บทที่ 379 กระต่ายหมายจันทร์
เห็นแค่ชายที่แต่งตัวประหลาดยืนอยู่บนรถดอกไม้ ท่ามกลางดอกไม้สวยงาม ได้เต้นอย่างดุเดือด แต่ในสายตาของโห้หลีเฉิน ก็เหมือนกลุ่มสัตว์ประหลาดที่เต้นไปเรื่อย
ไม่เข้าตา
เขารู้สึกขยะแขยงจนอยากละสายตา แล้วก็มองไปเห็นร่างเล็กร่างหนึ่ง
เธอสวมชุดจีนโบราณ กระโปรงยาวเลยเข่าคลุมเท้า ใส่วิกสีม่วง หน้าม้าที่เป็นระเบียบ บนหน้าสวมผ้าคลุมบางๆอยู่ บังหน้าเขาไปครึ่งนึง
เผยให้เห็นดวงตาที่ชาญฉลาด กำลังมองที่นึงในใต้รถดอกไม้ แขวนไว้ครึ่งนึง
เขามองเห็นดวงตา ใบหน้าของเธอไม่ชัด แต่กลับรู้สึกใจเต้นแรงไปสักพัก เหมือนว่าเลือดในร่างกายนั้นแข็งตัวไปยังไงอย่างงั้น
เหมือนกับว่าคนที่ตามหามานาน ก็มาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
หัวใจของโห้หลีเฉินอดไม่ได้ที่จะเต้นขึ้น แล้วก็อยากจะเข้าไปดูใกล้ๆให้ชัดกว่าเดิมหน่อย แต่ข้างหน้านั้นชนคนไปหลายคนเหมือนกัน ขวางทางเขาอยู่
“ขอโทษนะครับ ขอทางหน่อยครับ ขอทางหน่อยครับ”
เด็กหนุ่งหลายคนเหมือนดื่มหนักเกินไปแล้ว กลิ่นเหล้าเต็มตัว เดินโซเซแล้วก็ชนเข้ามา
โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว รีบถอยหลังสองก้าว เงยหน้ามองไปอีก บนรถนั้นมีคนกลุ่มนึกเต้นอยู่ มองไม่ชัดว่าใครเป็นใคร ผู้หญิงร่างเล็กนั้น จู่ๆก็หายไป
โห้หลีเฉินสูดหายใจ เธอไปไหนแล้ว
“คุณผู้ชายครับ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ ผมไม่ได้บังคน จนทำให้พวกเขามาชนคุณ”
เว่ยชียืนอยู่ตรงหน้าโห้หลีเฉินด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น เหงื่อเต็มไปหมด กลัวว่าจะมีคนที่ไม่กลัวตายชนเข้ามาอีก
คุณผู้ชายนั้นไม่ชอบที่จะโดนตัวคนแปลกหน้ามาแต่ไหนแต่ไร
พอได้ยินคำพูดของเว่ยชีแล้ว โห้หลีเฉินก็อึ้งไปสักพัก ถึงจะรู้สึกตัว
เมื่อกี้เขาเป็นอะไรไป จู่ๆก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นมาก ทำให้เขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
เขารู้สึกสงสัยว่าเธอคือเย้นหว่านรึเปล่า
แต่ในตอนที่เขาอยากจะพิสูจน์ ก็ไม่เห็นเงาของเธอแล้ว
“คุณผู้ชายครับ”
เว่ยชีมองโห้หลีเฉินอย่างสงสัย ลังเลสักพัก นึกถึงข้อความที่ได้รับเมื่อกี้ แล้วก็เอ่ยปากว่า “คุณผู้ชายครับ เมื่อกี้หาเจอว่า โรงแรมที่คุณหนูเย้นหว่านพักคือโรงแรมเฟยลีโอ้ที่อยู่ข้างหน้า อยู่ห้อง8888ครับ”
แสงสว่างฉายเข้ามาในดวงตาของโห้หลีเฉิน
ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาได้รับข้อข่าวที่แน่ชัดเกี่ยวกับเย้นหว่าน
ในตอนที่ตามหญิงส่วบนรถดอกไม้ไม่ได้แล้ว โห้หลีเฉินก็ก้าวเท้าออก แล้วก็ก้าวเท้ายาวเดินไปข้างหน้า
แทนที่จะตามหาเงาร่างที่ไม่แน่ใจนั้น ไปจับตัวที่โรงแรงที่เธออยู่ทีเดียวยังจะดีกว่า
เว่ยชีเดินอยู่ข้างหน้า ใช้ตัวเปิดทางเดินออกมา
บนรถดอกไม้ เย้นหว่านที่สวมชุดเส้าซอเมิ่งอยู่ ที่มีเย้นโม่หลินคุมอยู่ ค่อยๆยืนขึ้นมา
