บทที่ 34 รู้สึกเหมือนว่ากำลังฝันอยู่
บางทีอาจจะเพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุด เว่ยชีก็ดูเหมือนว่าจะหยุดงาน ก็เลยไม่อยู่
โห้หลีเฉินนั่งอยู่ตรงที่คนขับ วันนี้เขาขับเอง
เย้นหว่านมองดูรถหรูที่อยู่ตรงหน้า ก็จำใจ เลยขึ้นไปนั่งเบาะหลัง
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ไม่พอใจของผู้ชายดังขึ้นมา “ฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอ ขึ้นมานั่งข้างๆนี่”
เย้นหว่าน:“……” เธอลังเลเล็กน้อย
สุดท้ายเย้นหว่านก็นั่งลงที่ข้างคนขับ แล้วถามว่า “ฉันจำได้ว่าที่เมืองหนานก็มีตลาดดอกไม้เยอะแยะ ทำไมไม่ไปตรงนั้นล่ะคะ?”
ถ้าเกิดว่าขับรถตั้งหนึ่งชั่วโมง ก็แสดงว่าอยู่นอกเมือง
“พวกเราจะไปที่ตลาดขายดอกไม้เมิ่งโล่ว”
โห้หลีเฉินพูด พลางเอนตัวที่สูงใหญ่เข้าไปหาเย้นหว่าน
เย้นหว่านอึ้งจนแข็งทื่อ แล้วก็มองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาอย่างตื่นตระหนก
“คุณ คุณจะทำอะไร?”
โห้หลีเฉินอยู่ใกล้เธอมาก ลมหายใจของเขากระทบโดนใบหน้าของเย้นหว่าน
เขามองหน้าเธอ สายตาของเขาลึกเหมือนกระแสน้ำวน
เย้นหว่านใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ เธอรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
ในตอนที่กำลังหวาดกลัวอยู่นั้น เธอยื่นมือไปผลักเขาออก แต่ว่าโห้หลีเฉินก็เอื้อมมาฝั่งเธอ แล้วก็ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้
เสียงแหบๆของเขาเหมือนจะหัวเราะ “รัดเข็มขัดให้เรียบร้อย”
ตอนนั้นเย้นหว่านอับอายจนหน้าแดง เมื่อกี้เธอคิดอะไรไปน่ะ?
นี่คือรถแลมโบกินีชั้นนำ แต่ว่าพอโห้หลีเฉินเป็นคนขับนั้น กลับขับช้ามาก ยังช้ากว่ารถธรรมดาคันอื่นๆบนถนนอีก
ตลาดขายดอกไม้เมิ่งโล่วอยู่ห่างจากเมืองหนานเยอะพอสมควร ถ้าดูจากความเร็วที่โห้หลีเฉินขับตอนนี้ อย่างน้อยก็น่าจะสองชั่วโมงกว่าจะถึง
เย้นหว่านเปิดหน้าต่างรถ แล้วก็รับลมเย็นๆจากข้างนอก
อากาศจากด้านนอกไม่เลวเลย แถมยังขับผ่านทะเลอีก เย้นหว่านรู้สึกจิตใจสงบ เหมือนกับว่ากำลังออกมาขับรถเที่ยวเล่น
เธอไม่ได้สังเกตเลยว่า ตอนที่ขับผ่านสถานที่ที่วิวสวยงาม โห้หลีเฉินก็ขับช้าลงไปอีกเยอะเลย
พอมาถึงตลาดขายดอกไม้เมิ่งโล่ว ก็บ่ายแล้ว
ที่นี่คือตลาดดอกไม้ หรือเรียกว่าเป็นเมืองดอกไม้เลยก็ว่าได้ ทั้งเมืองมีแต่จุดชมวิว
ในพื้นที่ต่างๆ ก็มีสิ่งที่หลากหลาย ทั้งของว่างและหอมอร่อย
โห้หลีเฉินจอดรถอยู่ที่ๆห่างจากถนนที่มีแต่ของว่างไม่ไกลเท่าไหร่ หลังจากเย้นหว่านลงรถก็ได้กลิ่นของกินเต็มไปหมด ทันใดนั้นท้องเธอก็ร้องขึ้นมาทันที
แต่ว่าพอเห็นคุณชายที่อยู่ข้างๆ เธอก็ได้แต่ถอดใจ
โห้หลีเฉินแค่ดูก็รู้แล้วว่าเขาไม่มีทางกินร้านตามข้างถนนหรอก
แต่ว่าไม่คิดเลยว่า โห้หลีเฉินจะพาเธอไปร้านหนึ่งข้างถนน แล้วถามเธอด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เธอเคยกินพวกนี้มั้ย?”
