บทที่ 208 เพียงแค่เข้าใจผิด?
เขาเอ่ยถาม “เข้าใจผิด? งั้นตอนที่พึ่งเจอกับผม ทำไมคุณต้องเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดผมด้วยล่ะ?”
เย้นหว่านรีบอธิบาย “นั้นเป็นเพราะข้างหลังเขาผลักฉันมา แล้วฉันเองก็ไม่มีที่ยึดเอาไว้”
ฉูรั่วไป๋เอ่ยถามอีก “งั้นตอนที่ผมให้ห้องคุณ ทำไมคุณถึงบอกว่าไม่รังเกียจที่จะนอนห้องผม แล้วยังอยู่ต่อได้อีก เย้นหว่าน คุณไม่ใช่เด็กนะ คุณควรจะรู้ว่าสำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้วมันเหมือนเป็นการบอกเป็นความนัย”
ทันในนั้นในหัวของเย้นหว่านก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรม
“นั้นเป็นเพราะว่าคุณอุตส่าห์มอบห้องนั้นให้ฉัน มันเป็นความหวังดีจากคุณ ฉันจะไปรังเกียจที่จะอยู่ในห้องนั้นได้ยังไง?”
เมื่อพูดจบเย้นหว่านก็พูดขึ้นมาอีกประโยคด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “หรือถึงจะไม่ชอบก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด ฉันเลยไปนอนที่โซฟา”
แม้ว่าประโยคหลังของเย้นหว่านจะเบาแค่ไหน แต่ฉูรั่วไป๋ก็ได้ยิน
ฉูรั่วไป๋ตัวแข็งทื่อในทันที เขาถึงกลับมุมปากกระตุก มองเย้นหว่านด้วยสีหน้าตะลึง
นี้ความหมายของเธอคือ เธอไม่ชอบเตียงที่เขานอนไปแล้วงั้นเหรอ?
ทันใดนั้นความรู้สึกของเขาก็ราวกับถูกดิ่งลงมาก นั้นยิ่งทำให้ฉูรั่วไป๋ไม่กล้าที่จะมองหน้าเย้นหว่านตรงๆ
เขากัดฟันแน่น ถามออกไปอีกครั้งอย่างไม่ยินยอม
“งั้นคุณมาที่บ้านผมกลางดึกทำไม?”
“ก็คุณบอกให้ฉันมาดูต้นฉบับไงคะ!”
เมื่อพูดเรื่องนี้สีหน้าของเย้นหว่านก็เต็มไปด้วยความโกรธ ใจจริงที่เธอมาก็เพื่อชื่นชมผลงานของไอดอลตัวเอง ทว่าผลลัพธ์กับถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิงที่เร่เข้าบ้านผู้ชายถึงที่
ฉูรั่วไป๋ถึงกับปล่อยไก่
เมื่อเห็นท่าทางโมโหของเย้นหว่าน คนที่ผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วนอย่างเขาก็รู้สึกว่าคืนนี้เขาได้กลายเป็นคนหลงตัวเองไปแล้ว
เย้นหว้านไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่เขาคิด…..
“อะแฮ่ม”
ฉูรั่วไป๋กระแอมในลำคอแก้เก้อ ก่อนจะปล่อยเย้นหว่าน
เมื่อได้รับอิสระแล้ว เย้นหว่านก็เดินออกไปด้านข้างอีกสองสามก้าว ถอยห่างจากฉูรั่วไป๋อย่างระมัดระวัง
ในขณะที่เธอกำลังถอยห่างจากฉูรั่วไป๋ ก็เห็นว่าฉูรั่วไป๋ไม่ได้ทำอะไรอีก เขาเพียงเดินกลับเข้าไปนั่งโซฟาในห้อง
ผ่านไปสักพักก็ไม่มีใครพูดอะไรจึงทำให้บรรยากาศเงียบและน่าอึดอัด
หลังจากนั้นเย้นหว่านก็ได้เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นเพราะฉูรั่วไป๋เข้าใจผิด
คิดว่าเรื่องของเธอเมื่อตอนกลางวันนั้นเพื่อที่จะดึงดูดความสนใจจากเขา
ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งก็ยิ่งยินดียอมรับ
มุมปากของเย้นหว่านถึงกลับกระตุก การใช้ชีวิตส่วนตัวของฉูรั่วไป๋นั้นไม่ใช่ว่าทำตามใจตัวเองเกินไปหน่อยเหรอ?
