สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 173 อยากจะปรึกษา​คุณ​หน่อยค่ะ

บทที่ 173 อยากจะปรึกษา​คุณ​หน่อยค่ะ

บทที่ 173 อยากจะปรึกษาคุณหน่อยค่ะ

เย้นซินมองหน้า​เย้นหว่านอย่างตกตะลึง​ เธอไม่เคยเห็นท่าทางเยือกเย็น​แบบนี้ของ​เย้นหว่านเลย

แต่​กลับเห็นในสถานการณ์​แบบ​นี้​ซะได้

สีหน้า​อ่อนโยน​ของ​เย้นซินเปลี่ยนไป กลายเป็น​บึ้งตึง​ขึ้น​เล็กน้อย

“พี่คะ พี่จะส่งฉันกลับไปแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันมาที่นี่ ก็ถือว่าเป็นแขกของพี่เขย หลายวันมานี้ก็เป็นฉันที่เตรียมน้ำชายามบ่ายให้พี่เขย ถ้าฉันจากไปกะทันหัน​ แล้วใครจะเป็นคนเตรียมน้ำชายามบ่ายให้พี่เขยล่ะ”

“ตอนที่เธอยังไม่มา เขาก็ไม่เคยขาดแคลน​น้ำชายามบ่าย”

เย้นหว่านพูดปฏิเสธ​คำพูด​ของ​เย้นซินอย่างไร้เยื่อใย​

อีกทั้งยังเริ่มนึกเสียใจ​ ถ้าไม่ใช่​เธอ​ยอมให้เย้นซินเป็นคนเตรียมน้ำชายามบ่ายให้โห้หลีเฉิน ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์​เหมือนในวิดีโอ​ขึ้นมาได้

ไม่รู้​ว่า​โห้หลีเฉินโมโห​หรือเปล่า​ ถ้าเขาโมโห​ขึ้นมา แม้แต่​ตระกูล​เย้นก็คงจะลำบากไปด้วยแน่นอน

เย้นหว่านกังวลถึงความปลอดภัย​ของทุกคนในครอบครัว​ แต่เย้นซินกลับยิ่งฟังยิ่งไม่พอใจ และ​เคียดแค้น​เย้นหว่านมากขึ้น​เรื่อย​ๆ

เธอมองออกว่า เย้นหว่านคิดจะไล่เธอไป

“ยังไง​ฉันก็ไม่ออกไป ถ้าจะไปก็ต้องเป็นพี่เขยไล่ฉันไปเท่านั้น”

เห็นได้ชัด​ว่า​เย้นซินเริ่มโมโหแล้ว​ เธอลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​เดินออกไปทันที

“เย้นซิน”

เย้นหว่านตะโกน​เรียกเธอ แต่เธอไม่ตอบ และยังปิดประตู​เสียงดัง​ปัง

ดูท่าทาง​ เย้นซินคงไม่ฟังที่เธอพูดแน่นอน​แล้ว

เย้นหว่านนวดขมับ​ของ​ตัวเอง​ เธอคิดว่า เธอคงต้องคุยกับโห้หลีเฉินสักหน่อย​แล้ว​

ถ้าโห้หลีเฉินเป็นคนสั่งให้คนส่งเย้นซินกลับไป เย้นซินคงพูดอะไรไม่ได้อีก แบบนี้จะได้รีบตัดขาด​ความคิด​ที่​เย้นซินมีต่อโห้หลีเฉินไปซะ…

ในแต่ละวัน​โห้หลีเฉินจะแบ่งเวลามาจัดการ​งานของบริษัท และ​เพราะอย่างนี้ ในแต่ละวันเวลาที่เขาใช้​ใน​การ​ทำงานจึงเหมือนๆกัน

แต่วันนี้ตอนที่โห้หลีเฉินกลับเข้ามาในห้อง กลับช้ากว่าปกติมาก

เย้นหว่านมองมาที่เขา แล้วเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง​ “วันนี้งานเยอะมากเหรอคะ”

แววตาของโห้หลีเฉินเคร่งขรึม​ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเย้นหว่านที่เตียง

