บทที่ 325 ใครเป็นคนเปิดกล่อง
กู้จื่อเฟยกล่าวว่า “อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นยังไม่ชอบกระมัง เธอลองคิดดูว่าทัศนคติของเขาที่มีต่อเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
ครั้งแรกที่เจอกัน โห้หลีเฉินเย็นชาเป็นที่สุดจริงๆ ตอนนี้เธอยังจำได้อย่างชัดเจน ตลอดในระหว่างขั้นตอนการเจรจาทั้งหมด เขาพูดเพียงสามประโยค และให้ใบเช็กเธอมาหนึ่งใบ จะมองเธอสักนิดก็ไม่มี
ในตอนนั้น เธอรู้สึกว่า คนคนนี้เข้าหายากจริงๆ และต่อมาขนาดความคิดที่จะอยากได้เขาก็ไม่กล้า
และในต่อมา จู่ๆเขาก็ย้ายไปที่บริษัทของเธอ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยคนยิ่งใหญ่ของเธอ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โห้หลีเฉินดูเหมือนจะเข้าหาเธอในทุกๆรูปแบบ ท่าทางเปลี่ยนไปเป็นร้อยแปดสิบองศา
เย้นหว่านในตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก แค่คิดว่าโห้หลีเฉินดูแลเธอเพราะในฐานะของคู่หมั้นของเขา แต่ตอนนี้คิดๆดู หรือว่าตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็สนใจเธอแล้ว?
ดังนั้นจึงตามจีบเธออย่างนั้นเหรอ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นไปได้ดังเช่นนี้ เพียงแค่เย้นหว่านยังคงสงสัยอยู่ ว่าผู้ชายคนนี้ตกหลุมรักเธอได้อย่างไรกันแน่
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีคำตอบจากตัวเขาเอง เย้นหว่านก็ไม่สามารถคิดออกได้
ถ้าหากว่าการสารภาพรักในครั้งนี้สำเร็จ บางทีเธออาจรวบรวมความกล้าไปถามโห้หลีเฉินก็เป็นได้
สำหรับตอนนี้…
เย้นหว่านเปิดกล่องใบใหญ่ในมือ ก็มองเห็นแท่งหลากสีเต็มไปหมด ซึ่งมันสวยงามมาก
สิ่งของเหล่านี้ สามารถทำให้บ้านหลังนี้สวยงามและโรแมนติกมากกว่า งานแต่งงาน
ตอนนั้นที่โห้หลีเฉินขอเย้นหว่านแต่งงานเป็นครั้งแรกนั้น ตกแต่งคฤหาสน์หลังนี้อย่างสวยงามดั่งในฝัน นอกจากนี้ยังตกแต่งสวนด้านหลังตามสิ่งที่เธอชอบ แกะสลักในสวนว่า แต่งงานกับผมนะ
ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจ ตอนนี้ถึงจะรู้ว่า การเตรียมตัวอย่างรอบคอบเช่นนั้น เป็นความชอบด้วยใจจริง
ตอนนั้นพลาดมันไปแล้ว ตอนนี้เธออยากที่จะชดเชยมัน ดังนั้นเธอจึงอยากนำความสารภาพรักแบบโรแมนติกที่เธอเตรียมไว้ให้คืนกลับเขา
ยังเป็นที่นี่เหมือนเดิม
“ติ๊งต่อง——”
ในตอนที่เย้นหว่านและกู้จื่อเฟยกำลังเป่าลูกโป่งเพื่อตกแต่งบ้านอยู่นั้น เสียงออดประตูก็ดังขึ้น
กู้จื่อเฟยวางสิ่งที่เธออยู่ในมือโดยทันที และวิ่งไปทางหน้าประตู “สิ่งของล้ำค่าอันใหญ่มาแล้ว~!”
“ของล้ำค่าอันใหญ่อะไร?”
เย้นหว่านงงงวย วางมือลงและมองไปที่หน้าประตู
เห็นเพียงแค่พนักงานส่งของสองคนเดินถือกล่องใบใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมเดินเข้ามา กล่องใหญ่ใบนั้นสูงจนเกือบเท่าคนหนึ่งคน
กู้จื่อเฟยกำกับว่า “นำกล่องวางลงไว้ที่นี่ ใช่ ตรงนี้แหละ ระวังหน่อย อย่าทำแตกล่ะ”
เย้นหว่านมองไปที่กล่องนั้นอย่างงงๆ แก้มก็แดงเล็กน้อย
หลังจากที่วางกล่องเสร็จ กู้จื่อเฟยก็รีบกวักมือเรียกเย้นหว่านโดยทันที
“เสี่ยวหว่าน ใจลอยอะไรอยู่ล่ะ? มาลองดูเร็วๆสิ”
“เอิ่ม ต้องลองตอนนี้เหรอ?”
แก้มของเย้นหว่านแดงมากขึ้นไปอีก และยิ่งเขินอายมากขึ้นด้วยเช่นกัน
กู้จื่อเฟยพยักหน้า “แน่นอนสิ นี่เป็นถึงเซอร์ไพรส์ที่เธอเตรียมโห้หลีเฉินเชียวนะ ซึ่งเป็นของขวัญชิ้นสำคัญ เธอคงไม่อยาก พอถึงตอนนั้นเขาเปิดไม่ออก หรือเธอกระโดดออกมาไม่ได้ น่าเกลียดแบบนั้นหรอกสินะ?”
เย้นหว่านส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว “ไม่อยากแน่นอน”
มิฉะนั้น เธอก็ไม่ต้องเตรียมตัวอย่างรอบคอบด้วยตัวเองหรอก
เธอเดินเข้าไป ยืนอยู่ข้างกล่อง และมองไปรอบๆกล่องอย่างพินิจพิเคราะห์
ดูเหมือนว่า กล่องนี้นอกจากดูดีและดูเหมือนเป็นกล่องของขวัญขนาดใหญ่ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างแล้ว
“เปิดอย่างไรเหรอ?”
เย้นหว่านมองไปหนึ่งรอบ แต่มองไม่ออกว่ากล่องนี้เปิดทางไหน
กู้จื่อเฟยหยิบเชือกสีแดงขนาดใหญ่ออกมาจากข้างๆ มัดเข้ากับกล่อง แล้วผูกเป็นโบตรงด้านบนสุดของเก่า
“แก้โบออก”
เพิ่งจะมัดเสร็จ แล้วให้แก้ออกทำไม?
เย้นหว่านสงสัย แต่ก็ยังทำตาม
เธอแก้โบออก ทว่าเรื่องปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นแล้ว
เห็นแค่กล่องใบนี้แตกกระจายออกไปเป็นสี่ทิศทาง เหมือนกลีบดอกไม้ที่จู่ๆก็เบ่งบาน ค่อยๆเผยให้เห็นลักษณะภายในอย่างช้าๆ
นี่มันเหมือนกับการเปิดกล่องแบรนด์ Pandora ในทันใด และของขวัญที่อยู่ข้างในจะปรากฏต่อหน้าผู้คนเหมือนกับเซอร์ไพรส์
เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจ “จื่อเฟย สมกับเป็นเธอจริงๆ เธอไปหากล่องที่ใหญ่ขนาดนี้มาจากที่ไหนกัน”
ถ้าเป็นของขวัญกล่องเล็กๆก็โอเค แต่กล่องใบนี้มันใหญ่ขนาดนี้ เย้นหว่านไม่เคยเห็นในร้านปกติมาก่อน
กู้จื่อเฟยหัวเราะแฮะๆ และวางแขนไว้บนไหล่ของเย้นหว่าน
“สั่งให้คนรีบผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษ ดูที่ฉันทำเพื่อให้เธอมีความสุขไปตลอดชีวิตสิ ว่าพยายามมากขนาดไหน”
“เธอดีที่สุดเลย!”
เย้นหว่านรู้สึกประทับใจ ในสองวันมานี้ถ้าไม่ใช่เพราะกู้จื่อเฟยลำบากมาช่วยซื้อของ และวิ่งขึ้นวิ่งลง ฉากที่เธออยากจะเตรียมสารภาพรักสุดโรแมนติกเช่นนี้ คงเป็นไปไม่ได้แน่นอนเลย
“ต้องทำให้สมกับการลงทุนของฉัน เธอจะต้องเอาโห้หลีเฉินมาไว้ในมือให้สำเร็จ ในอนาคตถ้ามีสามีที่ร่ำรวยเช่นนี้ เธอต้องใช้เงินของเขา เพื่อเลี้ยงอาหารฉันมากมายนับไม่ถ้วนแล้ว”
สามี?
เธอยังสารภาพรักไม่สำเร็จ ก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นสามีของเธอแล้วเหรอ
พอคิดถึงต่อจากนี้เธออาจจะแต่งงานกับโห้หลีเฉินนั้น หัวใจของเย้นหว่านก็อดไม่ได้ที่จะเต้นเร็วขึ้น และมีความคาดหวังอย่างไร้ที่เปรียบขึ้นมา
เมื่อก่อนตอนที่ตระกูลโห้เตรียมงานแต่งงานนั้น เย้นหว่านไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะว่าตอนนั้น เธอรู้ว่าสุดท้ายงานแต่งงานก็จะดำเนินงานไม่ได้ แล้วก็รู้ว่าแม้ว่าเธอกับโห้หลีเฉินจะแต่งงานกัน แต่ยังไม่ใช่คู่สามีภรรยาที่รักกันอย่างแท้จริง
การแต่งงานเช่นนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรกับเธอเลย
แต่ว่าตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ถ้าหากว่าอยู่ด้วยกัน เธอและโห้หลีเฉินจะรักกัน และผูกพันกันด้วยใจจริงเท่านั้น
การแต่งงานเช่นนั้น คือสิ่งที่เธอต้องการที่สุดในชีวิต
และแฟน เป็นโห้หลีเฉินพอดี ยอดเยี่ยมที่สุดขนาดนั้น และทำให้เธอหลงรักเข้ากระดูกเธอโดยไม่รู้ตัวเช่นนั้น
“เฮ้อ ดูใบหน้าที่เหมือนวิวทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ผลิของเธอเช่นนี้สิ แทบรอไม่ไหวที่จะสารภาพรักให้สำเร็จ แล้วผลักตัวเขาลงเลยสิท่า”
กู้จื่อเฟยหัวเราะหยอกล้อ
แก้มของเย้นหว่านแดงระเรื่อ “เปล่าซะหน่อย”
“โอเค โอเค โอเค เปล่าก็เปล่า ฉันมองไม่เห็นใบหน้าที่เหมือนวิวทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ผลิของเธอหรอก”
กู้จื่อเฟยหัวเราะหยอกล้ออย่างเป็นพิเศษ และผลักเย้นหว่านให้เดินเข้าไปในกล่องของขวัญ “เธอลองเข้าไปดู ฉันจะเปิดกล่องอยู่ด้านนอกเพื่อดูภาพที่แสดงออกมา”
เย้นหว่านยืนอยู่ในกล่อง ทันใดนั้นก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา
ในใจอดคิดไม่ได้ว่าหลังจากผ่านไปสองวันนี้ เธอก็จะอยู่ในกล่องของขวัญแบบนี้แล้ว เมื่อรอโห้หลีเฉินเปิดกล่องออกมา เธอก็ลุกขึ้นยืน และบอกเขาว่า เธอได้มอบตัวเธอให้เขาแล้ว
ภาพในเหตุการณ์นั้น เพียงแค่คิดๆดู เย้นหว่านก็รู้สึกเขินอายแล้ว
ทว่ากลับคาดหวังอย่างแปลกๆ
เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร จะพอใจหรือเปล่า?
ในไม่ช้า กู้จื่อเฟยก็ปิดกล่องลง และเย้นหว่านก็นั่งอยู่บนม้านั่งตัวเล็กในกล่อง ดวงตาของเธอกลายเป็นความมืดไปแถบหนึ่ง
ภายในความมืดนั้น ความร้อนรนทั้งหมดได้จางหายไปแล้ว ทำให้ความตึงเครียดของจิตวิญญาณได้ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เธอพบว่า แม้จะเป็นเพียงแค่การจำลอง แต่การเต้นของหัวใจเธอก็เร็วจนแทบทนไม่ได้แล้ว
เมื่อถึงวันนั้นจริงๆ เกรงว่าเธอจะขาดอากาศหายใจไปแล้วสินะ
เย้นหว่านมือไม้อ่อนไปหมด ในขณะเดียวกัน เธอก็ได้ยินเสียงเชือกที่ถูกดึงออก
นี่เป็นสิ่งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทางด้านนอกไม่มีเสียงดึงเชือกใดๆ แต่คนที่อยู่ข้างในจะได้ยินเสียงเชือกที่ถูกดึงอย่างชัดเจน เพื่อง่ายต่อการเตรียมพร้อม
เมื่อถึงตอนนั้น เย้นหว่านจะถือดอกไม้ในมือ และเธอจะโปรยดอกไม้ด้วย ให้ดูเหมือนเป็นนางฟ้าปรากฏออกมา
“ว้าว-”
เสียงเบาหนึ่งเสียงดังขึ้นมา กล่องก็เปิดออกแล้ว
เย้นหว่านรีบลุกจากกล่องขึ้นทันที และริบบิ้นที่ถือในมือก็กระจัดกระจายออกมา
“เป็นอย่างไร……”บ้าง…..
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย้นหว่านก็หยุดชะงัก เมื่อเธอเห็นคนตรงหน้าเธออย่างชัดเจน
คนที่ดึงเชือกคนนั้นไม่ใช่กู้จื่อเฟย แต่เป็น…