แล้วนี่ยังจะมาว่าทั้งคู่ยินยอมเป็นคู่นอนกันคืนหนึ่ง
ฉูรั่วไป๋รินไวน์ก่อนจะยกขึ้นมาดื่ม เพื่อที่จะพยายามระงับสติอารมณ์ของตัวเองให้สงบลง
ที่ผ่านมาเรื่องผู้หญิงเขาไม่เคยพลาด ยังถือว่ามีโชคในเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ไม่คาดว่าครั้งนี้เขาจะมองผิดพลาดไป ทั้งยังเป็นเหตุการณ์ที่เขาเผลอปล่อยไก่ไปอีก
มันถือว่ากลายเป็นความล้มเหลวของเขา
ฉูรั่วไป๋ไม่สบายใจ หลังจากนั้นสักพักเขาก็หยัดตัวลุกขึ้นมายืนใหม่แล้วเดินไปหาเย้นหว่านอีกครั้ง
เย้นหว่านตัวเกร็ง มองเขาด้วยสายตาระแวง
“คุณฉู คุณ คุณ…..” ยังคิดจะทำอะไร
เย้นหว่านรีบร้อนเดินไปข้างประตูวางแผนที่จะเตรียมหนีออกไป
เมื่อฉูรั่วไป๋มองไปที่ท่าทางระแวงของเย้นหว่าน นี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผู้หญิงที่ทั้งระแวงและกลัวเขาขนาดนี้ ราวกับว่าเขาเป็นหายนะ
และนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เขาถูกทอดทิ้งหลังจากหนึ่งวัน ไม่เคยมีผู้หญิงเปลี่ยนใจจากเขา
ฉูรั่วไป๋อดที่จะสงสัยในเสน่ห์ของเขาไม่ได้
“ผมไม่เคยบังคับผู้หญิง เพียงแค่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ผมจะไม่แตะต้องคุณ”
ฉูรั่วไป๋ให้สัญญาอย่างใจกว้าง
เขายืนอยู่ห่างออกไปสองสามเมตร ใต้แสงไฟ เขายังดูหล่อเหลาและดูสมาร์ท
ทำให้จิตใต้สำนึกของผู้คนวางใจต่อเขา
เย้นหว่านที่มองดูฉูรั่วไป๋อยู่ตลอดก็รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย สำหรับคนอย่างฉูรั่วไป๋แล้วมันยังมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถเข้าใจได้
คิดดูแล้ววันนี้เขาดูแลเธอดีมาก ทั้งเอาของให้ทั้งพาออกมาเดินเล่น จุดประสงค์ทั้งหมดก็เพื่อจะได้หลับนอนกับเธอ
แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องของเขาแล้ว ถ้าเขาจริงใจ คืนนี้เธอก็คงจะไม่หนีไปไหน
แต่หลังจากที่เข้าใจแล้วว่าเข้าใจผิด ฉูรั่วไป๋เขาก็ยอมปล่อยเธอทันที และยังแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาว่าจะไม่ทำอะไรเธอ
ดูแล้วก็ยังถือว่าเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้าง
แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ บรรยากาศระหว่างเธอกับเขาคงอึดอัดน่าดู เย้นหว่านกระพริบตาถี่ก่อนจะพูดออกมาว่า
“นี่ก็ดึกมากแล้ว เดี๋ยวฉันของตัวกลับก่อนนะคะ”
เย้นหว่านเดินไปที่หน้าประตู เมื่อเปิดประตูก็พบว่าฉูรั่วไป๋เพียงแค่มองมา ไม่ได้ขัดขวางอะไร เย้นหว่านจึงวางใจ
ฉูรั่วไป๋ที่รักษาระยะห่างจากเธอเดินตามเธอไป
“เดี๋ยวผมไปส่งที่โรงแรม”
เย้นหว่านปฏิเสธออกไป “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันกลับเองดีกว่า”
เมื่อเห็นหญิงสาวตัวเล็กอย่างเธอมองมาที่เขาด้วยสายตาระแวดระวังดวงตาของฉูรั่วไป๋ก็ถึงกับมืดครึ้มลง ภายในใจไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
ทันใดนั้นเขาก็คว้ามือเธอเอาไว้
เย้นหว่านที่เมื่อครู่พึ่งผ่อนคลายได้ก็เริ่มกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง มาไปที่ฉูรั่วไป๋อย่างตื่นตระหนก
“คุณฉู คุณ….”
