บทที่ 355 เธอจ้องจะจับพี่ชายฉัน
อยู่เมืองหนาน เย้นหว่านแทบจะไม่มีอะไรต้องอาลัยอาวรณ์แล้ว คนเดียวที่ต้องอำลาต่อหน้าก็คือกู้จื่อเฟยแล้ว
พวกเธอได้นัดเจอกันในผับที่เมื่อก่อนไปประจำ
เดิมทีเย้นหว่านกะจะมาคนเดียว แต่เย้นโม่หลินกลัวเย้นหว่านจะเมาเหล้าอีก ยังไงก็จะมาด้วยให้ได้
เย้นหว่านจนปัญญา ถึงแม้พี่ชายคนนี้อ่อนโยนและเอาใจใส่ แต่เวลาหัวดื้อขึ้นมาไม่มีใครสามารถเปลี่ยนความคิดของเขาได้เลย
พอถามยามดึก ในผับเสียงผู้คนอลหม่าน คึกคักมากๆ
กู้จื่อเฟยได้มาถึงตั้งนานแล้ว เธอกวักมือให้เย้นหว่าน “เสี่ยวหว่าน อยู่นี่”
ระหว่างพูด เธอก็เห็นข้างกายของเย้นหว่านยังมีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนนึง ผู้ชายคนนั้นสีหน้าเย็นชาไว้ เขาได้ผลักกลุ่มคนที่แออัดออก ไม่ให้ใครแตะต้องโดนเย้นหว่าน
ท่าทีนั้น เป็นสุภาพบุรุษที่ผู้ปกป้องดอกไม้งามชัดๆ
กู้จื่อเฟยกุมปากไว้ด้วยความอิจฉา ส่งเสียงตะโกนออกมาจากวิญญาณ“ฉันก็อยากได้พี่ชายคนนึง!”
เย้นหว่านเดินมาก็เห็นหน้าตาที่อิจฉาและบ้าผู้ชายของกู้จื่อเฟย เธอได้ส่ายหัวอย่างจนปัญญา
“พี่ชายฉันกลัวฉันดื่มมากไป ดันจะตามมาให้ได้ เล่นด้วยกัน เธอคงไม่ถือสามั้ง?”
“ไม่ถือสาอยู่แล้ว ถ้าพี่ชายเธอมา เธอไม่มาก็ยังได้เลย”
กู้จื่อเฟยยิ้มตาหยีมาด้านหน้า จากนั้นได้ยื่นมือ“พี่คะ สวัสดีค่ะ ยังจำฉันได้มั้ยคะ? ฉันกู้จื่อเฟย เพื่อนรักของเสี่ยวหว่านค่ะ”
เย้นหว่านยกมุมปากขึ้น เคยเห็นเพื่อนรักที่เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนขนาดนี้มั้ย?
เย้นโม่หลินยื่นมือออกมาอย่างสง่า“สวัสดีครับ”
เสียงของเขาใสและไพเราะ ในสิ่งแวดล้อมที่เสียงดัง ก็เหมือนลำธารใสไหลเข้าไปในหูของเธอ
กู้จื่อเฟยเพลิดเพลินจนราวกับจะโบยบินขึ้นมา คำพูดเดียว ได้พูดออกมาโดยไม่ผ่านการคิดเลย
“พี่คะ ฉันไปยุโรปกับเสี่ยวหว่านได้มั้ยคะ?” ถ้าอย่างนี้ก็สามารถเจอพี่ชายสุดหล่อคนนี้ทุกวันแล้ว แถมยังสามารถอยู่ในสถานการณ์ที่เอื้ออำนวย ก็จะได้ผลประโยชน์ก่อนคนอื่นๆ ไม่แน่ก็ได้กลายเป็นพี่สะใภ้ของเย้นหว่านล่ะ
แค่คิด กู้จื่อเฟยก็รู้สึกชีวิตช่างสวยงามจัง
แต่ว่า เย้นโม่หลินกลับปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาดมาก“ตอนนี้ยังไม่ได้ เสี่ยวหว่านกลับไปครั้งนี้เกี่ยวพันถึงหลายฝ่าย จะเกี่ยวพันถึงการเปลี่ยนแปลงความลับของหลายตระกูล”
สถานการณ์แบบนี้ ไม่เหมาะให้คนนอกอยู่ในเหตุการณ์
กู้จื่อเฟยหน้าห้อยด้วยความผิดหวัง
เย้นหว่านได้ยินคำพูดนี้แล้วข้องใจ “งั้นพอฉันกลับไป ก็ไม่สามารถเจอเพื่อนตัวเองอีกแล้วเหรอ?”
เธอไม่อยากกลับไปแล้วก็เหมือนเข้าไปในคุก ถูกจำกัดอิสระนะ
“จะเป็นไปได้ยังไง?”เย้นโม่หลินยิ้มอย่างอ่อนโยน“รอให้เธอกลับไปอย่างมั่นคงแล้ว ก็สามารถรับกู้จื่อเฟยมาเที่ยวหาเธอแล้ว”
“จริงเหรอคะ?”