“งานมีปัญหา​นิดหน่อย​เท่านั้นเอง​ครับ​”

น้ำเสียงของเขาสบายใจมาก เหมือนว่า​เป็นปัญหา​ที่​ง่ายมากสำหรับ​เขาที่จะแก้ไขให้​เรียบร้อย

แต่เย้นหว่านกลับดูเหมือน​จะ​เดาได้ว่าเป็นเรื่อง​อะไร

ถ้าเป็นเรื่องงาน นอกจาก​ว่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วน ที่ยากจะแก้ไขได้ ถึงจะทำให้​โห้หลีเฉินเสียเวลาในการจัดการไปบ้าง แต่เรื่องแบบนี้ ส่วนใหญ่​จะ​เกิดขึ้น​ได้ยาก

แต่เรื่องที่เย้นซินจงใจล้มลงบนอ้อมกอดของโห้หลีเฉินในวันนี้…

กลับทำให้​โห้หลีเฉินที่เป็นพวกรักสะอาดอารมณ์​เสียมาก ไม่แน่ว่าหลังจาก​ที่ออกจากห้องหนังสือ​ไป โห้หลีเฉินอาจจะตรงไปอาบน้ำทันทีเลยก็ว่าได้

ถึงได้ทำให้​เสียเวลามากขนาดนี้

พอนึกถึง​การกระทํา​ของ​เย้นซิน ตอนที่​เย้นหว่านสบตากับโห้หลีเฉินจึงรู้สึก​ผิดอยู่บ้าง

เธอลังเล​ใจอยู่สักพัก​ ก่อนจะ​พูด​ขึ้น​มา​ “คุณ​โห้คะ ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษา​คุณ​หน่อยค่ะ”

“เรื่อง​อะไรครับ”โห้หลีเฉินเงยหน้า​ขึ้น​มอง​เย้นหว่าน

เย้นหว่านนิ่งคิด ก่อนจะ​พูด​ขึ้น​มา​ “เย้นซินอยู่ที่นี่มานานพอสมควร​แล้ว​ค่ะ​ ควรจะกลับบ้านได้แล้ว​ ดังนั้น​ ฉันคิดว่า ควรจะส่งเธอกลับบ้านได้แล้ว​”

โห้หลีเฉินย่นคิ้วเล็กน้อย​ แล้ว​มองหน้า​เย้นหว่านอย่างครุ่นคิด​ “ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้ขึ้นมากะทันหัน​ครับ”

ช่วงนี้​เย้นซินพักอยู่ที่นี่มาตลอด​ แต่เย้นหว่านกลับไม่เคยพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเลย

แล้ว​อีกอย่าง เย้นหว่านยังเคยรู้สึก​ว่าตัวเองอยู่ที่นี่กับเขาแค่สองคนเธอทำตัวไม่ถูก แทบจะอยากให้​เย้นซินอยู่ที่นี้ตลอดไป​ หรือจนกว่า​ที่เธอจะสามารถ​ออกไปจากที่นี่ได้

แต่ตอนนี้กลับพูดขึ้น​มา​ หรือว่าเน้นหว่านจะรู้เรื่อง​ที่เกิดขึ้น​เมื่อตอนบ่ายแล้ว

สายตาที่แหลมคมของโห้หลีเฉินมองไปทางเย้นหว่านด้วยความรู้สึก​ผิด แต่ยังไงซะ​เย้นซินก็เป็นน้องสาวของเธอ เธอเองก็ไม่สามารถพูดความจริง​ต่อหน้า​โห้หลีเฉิน ทำให้​เย้นซินขายหน้า​ และ​ทำให้​โห้หลีเฉินทำตัวไม่ถูก​ได้

ดังนั้น​ เย้นหว่านจึงคิดเหตุผล​ขึ้นมาใหม่ “แม่ของฉันคิดถึง​เธอ​แล้ว​ค่ะ เพราะเย้นซินยังเรียนอยู่จึงแทบจะไม่มีเวลากลับไปหาพวกท่านเลย ตอนนี้​อุตส่าห์​ได้ปิดเทอม​ทั้งที แม่ของฉันก็เลยอยากให้กลับไปหาท่านบ้าง”

