บทที่ 62 การหมั้นปลอมๆ ถูกเปิดเผยแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากแจกกฎของการแข่งขันแล้ว เย้นหว่านก็เข้าสู่การทำงานออกแบบที่วุ่นวายอีกครั้ง
คราวนี้โห้หลีเฉินกลับไม่ได้มาอ่านหนังสือในห้องของเธออีกแล้ว แต่ก็ได้จัดผู้ช่วยคนหนึ่งให้กับเธอ
“พี่เย้นหว่าน ฉันเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของพี่ ลั่วอาน พี่เรียกฉันว่าอานอานก็ได้”
ลั่วอานคือนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ ใบหน้าขาวใสอ่อนวัย ดูบริสุทธิ์และมีชีวิตชีวา
แต่ทักษะวิชาชีพของเธอก็ดีเช่นกัน และก็เคารพเย้นหว่านอย่างมาก
ช่วงเวลากำลังเร่งรีบ เย้นหว่านกลับไม่รังเกียจที่จะมีผู้ช่วยเพิ่มมาหนึ่งคน แต่มู่จื่ออี้ไม่พึงพอใจอย่างชัดเจน
เขามองไปที่ลั่วอานด้วยสายตาเย็นชา “ทำไมจู่ๆบริษัทถึงได้ส่งคุณมา?
ราวกับว่าในใจมีคำตอบอยู่ก่อนแล้ว ลั่วอานตอบอย่างคล่องแคล่ว
“พี่เย้นหว่านไม่ใช่ว่าเพิ่งได้ที่หนึ่งในเกมการแข่งขันรอบที่แล้วหรือ นำเกียรติยศมาให้กับบริษัทของเราไม่น้อย ตอนนี้บริษัทให้ความสำคัญกับพี่เย้นหว่านเป็นอย่างมาก จึงส่งฉันมาช่วย”
อ้างชื่อของบริษัท มู่จื่ออี้ก็ไม่มีอะไรจะพูด
เขายังคงต่อต้านต่อลั่วอาน “เธออย่ารบกวนเย้นหว่าน ฉันจะจัดการให้เธอทำสิ่งต่างๆเอง”
เย้นหว่านเริ่มยุ่งแล้ว ไม่มีความสามารถมาสนใจลั่วอานจริงๆ เธอก็ไว้วางใจมู่จื่ออี้เป็นอย่างมาก จึงให้มู่จื่ออี้จัดการทั้งหมดแล้ว
สุดท้าย งานที่ต้องการความช่วยเหลือส่วนตัว มู่จื่ออี้ทำเองทั้งหมด ส่วนงานจิปาถะพวกนั้น เป็นลั่วอานที่ต้องทำทั้งหมด
ลั่วอานไม่พอใจ ต้องหาเวลาต่อปากต่อคำกับมู่จื่ออี้เป็นครั้งคราว บรรยากาศที่ตึงเครียดจากการทำงานจึงได้ผ่อนคลายลงไม่น้อย
ในไม่ช้า ก็ถึงเวลาแล้วสำหรับรอบชิงชนะเลิศ
เย้นหว่านนำนางแบบเข้ามาในเวิร์คช็อปของตัวเอง เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า และเตรียมตัวก่อนการแข่งขัน
ในเวลานี้ ประตูห้องเล็กๆของเธอถูกคนผลักเปิดจากด้านนอก
โอวน่อหย่าเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างเย่อหยิ่ง
เย้นหว่านขมวดคิ้ว สัญชาตญาณสั่งให้ยืนบังอยู่หน้าเสื้อผ้า มองดูโอวน่อหย่าพร้อมเตรียมการรับมือ
“ทำอะไรของเธอ? เธอไม่มีสิทธิ์เข้ามาในเวิร์กช็อปของฉันก่อนการแข่งขัน ออกไป!”
โอวน่อหย่าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเย้นหว่าน หันไปพูดสั่งนางแบบ: “เธอออกไปก่อน”
นางแบบสาวลังเลเล็กน้อย กังวลถึงอำนาจเบื้องหลังของโอวน่อหย่า จึงเลือกที่จะออกไป
ก่อนไป เธอได้บอกกับเย้นหว่าน “คุณเย้น ฉันอยู่ข้างนอกนี้ มีเรื่องอะไรคุณเรียกฉันได้”
เย้นหว่านขมวดคิ้วแน่น และไม่พูดอะไร
หลังจากนางแบบออกไปแล้ว โอวน่อหย่าก็ดึงประตูปิดลง
เธอเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มมองไปที่เย้นหว่าน “เย้นหว่าน เธออย่ากังวลขนาดนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเราสนิทกันขนาดนั้นแล้ว ฉันก็ไม่ทำอะไรเธอหรอก”
ทุกครั้งเรื่องเลวร้ายมักเป็นโอวน่อหย่าที่ทำ ยังจะเรียกว่าไม่ได้ทำอะไร?