พริบตาเดียวกู้จื่อเฟยก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมา ดีอกดีใจจนดวงตาเปล่งประกาย
ไปเที่ยวบ้านเย้นหว่าน นั่นก็เท่ากับไปเที่ยวบ้านเย้นโม่หลิน ไปเยี่ยมเยียนถามไถ่โดยตรงแล้ว งั้นยังจะไกลจากผลประโยชน์อีกเหรอ
เธอหันหลังจับมือของเย้นหว่านไว้ สีหน้าเคร่งขรึม“เสี่ยวหว่าน เธอกลับไปแล้วห้ามลืมฉันเชียวนะ! รอคงที่แล้ว ต้องรีบมารับฉันไปเที่ยวนะ”
เห็นหน้าตาที่แววตาระยิบระยับของกู้จื่อเฟยนั่น เย้นหว่านก็รู้ว่าเธอกำลังคิดแผนอะไรอยู่
พี่ชายของเธอๆยังกอดไม่พอเลย ก็ถูกคนจ้องจับตาเข้าซะแล้ว?
แถมยังเป็นเพื่อนรักของตัวเองด้วย นี่มันยากนิดหน่อยนะเนี่ย
“เสี่ยวหว่าน เธอมีพี่ชายแล้วลืมเพื่อนไม่ได้เชียวนะ!พวกเราเคยพูดกันแล้ว นอกจากสามีที่ร่วมเสพสุขไม่ได้ อย่างอื่นล้วนต้องเป็นทรัพยากรที่ร่วมเสพสุขนะ”
กู่จื่อเฟยเพ่งมองเย้นหว่าน และขู่เสียงต่ำ
เย้นหว่านตัดใจไม่ได้ มองเย้นโม่หลินไปครู่นึง“เอาเถอะ ฉันได้แค่พายเรือตามน้ำ จะจีบติดหรือเปล่า ก็ต้องดูความสามารถของเธอเองแล้ว”
ถึงแม้ตัดใจส่งมอบพี่ชายตัวเองออกไปไวขนาดนี้ไม่ได้ แต่แทนที่ให้ผู้หญิงคนอื่นมาเป็นพี่สะใภ้บ้านตัวเอง สู้ให้เพื่อนรักตัวเองเป็นดีกว่า
“เสี่ยวหว่าน ฉันรู้เธอดีที่สุดเลย!”
กู้จื่อเฟยดีใจจนกอดเย้นหว่านไว้แล้วหอมแก้มเธอฟอดใหญ่
จัดการน้องสาวเรียบร้อยแล้ว ห่างจากนอน ถุยๆๆ ไม่ใช่ ห่างจากแต่งงานกับเย้นโม่หลินยังจะไกลอีกเหรอ?
เย้นโม่หลินมองสาวน้อยสองคนกอดอยู่ด้วยกันอย่างดีใจ เขาเม้มปากด้วยความชื่นใจ ดูท่าแล้วเย้นหว่านมีเพื่อนรักคนนึงก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน อย่างน้อยสองวันนี้ก็มีรอยยิ้มขึ้นมาหน่อยนึงแล้ว
เพียงแต่เขากำลังจมปลักอยู่ในความชื่นใจของการเป็นพี่ชายแท้ๆ ยังไม่รู้ว่าน้องสาวตัวเองได้ขายเขาไปแล้ว
ระหว่างพูดคุยกัน ไม่นานก็มีพนักงานเอาเหล้าที่สั่งไว้มาเสิร์ฟ
เย้นหว่านยกค็อกเทลขึ้นมาแก้วนึง กำลังเตรียมจะดื่ม มือก็ถูกคนกดเอาไว้
เย้นโม่หลินเอาค็อกเทลที่อยู่ในมือของเย้นหว่านไปอย่างสง่า จากนั้นก็ได้ยื่นน้ำผลไม้มาแก้วนึงอย่างไม่เหมาะสมกับเวลามาก
“เธอดื่มอันนี้”
เย้นหว่านมองน้ำผลไม้ที่อยู่ในมือ อึ้งไปสักพัก“พี่ ที่นี่เป็นผับนะ”
“อืม”เย้นโม่หลินพยักหน้า และถือค็อกเทลของเย้นหว่านไว้อย่างสง่า จากนั้นก็ได้จิบคำนึง
เห็นเย้นโม่หลินไม่รู้ตัวเลยสักนิด เย้นหว่านได้แต่พูดให้ชัดเจนขึ้น
“มาผับก็ต้องดื่มเหล้าสิถึงจะถูก ดื่มน้ำผลไม้มันไม่เหมาะเลย”
ระหว่างพูด เย้นหว่านก็ได้วางน้ำผลไม้ลง เตรียมหยิบค็อกเทลแก้วใหม่
แต่แล้ว มือของเธอเพิ่งยื่นออกไป กลับถูกเย้นโม่หลินจับเอาไว้อีก
“เมื่อคืนเธอเพิ่งเมาเหล้ามา วันนี้ห้ามดื่ม”
เย้นหว่านกลัดกลุ้มใจ เธอไม่ดื่มเหล้า แล้วเธอนัดเจอกันที่ผับทำไม?
อีกอย่างนี่ก็ล่ำลาแล้ว ไม่ดื่มเหล้าสักหน่อยบรรยากาศมันไม่ได้นี่นา
เย้นหว่านยังอยากพูดอะไรอีก ในขณะนี้ กลับได้ยินเพื่อนรักตัวเองพูด
“เสี่ยวหว่าน พี่ชายเธอพูดถูก เมื่อคืนเธอเพิ่งดื่มเหล้าไปเอง วันนี้ก็อย่าดื่มเลย จะได้ไม่เสียสุขภาพ มา ดื่มน้ำผลไม้นะ”
กู้จื่อเฟยเอาน้ำผลไม้ยัดมาที่มือของเย้นหว่าน
เย้นหว่าน:“……”เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน!
เมื่อกี๊ไม่ควรรับปากเธอเลย นี่ยังไม่ได้เป็นพี่สะใภ้เธอเลย ก็เอียงไปทางเย้นโม่หลินแล้ว
เย้นหว่านจ้องกู้จื่อเฟยด้วยการดูถูกทีนึง
กู้จื่อเฟยกลับไม่มีความละอายใจเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน สายตาเพ่งมองเย้นโม่หลินไว้
เย้นโม่หลินเห็นเธอจัดการเย้นหว่านเรียบร้อยแล้ว ก็ชายตาส่งรอยยิ้มที่ขอบคุณให้เธอ
พริบตาเดียวกู้จื่อเฟยก็ตาค้างเลย หัวใจเหมือนติดปีก พริบตาเดียวก็โบยบินขึ้นฟ้า สมกับเป็นสุดหล่อจริงๆ เวลายิ้มขึ้นมาหล่อจนวัวตายควายล้มเลยชัดๆ
แย่แล้ว เหมือนเธอจะถูกยึดครองไปอย่างสิ้นเชิง และรักเขาเข้าแล้ว
เย้นหว่าน:“……” หัวข้อการนัดรวมตัวของวันนี้ผิดหรือเปล่า? ไม่ควรจะเป็นPARTYอำลา แต่ควรจะเป็นงานพบปะหาคู่ครองมากกว่ามั้ง? !
ที่ห่างจากไม่ไกล คุณชายยังหนุ่มยังแน่นทั้งหลายเดินมาพร้อมพูดคุยเฮฮากัน
ในขณะที่เห็นโต๊ะของเย้นหว่าน หนุ่มๆหลายคนนั้นก็หยุดลงในทันที
นำมาโดยฉินฉู่และเย้นเหวินหนาน ตอนที่พวกเขาเห็นภาพที่โต๊ะของเย้นหว่าน ต่างก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่ได้นัดหมายกัน
ฉินฉู่ยิ่งเลยมีสีหน้าเหลือเชื่อ “ฉันดูไม่ผิดใช่มั้ย? นั่นเป็นพี่สะใภ้ใช่หรือเปล่า? ผู้ชายคนนั้นคือใคร นี่เขากำลังจูงมือของพี่สะใภ้อยู่เหรอเนี่ย? !”
เย้นเหวินหนานสีหน้าซีเรียส “คือเย้นหว่าน”
“พี่สะใภ้เธอ……ถึงแม้เธอถอนหมั้นกับหลีเฉินแล้ว นี่เพิ่งจะกี่วันเอง เธอก็มีแฟนใหม่แล้วเหรอ?”
ฉินฉู่ค่อนข้างโกรธ“ถึงแม้หลีเฉินไม่ได้แสดงออกอะไร แต่ต่างก็ดูออกว่าเขาไม่สบายใจ พี่สะใภ้…..เย้นหว่านเธอคบกับผู้ชายคนอื่นไวขนาดนี้ได้ยังไง!”
เย้นเหวินหนานถอนหายใจ“นั่นเป็นอิสระของเธอ”
“แต่ฉันรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนหลีเฉินนี่หว่า!”
ฉินฉู่ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ สายตาของเขาจ้องมองเย้นหว่านอย่างโหด ความโกรธที่กลั้นอยู่ตรงอกยังไงก็กลืนไม่ลง
เขากัดฟันไว้ ก้าวเท้าเดินไปหาเย้นหว่าน
“ฉินฉู่ นายอย่า……”
เย้นเหวินหนานปวดหัว จะดึงเขาไว้ก็ไม่ทันแล้ว