บทที่ 150 อันตราย
เย้นซินกลับตื่นเต้นมา พูดว่า “IK ปี86 《การทำลาย》ซีดีแผ่นนั้นมีมั้ย?”
“มี” หัวทองตอบอย่างไม่คิด เหมือนว่าเขาที่นี่อะไรล้วนไม่ขาด
เขาพูดต่ออีก “คือว่าซีดีอันนั้นฉันเอาไว้ในห้องเก็บของ พวกเธอเดินดูของที่นี่ตามสบายก่อน ฉันจะไปหยิบเอามาให้เธอ”
“ได้ ขอบคุณนะเถ้าแก่”
ไม่นานหัวทองก็วิ่งออกไปแล้ว
ข้าวของในร้านค้านี้รกรุงรังไปหมด ไม่เพียงขายแผ่นซีดี อะไรก็มีหมด เหมือนเป็นร้านขายของเบ็ดเตล็ด
เย้นหว่านมองไปรอบหนึ่ง สงสัยอยู่บ้าง “ที่นี่ดูเหมือนรกมาก ที่เจ้าของคนนั้นมีก็อาจจะไม่ใช่ของแท้”
“ไม่หรอก เพื่อนนักเรียนฉันก็มาได้แผ่นซีดีรุ่นหายากจากที่นี่ เลยแนะนำฉันมา”
เย้นซินพูดอย่างน่าเชื่อถือมาก ยังรอคอยไปเต็มใบหน้า
เย้นหว่านรู้สึกไม่สบายใจเท่าไร และไม่ได้พูดอะไรอีก อย่างไรเสียรอหัวทองหยิบแผ่นซีดีเข้ามา ซื้อแล้วก็ออกไป
แต่รอมาสักพัก คนที่กลับมาไม่เพียงแค่หัวทองคนเดียว
เขายังพาพรรคพวกสามสี่คนย้อมผมหลากสี แต่งตัวแนวอินดี้มาด้วย
พอพวกเขาเข้ามาก็ดักทางประตูไว้ สายตาแต่ละคนมองเย้นหว่านกับเย้นซินอย่างหยาบคาย
หนึ่งในนั้นผิวปากขึ้น “หัวทอง ใช้ได้เลยนะ ร้านเก่าอย่างนี้มีสาวงามสองคนขนาดนี้มาได้ วันนี้เหล่าผองเพื่อนจะได้ซาบซึ้งเสพสุขแล้ว”
พูดๆ อยู่ผู้ชายสองสามคนก็เดินมาทางเย้นหว่านกับเย้นซิน
แม้กระทั่งมีคนกำลังถูมือ มีความคิดอยากจะทำอะไรสักอย่างแบบไม่ปกปิดสักนิด
ชั่วขณะนั้นเย้นหว่านหนังศีรษะชา รู้ได้ว่าเจอเรื่องอะไรเข้าแล้ว
เธอคิดไม่ถึงว่ากลางวันแสกๆ ยังอยู่ในร้านค้า คนพวกนี้กล้ากำเริบเสิบสานขนาดนี้
เธอรีบหยิบมือถือขึ้นมา ตวาดเสียงดัง “พวกแกอยากทำอะไร? อย่าทำอะไรมั่วๆ ไม่อย่างนั้นฉันแจ้งตำรวจทันที”
“หนูน้อย เธอลองแจ้งดูสิ”
ผู้ชายไม่กี่คนมองเย้นหว่านอย่างไม่ยี่หระ ไม่กลัวสักนิด
ในใจเย้นหว่านยิ่งไม่สงบ เหมือนไม่ต้องคิดอะไรโทรศัพท์ไปหาโห้หลีเฉิน แต่ว่าโทรศัพท์ยังไม่ได้โทรออกไป ก็ถูกตัดไปแล้ว
มองอีกครั้ง ไม่มีสัญญาณ!
ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ยี่หระกัน ที่แท้รู้แต่แรกแล้วว่าสัญญาณขาด
“ตอนนี้เป็นสังคมปกครองด้วยกฎหมาย พวกแกทำอะไรกับพวกเรา จะต้องโดนจับแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนขับรถของฉันยังอยู่ด้านนอก ถ้าเขารอนานแล้วไม่เจอพวกฉัน ไม่นานก็ต้องเข้ามาตามหา”
“เธอนี่ช่างแต่งเรื่องเป็นจริงๆ ยังมีคนขับรถ? ขอเพียงสองชั่วโมงไม่มีคนมาหา พวกเรามีฝีมือทำให้เธอหายไปจากบนโลกใบนี้ได้เลย”
หัวทองยิ้มหน้าตาอัปลักษณ์ อำมหิต “เรื่องแบบนี้พวกเราทำออกบ่อย ไม่เคยโดนเจอสักครั้งเดียว”
เย้นหว่านหัวใจหนาวเย็นชั่วขณะหนึ่ง
คาดไม่ถึงคนพวกนี้จะเป็นพวกนักโทษทำผิดเป็นนิสัย
เธอถอยหลังไปอย่างลนลาน รีบมองไปรอบด้าน พยายามหาทางวิ่งหนี
เย้นซินยืนอยู่ด้านหลังของเย้นหว่านอย่างประหม่า กำลังสั่นไปทั้งตัว “พี่ ฉันกลัว ฉันกลัวมาก”
“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวพวกเราสองคนพุ่งออกไปข้างนอกด้วยกัน แยกกันวิ่ง พยายามวิ่งออกไป ออกไปก็รีบวิ่งให้เร็ว นี่คือทางออกเดียวของพวกเราแล้ว”
เย้นหว่านฝืนทำเป็นนิ่งสงบ ตัดสินใจในช่วงเวลาคับขัน
สถานการณ์ในตอนนี้ มีเพียงเดินก้าวหนึ่ง ถึงสามารถมีโอกาสรอด
“พอแล้ว อย่ามาพูดร่ำไร หนูน้อยสองคนสวยขนาดนี้ ไอ้สองของฉันก็ทนไม่ไหวแล้ว จัดการเลย ฉันจองคนทางซ้ายนั้น”
หัวทองตะคอกอย่างดุร้าย พาพวกสองสามคนพลกระโจนเข้ามาหาเย้นหว่านกับเย้นซิน
ท่าทางโหดร้ายเหมือนหมาป่าหิวโซ
เย้นหว่านสะอิดสะเอียนหวาดกลัว รีบตะโกนออกไป “วิ่ง!”
ทั้งสองคนรีบแยกกันไปสองทาง วิ่งไปด้านนอกกัน
ผู้ชายไม่กี่คนนั้นมีการเตรียมการแต่แรก แยกกันอยากขวางพวกเธอไว้
ทางของเย้นหว่านถูกผู้ชายสองคนดักเอาไว้ เธอได้แต่หยิบของด้านข้างมาปา แต่กลับไม่สามารถห้ามพวกเขาได้ ผู้ชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาจับเธอเอาไว้แล้ว ใช้แรงผลักเธอลงไปที่พื้น
ส่วนเย้นซินทางนั้นเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ผู้ชายสองคนดักหล่อนไว้ แม้แต่โอกาสวิ่งหนีหล่อนยังไม่มี
ตามองเหมือนจะโดนคนจับเอาไว้
เย้นหว่านหนาวเย็นในใจ หมดหวังมาแวบหนึ่ง หนีไม่รอดแล้วเหรอ?
“ปี๊ด……ปี๊ด……”
เสียงพ่นสเปรย์ขึ้นมากะทันหัน ตามมาด้วยเสียงร้องตะโกนของผู้ชายสองคนปิดตาตนเองไว้
ถือโอกาสนี้ เย้นซินรีบมุดเข้าไปจากด้านข้างของผู้ชายสองคนทันที ใช้ระดับความเร็วที่สุดวิ่งไปด้านนอก
“ให้ตายเถอะ ผู้หญิงคนนั้นมีสเปรย์ป้องกันตัว รีบตาม รีบจับหล่อนกลับมาให้ฉัน”
ผู้ชายที่ถูกพ่นใส่ปิดตาด่ายกใหญ่
ผู้ชายอีกสองคนปล่อยเย้นหว่านออก รีบตามออกไปแล้ว
เย้นหว่านได้รับอิสระ กระโดดขึ้นมาอยากหนี เวลานี้คนที่ตาแดงอยู่นั้นตบเธอไปทีหนึ่งอย่างแรง
แรงเยอะสุดๆ ตบจนเย้นหว่านล้มลงบนพื้น มุมปากมีเลือดออก
ผู้ชายคนนั้นยังไม่หายโกรธ ถีบที่ตัวของเย้นหว่านไปอีกสองที
“นังตัวดี กล้ามาพ่นใส่ข้า เดี๋ยวจับหล่อนกลับมาได้ คอยดูว่าฉันจะจัดการหล่อนยังไง”
ผู้ชายคนนั้นไม่ออมแรงสักนิด กระดูกของเย้นหว่านเหมือนถูกถีบจนหักเลย เจ็บอย่างแรง
เธอไม่ได้กัดฟันแน่น ยิ่งเพิ่มความเป็นห่วงเย้นซิน
ตอนนี้หวังเพียงว่าหล่อนจะสามารถวิ่งหนีไปได้สำเร็จ สามารถหาคนกลับมาช่วยเธอได้
ในขณะเดียวกันเย้นหว่านมองไปด้านนอก หวังว่าสามารถมีคนผ่านมา ดึงเสียงตะโกน “ช่วยด้วย……ช่วยด้วย……”
“ป๊าบ!”
