บทที่ 175 เย้นหว่าน ผมทรมานมากเลย
“พี่เขยคะ พี่เป็นอะไรไปคะ”
เย้นซินทำสีหน้าเป็นห่วงมองไปทางโห้หลีเฉิน โดยไม่ฟังคำเตือนของโห้หลีเฉินเลยสักนิด
พอเห็นใบหน้าของเขาค่อยๆแดงขึ้นมา บนหน้าผากมีเหงื่อไหลออกมาเป็นเม็ดใหญ่ แววตาของเธอก็ดีใจที่แผนการของตัวเองใกล้จะสำเร็จแล้ว
ยาออกฤทธิ์แล้ว
เธอเข้าไปซื้อน้ำหอมปลุกเซ็กส์มาจากร้านขายสินค้าสำหรับผู้ใหญ่ แล้วฉีดไว้ทั่วห้อง เพื่อให้โห้หลีเฉินมีอารมณ์ขึ้นมา
“พี่เขยคะ พี่ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ พี่ดูท่าทาง ไม่ค่อยจะดีเลยค่ะ”
เย้นซินใจกล้ามากขึ้น เธอยื่นมือออกไป แล้วคล้องคอของโห้หลีเฉินไว้อย่างยั่วยวน
เธอรู้สึกได้ว่าลำคอของโห้หลีเฉินเกร็งแน่น กล้ามเนื้อของของแน่นมาก เป็นรูปร่างที่น่าหลงใหลมากจริงๆ
พอได้ลูบไล้แล้ว เธอก็โลภมากอยากลูบไล้มากยิ่งขึ้น สองมือของเธอคล้องคอของโห้หลีเฉินไว้แน่น
โห้หลีเฉินรู้สึกร่างกายของเขาร้อนรุ่ม อาการแบบนี้ทำให้เขารู้ทันทีว่าตัวเองติดกับเข้าให้แล้ว
เขาพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ แต่เย้นซินกลับใช้มือลูบไล้เขา ทำให้เขาแข็งเกร็ง จนไม่ทันได้ควบคุมไฟร้อนในตัว ทำให้มันร้อนระอุมากยิ่งขึ้น
หน้าผากของเขามีเหงื่อไหลออกมาเยอะมาก เสียงของเขาแหบพร่าผิดปกติ
“ถอยออกไป”
“พี่เขยคะ…”
เสียงของเย้นซินเปลี่ยนเป็นยั่วยวนขึ้นมาทันที เหมือนตอนที่ทำเรื่องแบบนี้แล้วเปล่งเสียงออกมา
ร่างกายของเธอแนบชิดแผ่นหลังของโห้หลีเฉิน สองมือยื่นไปข้างหน้า ทำการกอดโห้หลีเฉินไว้แน่น
“พี่เขยคะ ฉันทรมานจังเลยค่ะ รู้สึกเหมือนร่างกายถูกไฟเผาจนร้อนรุ่ม พี่ช่วยฉันด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วยนะคะ…”
น้ำเสียงขอร้อง เหมือนกำลังยั่วยวนสุดฤทธิ์
ร่างกายของโห้หลีเฉินเกร็งขึง อารมณ์ที่ร้อนแรง ทำให้เขาแทบจะคุมสติไว้ไม่อยู่
“พี่เขยคะ พี่เขย… ฉันอยากได้… อยากได้พี่ค่ะ…”
เย้นซินพูดออกมาอย่างไร้ยางอาย และเลื้อยตัวไปมารอบตัวของโห้หลีเฉินเหมือนงู สองมือพยายามถอดเสื้อผ้าของโห้หลีเฉินไปด้วย
เสื้อเชิ้ตที่เป็นระเบียบของเขา ถูกดึงจนยับยู่ยี่
และปกติการลูบไล้ของผู้หญิง ก็เหมือนเอาน้ำมันราดลงบนกองไฟ ทำให้ไฟลุกแรงมากยิ่งขึ้น
แต่กับผู้หญิงคนนี้ โห้หลีเฉินกลับรู้สึกรังเกียจมาก
นอกจากเย้นหว่านแล้ว เขารังเกียจผู้หญิงทุกคน
“ถอยไป”
โห้หลีเฉินพูดเสียงต่ำ เหมือนใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดในการพูด ก่อนจะผลักเย้นซินออกไป
สองขาของเขาไร้เรี่ยวแรง จะเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่งก็สุดแสนจะลำบาก
แต่โห้หลีเฉินใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่เขามี พยายามก้าวเดินออกไปจากห้อง
