บทที่ 368 เย้นหว่าน จะอยู่ที่นี่ไหม
หลังจากงานเลี้ยงสองวัน
ท่านเอิร์ลแก่เวนเดลล์ยืนอยู่ในปราสาท ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ตรวจสอบให้ได้ว่า สายลับของเขาคือใคร?”
“ตรวจสอบเจอแล้วครับ! คิดไม่ถึงจริงๆว่า หนึ่งในนั้น จะเป็นคุณลุงที่อยู่ที่นี่มานานหลายสิบปีหากไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะสงสัยเขา”
พ่อบ้านจริงจังทั้งใบหน้า และกลัวเล็กน้อย “ ไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินคนนั้นทำได้อย่างไร ชายหนุ่มอายุน้อยคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะมีวิธีการที่เข้มแข็งขนาดนี้ พวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา แต่กลับใช้คนของเขา แล้วในโลกนี้ สายลับของเขาก็คงจะกระจายไปทั่วโลกแล้ว”
หากไม่ใช่เพราะตระกูลเย้นปิดเป็นความลับ ระมัดระวังได้มาโดยตลอด และการเดินทางกลับไปก็เป็นความลับ เกรงว่าตระกูลเย้นอยู่ที่ไหน เขาก็จะตรวจสอบออกมาได้โดยตรง
ตอนนี้คิดขึ้นมา ก็รู้สึกอันตรายจริงๆ
เวนเดลล์ถอนหายใจเล็กน้อย “สมกับเป็นลูกชายของหยูรั่วถอง แม้จะไม่ได้เติบโตในตระกูลหยู แต่วิธีนี้และคนในตระกูลหยูพวกนั้น ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่”
“ใช่ครับ ถ้าหากเขาอยู่ในตระกูลหยู เกรงว่าตอนนี้จะเป็น …ของตระกูลหยูแล้ว ”
“ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว!”
เวนเดลล์ขัดคำพูดของพ่อบ้านอย่างกะทันหัน สีหน้าของเขาตึงเครียด และเคร่งขรึม “ เขาเป็นเรื่องของตระกูลหยู มีเพียงแค่นายและฉันเท่านั้นที่รู้ ตอนนั้นที่หยูรั่วถองที่หนีไป คนตระกูลหยูนึกว่าเธอคงตายไปตั้งนานแล้ว ยิ่งไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะมีลูกชายคนนี้ด้วย! ถ้าหากตัวตนของโห้หลีเฉินถูกตระกูลหยูรู้เข้า กลัวว่า จะเกิดความวุ่นวายอันมหาศาลเข้า! ”
พ่อบ้านรีบหุบปากทันที
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนในตระกูลเย้น แต่ตระกูลหยู ก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน
ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของตระกูลเช่นนี้ พวกเขาจะไม่มีเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวง่ายๆ และจมดิ่งลงไปในหลุม
เวนเดลล์ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ใช้นิ้วลูบที่ผนัง “แน่ใจหรือว่าเอาคนที่เกี่ยวข้องมาหมดแล้วฉันเหลือเวลาไม่มากแล้ว ต้องรีบกลับไปตระกูลโดยทันที”
พ่อบ้านพยักหน้า“ ได้โกหกว่าคุณเป็นหวัด และต้องนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงครึ่งวัน มีแค่ผมที่เป็นดูแลใกล้ชิด ประตูห้องนี้ก็ไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้าใกล้ แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกผิดปกติ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าพวกเราหายไปไหน ”
แต่ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางจากทางลับ และไปยังสถานที่หัวต่อ เป็นไปไม่ได้ที่โห้หลีเฉินจะหาพวกเขาเจออีกครั้ง
“โอเค ออกเดินทาง”
หลังจากพูดเสร็จ นิ้วมือของเวนเดลล์แตะปุ่มกด และกดปุ่มลง กำแพงตรงหน้าก็ค่อยๆแยกออกจากกัน เผยให้เห็นบันไดที่อยู่ใต้ดิน
ใต้บันได มีถนนคอนกรีตหนึ่งเส้น มีรถอัตโนมัติอยู่บนถนนหนึ่งคัน
เวนเดลล์มองรถคันนี้ อย่างหดหู่เล็กน้อย “ฉันไม่ได้เดินทางจากถนนลับเส้นนี้มานานกี่ปีแล้ว คิดไม่ถึงว่า พออายุถึงวัยชรา ยังจะมีสงครามอุโมงค์ขึ้นอีก”
ตอนนั้นก็การวางแผนอย่างบ้าระห่ำที่ตามหาตระกูลเย้นเจอ แต่เวนเดลล์เดินทางจากอุโมงค์เส้นนี้กลับไปตระกูลเย้นจึงไม่รู้ใครรู้
เช่นเดียวกับ โห้หลีเฉินในตอนนี้
เวนเดลล์ขึ้นไปบนรถ โดยเป็นพ่อบ้านที่ขับรถ รถคันนี้ขับไปอย่างรวดเร็วจนสุดทางยาว
และไม่รู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหน ในที่สุดก็มองเห็นแสงสว่าง และรถคนนี้ก็หยุดที่ปากทางของก้อนหินปลายชายฝั่ง
ด้านล่างคือคลื่นทะเลที่ไหลเชี่ยว โดยมีหินสูงตระหง่านตั้งอยู่ด้านบน
เวนเดลล์ลงจากรถ และยืนอยู่ตรงสุดทาง มองไปยังทะเลตรงหน้า พร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อย
ที่นี่ อยู่ห่างไกลจากปราสาทของเขา มากๆ
ไกลจนทำให้ผู้คนนึกไม่ถึง เดิมทีที่อยู่ในห้อง กลับมาปรากฏตัวในสถานที่เช่นนี้ และเมื่อคนในปราสาทรู้ตัว พวกเขาก็ไม่สามารถตามหาเขาได้
“ออกเดินทาง”
เวนเดลล์เดินไปข้างๆ และกดปุ่มบนกำแพง หินก้อนนั้นแยกเปิดออกเป็นบันไดแคบ ๆ เล็ก ๆ คดเคี้ยว
เวนเดลล์และพ่อบ้านเดินลงไป และหลังจากนั้นไม่นาน ก็ปรากฏชายฝั่งขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน เรือยอทช์หนึ่งลำก็แล่นมาอย่างรวดเร็ว และพาพวกเขาขึ้นเรือ
หลังจากขับเรือไปได้สักพัก เวนเดลล์ก็ขึ้นเรือใหญ่อีกลำ แล่นไปทางทะเลท้องลึก
เปลี่ยนทางติดต่อกันไปมาหลายครั้ง ดำเนินการไปอย่างถ่อมตัว และก็ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ และไม่มีใครสามารถพวกเขาเจอได้แน่ๆ
เวนเดลล์นั่งอยู่บนดาดฟ้าของเรือลำใหญ่ ในที่สุดก็ผ่อนคลายลงแล้ว นั่งบนดาดฟ้า จิบน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว
เขาสั่งเสียงเบา: “แจ้งตระกูลเย้นไปว่า ให้มารับ”
“ครับ คุณท่าน”
พ่อบ้านออกไปตามคำสั่ง
และในเวลาเดียวกัน ในสถานที่อีกแห่งบนท้องทะเลนี้ โห้หลีเฉินยืนต้านลม ยืนอยู่บนเรือลำใหญ่ลมทะเลพัดเสื้อผ้าของเขาโฮกฮาก
เว่ยชียืนอยู่ข้างๆเขา และรายงานอย่างจริงจัง
“คุณผู้ชายครับ ท่านเอิร์ลเวนเดลล์ไม่ได้สังเกตเห็นการสะกดรอยตามของพวกเรา พวกเขากำลังจะเข้าสู่เขตของตระกูลเย้นแล้ว”
“ตามไปติดๆ”
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบาง ดวงตาแหลมคมเหมือนดั่งไฟฟ้า เขาต้องชนะในเรื่องนี้ให้ได้
ทะเลตรงหน้าเงียบ และว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เรือแล่นผ่านเลยสักลำ ทะเลแห่งนี้ แทบจะไม่มีใครมาเลย และมีน้อยคนที่จะผ่านมา
ไม่น่าแปลกใจที่ตระกูลเย้นสามารถซ่อนตัวลับได้ขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะสร้างฐานที่ตั้งแคมป์ในทะเล มิน่าล่ะถึงไม่มีใครตามหาเจอ
โห้หลีเฉินได้เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ก็รอให้ท่านเอิร์ลแก่เวนเดลล์เปลี่ยนเรือไปตระกูลเย้นเท่านั้น เขาก็จะสามารถติดตามไปตระกูลเย้น เพื่อตามหาเย้นหว่านได้!
บางทีเขาอาจจะได้พบเธอในไม่ช้านี้
เมื่อนึกถึงผู้หญิงที่หายไปจากโลกของเขาโดยไม่พูดไม่จาสักคำ โห้หลีเฉินก็เม้มริมฝีปากบาง สายตาลึกล้ำอย่างอันตราย
ดูว่าเขาจะจัดการกับเธออย่างไร!
ทุกๆอย่าง ล้วนแต่อยู่ภายใต้การจัดการของโห้หลีเฉิน
เวนเดลล์ขึ้นเรือที่กำลังมาถึงโดยไม่รู้ตัว และทิ้งพ่อบ้านคนติดตัวไว้ ขึ้นเรือไปคนเดียวเพียงลำพัง
เรือแล่นไปอย่างรวดเร็ว และในเวลาสั้น ๆ ก็แล่นไปยังอีกฝั่งของท้องทะเล
โห้หลีเฉินทิ้งเรือลำใหญ่อย่างเด็ดขาด และนั่งเครื่องบินตามไป
เรือแล่นวนไปวนมาเป็นเวลานาน และในที่สุด ก็หยุดที่เกาะแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ลึในท้องทะเลลึก
เวนเดลล์ถูกคนพาเข้าไป
เว่ยชีรายงานข่าวตามความเป็นจริง “คุณผู้ชายครับ เวนเดลล์ไปถึงเกาะร้างนั้นแล้ว บริเวณรอบๆก็ไม่มีทางอื่นที่จะออกไปได้ ตระกูลเย้น อาจจะอยู่ที่นี่ก็ได้”
โห้หลีเฉินหรี่ตา มองไปที่รูปแผนที่ในมือและไม่ได้พูดอะไร
เขาขมวดคิ้วแน่น ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
และหลังจากนั้นไม่นาน ถึงจะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า: “สำรวจอีก ใช้โดรนขนาดเล็กตามเข้าไป และตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเวนเดลล์ไปทำอะไรข้างใน”
มาถึงประตูบ้านแล้ว แต่คุณชายกลับไม่รีบเข้าไปหาโดยตรง? หรือเป็นเพราะจะต้องเจอเย้นหว่านโดยทันที เลยกังวลไปนิดหน่อยเหรอ?
เว่ยชีคิดแบบนี้ในใจ หัวเราะเยาะเล็กน้อย กลับผ่อนคลายลงไม่ใช่น้อย
ในช่วงเวลานี้ เขาได้เห็นกับตาของเขาเองว่าคุณชายเขาทุ่มเทมากเพียงใด ทุ่มเทด้วยชีวิตและจิตใจเพื่อตามหาเย้นหว่าน ถ้ายังหาไม่เจออีก เกรงว่าต้องมีสักวันที่คุณผู้ชายจะเหนื่อยจนตาย
ในที่สุดก็รู้แล้วว่าตอนนี้เย้นหว่านอยู่ที่ไหน เหลือแค่ต้องรีบเข้าไปแย่งตัวคน อย่างน้อยก็ยังมีความหวัง
“ผมจะรีบไปทำเดี๋ยวนี้”
เว่ยชียิ้มและเดินไปด้านหลัง และจัดการโดยทันที
โห้หลีเฉินนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ แววตามืดลึก มองไปยังทะเลอันกว้างใหญ่ และทิศทางของเกาะร้าง
ริมฝีปากบางของเขากดแน่น อย่างไม่อาจคาดเดาได้
เย้นหว่าน จะอยู่ที่นี่ไหม? นิ้วมือของเขา กำแน่นอย่างช่วยไม่ได้