ตบหนึ่งที่ร่วงลงมาอย่างโหดเหี้ยม ทำเอาเย้นหว่านล้มลงบนพื้นโดยตรง
ผู้ชายด่าว่าอย่างเดือดดาล “เงียบปากไปเลย ถ้าแกร้องมาอีก ฉันจะฆ่าแกทันทีแน่”
ขณะพูดนั้นไม่รู้ว่าเขาเอามีดด้านหนึ่งออกมาจากที่ไหน
เย้นหว่านตกใจจนไม่เสียงไปชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกถึงความหวาดกลัวและหนาวเย็นมาจากหัวใจ
คนพวกนี้เป็นสัตว์ป่าที่แท้จริง
ผู้ชายอีกคนหนึ่งถีบผู้ชายที่หยิบมีดมาทีหนึ่ง “เก็บมีด หล่อนไม่ร้องแล้วก็อย่าทำร้ายคนจริงๆ เลย ฉันไม่ชอบผู้หญิงที่เลือดออก”
“และอยากให้หล่อนเชื่อฟัง”
ผู้ชายที่ถือมีดนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความอัปลักษณ์ เหมือนจะแทงมาที่ท้องของเย้นหว่านทุกเวลา
ราวกับนี่สำหรับเขาแล้ว เป็นแบบการกินข้าวง่ายๆ เท่านั้น
เย้นหว่านเย็นไปทั้งตัว หวาดกลัวจนถอยหลัง ความกลัวตายห่อหุ้มเธออย่างมากและแน่นขนัด
หวาดกลัวถึงขั้นสุด ในสมองของเธอมีภาพของโห้หลีเฉินลอยเต็มไปหมด
หวังอย่างมากว่าเวลานี้เขาจะสามารถมาช่วยเธอได้
หลังจากนั้นสักพัก ผู้ชายอีกสองคนวิ่งกลับมา
ผู้ชายที่เฝ้าเย้นหว่านอยู่รีบถาม “คนล่ะ? จับไม่ได้เหรอ?”
“ผู้หญิงคนนั้นอย่างกับนักกีฬาวิ่ง วิ่งเร็วมาก ยิ่งหล่อนมีรถจอดอยู่ข้างทางด้วย วิ่งข้ามไปก็ขึ้นรถแล้ว รถรีบขับออกไป พวกเราจับไว้ไม่ทัน”
ได้ยินคำพูดนี้ หัวใจที่ตึงแน่นของเย้นหว่านผ่อนคลายลง
โชคดีที่ให้คนขับรถรอยู่ข้างทาง
เย้นซินหนีไปได้แล้ว ไม่นานหล่อนต้องหาคนมาช่วยเธอได้แน่
“ไอ้ขยะ ให้หล่อนหนีไปได้ ไม่พ้นแจ้งตำรวจมาจับพวกเรา!”
“ลูกพี่ งั้นทำยังไงดี?”
“จะทำยังไงได้? หาทางหนี”
“งั้นผู้หญิงคนนี้ล่ะ?”
“พาไปด้วย เปลี่ยนที่สนุกค่อยทิ้งไป”
ไม่นานสามสี่คนนั้นตอบโต้ปรึกษากัน หัวทองรีบเดินเข้ามาทันที ดึงเย้นหว่านขึ้นมาจากพื้น
เย้นหว่านหวาดกลัวถ้าโดนพวกเขาพาตัวไป คงไม่ง่ายขนาดนั้นจะถูกหาตัวเจอ หรือว่าตอนที่รอให้มาถึง เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว