บทที่ 193 อยากจะให้เธอขายหน้า
ลู่หย่วนฟานเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเป็นคนฉลาด จึงเข้าใจเรื่องราวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบพูดเอาใจ “คุณโห้ชมกันเกินไปแล้วครับ ถึงภรรยาของผมจะดียังไง ก็เทียบกับคู่หมั้นของคุณโห้ไม่ได้หรอกครับ คุณเย้นไม่ใช่แค่หน้าตาสวย แต่ยังมีความสามารถมากด้วย เป็นแบบอย่างที่ดีของผู้หญิงทุกคน ถ้าพวกคุณแต่งงานกันแล้ว คุณเย้นจะต้องเป็นภรรยาที่ยอดเยี่ยมแน่นอนครับ”
พอได้ยินคำพูดที่เหมือนพูดเอาใจ เย้นหว่านก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ
ผู้ชายคนนี้พูดประจบประแจงมากเกินไปหรือเปล่า แล้วอีกอย่าง เธอเป็นแค่คู่ควงเท่านั้นเอง จะพูดประจบ ก็ควรจะพูดประจบโห้หลีเฉิน จะมาพูดประจบเธอทำไมกัน
แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า โห้หลีเฉินจะพอใจมาก ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ปรากฏรอยยิ้มบางๆออกมา
ท่าทางแบบนี้ เป็นเรื่องที่น่าตกใจของทั้งสองคนมาก และคืนนี้ ยังไม่เคยมีใครได้รับการต้อนรับที่ดีแบบนี้มาก่อน
แขกเหรื่อที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านข้าง เริ่มคิดแผนการในใจ
แขกที่เคยเดินเข้าไปชนแก้วด้วยต่างพากันอิจฉาตาร้อน ถ้ารู้อย่างนี้จะเดินไปชนแก้วช้ากว่านี้แล้ว เย้นหว่านยืนเคียงข้างโห้หลีเฉินกับมู่หรุงชิ่นยืนเคียงข้าง สถานการณ์ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
ตอนที่มู่หรุงชิ่นอยู่ รอบตัวโห้หลีเฉินมีแต่ความเยือกเย็น จนสามารถแช่แข็งคนรอบข้างได้
แต่พอเป็นเย้นหว่าน โห้หลีเฉินกลับมีสีหน้ามีความสุข และยังมีรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นง่ายๆ ดูน่าเข้าใกล้มากกว่าหลายร้อยเท่า
แล้วอีกอย่าง แค่เอ่ยชมเย้นหว่าน ก็สามารถทำให้อนาคตบริษัทของพวกเขาก้าวหน้า สำหรับนักธุรกิจแล้ว มันเป็นเรื่องดีที่ทุกคนต่างคาดหวังไว้
สายตาของทุกคนต่างก็มองมาทางเย้นหว่าน และจำหน้าเธอให้ชัดเจน ในใจเริ่มรู้สึกเคารพนับถือเธอขึ้นมาหลายส่วน
ทุกคนต่างคิดสารพัดวิธีมาชื่นชมเย้นหว่าน ถ้าสามารถทำให้เย้นหว่านดีใจได้ ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่
ดังนั้น หลังจากนั้นสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปจนเย้นหว่านงุนงง
ทั้งๆที่คืนนี้เป็นวันเกิดของโห้หลีเฉิน ส่วนเธอเป็นแค่คู่ควง แต่แขกที่มาร่วมงานกลับให้ความสนใจมาที่เธอกันหมด ไม่ใช่กล่าวชื่นชม ก็สรรหาสารพัดวิธีมาเอาใจเธอ จนทำให้เย้นหว่านรู้สึกว่าคืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของเธอซะอีก
แล้วโห้หลีเฉินยังดูมีความสุขมากกับภาพเหตุการณ์นี้ ไม่มีความรู้สึกไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย
เย้นหว่านชนแก้วกับหนึ่งในแขกที่มาร่วมงาน ก่อนจะหันกลับไปมองทางโห้หลีเฉิน แล้วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้ คิดจะใช้เธอเป็นเกราะป้องกันอย่างนั้นสินะ
ถึงแม้จะไม่พอใจ แต่เย้นหว่านก็ยังยิ้มอยู่เหมือนเดิม เธอยืนคุยกับแขกในงานอย่างอดทน
โห้หลีเฉินยกมือขึ้นมาโอบเอวเย้นหว่าน แล้วก้มตัวลงเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะเลื่อนลงมาข้างหูเธอ
เขาพูดเสียงต่ำ “เหนื่อยไหมครับ อยากจะพักก่อนไหม”
เสียงของเขาเบามาก ตอนที่พูดลมหายใจร้อนของเขาพ่นเข้ามาในหูของเธอ ทำให้เธอทั้งอบอุ่นทั้งจั๊กจี้
ใบหูของเย้นหว่านแดงขึ้นมาทันที เธอขยับตัวหนีเล็กน้อย
“มีอีกหลายคนที่รออยู่ ถ้าฉันไปพัก คุณรับมือคนเดียวไหวเหรอคะ”
“ผมจะไปพักผ่อนพร้อมคุณ”
โห้หลีเฉินพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
เย้นหว่านริมฝีปากกระตุก เธออยากจะพูดจริงๆ ว่าคืนนี้เป็นงานวันเกิดของเธอหรือไง โห้หลีเฉินคิดจะใช้เธอเป็นเกราะป้องกันจริงๆด้วย
ในเมื่อหนีไม่พ้น เย้นหว่านจึงทำได้เพียงรีบทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จ เธอจึงส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันไม่เหนื่อยค่ะ ไม่ต้องพักก็ได้”
สายตาที่โห้หลีเฉินจ้องมองเย้นหว่านลึกซึ้งและน่าหลงใหลมาก
เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “ที่แท้ คุณก็ใส่ใจเรื่องชื่อเสียงของผมมาเหมือนกัน”
ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งใส่ใจเรื่องชื่อเสียงของผู้ชาย นั่นก็หมายความว่าเธอสนใจผู้ชายคนนี้ และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนในครอบครัวด้วย
แต่เย้นหว่านกลับไม่ได้คิดอะไรมากมายเหมือนโห้หลีเฉิน เธอแค่คิดว่า ในเมื่อตอบตกลงจะมาเป็นคู่ควงของเขาแล้ว เธอก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็เท่านั้น
ทั้งสองต่างคิดไปคนละแบบ แต่กลับเหมาะสมกันมาก
บรรยากาศทั้งงาน ดูเหมือนจะดีขึ้นมาก เพราะบรรยากาศรอบตัวของเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินพาไป
เว่ยชีที่ยืนอยู่ด้านข้าง ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
เจ้านายอุตส่าห์เตรียมงานนี้มานาน นับว่าเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ หลังจากคืนนี้ไป ทั่วทั้งเมืองเฉิงหนานคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเย้นหว่าน และไม่มีใครไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินเอาใจใส่เย้นหว่านมากแค่ไหนแล้วล่ะ
ตำแหน่งคุณนายน้อยตระกูลโห้ ต้องเป็นของเย้นหว่านอย่างแน่นอน
มีสายตาอิจฉาอยู่หลายคู่ และก็มีอีกหลายคู่ที่ริษยา
มู่หรุงชิ่นเดินออกจากงานอย่างอับอายขายหน้าบรรดาเพื่อนของเธอทนดูต่อไปไม่ไหว จึงมองหน้าเย้นหว่านอย่างแค้นเคือง ในสายตาของพวกเธอ ตำแหน่งข้างๆโห้หลีเฉินมีแค่มู่หรุงชิ่นที่คู่ควรยืน ส่วนเย้นหว่านก็แค่ลูกสาวครอบครัวธรรมดา ไม่มีอะไรเลย มีสิทธิ์อะไรมาแข่งกับมู่หรุงชิ่น