น้ำหอมตัวนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเย้นซิน แต่เพื่อให้แผนการในคืนนี้ราบรื่น เธอจึงใช้ยาอีกชนิดกับตัวเอง ทำให้ตอนนี้ยาตัวนั้นเริ่มออกฤทธิ์ จนเธอรู้สึกทรมานไปทั้งตัว
แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่า ถึงขั้นนี้แล้ว โห้หลีเฉินยังมีแรงผลักเธอออกมาได้
น้ำหอมขวดนี้เธอแอบซื้อมาจากเจ้าของร้าน ได้ยินมาว่ายาตัวนี้มีฤทธิ์แรงมาก ถึงขั้นวัวก็ยังล้มได้ ไม่สามารถควบคุมสติได้ ไร้เรี่ยวแรง คิดแต่อยากจะทำเรื่องอย่าว่าเท่านั้น
แต่โห้หลีเฉินกลับยังควบคุมสติได้ แล้วยังคิดจะออกไปจากห้องด้วย
คิดจะออกไป จะไปหาเย้นหว่านอย่างนั้นเหรอ
ถึงขนาดนี้แล้ว เธออยู่ตรงหน้าโห้หลีเฉินแล้ว แต่ทำไมเขาถึงมองไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลย
เย้นซินอิจฉาจนใกล้จะบ้าแล้ว เธอรีบพุ่งตัวเข้าหา
แล้วพยายามดึงคอเสื้อของโห้หลีเฉิน แล้วเขย่งเท้าขึ้นไปจูบเขา
“พี่เขยคะ มีอะไรกับฉันเถอะนะคะ ฉันยอมให้พี่ แค่คืนนี้ก็ได้ แล้วฉันจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่บอกเรื่องนี้กับพี่สาวฉันด้วย”
เย้นซินพูดไปด้วย พยายามจูบโห้หลีเฉินไปด้วย
เธอคิดว่า ที่เขาพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ ก็เพราะกลัวว่าเย้นหว่านจะรู้เรื่อง
เธอพูดแบบนี้ออกมา อาจจะทำให้ความอดทนเส้นสุดท้ายของโห้หลีเฉินขาดลงไปได้ ถ้าเป็นแบบนี้คืนนี้โห้หลีเฉินก็จะกลายเป็นของเธอแล้ว
แต่ว่า เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เธออุตส่าห์พยายามจูบเขา แต่กลับโดนโห้หลีเฉินผลักออกไป
ครั้งนี้ แรงของเขามีเยอะขึ้น เขาผลักเธอจนล้มลงไปนั่งบนพื้น
แววตาของโห้หลีเฉินวาวโรจน์ เขามองเย้นซินที่นั่งอยู่บนพื้น ด้วยสายตาที่อยากสังหารเธอทิ้ง
“ถ้าคุณไม่ใช่น้องสาวของเย้นหว่าน ตอนนี้คงกลายเป็นศพไปแล้ว”
หลังจากคำพูดที่แสนเย็นชาจบลง บรรยากาศภายในห้องที่ร้อนรุ่มก่อนหน้านี้ กลายเป็นหนาวจับใจขึ้นมาทันที
เย้นซินที่นั่งอยู่บนพื้น ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
โห้หลีเฉินไม่มองหน้าเธออีก เขาเดินออกไปจากห้องช้าๆ
ถึงแม้จะรู้สึกทรมานมาก แต่บรรยากาศที่อยู่รอบตัวเขากลับน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ทำให้เย้นซินไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีก
“ปัง”
ประตูห้องนอนหลักถูกเปิดออกอย่างแรง
เสียงมันดัง จนเย้นหว่านสะดุ้งอย่างตกใจ เธอคิดว่ามีคนแอบลอบเข้ามา แต่กลับต้องแปลกใจมากที่เป็นโห้หลีเฉิน
ปกติเขาไม่ใช่พวกบ้าบิ่น แต่กลับเป็นสุภาพบุรุษมาก แต่วันนี้เขาเป็นอะไรไป
เย้นหว่านแปลกใจมาก เธอมองไปที่เขา ก่อนจะเห็นชุดที่เขาใส่ยีบยู่ยี่ เน็คไทที่เขาใส่ตอนเช้าไม่รู้ว่าหายไปไหน กระดุมเสื้อเชิ้ตหลุดหายไปหลายเม็ด ทำให้กล้ามเนื้อภายในเสื้อปรากฏออกมาให้เห็นชัดเจน
และใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของเขา ก็แดงก่ำกว่าปกติ สายตาของเขาเร่าร้อนอย่างน่าตกใจ
“คุณโห้คะ คุณเป็นอะไรไปคะ”
เย้นหว่านรีบลงมาจากเตียง ตั้งใจจะเดินไปพยุงเขา แต่เธอกำลังจะเดินเข้าไปหา ก็โดนเข้าดึงเข้ามากอดไว้แน่น
เขาก้มหน้าลง แล้วกัดริมฝีปากของเธอไว้
ก่อนจุมพิตอย่างดูดดื่ม
เขาใช้ลิ้นจู่โจมดุนดันเข้าไป จนสามารถเข้าไปในริมฝีปากของเธอได้ ก่อนจะครอบครองริมฝีปากของเธออย่างเจ้าแต่ใจ
และฝ่ามือร้อนระอุของเขา ก็เริ่มฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเธอ ก่อนจะลูบไล้ไปตามผิวเนียน ด้วยความรีบร้อนและเอาแต่ใจ
เหมือนหมาป่าผู้หิวโหย ที่ต้องการจะกลืนกินเหยื่อเข้าไปให้เร็วที่สุด
เย้นหว่านตกใจกลัว เธอไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินที่ปกติจะเป็นสุภาพบุรุษมาก ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ได้
แต่ถ้าเทียบกับการคิดหาเหตุผล ที่ต้องร้อนใจมากกว่าคือเรื่องที่เขากำลังใช้กำลังขืนใจเธออยู่
เธอรู้สึกถึงอันตราย เหมือนใกล้จะโดนเขากิน โดยไม่เหลือกระดูก
“อื้อ…”
เย้นหว่านตกใจมาก เธอรีบผลักโห้หลีเฉินออก และทำให้เธอคาดไม่ถึงคือ โห้หลีเฉินที่กำลังใช้กำลังขืนใจเธออยู่ กลับไม่มีเรี่ยวแรงเลย แค่เธอผลักเขาก็เซถอยหลังแล้ว
เขาเซถอยหลังไปหลายก้าว จนร่างสูงใหญ่ชนเข้ากับกำแพงห้อง ก่อนจะยืนได้อย่างมั่นคง
เย้นหว่านยิ่งกังวลใจมากกว่าเดิม เพราะท่าทางของโห้หลีเฉิน ดูยังไงก็ไม่ปกติ
“คุณโห้คะ คุณดื่มเหล้ามาหรือเปล่าคะ”
เย้นหว่านค่อยๆขยับเข้าไปหาเขาช้าๆ แต่กลับไม่ได้กลิ่นเหล้าจากตัวเขาเลย
สายตาที่ดูอันตรายของเขา กลับดูอันตรายมากกว่าตอนที่ดื่มเหล้ามาเป็นร้อยเท่า
“เย้นหว่าน”
โห้หลีเฉินยืนพิงกำแพงห้อง พยายามยืนให้มั่นคง แล้วจ้องหน้าเย้นหว่านนิ่ง ด้วยสายตาเศร้าหมอง
น้ำเสียงของเขาต่ำมาก เหมือนกำลังควบคุมตัวเองอยู่อย่างยากลำบาก “ผมทรมาน”
คำพูดนี้ แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของเขาโดยไม่ปิดบัง ทำให้เย้นหว่านใจเต้นรัว
โห้หลีเฉินผู้สูงส่ง กลายเป็นคนออดอ้อนคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ในเวลานี้ เขาเหมือนคนที่ต้องการขอความช่วยเหลือ ก่อนจะยื่นมือมาทางเธอ
พอสบตากับโห้หลีเฉิน เย้นหว่านรู้สึกเหมือนต้องมนต์สะกด เธอเดินเข้าไปใกล้โห้หลีเฉินมากขึ้น
“คุณเป็นอะไรไปคะ ฉันเป็นห่วงคุณมาก ให้ฉันโทรเรียกคุณหมอให้ไหมคะ”
เย้นหว่านพูด ก่อนจะยกมือขึ้นไปวัดอุณหภูมิบนหน้าผากของโห้หลีเฉิน
ร้อนมาก
ร้อนเหมือนไฟ
เธออุทานออกมาอย่างตกใจ “คุณเป็นไข้เหรอคะ”
โห้หลีเฉินคว้ามือของเย้นหว่านมาจับไว้ พอจับมือบางไว้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย และดูเหมือนอารมณ์ที่เขาพยายามควบคุมไว้จะระเบิดออกมาได้ทุกเวลา
“เย้นหว่าน ผมทรมานมาเลย”