เย้นหว่านพูดด้วยเสียงเย็นชา “เธอต้องการทำอะไร?”
“ก็ไม่มีเรื่องสำคัญอะไร ก็แค่อยากให้เธอได้เห็นรูปถ่ายไม่กี่ใบเท่านั้น”
โอวน่อหย่าอมยิ้มไว้ ดึงรูปถ่ายไม่กี่ใบออกมาจากกระเป๋า แล้วโยนลงบนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าของเย้นหว่าน
รูปถ่ายเหล่านั้นกระจายออก นึกไม่ถึงว่าทั้งหมดจะเป็นภาพถ่ายที่มีการสัมผัสกันในช่วงนี้ระหว่างเธอกับมู่จื่ออี้
มีตอนกิจกรรมรอบกองไฟที่มู่จื่ออี้คีบอาหารให้กับเธอ มีตอนอยู่ในสระว่ายน้ำที่มู่จื่ออี้กอดเธอไว้ มีตอนมู่จื่ออี้ช่วยบังเธอจากเหล้า……
ยิ่งไปกว่านั้นทุกภาพถูกถ่ายด้วยเทคนิคพิเศษ มองหามุมที่ดีที่สุด ที่ดูเหมือนว่าเธอกับมู่จื่ออี้นั้นสนิทสนมกันอย่างมาก ติดกันแจยิ่งกว่าคู่รักวัยรุ่น
“เย้นหว่าน เธอจำไว้ว่าเธอเป็นคนที่มีคู่หมั้นแล้ว คู่หมั้นยังเป็นคุณโห้ โห้หลีเฉินใช่ไหม?”
ใบหน้าของโอวน่อหย่าเต็มไปด้วยยิ้มร้าย “ในเมื่อเธอก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ความสัมพันธ์สนิทสนมที่วาบหวามกับผู้ชายอื่นอย่างนี้ ไม่ค่อยดีมั้ง? หรือว่าเธอถนัดเล่นอย่างนั้น เหยียบเรือสองแคม?”
“โอวน่อหย่า เธออย่ามาพูดจาเหลวไหล! ระหว่างฉันกับมู่จื่ออี้บริสุทธิ์ใจกัน ไม่มีทางมีเรื่องพรรค์นี้”
เย้นหว่านหน้าดำคร่ำเครียด กำหมัดแน่น ในใจมีความตื่นตระหนกเล็กน้อย
โอวน่อหย่ายิ้มเย็นชา “เธอบอกว่าไม่มีก็ไม่มีเหรอ? ถ้าให้คุณนายใหญ่ตระกูลโห้เห็นรูปถ่ายพวกนี้แล้ว เธอว่าท่านจะเชื่อฉันหรือเปล่า?”
การหมั้นกันของเย้นหว่านกับโห้หลีเฉิน คุณนายใหญ่ตระกูลโห้เป็นคนจัดการทั้งหมด แม้โห้หลีเฉินเป็นคนหยิ่งขนาดนั้น แต่กลับยอมตกลงหมั้นปลอมๆกับเธอ และยังต้องทำหน้าที่ให้ดีในการหมั้นหมาย ทั้งหมดก็เพียงเพื่อเอาใจคุณนายใหญ่ตระกูลโห้
ข่าวว่า คุณนายใหญ่ตระกูลโห้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง รับการกระทบกระเทือนจิตใจไม่ได้
และสิ่งที่เธอคิดมากที่สุดตอนนี้คือเรื่องการแต่งงานของโห้หลีเฉิน ถ้าท่านเห็นรูปถ่ายพวกนี้เข้า……
เย้นหว่านรู้สึกเย็นไปทั้งสรรพางค์ ไม่เคยจินตนาการเลยว่าอาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดีจากเรื่องราวนี้
โอวน่อหย่ามองดูท่าทางของเย้นหว่านที่ถูกโจมตีด้วยความพึงพอใจ อารมณ์ดีอย่างมาก
“แน่นอน เธอกับโห้หลีเฉินก็อย่าได้คิดที่จะไปหาคุณนายใหญ่ตระกูลโห้พร้อมกันเพื่อพูดแก้ต่างล่วงหน้า เพราะว่า เมื่อฉันมอบรูปถ่ายให้กับคุณนายใหญ่ตระกูลโห้ก็จะต้องบอกกับท่านอย่างแน่นอน——“
โอวน่อหย่าหยุดชั่วคราว คำทุกคำถัดมานั้น เต็มไปด้วยเจตนาร้ายๆอย่างแน่นอน
“ระหว่างเธอกับโห้หลีเฉิน เป็นการหมั้นกันหลอกๆ”
เย้นหว่านแข็งทื่อทันที ใบหน้าพลันขาวซีดและไร้เลือดฝาด
เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย “โอวน่อหย่า เธอสูญสิ้นหัวใจบ้าไปแล้วเหรอ? เรื่องแบบนี้ก็เอาออกมาพูดไป”
“ใช่หรือไม่ใช่คำพูดไร้สาระ ในใจของเธอเองไม่ใช่รู้ดีหรือ? เย้นหว่าน วันนั้นที่ห้องแต่งตัวทุกคำพูดที่เธอกับโห้หลีเฉินคุยกัน ฉันได้ยินมันทั้งหมดแล้ว”
แต่ละคำของโอวน่อหย่า ได้ดับความหวังในใจของเย้นหว่านจนหมด
เย้นหว่านเย็นไปทั้งตัว โงนเงนจะล้มมิล้มแหล่ แทบจะยืนไม่ไหว
นี่เป็นความลับที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเธอกับโห้หลีเฉิน ในเมื่อถูกโอวน่อหย่ารู้แล้ว!
