บทที่ 281 เสื้อผ้าตัดตามสั่ง
ไม่ใช่โห้หลีเฉิน
เย้นหว่านไม่รู้ว่าจะผิดหวังหรือโล่งอกไปทีหนึ่งดี
ไม่นานเธอก็ปรับอารมณ์ของตนเองได้ ยิ้มไว้แล้วพูดไป
“คุณฉู คุณมาหาฉันมีธุระเหรอคะ? เชิญเข้ามาก่อนค่ะ”
ฉูรั่วไป๋ยืนอยู่หน้าประตู “ตอนนี้คุณมีเวลาว่างไหม? ผมอยากพาคุณไปที่หนึ่ง”
เมื่อคืนหลังจากลากันหลังงานเลี้ยงสิ้นสุด อีกสองวันก็จะไปจากเมืองเจียงแล้ว และไม่มีการจัดเตรียมงานใดอีก นอกจากเก็บกระเป๋าเดินทาง เวลาว่างนั้นย่อมมีแน่
เย้นหว่านพยักหน้า “นั้นคุณรอฉันสักครู่นะ ฉันจะไปหยิบกระเป๋า”
เย้นหว่านรีบเข้าไปหยิบกระเป๋าในห้องพัก และเดินออกมาอีกครั้ง
ฉูรั่วไป๋มองเธออยู่ สายตาล้ำลึกและมีความซับซ้อน “ไปเถอะ”
เย้นหว่านกับฉูรั่วไป๋พึ่งเดินมาได้มานาน โห้หลีเฉินก็ปรากฏตัวขึ้นนอกประตูห้องพักของเย้นหว่าน
ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่หน้าประตู ลักษณะหยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเคย ภายในความสุขุมนั้นกลับเผยความประหม่าออกมานิดๆ
ลังเลอยู่หลายวินาที โห้หลีเฉินถึงยื่นมือ เคาะประตูแล้ว
“ก๊อกๆๆ”
สักพักหนึ่ง ทว่าไม่มีคนตอบรับ
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เช้าขนาดนี้ หรือเย้นหว่านไม่อยู่?
เขารีบหยิบมือถือออกมาโทรศัพท์หาเว่ยชี “รู้ไหมว่าเย้นหว่านอยู่ที่ไหน?”
เว่ยชี “ผมจะหาเดี๋ยวนี้ครับ”
ไม่นานเว่ยชีก็โทรศัพท์เข้ามาอีกที
“คุณผู้ชายครับ ยี่สิบนาทีก่อน คุณเย้นตามคุณฉูออกไปจากโรงแรมแล้วครับ”
ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของโห้หลีเฉินก็เย็นชาลงมา
รอบตัวปกคลุมด้วยไอเย็นที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัว
และความคิดอย่างหนึ่งผุดขึ้นในจิตใจของเขา เมื่อคืนเย้นหว่านพึ่งทำแบบทดสอบความรักไป วันนี้ออกไปข้างนอกด้วยกันกับฉูรั่วไป๋แล้ว
หรือว่าแบบทดสอบที่เธอทำเมื่อคืน คนที่ชอบเป็นฉูรั่วไป๋?
นึกถึงความเป็นไปได้อันนี้ หัวใจของโห้หลีเฉินเหมือนถูกอะไรบีบไว้เสียอย่างนั้น แม้แต่จะเต้นขยับสักหน่อยยังยากลำบากเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด และความรู้สึกหวาดกลัวเหมือนกับจะสูญเสียอะไรไปกำลังห่อหุ้มเขาอยู่
คาดไม่ถึงเขารู้สึกว่าเท้าเหยียบบนพื้นอากาศ แต่กลับสัมผัสพื้นที่จริงไม่เจอ
คาดไม่ถึงจะรู้สึกลนลาน
“พวกเขาอยู่ที่ไหน?”
เว่ยชีรีบตอบคำถาม “ดูทิศทางแล้ว ไปที่คฤหาสน์ของฉูรั่วไป๋ครับ”
“เตรียมรถ เข้าไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบ โห้หลีเฉินวางสายโทรศัพท์ ก้าวยาวสวบๆ เหมือนดาวตกเดินไปทางด้านล่างตึก
เขารอไม่ไหวแม้สักวินาทีเดียว เขาอยากจับเย้นหว่านกลับมา
เขาไม่ยินยอมให้เธออยู่ด้วยกันกับฉูรั่วไป๋อีกแล้ว ไม่ยอมให้พวกเขาอยู่กันตามลำพัง ยิ่งไม่อนุญาตให้พวกเขาคบกัน!
