บทที่ 351 สุดยอด อ้วกใส่โห้หลีเฉิน…
คออ่อนขนาดนี้ ยังจะดื่มเหล้าอีก!
โห้หลีเฉินอารมณ์เสียจนอยากผลักเธอออก แต่ตั้งแต่ต้นจนจบขาข้างนั้นกลับไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เขาขมวดคิ้ว ดึงเธอขึ้นมาจากขาตัวเอง
“เย้นหว่าน มีสติหน่อย”
เขากดไหล่ของเธอไว้ พยายามให้เธอมองเขา แต่ร่างกายของเธอกลับอ่อนยวบยาบเหมือนบะหมี่ที่ต้มลงไปในน้ำ ล้มใส่บนตัวเขาเฉยเลย
กลิ่นเหล้าที่เข้มข้นผสมกับกลิ่นหอมอ่อนๆบนตัวเธอ เกิดกลิ่นหอมอย่างนึงที่ทำให้คนใจสั่น
โห้หลีเฉินแข็งทื่อขึ้นมากะทันหัน มองดูสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า แนบชิดอยู่ที่อ้อมกอดเขาอย่างอ่อนยวบยาบ
มือเล็กๆของเธอยิ่งเลยเป็นฝ่ายกอดคอของเขาไว้ ใบหน้าเล็กๆถูไถอยู่ที่หน้าอกเขาอย่างสบายๆ เหมือนกับว่าหาตำแหน่งที่ไม่เลวเจอ เธอหลับตาลงก็จะนอนเลย
ไม่มีแรงค้ำจุน ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็ลื่นไหลลงไปเลย
โห้หลีเฉินแทบจะอุ้มเธอไว้ด้วยปฏิกิริยา ร่างกายของผู้หญิงยิ่งแนบชิดอยู่ที่อ้อมอกเขา
ความนุ่มนวลที่ทำให้เขาคิดถึงทั้งวันทั้งคืน พริบตาเดียวก็ได้ปลุกเปลวไฟที่ซ่อนอยู่ในตัวของโห้หลีเฉินขึ้นมา ทำให้การควบคุมของเขาพังทลายในพริบตา
“ส่งเธอกลับบ้าน!”
โห้หลีเฉินสั่งการด้วยเสียงแหบแห้งคำนึง จากนั้นก็ได้อุ้มเย้นหว่านขึ้นมาด้วยท่าอุ้มลูก แล้วเดินไปยังรถที่อยู่ข้างถนน
ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาใช้ความอดทนไปมากแค่ไหน ถึงไม่ได้มีอะไรกับเธอทันทีเลย
เว่ยชีรีบเปิดประตูเบาะนั่งหลังออกด้วยความเคารพ
ในใจนับถือการควบคุมของคุณชายตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ คุณเย้นเมาขนาดนี้แล้ว แถมยังเป็นคนมานัวเนียเขา ผู้ชายโดยทั่วไปคงควบคุมไม่ได้ตั้งนานแล้ว
โห้หลีเฉินหน้าห้อยไว้ อุ้มเย้นหว่านไว้ จะอุ้มเธอเข้าไปในรถ
แต่เพิ่งเข้าใกล้เบาะนั่งรถ เย้นหว่านก็ขัดขืนขึ้นมาอย่างไม่เชื่อฟัง“กลิ่นเหม็นจังเลย ฉันไม่เข้าไป”
เธอขัดขืนอย่างแรง ทำทีจะโดดลงมาจากอ้อมอกของโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินอุ้มเธอไว้แน่น แล้วถอยหลังไปหลายก้าว
เขามองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมอกแล้วขมวดคิ้ว พร้อมพูดอย่างมีความอดทน “หยุดโวยวายได้แล้ว ขึ้นรถกลับบ้าน”
“ไม่เอา ฉันทรมาน คุณปล่อยฉัน”
เย้นหว่านหน้านิ่วคิ้วขมวดไว้ และพูดพึมพำ ขัดขืนจะโดดลงมาจากอ้อมอกของโห้หลีเฉิน
แต่เธอก็ยืนทรงตัวไม่นิ่ง กำลังจะล้มไปข้างๆ โห้หลีเฉินก็ต้องจำใจดึงเธอมาที่อ้อมอกตัวเองอีก
เย้นหว่านขัดขืนด้วยความไม่สบาย “คุณปล่อยฉัน ปล่อยฉัน……”
แรงของผู้หญิงอ่อนนุ่ม แต่กลับดื้อด้านที่จะผลักเขาออก แตกต่างกับหน้าตาเมื่อกี๊ที่นัวเนียมาที่บนตัวเขาอย่างสิ้นเชิง
โห้หลีเฉินกุมขมับด้วยความปวดหัว ดื้อด้านดึงเธอมาที่อ้อมกอดตัวเอง
“หยุดโวยวายได้แล้ว กลับบ้าน”
ระหว่างพูด เขาก็อุ้มเธอไว้ ดื้อดึงจะพาเธอเข้าไปในรถ