จบเห่
โอวน่อหย่ายิ้มเย็นชาอย่างได้ใจ “ตั้งแต่ฉันได้ยินมันแล้ว ก็จะต้องมีวิธีที่จะโน้มน้าวให้คุณนายใหญ่ตระกูลโห้เชื่อ และยังมีความสัมพันธ์ทีผีวาบหวามระหว่างเธอกับมู่จื่ออี้ เธอคิดว่า ตอนสุดท้ายของเธอจะเป็นอย่างไร?”
“โอวน่อหย่า! เธอต้องการทำอะไรกันแน่? !”
เย้นหว่านกัดฟันกรอด เพื่อควบคุมไม่ให้ตัวเองล้มลงอย่างอ่อนแอ
จุดอ่อนถูกศัตรูบีบอยู่ในมือ เธอไม่มีเรี่ยวแรงโต้กลับแม้แต่น้อย
“มันง่ายมาก เธอแค่ถอนตัวจากรอบชิงชนะเลิศนี้ ฉันจะแสดงความเมตตา ช่วยเธอปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ เป็นอย่างไร?”
ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว การแข่งขันกำลังจะเริ่มแล้ว แต่ในเวลานี้โอวน่อหย่ากลับให้เธอถอนตัวออกจากการแข่งขัน
นี่มันเลวร้ายยิ่งกว่าการเฉือนเนื้อในหัวใจของคน
เย้นหว่านมองไปที่โอวน่อหย่าด้วยความโกรธ “คุณตั้งใจใช่หรือไม่? วันนั้นก็ได้ยินเรื่องนี้แล้ว กลับต้องการพูดก่อนรอบชิงชนะเลิศจะเริ่มขึ้น”
“ใช่ ฉันตั้งใจ ฉันต้องการให้เธอรับรู้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึกว่า ความสำเร็จอย่างนี้ที่วางอยู่ตรงหน้า แต่ความสิ้นหวังที่ไม่จะยอมแพ้ก็ไม่ได้”
ใบหน้าของโอวน่อหย่าดูน่าเกลียด และน้ำเสียงร้ายกาจไร้ที่จะเปรียบเทียบ
“หรือว่า เธอจะไม่ยอมแพ้ก็ได้ ขอเพียงแค่เธอไม่กลัวว่าคุณนายใหญ่ตระกูลโห้รู้ความจริงทั้งหมด อย่างไรก็ตามเวลาที่เธอกับโห้หลีเฉินตกลงกันไว้ ก็ใกล้จะถึงกำหนดแล้ว!”
ใกล้ถึงกำหนดแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงกำหนด แม้ว่าเหลือแค่หนึ่งวัน เย้นหว่านก็ไม่อาจให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
นี่คือสิ่งที่เธอตอบตกลงกับโห้หลีเฉินไว้
ใบหน้าของเย้นหว่านขาวซีดราวกับผี ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ร่างกายอ่อนระทวยแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ ช่วงเวลาพริบตาราวกับว่าสูญเสียพละกำลังทั้งหมดของเธอไป
“ฮ่าๆๆ เย้นหว่าน ทั้งชีวิตนี้เธอต้องถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าของฉันเท่านั้น อย่าได้คิดที่จะปีนขึ้นมาจากโคลนตมอีกเลย”
โอวน่อหย่าหัวเราะอย่างมีชัย หลังจากนั้น ก็เดินไปตรงหน้าของเสื้อผ้าที่สวมใส่บนหุ่นจำลอง หยิบกรรไกรขึ้นมาแล้วตัดมันอย่างเลือดเย็น
นั่นคือผลงานของเย้นหว่าน คือกำลังกายและกำลังสมองของเธอ
เย้นหว่านรีบยืนขึ้น “โอวน่อหย่า ห้ามเธอแตะต้องมันนะ!”