“เย้นหว่าน”
ฉูรั่วไป๋เอ่ยเรียกชื่อเย้นหว่านเสียงต่ำ ขัดจังหวะการพูดของเธอ
เขามองเธออยู่ตลอด เขายกยิ้มมุมปากก่อนจะพูดออกมา “คุณไม่ต้องระแวงผมหรอก ถ้าผมจะทำอะไรคุณผมคงทำไปแล้ว ต่อไปพวกเรายังต้องทำงานด้วยกัน เรื่องคืนนี้มันเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดไม่ใช่เหรอ? ผมชอบนิสัยคุณนะ เรายังเป็นเพื่อนกันได้”
เย้นหว่านลังเล “เพื่อน?”
“ใช่ แค่เพื่อนธรรมดา”
ฉูรั่วไป๋หยักไหล่ก่อนจะพูดยิ้มๆ “หรือว่าคุณอยากมีความสัมพันธ์แบบชายหญิงมากกว่าแบบเป็นเพื่อนกันล่ะ”
“มะ ไม่”
เย้นหว่านส่ายหัว ก่อนที่หน้าจะเริ่มแดงอีกครั้ง
เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด และฉูรั่วไป๋ก็ยอมปล่อยเธออย่างง่ายดาย นี้ก็เป็นหลักฐานได้ว่าเขาก็ยังเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมอยู่
และในสังคมนี้ชายหญิงส่วนมากก็มักจะเห็นเรื่องการวันไนท์แสตนเป็นเรื่องปกติ พูดได้เลยว่าฉูรั่วไป๋ก็เป็นเพียงผู้ชายรักสนุกคนหนึ่งเท่านั้น
ไม่เกี่ยวกันว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ฉูรั่วไป๋ก็ถือว่าเป็นไอดอลของเธอ แค่เป็นเพื่อนกันทำไมจะทำไม่ได้
เมื่อคิดดูแล้วเย้นหว่านจึงพยักหน้า “เป็นเพื่อนกันก็ดี ถ้าคุณไม่รังเกียจที่ฉันเป็นเพียงพวกมือใหม่ล่ะก็นะ”
เมื่อเห็นว่าเย้นหว่านตอบรับแล้ว ฉูรั่วไป๋ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เขายิ้ม “ไม่เป็นไร ในช่วงเวลาแลกเปลี่ยนสั้นๆ นี้ ถ้าคุณมีอะไรไม่เข้าใจก็ถามผมได้ตลอด”
ฉูรั่วไป๋เปรียบได้ว่าเป็นเทพเจ้าในโลกนักดีไซน์เนอร์ ถ้าเขายินดีให้คำแนะนำกับเธอ มันก็คงจะเป็นประโยชน์มาก
ความขุ่นเคืองในใจของเย้นหว่านก็เริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ
เธอพยักหน้า
ฉูรั่วไป๋จึงปล่อยมือที่จับเย้นหว่านอยู่ ก่อนจะเอากุญแจรถออกมา “ไปกันเถอะ ผมไปส่งคุณที่โรงแรม”
ฉูรั่วไป๋ถือได้ว่าเป็นผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษและมีอารมณ์ขันคนหนึ่ง แม้ว่าจะเพิ่งเกิดเรื่องน่าอายขึ้น เขาก็สามารถปรับเปลี่ยนสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
ระหว่างที่ไปส่งเย้นหว่านเขาก็ยังพูดคุยกับเธอด้วยท่าทีเป็นตัวของตัวเอง ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
บรรยากาศน่าอึดอัดระหว่างทั้งคู่จึงค่อยๆ ลดหายไป
เมื่อไปถึงหน้าประตูโรงแรม เย้นหว่านลงรถเรียบร้อยแล้วก็หันไปโบกมือให้ฉูรั่วไป๋ที่อยู่ฝั่งคนขับ
“คุณฉู ขอบคุณที่มาส่งฉันนะคะ คุณก็ขับรถกลับปลอดภัยนะคะ”
“โอเค พรุ่งนี้เจอกันครับ”
ฉูรั่วไป๋ยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็ขับรถออกไป
เมื่อเห็นว่ารถแล่นออกไปไกลจนกระทั่งลับสายตาแล้ว เย้นหว่านก็วางใจได้อย่างสนิทใจ
วันนี้เป็นวันที่เธอทั้งตื่นเต้นทั้งเหนื่อยเลยล่ะ