นี่เป็นเหตุผลที่เหมาะสม​ที่สุด​แล้ว จะจริงหรือไม่จริงก็ค่อยว่ากัน

โห้หลีเฉินมองหน้า​เย้นหว่านอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก

เขาพยักหน้า​เข้าใจ​ “งั้นก็ส่งเธอกลับบ้าน​เถอะ”

การที่ได้รับอนุญาตจากโห้หลีเฉินเป็นเรื่องที่เธอคิดไว้อยู่​แล้ว​ แต่เรื่องต่อจากนี้ เป็นเรื่อง​ที่​พูดยากอยู่พอตัวเลย

เย้นหว่านลังเล​อยู่​สักพัก​ ก่อนจะ​พูด​ขึ้น​มา​ “คุณ​โห้คะ คือว่า ที่นี่เป็นบ้านของคุณ เย้นซินพักอยู่ในที่ของคุณ ดังนั้น​ถ้าจะส่งเธอกลับบ้าน​ คุณ​เป็น​คน​พูด​จะดีกว่าค่ะ ดังนั้น​ รบกวน​คุณ​ช่วย…”

คำพูด​ยังไม่ทันพูดจบ แต่ความหมายของเย้นหว่านก็แสดงออกมาชัดเจน​แล้ว

นั่นคือให้โห้หลีเฉินเป็นคนไปพูด

เรื่อง​การช่วยพูดให้คนอื่นแบบนี้ ตลอดชีวิต​ของ​โห้หลีเฉินยังไม่เคยทำเลยสักครั้ง ที่สำคัญ​ยังต้อง​ไปบอกเด็กสาวคนหนึ่ง ให้เธอกลับบ้านอีก

แต่พอเห็นสายตาตั้งตารอคำตอบของ​เย้นหว่าน โห้หลีเฉินกลับรู้สึก​อารมณ์​ดีขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ผมเป็นคู่หมั้น​ของ​คุณ​ เรื่องแบบนี้ ก็ต้องเป็นผมไปพูดสิครับ”

คำพูด​ของ​เขาแต่ละคำ มันส่อความหมาย​กรุ้มกริ่ม​แฝงอยู่ด้วย

ความกังวลใจ​ของ​เย้นหว่าน ค่อยๆคลายลงจนตัวเบา เหมือนมีปีก​โผล่​ขึ้น​มา​ด้านหลัง​ แล้ว​บินขึ้นไปบนฟ้า

เรื่องแบบนี้ โห้หลีเฉินยังสามารถหยอกล้อ​ให้​เธอเขินอายได้อีก

ผู้ชาย​นี้นี่มัน…

เย้นหว่านหันหน้าหนีอย่างอายๆ เธอเริ่มทำตัวไม่ถูก​ “งั้นคืนนี้หลังจาก​เย้นซินกลับมาจากงานเลี้ยง​ คุณ​ก็​บอกกับเธอเลยนะคะ ว่าจะส่งเธอกลับไปวันพรุ่งนี้”

“ได้ครับ”

โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านยิ้มๆ ฝ่ามือใหญ่วางลงบนศีรษะ​ของเย้นหว่าน แล้วลูบเบาๆเหมือนกำลังลูบสัตว์เลี้ยง

ความอบอุ่น​ของฝ่ามือเขา เหมือนกับสามารถถ่ายโอนให้คนอื่นได้ มันค่อยๆถ่ายโอนเข้ามาตรงหนังศีรษะ​ของ​เย้นหว่าน

จนทำให้​เธอรู้สึก​ร้อนไปทั้งตัว หัวใจเต้นแรงเหมือนจะกระเด็น​ออกมาได้

ช่วงนี้​โห้หลีเฉินชักจะร้ายกาจ​ขึ้น​เรื่อยๆแล้ว​ ดึงดูดใจ​คนมากจริงๆ

บรรยากาศ​ในห้องหวานแหววมาก ในเวลาเดียวกัน​ ด้านนอก​ห้อง กลับมีสายตา​ที่อิจฉาริษยา​คู่หนึ่งกำลังจ้องมอง​อยู่หน้าประตู​

