บทที่ 300 ประกาศให้ทราบทั้งเมือง
“ทั้งหมด? เดี๋ยวนี้?”
หวางควนมึนงง ดวงตาเบิกโต ลำบากใจอยู่หน่อย “คือว่า……โฆษณาพวกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้ารายใหญ่มากมายจองไว้ล่วงหน้าแล้ว ผลประโยชน์ในนั้นเชื่อมโยงกันมหาศาล จะว่าไปการเปลี่ยนกะทันหันแบบนี้ จะยุ่งยากมาก ถ้าไม่อย่างนั้นคุณให้เวลาสักหน่อย พวกเราจะจัดการประสานงานดู?”
เวลา ตอนนี้สิ่งที่เย้นหว่านขาดมากที่สุดคือเวลา
เธอออกมานานขนาดนี้ ไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
“ฉันไม่มีเวลารอ จำเป็นต้องเปลี่ยนเดี๋ยวนี้”
เย้นหว่านเอ่ยปากอย่างรีบร้อน หยิบเช็คใบหนึ่งจากในกระเป๋ายื่นให้หวางควน “ให้อันนี้คุณไปก่อน ถือว่าเป็นเงินมัดจำ รอเรื่องราวสำเร็จ ฉันสัญญาว่าตระกูลโห้จะทำให้ข้อเรียกร้องของสถานีโทรทัศน์พวกคุณสมหวังแน่”
เรียกขอจากตระกูลโห้ นี่เป็นเรื่องที่คนทั้งเมืองหนานขอก็ขอไม่ได้
ชั่วขณะนั้นหวางควนจิตใจหวั่นไหว มองอีกที ในมือคือเช็คสิบล้านใบหนึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เขียนยังเป็นโห้หลีเฉิน
ถ้าเย้นหว่านออกหน้าตามลำพัง ถึงแม้เธอจะเป็นคู่หมั้นของโห้หลีเฉิน หวางควนก็ยังไม่ค่อยเชื่อว่าเธอจะสามารถเป็นตัวแทนตระกูลโห้ให้ข้อเรียกร้องได้จริง แต่ว่าตอนนี้มองเห็นเช็คใบนี้เป็นลายเซ็นของโห้หลีเฉิน
นั่นหมายความว่าเรื่องนี้คือความคิดของโห้หลีเฉิน!
โห้หลีเฉินเป็นใคร นั่นเป็นท่านประธานของโห้ถิงกรุ๊ป ผู้จัดการของตระกูลโห้ คำพูดของเขาเป็นตัวแทนของทั้งตระกูลโห้
ชั้วขณะนั้นหวางควนไม่ได้ลังเลอะไรทั้งสิ้น พูดยิ้มกริ่ม “ได้ครับ คุณเย้น ไม่ว่าจะต้องชดใช้มากแค่ไหน เดี๋ยวผมจะทำเรื่องนี้ให้เรียบร้อย คุณต้องการหาใครครับ ต้องการเขียนเนื้อหาอะไร คุณขึ้นไปด้วยกันกับผม เดี๋ยวพวกเราจะเปลี่ยนให้”
เห็นหวางควนรับปาก เย้นหว่านจึงโล่งอกไปทีหนึ่ง
เธอไม่ได้ขึ้นไป แต่ว่ารีบหยิบกระดาษและปากกาจากประชาสัมพันธ์มา เขียนเนื้อหาคนที่อยากหาตัวไปด้านบนอย่างรวดเร็ว
“ฉันต้องการให้คุณเปลี่ยนโฆษณาทั้งเมืองหนาน เปลี่ยนเป็นอันนี้ รวมทั้งอุปกรณ์มีเสียงทั้งหมด ก็ต้องประกาศอันนี้ทั้งหมดด้วย ฉันต้องหาคนนี้ให้เจอ เร็วที่สุด!”
หวางควนมองเนื้อหาบนกระดาษ เรียบง่ายมาก: ป่ายฉี เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ขอให้รีบมาที่หน้าประตูโรงพยาบาลอันดับหนึ่งเมืองหนานเย้นหว่านตามหาคุณ!
ข้อความไม่กี่คำนี้ พิมพ์ขึ้นมา เปลี่ยนแทนที่ลงมา เพียงต้องการเวลาไม่กี่วินาทีก็สามารถจัดการเสร็จ
หวางควนรีบตบหน้าอกรับประกัน “คุณเย้นวางใจได้ครับ ผมรับรองว่าเดี๋ยวจะทำเสร็จ”
“คุณจำเป็นต้องทำให้ดี นี่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย ฉันไปก่อนแล้ว”
หลังจากเย้นหว่านกำชับสักนิด ก็รีบร้อนเดินไปทางด้านนอก
ตอนนี้เธอต้องรีบไปรอป่ายฉีที่หน้าประตูโรงพยาบาล
ไม่แน่ว่าเขาอาจกำลังอยู่บนถนน ไม่นานก็มองเห็นแล้ว อาจจะรีบไปถึงหน้าประตูโรงพยาบาลเร็วกว่าเธอเสียอีก
เย้นหว่านออกมาจากสถานีโทรทัศน์ก็ขึ้นรถ ไม่นานเธอก็ได้ยินข่าวในวิทยุลอยมา
ด้านในประกาศวนซ้ำ: ป่ายฉี เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ขอให้รีบมาที่หน้าประตูโรงพยาบาลอันดับหนึ่งเมืองหนานเย้นหว่านตามหาคุณ!
คำพูดนั้นใช้เสียงพูดออกมา เสียงสูงแล้วก็ต่ำลง ทำให้การแสดงออกการเร่งรีบนั้นแบบถึงอกถึงใจอย่างยิ่ง
เย้นหว่านตะลึงเล็กน้อย กระทั่งมีความปลื้มใจนิดๆ ขนาดนั้นแล้ว
ประสิทธิภาพการทำงานของสถานีโทรทัศน์ยังเร็วมาก เธอล้วนได้ยินหมด ไม่นานป่ายฉีน่าจะรู้ได้เช่นกันมั้ง?
น่าจะมั้ง?
เย้นหว่านวาดหวังอย่างตื่นเต้น อยากมีปีกงอกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ บินไปที่ในโรงพยาบาลทันใด
คนขับรถแท็กซี่ได้ยินคำพูดที่รายงานวนซ้ำ ทั้งตกใจทั้งแปลกใจ
“นี่คือเกิดเรื่องอะไรกัน? สถานีถึงเกิดความผิดพลาดกะทันหัน ยังรายงานประโยคแบบวนซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่กลัวทำหูคนฟังเป็นเหน็บชารึไง”
พูดๆ อยู่ คนขับรถก็เปลี่ยนไปอีกช่องใหม่สักหน่อย
แต่ว่าช่องถัดไป ยังเป็นคำพูดประโยคนี้ที่รายงานวนซ้ำ เปลี่ยนอีก ก็ยังใช่
คนขับรถทนไม่ไหว “โธ่เว้ย สถานีนี้โดนไวรัสกันหมดแล้วรึไง?”
เย้นหว่านรู้ว่านี่ไม่ใช่ไวรัส นี่คือการมีเงินมีอำนาจ เรื่องอะไรก็มีคนสามารถทำแทนได้หมด
“ฟังจนหูฉันจะแตกแล้ว ปิดๆ”
คนขับรถยกมืออยากจะปิดวิทยุลง เย้นหว่านยักคิ้ว รีบเอ่ยปากบอก
“อย่าปิด!”
คนขับรถทำหน้ากลัดกลุ้ม “คุณผู้หญิง คำพูดวนกลับไปกลับมาประโยคเดียวแบบนี้ คุณก็อยากฟัง? ไม่รำคาญเหรอ?”
“อืม คุณสนใจแค่ขับรถก็พอ ฉันให้ราคาคุณสามเท่า คุณใช้ความเร็วที่สุดขับไปที่โรงพยาบาลอันดับหนึ่ง”
เย้นหว่านขมวดคิ้ว พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ได้ยินราคาสามเท่า ชั่วขณะนั้นคนขับรถไม่มีความคิดอะไรอย่างอื่นเลย รวบรวมสมาธิร้อยเปอร์เซ็นต์ ขับรถอย่างรวดเร็ว
บนถนน เย้นหว่านหันหน้ามองนอกหน้าต่าง เห็นเพียงโฆษณาบนตึกใหญ่พวกนั้นล้วนเปลี่ยนมาขยายใหญ่ หนาขึ้น คำพูดประโยคนั้นเลื่อนกลับไปกลับมาบนหน้าจอ
เธอทอดถอนใจอีกครั้ง ประสิทธิภาพการทำงานของสถานีโทรทัศน์ไม่เลวเลย
กลับไม่รู้ว่าเพียงอาศัยสถานีโทรทัศน์แห่งนี้จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะทำเรื่องมากมายขนาดนี้ภายในเวลาสั้นขนาดนั้น แต่ว่าเพราะหวางควนนำข่าวนี้เผยแพร่ออกไป และบอกกับบริษัทใหญ่ๆ ว่านี่คือเรื่องที่โห้หลีเฉินต้องการทำ
บริษัทแต่ละกิจการทั้งเมืองหนาน รีบมอบความสามารถอันเต็มที่ให้ในชั่วขณะนั้น
และหลังจากนั้นตอนนี้บนถนนยังมีทีมกลองคล้องเอวส่วนหนึ่งยังเดินออกมาด้วย ดึงป้ายไว้ ตีกลอง ร้องว่า: ป่ายฉี เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ขอให้รีบมาที่หน้าประตูโรงพยาบาลอันดับหนึ่งเมืองหนานเย้นหว่านรออยู่!
เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที ข่าวที่เย้นหว่านอยากตามาป่ายฉีก็กระจายไปทั่วทั้งถนนใหญ่ซอยเล็ก ไม่มีใครไม่รู้
คนขับรถพาเย้นหว่านมาด้วยความเร็วที่เกือบทำเธอเวียนหัวจนแทบอาเจียน รีบมาถึงหน้าประตูโรงพยาบาล
เย้นหว่านยื่นเงินก้อนใหญ่ให้คนขับรถ ลงรถไปทันที
เธอรีบวิ่งไปถึงหน้าประตูโรงพยาบาล มองดูซ้ายขวา เห็นคนกลุ่มหนึ่งมามุงดูอะไรสนุกๆ กลับไม่เห็นป่ายฉี
คาดไม่ถึงเขายังไม่มา
เย้นหว่านอดผิดหวังอยู่บ้างไม่ได้ ว้าวุ่นใจ
เธอไม่รู้ว่าตอนนี้โห้หลีเฉินอาการเป็นอย่างไร ยังสามารถรอไหวหรือไม่
บางทีกว่าป่ายฉีจะมองเห็นโฆษณาคงต้องการเวลาหลายนาที จากนั้นบางทีเขาอาจไปไกลแล้ว จึงรีบเข้ามาจากที่ไกล คงต้องการเวลาสักพัก
ดังนั้นตอนนี้เขาอาจจะอยู่ระหว่างทางรีบเข้ามา
เย้นหว่านสูดหายใจลึกครั้งแล้วครั้งเล่า ปลอบใจตนเองอยู่แบบนี้ไม่ขาด
ในฝูงชน คนที่มาดูอะไรสนุกๆ พอมองแวบเดียวก็มีคนจำเย้นหว่านได้
“เย้นหว่านมาแล้ว ที่แท้เป็นเย้นหว่านเอง”
“เป็นเธอจริงด้วย เธอตามหาคนเล่นใหญ่ขนาดนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?”
“ป่ายฉีคนนั้นเป็นใครกันแน่? ต้องหาเขาอย่างยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้เลย?”
“ไม่รู้สิ ดูท่าทางของเย้นหว่านนั้น รีบเข้ามาแบบใจร้อน ทำไมฉันรู้สึกว่าเมืองหนานนี้เหมือนจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ล่ะ”
……
ผู้คนถกเถียงกันต่างๆ นานา ล้วนเป็นท่าทีที่มาหาเรื่องสนุก ทำเอาที่นี่นับวันยิ่งคึกคัก
เย้นหว่านถูกเสียงเอะอะทำเอาสมองดังหึ่งๆ การไม่ได้ออกกำลังกายเป็นเวลานานทำให้เธอเกือบขาดออกซิเจนจนจะเป็นลม
เธอกัดฟันแน่น ยืนอยู่ด้วยความยากลำบาก แต่ยังคงยันไว้
เธอจำเป็นต้องรอป่ายฉี มิฉะนั้นโห้หลีเฉินจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ
เหมือนความเชื่อที่ดื้อรั้น เย้นหว่านร่างกายตึงอย่างดื้อดึง ยืนตรงอยู่เหมือนหุ่น และหน้าน้อยๆ ใบนั้น ยิ่งซีดขาวขึ้น แก้มที่บวมแดงนั้นยิ่งดูเป็นคนที่น่ากลัวอย่างชัดเจน
คนฉลาดล้วนดูออกว่าสภาพของเธอในตอนนี้ย่ำแย่ที่สุดแล้ว
มีคนไม่วางใจ ออกมาห่วงใยเธอ “คุณเย้น คุณเป็นอะไรเหรอ? ไม่สบายหรือเปล่า ดูเหมือนสีหน้าไม่ค่อยดี ที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาล ถ้าไม่อย่างนั้นคุณไปตรวจในโรงพยาบาลก่อนไหม? ดูท่าทางนี้ ป่ายฉีคนนี้สักครึ่งชั่วโมงก็คงมาไม่ทัน”