บทที่ 378 อยู่ใกล้แค่เอื้อม
สถานที่นัดพบคือ เมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องความโรแมนติก ในประเทศเฟย
เย้นหว่านรู้ว่านอกจากเย้นโม่หลินจะพาเธอมาพบคู่หมั้นแล้ว ยังอยากให้เธอมาพักผ่อนหย่อนใจ ให้เธอมีความสุข ดังนั้น หลังจากที่ถึงปลายทาง เธอจึงเสนอให้ไปเดินตลาดนัดด้วยกัน
และคืนนี้ ในเมืองนี้จัดเทศกาลปาร์ตี้แต่งหน้าที่ครึกครื้นทั้งเมืองพอดี
พอถึงเวลากลางคืน ทั้งเมืองก็มีไฟหลากสีแขวนอยู่ตามถนนมากมาย และผู้คนก็จะแต่งตัวเป็นคอสเพลย์ มาร้องเต้นเล่นรำด้วยกันอย่างสนุกสนาน
เพื่อที่จะร่วมงาน เย้นหว่านก็แต่งหน้าทำผม เธอให้คนอื่นเตรียมชุดต่างๆให้เธอ แม้แต่เย้นโม่หลินก็ถูกลากมาแต่งตัวเป็นคอสเพลย์ด้วยกัน
เย้นโม่หลินมองดูชุดที่เธอยื่นให้เขา บนใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแสดงสีหน้าประหลาดใจที่เห็นได้ยากออกมา
“ให้พี่?”เขาถามขึ้นอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
ชุดที่แขวนอยู่ตรงหน้าเขา เป็นชุดโบราณสีฟ้าขาว บนคอเสื้อยังมีขนขนาดใหญ่ และข้างๆ ก็มีผมปลอมสีฟ้า
นี่มันเป็นคอสเพลย์ของตัวละครไหนในสมัยโบราณกัน?
เขาไม่เคยเห็นจริงๆ และด้วยความที่อยู่เมืองนอกมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่เคยแต่งชุดโบราณของจีนมาก่อน
เย้นหว่านพยักหน้าถี่ๆ บนใบหน้าเผยรอยยิ้มที่หายากออกมา
“นี่คือไป๋เฟิ่งใน《ตำนานแห่งราชวงศ์ฉิน》เป็นตัวละครอะนิเมะที่ฉันชอบมาก ถ้าพี่แต่งคอสเพลย์นี้ต้องออกมาหล่อมากแน่เลย! ไปเปลี่ยนเร็วๆ ฉันอยากเห็นมากเลย”
ไป๋เฟิ่งนั้นหล่อเหลามากในโลกของอะนิเมะ หล่อจนไม่เหมือนคนจริงๆ เย้นหว่านคิดว่าไม่มีใครสามารถแต่งงคอสเพลย์เป็นเขาได้
ทว่า เย้นโม่หลินนั้นไม่สามารถวัดได้ด้วยมาตรฐานทั่วไป แม้หน้าตาจะไม่เหมือนไป๋เฟิ่ง แต่ใบหน้าที่หล่อเหลานั้น มหัศจรรย์ไม่แพ้ใครเลย
เย้นหว่านตั้งหน้าตั้งตารอคอยการแต่งคอสเพลย์ของเขามาก
เย้นโม่หลินไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่พอเห็นการรอคอยจากแววตาของเย้นหว่าน เขาอึ้งไปเล็กน้อยและไม่สามารถปริปากปฏิเสธออกไปได้
อื้ม แค่น้องสาวมีความสุขก็เพียงพอ
เธอหยิบชุดแล้วไปเปลี่ยน
ไม่นาน เย้นโม่หลินก็เปลี่ยนชุดแล้วเดินออกมา ทำให้ดวงตาของเย้นหว่านเบิกกว้างด้วยความอึ้ง
เธอมองไปยังเขาด้วยความประหลาดใจ จ้องมองจนเหม่อ
นี่มันหล่อกว่าไป๋เฟิ่งในจินตนาการของเธอเสียอีก และตอนที่เขาขยับตัว มันดูดีมากเลย
เย้นโม่หลินที่ใส่ชุดนี้รู้สึกไม่เป็นตัวเอง แต่พอเห็นปฏิกิริยาของเย้นหว่านแล้ว เขาก็รู้สึกพึงพอใจขึ้นมาทันที ในมือของเขาจับขนนกไว้ และมุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้น
“แม่นาง ถูกความหล่อของข้าเข้าตาจนตกหลุมรักข้าเลยรึ?”
เย้นหว่านพยักหน้า “ถ้าพี่ไม่ใช่พี่ชายฉัน ฉันตกหลุมรักพี่จริงๆนะ”
หล่อมาก ผู้หญิงทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้
เย้นโม่หลินส่ายหัวด้วยเสียดายเล็กน้อย “นี่เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกไม่อยากเป็นพี่ชายเธอแล้ว”
“แต่ว่า”
เขาเดินเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเย้นหว่าน แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด “วันนี้เรามาแต่งคอสเพลย์คู่กันเถอะ พี่จะเป็นแฟนที่หล่อที่สุดของเธอเอง”
ให้ “ไป๋เฟิ่ง”เป็นแฟนของเธอ เย้นหว่านรู้สึกว่าแม้จะเป็นฝันเธอก็สามารถยิ้มแล้วตื่นขึ้นมาได้
แต่แค่………
“กรุณาให้เกียรติตัวเองด้วย คืนนี้ฉันคือเส้าซอเมิ่ง”
เธอหยิบชุดผู้หญิงออกมาจากข้างๆ เป็นตัวละครในเรื่อง《ตำนานแห่งราชวงศ์ฉิน》เหมือนกัน แต่แค่ในเรื่องนั้น ตัวละครนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวละคร “ไป๋เฟิ่ง”เลย
ทว่า เธอชอบชุดของเส้าซอเมิ่ง มีผ้าคลุมหน้าด้วย ดูแล้วสูงส่งและสง่า
เวลากลางคืน พลุมากมายถูกจุดขึ้น ผู้คนต่างก็พากันแต่งชุดคอสเพลย์ เดินออกมาจากบ้านแล้วมาร่วมงานบนถนนที่ครึกครื้น
ที่ๆครึกครื้นที่สุด คือบนถนนที่เต็มไปด้วยขบวนรถดอกไม้ บนรถนั้นมีหนุ่มสาวที่แต่งชุดคอสเพลย์ และร่ายรำต่างๆอย่างน่าหลงใหล
เย้นหว่านและเย้นโม่หลินที่แต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาจากโรงแรม ก็เจอกับขบวนรถดอกไม้ในเมื่อสักครู่พอดี
คนที่อยู่บนรถร่ายรำอย่างมีความสุข ข้างๆรถมีคนมากมายกำลังเดินตาม บรรยากาศครึกครื้นสนุกสนานมาก
เย้นหว่านรีบแทรกตัวเข้าไปในขบวนนั้น และไม่ลืมที่จะดึงเย้นโม่หลินไปด้วย “พี่ เราเดินไปพร้อมกับขบวนรถดอกไม้เถอะ”
เย้นโม่หลินไม่ชินกับการเบียดกันของผู้คนแบบนี้ เมื่อคนเหล่านั้นโดนตัวเขา เขาก็รู้สึกอึดอัดมาก ทว่า พอเห็นท่าทางที่มีความสุขของเย้นหว่านนั้น เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่า
ช่วยไม่ได้ ปีศาจที่รักและเอ็นดูน้องสาว ก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องมีเหตุผลเยอะ
และความดูดีของเย้นโม่หลินนั้น ไม่นานก็ดึงดูดสายตาผู้คน
เหล่าหญิงสาวต่างก็หันมามองเย้นโม่หลินบ่อยๆ พวกเธอประหลาดใจที่ยังมีผู้ชายที่หล่อไร้ที่ติขนาดนี้อยู่ แม้แต่ผู้หญิงที่เต้นอยู่บนรถยังถูกดึงดูดให้มามองเขา
ผู้ชายที่เป็นคนขับรถดอกไม้หยุดรถ แล้วหันมาพูดกับเย้นโม่หลิน “สุดหล่อ ขึ้นมายืนบนรถดอกไม้ของเราสิ! ถ้ามีคุณ ถนนเส้นนี้ของเราคงจะครึกครื้นที่สุดแล้ว”
แค่เรียกคนหล่อ ก็สามารถดึงดูดคนได้เป็นร้อย
เย้นโม่หลินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ชอบเป็นจุดสนใจ ราวกับนายแบบที่ให้ผู้คนมาเชยชมแบบนี้
เขากำลังจะพูดปฏิเสธ เย้นหว่านที่อยู่ข้างๆก็ดึงตัวเขาแล้วเดินไปข้างหน้า
“พี่ ฉันยังไม่เคยขึ้นรถดอกไม้แบบนี้เลย เราขึ้นไปเล่นกันเถอะ”
คำพูดปฏิเสธที่กำลังจะพูดออกไปถูกกลืนเข้าไปในลำคอ “โอดค”
อีกด้านหนึ่งของถนนที่พลุกพล่าน มีคนๆหนึ่งที่ไม่ร่วมสนุกกับงานครึกครื้นแบบนี้
เขาใส่ชุดสูทสีดำ สองมึงสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ร่างกายทั้งตัวมีกลิ่นของความเย็นชา ใบหน้าที่เยือกเย็นนั้นเรียบนิ่ง มองดูความคึกคะนองตรงหน้า ด้วยแววตาที่รังเกียจ
เว่ยชียืนอยู่ข้างๆชายคนนั้นด้วยความตื่นเต้น แล้วพูดขึ้นเสียงต่ำ “คุณชายครับ คืนนี้เป็นคืนของเมืองเฟย เกรงว่างานจะดำเนินไปจนถึงเที่ยงคืน ถนนทุกสายก็เต็มไปด้วยผู้คน ถ้าอยากจะข้ามไปก็เบียดกับผู้คนครับ ถานะของคุณในตอนนี้ ไม่ค่อยเหมาะ……….. ในเมื่อรู้แล้วว่าคุณเย้นมาถึงเมืองเฟยแล้ว ทว่า รอให้เธอมาที่บ้านตระกูลหยูในวันพรุ่งนี้ ค่อยพบเธอก็ยังไม่สายนะครับ”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วแน่น ดวงตานั้นเฉียบคมและเยือกเย็นมาก
เขากัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า“ฉันไม่อยากจะรอแม้แต่วินาทีเดียวแล้ว”
มาที่ประเทศเฟย แล้วไปตระกูลหยู ทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อที่จะได้พบกับเย้นหว่าน
ตอนนี้รู้แล้วว่าเธออยู่ไหน แล้วเขาจะรอไหวได้ยังไง เขาอยากที่จะเจอเธอเดี๋ยวนี้
พูดอธิบายเรื่องระหว่างเขาสองคนที่เธอเข้าใจผิด
“เอาหน้ากากมาให้ฉัน”
โห้หลีเฉินยื่นมือออกไป
เว่ยชีรู้ว่าถึงจะพูดยังไงก็เปล่าประโยชน์ จึงทำได้เพียงส่งหน้ากากนกอินทรีย์สีดำที่สามารถปกปิดใบหน้าได้ครึ่งหนึ่งส่งให้เขา
โห้หลีเฉินสวมหน้ากาก ปกปิดใบหน้าที่เหล่าเหลานั้น เผยให้เห็นแค่ริมฝีปากที่เซ็กซี่และสันกรามที่สมบูรณ์แบบ
ถึงจะปกปิดแบบนั้นแล้ว แต่ก็ยังดึงดูดสายตาผู้คนอยู่
แต่เขานั้นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ก้าวขาเดินไปข้างหน้า ตามองไปข้างหน้าโดยตรง ไม่เหลียวแหล่ข้างๆเลยแม้แต่น้อย มุ่งตรงไปยังถนนด้านหน้า เว่ยชีรีบเปิดทางให้เขาจากด้านหน้า ให้ผู้คนหลบและเปิดทางให้เขา ทว่า ก็ยังคงชนโห้หลีเฉินเป็นครั้งคราว
และเมื่อเสียงดนตรีใกล้เข้า ทางข้างหน้ามีคนมากกว่าเดิมและถูกปิดกั้นมากขึ้น
เว่ยชีมองดูขบวนรถดอกไม้ที่ค่อยๆขับมา จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า “คุณชายครับ ขบวนรถดอกไม้มาแล้ว เรารอสักครู่ก่อนค่อยเดินต่อเถอะครับ คนเยอะเกินไป”
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปาก จากนั้นสายตาที่เยือกเย็นของเขาก็มองไปยังขบวนรถดอกไม้