“หือ?”
เย้นหว่านไม่เข้าใจว่าเขาจะถามไปเพื่ออะไร แต่ว่าเธอก็ตอบไป “ก็เคยกินเกือบหมดแล้วนะคะ”
“งั้นอะไรที่อร่อยที่สุด?”
“ปิ้งย่าง ปลาหมึกย่าง เต้าฮวย มันฝรั่งบด ของทอด….”
พอพูดถึงของกิน เย้นหว่านก็รีบพ่นชื่อเมนูออกมามายมาก
โห้หลีเฉินเห็นท่าทางชอบกินของเธอ ดวงตาของเขาก็เหมือนอยากจะยิ้มออกมา
หลังจากนั้น เขาก็เลยเดินตรงไปที่ร้านปิ้งย่าง
เย้นหว่านมองหน้าเขาอึ้งๆ เขาไปทำอะไรที่นั่นน่ะ?
ตรงร้านปิ้งย่างนั้นมีแต่พวกชายหนุ่มกับหญิงสาว พอเห็นว่าโห้หลีเฉินเข้ามา ก็สามารถดึงดูดสายตาของพวกเขาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยเฉพาะพวกผู้หญิง ต่างพากันคลี่ยิ้มออกมาทันที แล้วก็กระซิบกระซาบว่า “ว้าว หล่อมากเลย!”
โห้หลีเฉินไม่สนใจต่อสายตาที่มองมา เขาเดินไปที่ร้าน แล้วหยิบเงินออกมาร้อยหยวนแล้วยื่นให้เจ้าของร้าน
แล้วก็พูดออกมาด้วยเสียงน่าดึงดูด “ขอผมหนึ่งกล่อง”
หนึ่งกล่อง?!
ทุกคนต่างพากันอึ้ง รวมถึงเจ้าของร้านด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจซื้อปิ้งย่างเสียบไม้เป็นกล่อง
แต่ว่าเจ้าของร้านก็ไม่มีทางทิ้งเงินของเขาหรอก เขารับเงินมาแล้วก็ยิ้ม
“สุดหล่อ รอซักครู่นะครับ เดี๋ยวผมไปเอามาให้”
ทันใดนั้นเย้นหว่านก็ได้สติกลับมา ก็เห็นว่าโห้หลีเฉินกำลังซื้อปิ้งย่างเสียบไม้อยู่ เขาสามารถกินของพวกนี้ได้ด้วยงั้นหรอ?
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ว่าโห้หลีเฉินใกล้เคียงกับคนธรรมดามากขึ้น
เมนูที่เย้นหว่านพูดออกมาเมื่อกี้ โห้หลีเฉินซื้อมันทุกอย่าง
ของกินข้างถนน ก็ต้องนั่งกินข้างถนนสิ
เห็นได้ชัดว่า โห้หลีเฉินไม่ค่อยคุ้นชินกับการนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กๆ แต่ว่าเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา ได้แต่มองหน้าเย้นหว่านนิ่งๆ
“กินเถอะ”
พอมองดูกองอาหารต่างๆที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะ เย้นหว่านก็น้ำลายไหล
เธอก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป หยิบปิ้งย่างเสียบไม้ขึ้นมาทันที
“คุณโห้ ไม่คิดเคยว่าคุ้นจะกินพวกนี้เหมือนกัน ฉันก็นึกว่าคุณจะเหมือนกับพวกเศรษฐีคนอื่นๆ บอกว่าของพวกนี้สกปรกและไม่ถูกสุขลักษณะ”
“ฉันไม่เลือกกิน”
โห้หลีเฉินก็หยิบปิ้งย่างเสียบไม้ขึ้นมาไม้หนึ่ง แล้วก็กินลงไปด้วยท่าทีสง่างาม
แผงลอยบนถนนที่ดูโทรมๆ กับปิ้งย่างที่ดูราคาถูก แต่ว่าพอเขากินมันแล้วกลับดูเหมือนอาหารราคาแพง
รอบๆทั้งสี่ด้านก็ต่างมีคนมองหน้าโห้หลีเฉินด้วยความประหลาดใจ เป็นผลให้ที่นั่งแถวๆนั้นเต็มหมด
แล้วก็มีสายตาที่อิจฉาริษยามองมาที่เย้นหว่าน
“ผู้หญิงคนนั้นคือแฟนของสุดหล่อคนนั้นงั้นหรอ? มีแฟนหล่อขนาดนี้ โชคดีมากจริงๆ”
หลังจากกินอาหารข้างทางเสร็จ เย้นหว่านก็รู้สึกพึงพอใจมาก มีอารมณ์เต็มใจจะไปซื้อดอกไม้เป็นเพื่อนโห้หลีเฉินมากขึ้นเยอะเลย
ตลาดดอกไม้ใน ตลาดขายดอกไม้เมิ่งโล่วเต็มไปด้วยดอกไม้ที่สดใหม่ตามฤดูกาล มองไปทางไหนก็ทิวทัศน์สวยงามไปหมด นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองได้ทั่วทุกทิศ ร้านดอกไม้ต่างๆก็กระจัดกระจายทั่วเมืองไปหมด ถ้าเกิดว่าจะไปซื้อดอกไม้ ก็ต้องผ่านจุดชมวิวที่สวยงามนี้
ระหว่างทาง เย้นหว่านก็ทั้งเดินทั้งชมวิว ก็เห็นดอกไม้ที่สวยงามมากมาย
หลังจากนั้นก็เดินไปที่นึงที่เป็นเหมือนกับทะเลดอกไม้
ทิวทัศน์ที่นี่ช่างน่าอัศจรรย์
เย้นหว่านใจลอย สุดท้ายเธอก็อดไม่ไหวแล้วพูดกับโห้หลีเฉินว่า
“คุณโห้ คุณรอฉันแป๊ปนึงได้มั้ยคะ? ฉันขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ย?”