มีหลายคนที่ทนไม่ไหว จึงปรึกษากันสักพัก แล้วเดินไปชนแก้วอวยพร
“คุณโห้ คุณเย้น พวกเราเองก็ขอชนแก้วด้วยค่ะ”
หญิงสาวทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน ในมือของแต่ละคนต่างก็จับแก้วไวน์ไว้
ตอนที่เย้นหว่านเห็นหน้าพวกเธอพวกเธอ ก็อดจะชะงักไปไม่ได้ เธอจำได้แม่น ว่าพวกเธอคือกลุ่มที่พูดดูถูกเธอสารพัดตรงประตูทางเข้างานเลี้ยง
พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทของมู่หรุงชิ่น ตอนนี้มาขอชนแก้วด้วย เห็นได้ชัดว่ามันต้องไม่ง่ายดายถึงขนาดนั้น
แต่คนรอบข้างกำลังดูอยู่ เย้นหว่านจึงควบคุมอารมณ์ไม่พอใจของตัวเองไว้ แล้วรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ เธอพยักหน้าให้ แล้วชนแก้วกับพวกเธอ
หญิงสาวทั้งสองคนจิบไวน์เล็กน้อย ก่อนที่หนึ่งในสองคนนั้นจะพูดขึ้นมา “คุณเย้นคะ คุณโห้ดีกับคุณจริงๆเลยนะคะ คุณคงดื่มเหล้าไม่ค่อยเก่งใช่ไหมคะ ในงานแบบนี้ ยังเตรียมน้ำส้มไว้ให้คุณด้วย”
คำพูดนี้ กลุ่มคนที่มาชนแก้วด้วยก่อนหน้านี้ ต่างก็รู้เรื่องกันหมดแล้ว
เย้นหว่านจึงยิ่งแปลกใจ ว่าทั้งสองคิดจะทำอะไรกันแน่ เธอไม่เชื่อหรอกว่าพวกเธอจะมาอวยพรให้อย่างเต็มใจ
และเป็นไปตามที่เธอคาด หญิงสาวอีกคนพูดขึ้นมา “คุณเย้นเป็นคู่หมั้นของคุณโห้ พวกคุณดูรักกันมากขนาดนี้ คุณเย้นคงจะเตรียมของขวัญวันเกิดมาให้คุณโห้ด้วยใช่ไหมคะ และคงจะเป็นของขวัญที่ราคาแพงมากด้วยสินะคะ”
“จริงด้วยค่ะ เมื่อตะกี้ฉันเดินผ่านจุดวางของขวัญวันเกิดมา จึงเดินไปดูว่าคุณเย้นให้ของขวัญอะไรกับคุณโห้ พวกเราจะได้มีบุญตาที่เห็น แต่ว่า ไม่ว่าจะดูยังไงก็ไม่เห็นของขวัญที่คุณเย้นให้เลย”
“ของขวัญที่คุณเย้นให้คงจะราคาแพงมากแน่ๆเลย เพราะมีแค่ของมีค่าราคาแพงถึงจะคู่ควรกับคุณโห้ คุณเย้นอยากจะให้ของขวัญกับคุณโห้เองกับมือสินะคะ ถึงได้ไม่เอาไปวางรวมกัน พอจะเอาออกมาให้พวกเราดูให้เป็นขวัญตาหน่อยได้ไหมคะ”
สองสาวพูดส่งเสริม จนเย้นหว่านกลายเป็นจุดเด่นในงาน และทำให้ของขวัญของเธอกลายเป็นจุดเด่นในงานไปด้วย
แต่ตรงจุดวางของขวัญไม่มีของขวัญของเย้นหว่านอยู่ในนั้น ถ้าเย้นหว่านไม่เอาของขวัญออกมาตอนนี้ ก็จะกลายเป็นว่าเธอไม่ได้เตรียมของขวัญมาด้วย ยิ่งถูกเชิดชูไว้สูงแค่ไหน ตกลงก็ยิ่งเจ็บ
คนที่มาร่วมงาน ทุกคนต่างก็เตรียมของขวัญราคาแพงมาให้โห้หลีเฉินด้วย และเย้นหว่านที่เป็นตัวหลักของงานในคืนนี้ ในสายตาของทุกคน ของขวัญที่เย้นหว่านเตรียมมาจึงเป็นที่น่าสนใจมาก
สายตาของทุกคนในต่างมองมาที่เย้นหว่าน ต่างตั้งตารอดูว่าเย้นหว่านให้ของขวัญเป็นอะไร
เย้นหว่านย่นคิ้วเล็กน้อย เธอเพิ่งจะเข้าในเดี๋ยวนี้เอง ที่แท้พวกเธอก็มีเป้าหมายนี้นี่เอง
อยากจะใช้เรื่องของขวัญทำให้เธอขายหน้าสินะ