ถ้าปล่อยให้เย้นหว่านเมาอาละวาดแบบนี้ คืนนี้คงต้องตากลมอยู่ข้างถนนกันแล้ว
เธอดื่มเหล้ามา เป็นหวัดได้ง่ายมาก
พอเข้าใกล้รถปุ๊บ ใบหน้าเรียวเล็กของเย้นหว่านก็หน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นกว่าเดิม ในกระเพาะผะอืดผะอมอย่างทรมาน
เธอถอยหลังย่างกะทันหัน หมอบอยู่ที่บนตัวของโห้หลีเฉิน“แหวะ——”
เสียงดังเสียงนึง สิ่งสกปรกทั้งหมดได้อ้วกใส่เสื้อสูทของโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินอึ้งค้างไว้
เว่ยชีที่ยืนอยู่ข้างๆยกมุมปากขึ้น สีหน้าตกใจจนซีดเซียว ไม่นึกเลยว่าคุณเย้นจะกล้าอ้วกใส่บนตัวคุณชาย!
ตลอดมานี้คุณชายเป็นคนรักสุขอนามัยมากเชียวนะ เสื้อผ้ายิ่งแล้วใหญ่สกปรกไม่ได้เลย ชาตินี้ไม่เคยแตะต้องของสกปรกแบบนี้มาก่อน คุณเย้นนี่……ดึงขนที่ก้นเสือชัดๆ รนหาที่ตาย
“คุณชายครับ ผมมาประคองคุณเย้นเองครับ”
กลัวเย้นหว่านจะถูกโห้หลีเฉินตบทีเดียวใจตาย เว่ยชีรีบเดินไปข้างหน้า ยื่นมือจะประคองเย้นหว่านมา
โห้หลีเฉินกลับกวาดสายตาเย็นชาไปที่เขา“หลีกไป”
เว่ยชี “……”
มือทั้งสองของเขาแข็งทื่ออยู่กับที่ คนทั้งคนยุ่งเหยิงอยู่ในสายลม
แล้วมองมือของโห้หลีเฉินที่โอบกอดเย้นหว่านไว้ไม่ยอมปล่อยเลย จู่ๆเขารู้สึกเขาเข้าข้างตัวเองและคิดเองว่าคนอื่นต้องการความช่วยเหลือจากเขา ถึงคุณชายถูกทารุณจนถึงขั้นนี้ ก็ยังอุ้มเย้นหว่านไว้อีก
ความรักที่เขามีต่อเย้นหว่าน ใกล้ทำให้ฟ้าดินซึ้งแล้ว
โห้หลีเฉินคล้องแขนของเย้นหว่านไว้ หิ้วเธอขึ้นมา ดื้อดึงให้เธอยืนทรงตัวได้ไม่ถึงกับหกล้ม เขาก้มหน้ามองช่วงอกของตัวเองแล้ว ขมวดคิ้วไว้แน่น
ผ่านไปสักพัก เขาถึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ดึงเย้นหว่านไว้แล้วเดินไปยังโรงแรมที่อยู่ด้านหลังของตัวเอง
หลังจากเย้นหว่านได้อ้วกออกมารู้สึกสบายขึ้นเยอะเลย ถูกดึงไว้เดินอย่างโซซัดโซเซ สีหน้ามึนงง
“คุณทำอะไรน่ะ? คุณเป็นใคร ดึงฉันทำไม? ปล่อย ปล่อยฉันนะ”
เธอขัดขืนอย่างไม่เชื่อฟัง แววตาและสมองวุ่นวายสับสนไปหมด
สติคืออะไร ล้วนถูกเธอทิ้งไปไกลๆแล้ว
พนักงานโรงแรมได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของเย้นหว่าน ต่างก็มองมาที่ทางเข้าโรงแรม พอมองมาก็เห็นโห้หลีเฉินที่ย้อนกลับมาใหม่ กำลังหน้าบูดหน้าบึ้ง ดึงผู้หญิงที่ขัดขืนไม่หยุดไว้และเดินไปเข้ามาข้างใน
ผู้หญิงคนนั้นแก้มแดงฉ่ำ แววตาเบลอๆ แค่ดูหน้าตาก็รู้ว่าเมาเหล้า
ส่วนความเปียกชื้นตรงหน้าของโห้หลีเฉิน ดูเหมือนก็เป็นผลงานของผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน
พริบตาเดียว สมองของพวกเธอก็มีความจริงโผล่ขึ้นมาอย่างนึง
ผู้หญิงที่เมาเหล้าคนนี้ กระโจนเข้าหาคุณโห้อย่างใจกล้าและมีความคิดลามก แต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ขึ้นสมอง ยังไม่ได้กระโจนใส่คนล้ม ก็อ้วกใส่คนอื่นเสียก่อน ทีนี้ก็ทำเอาคุณโห้โมโหซะแล้ว
มองดูหน้าตาที่ดื้อดึงพาคนไปของเขา คือวางแผนจะจัดการผู้หญิงคนนี้ยังไง?