เย้นซินยืนเอาหหูแนบบานประตู​ ใบหน้า​ของ​เธอ เต็มไปด้วยความอิจฉา​และ​เคียดแค้น

ก่อนหน้า​นี้​เย้นหว่านพูดถึง​เรื่อง​ส่งเธอกลับบ้านทำให้​เธอรู้สึก​กระวนกระวาย​ใจมาก พอเห็นโห้หลีเฉินกลับมาเเล้ว​ เธอจึงแอบตามมาด้วยความไม่สบายใจ และ​แอบฟังในสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกัน

ผลสุดท้าย​กลับได้ยิน​เย้นหว่านพูดแบบนี้ออกมา

เย้นหว่านคิดจะไล่เธอไปจากที่นี่ และ​ยังพูดกับโห้หลีเฉินแล้วด้วย

แต่คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​โห้หลีเฉินจะตอบตกลงอีกต่างหาก

ถ้าโห้หลีเฉินเป็นคนออกหน้าบอกให้เธอออกไปจริงๆ​ เธอก็ไม่มีข้ออ้างจะอยู่ที่นี่ต่อ ผู้ชาย​คน​นั้น​เย็นชา​ไร้​ความเมตตา​ เธอไม่มีทางต่อต้าน​ได้เลย

แต่ถ้ากลับไปทั้งแบบนี้ เธอจะทำใจยอมรับได้ยังไง​กัน

เย้นซินร้อนใจ​จนแทบจะบ้า จนได้ยินเสียง​ก้าวเดินดังออกมาจากในห้อง

และ​ได้ยิน​คำพูด​ที่แสนเย็นชา​ของ​โห้หลีเฉินดังขึ้นมา​ “ตอนนี้​เธอยังไม่ออกไปข้างนอก​ ผมไปพูดกับเธอเลย​ดีกว่า​ ถ้าเธอเก็บเสื้อผ้าเรียบร้อย​ คืนนี้ก็สามารถส่งเธอกลับไปได้แล้ว”

เย้นซินหน้าซีดเผือด

และ​ยิ่งโห้หลีเฉินใจร้อน​อยากจะส่งเธอออกไปจากที่นี่ เธอก็แทบไม่เหลือโอกาส​จะอยู่​ที่นี่ต่อได้เลย

พอได้ยิน​เสียง​ก้าวเดิน​ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เย้นซินก็ไม่มีเวลาได้คิดอะไรอีก เธอหันหลัง​แล้ว​รีบวิ่งออกไปข้างนอก

ตอนนี้เธอคิดได้อยู่​อย่างเดียว คือต้องไม่เจอกับโห้หลีเฉิน ไม่ปล่อยโอกาส​ให้​เขาพูดว่าจะส่งเธอกลับไปจากปากเขา

สามารถยื้อเวลาไว้ได้เท่าไหร่​ก็เท่านั้น​

โชคดี​ที่​เธอโกหกเย้นหว่านไปว่าคืนนี้มีงานเลี้ยง​ต้องไปร่วมงาน​ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีโอกาสวิ่งออกมาได้

หลังจาก​ที่เย้นซินวิ่งออกมาจากบ้านพัก เพื่อหลบหน้า​โห้หลีเฉิน เธอจึงวิ่งออกมาสุดแรง แล้วโบกมือ​เรียกรถแท็กซี่​ ตรงเข้าไปในเมือง

เธอเดินอยู่บนถนนอย่างทำอะไรไม่​ถูก​ และ​กำลังคิดหาวิธี​แก้​ไข

เธอเดินไปเรื่อยๆ ก่อนจะเห็นร้านขายสินค้าสำหรับ​ผู้ใหญ่​อยู่​ข้างทาง

เธอจึงหยุดเดิน แล้ว​แววตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมา เหมือนนึกอะไรดีๆได้แล้ว

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท