หลังจากพูดจบแล้วท่านประธานก็วางหูโทรศัพท์
ใบหน้าของโกย่านียุ่งเหยิงไปหมด เธอเก็บโทรศัพท์แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องประชุมอีกครั้งด้วยรูปลักษณ์ที่ยอดเยี่ยม ฉลาดและเป็นกลาง
“ทุกคนอยู่ในความสงบค่ะ” เธอมองไปที่ฝูงชนและพูดว่า “หลังจากที่ฉันได้ร่วมหารือกับผู้นำระดับสูงแล้วก็รู้สึกว่าเรื่องนี่เป็นเรื่องใหญ่ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนถึงจะสามารถตัดสินชี้ขาดได้ ดังนั้นเย้นหว่านจึงอยู่ที่นี่ชั่วคราวและเราจะตรวจสอบความจริงทันที จนกว่าจะมีการตรวจสอบความจริงออกมา เย้นหว่านจะไม่ได้รับการแจ้งกฎเกณฑ์การแข่งขันและเพราะเกณฑ์ของการแข่งขันอาจจะรั่วไหลออกไปได้ดังนั้นกฎจะมีการเปลี่ยนแปลงและแจ้งให้ทราบในเวลากลางคืน” นี่เป็นวิธีจัดการที่ค่อนข้างยุติธรรมแล้ว
รอยยิ้มบนใบหน้าของโอวน่อหย่าพังทลายลงทันที เธอขมวดคิ้วจนเป็นปม แม้แต่วินาทีเดียวเธอก็ไม่ต้องการให้เย้นหว่านอยู่ที่นี่ต่อเลยสักนิด
“ในเมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาถ้ายังให้เย้นหว่านอยู่ที่นี่ต่อ ฉันกลัวว่าทุกคนคงรู้สึกไม่สบายใจ” โอวน่อหย่าก็ยังพูดต่ออีกว่า “แล้วสิ่งนี้จะส่งผลต่ออารมณ์การออกแบบของฉัน”
เธอไม่สนใจหรอกว่าจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์การออกแบบอย่างไร แต่ถ้าทำให้ซือหนานและตระกูลซือไม่มีความสุขละก็…… ในการประชุมออกแบบแฟชั่นOviนี้ ตระกูลซือเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่และโกย่านีไม่ต้องการที่จะให้ขุ่นเคืองเลย แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน โกย่านีคงจะพอใจกับความคิดของโอวน่อหย่ามากที่สุด แต่ตอนนี้ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องทำให้ตระกูลซือไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าทำให้คุณโห้ ไม่พอใจเช่นกัน
โกย่านีไม่มีความลังเลและพูดอย่าจริงจังว่า “นี่เป็นการตัดสินใจสูงสุด ฉันมีหน้าที่ดำเนินการเท่านั้น หากพวกคุณไม่พอใจก็สามารถไปเรียนกับท่านประธานได้โดยตรง” เมื่อพูดจบแล้ว โกย่านีก็รีบหันหลังกลับและออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นโกย่านีออกไปแล้ว สีหน้าของโอวน่อหย่าก็บิดเบี้ยวแล้วกระทืบเท้าด้วยความโกรธแค้น เธอจ้องมองเย้นหว่านอย่างรุนแรง ไม่คิดเลยว่าเรื่องเป็นอย่างนี้แล้วเธอก็ยังไม่ถูกไล่ออก แต่ถ้าคิดที่จะตรวจสอบความจริงหรอ? อย่าแม้แต่จะคิด!
เย้นหว่านรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เพียงตรวจสอบเธอก็มีความหวังที่จะได้เข้าร่วมในการแข่งขันต่อไป มู่จื่ออี้เดินออกมาจากห้องประชุมพร้อมเย้นหว่าน และตอนนี้ใบหล่อเหลาของเขาก็ขรึมลงและจิตใจก็เต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจ ผ่านไปสักครู่เขาก็พูดเบาๆ ว่า “เย้นหว่าน ฉันขอโทษนะ”
เย้นหว่านก็ตกใจแล้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “นายจะขอโทษฉันทำไม?”