มีอะไรกับเธอโดยตรงเลยเหรอ~
พวกเธอกำลังคิดสถานการณ์ไปต่างๆนาๆ ขณะนี้ ก็เห็นโห้หลีเฉินเดินที่หน้าเคาน์เตอร์
โห้หลีเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เปิดห้องเพรสซิเดนสูทห้องนึง”
ระหว่างพูด เขาก็ได้โยนแบล็คการ์ดออกมาใบนึง
ทันใดนั้นพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ต่างก็อ้าปากเป็นรูปทรงO การคาดเดาของในใจได้รับการพิสูจน์ คุณโห้โกรธเนื่องจากความละอายและขุ่นเคือง มีอะไรกับผู้หญิงคนนี้โดยตรงเลย!
ถึงแม้ผู้หญิงคนนั้นยังขัดขืนอยู่ หน้าตาเหมือนไม่สมัครใจ แต่ว่า……แม่ง พวกเธอต่างก็อิจฉาจังเลย
ที่แท้คุณโห้ชอบสไตล์แบบนี้ คราวหน้าถ้าพวกเธอเมา ก็ต้องหาโอกาสเจอคุณโห้โดยบังเอิญแล้วอ้วกใส่เขาให้ได้
โห้หลีเฉินเห็นพนักงานทั้งหลายต่างก็เหม่อลอย จึงตะคอกอย่างหมดความอดทน
“เปิดห้อง!”
พริบตาเดียวพนักงานก็รู้สึกเท้ามีเหงื่อออก ดึงสติกลับมาอย่างกะทันหัน
“ได้ค่ะๆ”
เธอรีบสแกนคีย์การ์ดห้อง ในใจกลับแขวะอย่างบ้าคลั่ง ที่แท้คุณโห้ที่โลภไม่รู้จักพอหล่อขนาดนี้เลย!
โห้หลีเฉินถือคีการ์ดไว้ ไม่ชายตามองพนักงานอีก ดึงและโอบเย้นหว่านไว้ แล้วก้าวเท้ายาวเดินไปที่ลิฟท์
เว่ยชีที่ถูกทิ้งอยู่ด้านนอกสีหน้ามึนตึ๊บ ตากลมอยู่ที่สายลมเหน็บหนาวตามลำพัง
ท่านประธานของเขาลืมอะไรไปหรือเปล่า?
โห้หลีเฉินหน้าบึ้งไว้ พาเย้นหว่านมาถึงห้องนอน ให้เธอดื่มน้ำกลั้วปากก่อน แล้ววางเธอลงที่โซฟา
“คุณนั่งที่นี่”นิ่งไปครู่นึง เขาได้หน้าห้อยกำชับอีกคำ“ห้ามขยับไปมั่ว”
เย้นหว่านนอนอยู่บนโซฟาเหมือนไร้กระดูกยังไงอย่างงั้น มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างสะลึมสะลือ และพยักหน้าอย่างน่ารักไร้เดียงสา
ใบนั้นเรียวเล็กนั่น ยังประดับด้วยรอยยิ้มที่น่ารัก
มองจนความโกรธรอบๆตัวของโห้หลีเฉินจางหายไปหมด
เขาไม่มีอารมณ์โกรธแล้วจริงๆซะด้วย
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านอย่างไม่ไว้ใจอีกครั้ง ทีนี้ถึงได้เดินไปที่ห้องน้ำ ของที่ติดหนึบอยู่บนตัวนี้ ทำให้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาต้องรีบชำระล้างเดี๋ยวนี้!
หลังจากเข้าห้องน้ำ เสียงน้ำได้ดังซู่ซ่าๆขึ้นมา