เขาไม่อยากได้ยินแม้กระทั่งเย้นหว่านพูดคำตอบของเมื่อคืนนี้ออกมาด้วย เขายอมให้ผลลัพธ์แบบทดสอบเมื่อคืนของเธอเป็นNO
เย้นหว่านถูกฉูรั่วไป๋ขับรถพามาถึงคฤหาสน์ของเขา
มองคฤหาสน์หลังเล็กที่แยกตัวโดดเดี่ยวหลังที่อยู่ตรงหน้านั้น เย้นหว่านใจลอยนิดหน่อย จำได้ว่าวันนั้นที่เธอพึ่งมาถึงเมืองเจียง ฉูรั่วไป๋ก็พาเธอมาที่คฤหาสน์หลังนี้
ตอนนั้นเขายังเป็นคุณชายเสเพลที่มีเจตนาไม่ดีอยู่เลย และเกือบจะกินเธอไปแล้ว
พูดถึงความเซ่อซ่านั้นก็เป็นเรื่องที่กระอักกระอ่วนที่สุด และทำให้พวกเธอกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเช่นนี้
เรื่องราวบางอย่างทำให้คนรู้สึกทอดถอนใจอย่างบังเอิญ
“เป็นอะไรเหรอ?”
ฉูรั่วไป๋เห็นเย้นหว่านใจลอย จึงถามเธออย่างเป็นห่วง
เย้นหว่านส่ายหน้า “ไม่มีอะไร คุณพาฉันมาทำอะไรที่นี่?”
“คุณเข้าไปแล้วก็รู้เอง”
ฉูรั่วไป๋หัวเราะอย่างความหมายลึกซึ้ง เดินเข้าไปเปิดประตูออกก่อน
เย้นหว่านตามฉูรั่วไป๋เข้าไปแล้ว มาถึงห้องใหญ่ที่สว่างไสวตรงชั้นหนึ่งนั้น
ภายในห้อง มีหน้าต่างชมวิวขนาดใหญ่บานหนึ่ง ด้านนอกเป็นสวนหย่อมด้านหลังที่ดูดี พืชพรรณเจริญงอกงามดีมาก และอีกสามด้านที่เหลือล้วนเป็นกระจกใหญ่ที่ติดพื้น สามารถมองเห็นตนเองได้จากทุกมุม
นอกจากนั้นแล้วที่นี่ก็ไม่มีของประดับตกแต่งใดๆ มีเพียงตรงกลางของห้องที่ตั้งแบบหุ่นคนตัวหนึ่งไว้
และบนตัวของหุ่น ใส่ชุดกระโปรงที่สะดุดตามากตัวหนึ่ง
กระโปรงสีเหลืองอ่อน ใช้เพชรเม็ดเล็กสีขาวมาประดับ ทันสมัยและดูเป็นทางการ สามารถใส่เดินเล่นบนท้องถนนได้อย่างสง่าผ่าเผย และสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงแบบสาวบริสุทธิ์ได้
เสื้อผ้าชุดนี้นำความทันสมัยและความเป็นทางการมาผสมด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ
“สวยจริงๆ เลย! นี่คือแบบใหม่ที่คุณออกแบบเหรอ?”
ดวงตาเย้นหว่านมองเสื้อผ้าชุดนี้อย่างไม่กะพริบ อดประหลาดใจไม่ได้
ไม่เสียแรงที่ฉูรั่วไป๋เป็นไอดอลของเธอ ผลงานที่ลงมือแต่ละครั้งล้วนทำให้เธอชอบอย่างยิ่ง และความคิดที่ทันสมัยและเป็นทางการอันนี้ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าสะดวกต่อการใช้ประโยชน์มากๆ ด้วย
เย้นหว่านเป็นคนที่เกิดมาในครอบครัวเล็กๆ ต่อมาเพราะความสัมพันธ์ของโห้หลีเฉิน จึงเริ่มออกงานเลี้ยงระดับสูง ตอนนี้เพราะความสัมพันธ์ของงาน และก้าวเข้ามาในวงสังคมไฮโซ จึงหลีกเลี่ยงงานเลี้ยงสารพัดไม่ได้เลย
แต่ความจริงเธอค่อนข้างจะประหยัดเรื่องเงินมาโดยตลอด แต่ชุดราตรีที่ทุกครั้งที่ใส่เข้าร่วมงานเลี้ยง ล้วนทั้งแพงทั้งใช้งานไม่ได้จริง หลังจากที่ใส่ในวันนั้น โดยพื้นฐานก็เก็บใส่กล่องไป
แต่ถ้าเป็นชุดราตรีที่สามารถใส่เดินเหมือนชุดทั่วไปได้ เย้นหว่านรู้สึกว่านี่คือผลงานในเจตจำนงของเธอมากที่สุด
ฉูรั่วไป๋ฉีกมุมปากขึ้นอย่างได้ใจ ทั้งตัวแผ่กระจายสีสันแวววาวของความมั่นใจออกมา
ในอาณาจักรการออกแบบนี้ เขาเป็นหนึ่งในผู้โดดเด่นมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีคนไหนไม่โดนฝีมือของเขาทำให้เลื่อมใสและมหัศจรรย์ใจ
“อืม”
เขาตอบรับไปเบาๆ จากนั้นเดินไปทางหุ่นนางแบบ ยื่นมือถอดชุดนั้นลงมา
เย้นหว่านสงสัย “คุณฉู คุณจะทำอะไรคะ?”