ถึงแม้ว่าเธอจะอดทนได้ไม่ยอมถ่ายรูปตลอดทาง แต่ว่าวิวตรงนี้มันสวยมากจริงๆ ถ้าเกิดว่าไม่ถ่ายรูปเธอต้องรู้สึกผิดกับตัวเองแน่ๆ
โห้หลีเฉินหยุดเดิน “ได้สิ”
เย้นหว่านดีใจมาก แล้วก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปทันที
โห้หลีเฉินมองรอยยิ้มบนใบหน้าขอเย้นหว่าน ริมฝีปากที่เซ็กซี่ของเขาก็คลี่ยิ้มออกมาเช่นกัน
เมื่อก่อนเขาไม่เคยมาที่ๆเต็มไปด้วยดอกไม้ใบหญ้ากับคนอื่นแบบนี้หรอก แต่ว่าพอได้มากับเย้นหว่าน ก็รู้สึกไม่เลวดีเหมือนกัน
เย้นหว่านที่กำลังถ่ายรูปอยู่ก็บังเอิญไปเห็นโห้หลีเฉิน เขากำลังยืนอยู่ตรงกลางทะเลดอกไม้ พอดอกไม้ที่สวยงามล้อมรอบตัวเขานั้น ก็ทำให้เขาดูหล่อขึ้นมาก จนทำให้ยากที่จะละสายตา
ตอนนั้นเย้นหว่านเสียสติไป แล้วก็หันกล้องไปทางเขา
แชะ
เธอแอบถ่ายรูปเขา
และในตอนนี้เอง โห้หลีเฉินก็หันมามองทางเย้นหว่านพอดี หัวใจของเย้นหว่านก็เต้นแรงขึ้น กลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเมื่อกี้เธอแอบถ่ายรูปเขา เธอก็เลยรีบหันกล้องไปทางอื่นทันที
ในตอนนั้นเอง เธอก็เห็นคู่รักวัยรุ่นอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่
ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างออดอ้อน “สามี ถ่ายรูปให้ฉันหน่อยสิคะ ต้องถ่ายตัวเองอย่างเดียวมันน่าเบื่อ”
“ได้สิ”
“ถ่ายให้เห็นวิวที่นี่เยอะๆเลยนะ”
ผู้หญิงคนนั้นร้องขอออกมา ผู้ชายก็หยิบกล้องขึ้นมา ทั้งสองคนนี้ก็เหมือนกับคู่รักคนอื่นๆที่นี่ ถ่ายรูปกัน
ทันใดนั้นโห้หลีเฉินก็ลึกขึ้น เหมือนกับว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากนั้น เขาก็เดินเข้าไปหาเย้นหว่าน
เย้นหว่านคิดว่าโห้หลีเฉิน จะมาเร่งให้เธอรีบกลับ เธอก็เลยรีบเก็บโทรศัพท์ทันที
“จะไปแล้วใช่มั้ยคะ?”
โห้หลีเฉินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็เปิดกล้องที่เขาไม่ค่อยจะได้ใช้ “ยืนนิ่งๆสิ ฉันจะถ่ายรูปให้เธอ”
“อะไรนะ?!”
เย้นหว่านอึ้งจนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เธอหูฝาดไปงั้นหรอ?