“ชุดตัวนี้ยังไม่มีคนจริงๆ ลองใส่ดูเลย คุณช่วยลองหน่อยได้รึเปล่า?”
ฉูรั่วไป๋ยกกระโปรงไว้ เดินมาตรงหน้าของเย้นหว่าน
มองกระโปรงตัวนี้ที่เธอชอบมากอยู่ เย้นหว่านเต็มใจอย่างมากแน่นอน
“เต็มใจอย่างยิ่งค่ะ”
เย้นหว่านพยักหน้า รับชุดเข้ามาด้วยความระมัดระวัง
ฉูรั่วไป๋ชี้นิ้วไปทางหนึ่ง “ตรงนั้นเป็นห้องลองเสื้อ”
เย้นหว่านมองตามไป ที่นั่นดูเหมือนเป็นเพียงผนังกระจกบานหนึ่งเท่านั้นเอง
แต่เธอเชื่อว่าฉูรั่วไป๋ไม่ได้พูดไร้สาระ เธอไม่สงสัยเขา จากนั้นเดินเข้าไปแล้ว ที่แท้พอเดินเข้ามาใกล้ๆ ก็มองเห็นร่องที่ไม่ชัดเจนมากช่องหนึ่ง ทั้งยังมีที่จับประตูเล็กด้วยอันหนึ่ง
“คุณฉู คุณเป็นพวกลัทธิสมบูรณ์แบบจริงๆ”
เย้นหว่านทอดถอนใจ กระจกผนังบานหนึ่งแบบนี้ ได้ออกแบบประตูบานหนึ่งซึ่งเป็นประตูที่ซ่อนตัว
ฉูรั่วไป๋หัวเราะ “ที่นี่ถือว่าเป็นห้องทำงานของผม ตอนที่ดูผลเสื้อผ้า จะดูที่นี่ทั้งหมด”
ดังนั้นผนังทั้งสามด้านถึงเป็นกระจกทั้งหมด และไม่มีที่บังใดๆ สามารถมองทุกด้านของเสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจมากได้
เป็นท่าทีของนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง
เย้นหว่านคิดว่าเดี๋ยวหลังจากนี้ เธอจะต้องมีห้องทำงานแบบนี้บ้าง
เย้นหว่านกอดชุดเข้าไปในห้องลองเสื้อ อยู่ด้านใน เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความระมัดระวัง
ในนี้ไม่เหมือนกับกระจกด้านนอก ด้านในห้องลองเสื้อมีเพียงกระจกถึงพื้นที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กบานเดียว สามารถทำให้ตนเองมองเห็นว่าใส่เสื้อผ้าดีหรือไม่ แต่กลับมองผลลัพธ์รอบด้านไม่ออก
หลังจากเย้นหว่านใส่เรียบร้อยก็เดินออกไป
หุ่นนางแบบที่ตอนแรกวางอยู่ตรงกลางห้องโดนฉูรั่วไป๋ย้ายออกไปแล้ว เวลานี้ทั้งหมดกลายเป็นพื้นที่ว่างถึงที่สุด พอเธอมองเห็นลักษณะของตนเองจากในกระจกตรงข้ามได้
ในกระจกสามด้าน ล้วนเป็นเธอทั้งหมด
ฉูรั่วไป๋ยืนอยู่ที่ไม่ไกลนัก ตอนที่สายตามองมายังเย้นหว่านก็ตะลึงเล็กน้อย บนใบหน้าหล่อสง่าเป็นความแปลกใจที่ไม่ปกปิดสักนิด
“ชุดตัวนี้ ที่จริงเหมาะกับคุณ”
เย้นหว่านเดินออกมาสองสามก้าว เงยหน้ามองตนเองในกระจก
ชุดสีเหลืองอ่อนขับให้ผิวพรรณของเธอยิ่งขาวนวลขึ้น ลายเส้นที่แนบพอดีตัวนั้น คล้อยตามรูปร่างของเธออย่างสมบูรณ์แบบ และกระโปรงที่กระจุ๋มกระจิ๋มไม่เปิดโล่ง กลับนำบุคลิกของเธอแสดงออกมาได้อย่างมากที่สุด
ทันสมัย และสง่างาม
เย้นหว่านมองตนเองในกระจกอยู่ ในใจเป็นความชื่นชอบที่พูดไม่ออก
แม้กระทั่งเธอยังอดยอมรับอย่างหลงตนเองไม่ได้ว่าชุดตัวนี้ช่างเหมาะสมกับเธออย่างยิ่ง เหมือนว่าตัดตามสั่งเพื่อเธอเลย