เมื่อกี้พวกเขาเต้นไม่ระวังแล้วมาชนเธอ ทำให้เธอล้มลงไป
เย้นโม่หลินพยุงเย้นหว่านขึ้น ใบหน้าที่หล่อเหลามาพร้อมกับความโกรธ
“เย้นหว่าน แกไม่เป็นไรใช่ไหม ถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันจะจัดการพวกมันให้”
ความเยือกเย็นนั้นแผ่เข้ามาจากทุกทิศทาง ทำให้ความครึกครื้นบนรถดอกไม้นั้นก็กลายเป็นน้ำค้างแข็งชั้นหนึ่ง
คนพวกนั้นตกใจจนหยุดเต้นไป มองดูหนุ่มหล่อ ด้วยความตกใจ
เย้นหว่านไม่อยากให้ตัวเองกระทบกับความสนุกในคืนนี้ รีบส่ายห้ว “ฉันไม่เป็นไร เมื่อกี้ฉันล้มเพราะไม่ยืนดีๆเอง ไม่เกี่ยวกับคนอื่น”
เย้นโม่หลินมองดูเย้นหว่านอย่างไม่เห็นด้วย เม้มปาก แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร
เย้นหว่านจับไปที่พี่ชายของตัวเอง แล้วก็ยืนขึ้น หันไปโดยไม่ตั้งใจ มองเห็นถนนอีกฝั่ง ที่ท่ามกลางฝูงชนชุดแฟนซี ร่างสูงใหญ่ที่สวมสูทนั้น
แผ่นหลังนั้นกับคนนั้นที่อยู่ลึกในใจ ก็มาบรรจบกันในทันที
โห้หลีเฉิน!
สามคำที่ฟังอยู่ในใจ ก็เข้ามาในตาทันที
เธอมองดูเขาอย่างตกใจ แล้วก็ไม่อยากจะเชื่อ ว่าจะเจอเขาที่นี่
หรือว่าจะเป็นแค่คนที่คล้าย
ของอยู่จีนในเมืองหนาน จะปรากฎตัวในฟิลิปปินส์ที่ไกลโพ้นแบบนี้ได้ยังไง
“เย้นหว่าน เป็นอะไรไป”
มองดูท่าทางของเย้นหว่านนั้นไม่ดีนัก เย้นโม่หลินถามด้วยความเป็นห่วงว่า “โดนชนมาใช่ไหม”
“ไม่ ไม่เป็นไร”
เย้นหว่านรู้สึกตัวอีกครั้ง เก็บสายตากลับมาด้วยความตื่นตระหนก
พรุ่งนี้เธอต้องไปเจอ”ว่าที่สามี” ผู้ชายคนที่มีตำแหน่งเหมือนกันกับโห้หลีเฉิน เธอคิดถึงโห้หลีเฉินโดยไม่รู้ตัวอีกแล้วสินะ
เมื่อกี้ เป็นภาพลวงตาแน่นอน
เย้นโม่หลินมองดูเย้นหว่านตลอด มองเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนของเธออย่างชัดเจน
คนฉลาดอย่างเขา ค่อยๆขมวดคิ้ว เงยหน้ามองดูทางที่เย้นหว่านมองไปก่อนหน้านี้ มองเห็นผู้ชายที่ใส่สูทกำลังรีบเดินฝ่าฝูงชน เดินไปข้างหน้า
เขาหรี่ตาลง เงาร่างนั้น ดูคุ้นๆ
โห้หลีเฉินรีบไปที่โรงแรมเฟยลีโอ้
โรงแรมแห่งนี้อยู่ภายใต้ชื่อของบ้านตระกูลหยู เขาใช้สิทธิ์ของเขา แล้วก็เข้าไปด้วยฐานะเจ้าของ
โห้หลีเฉินพูดกระชับรัดกุม “พาฉันไปที่ห้องของเย้นหว่าน“
การดูแลความเป็นส่วนตัวของแขกนั้นเป็นหน้าแนวทางของโรงแรม แต่นั่นก็แค่ภายนอก แต่ไม่ใช่สำหรับเจ้านายใหม่ของตัวเอง เขาพยักหน้าและโค้งคำนับทันที พาโห้หลีเฉินเดินไปทางลิฟต์
“คุณผู้ชายครับ เชิญมากับผมเลยครับ”
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากแน่น ยืนตัวตรง
มองดูลิฟต์ที่กำลังขึ้นตึกไป ในใจลึกๆรู้สึกยิ่งอยู่ยิ่งอึดอัด
อีกเดี๋ยว ก็จะเจอเย้นหว่านแล้ว
ในที่สุดก็เจอเธอแล้ว……ในเมื่อทุ่มเทจ่ายไปมากมายขนาดนั้น
ไม่นาน ผู้จัดการก็พาโห้หลีเฉินไปถึงหน้าประตูห้อง แล้วก็ลังเลเล็กน้อย
“คุณผู้ชายครับ เพิ่งได้รับข้อความว่าคุณผู้หญิงที่อยู่ห้องนี้ได้ออกไปเมื่อชั่วโมงกว่าที่แล้ว ยังไม่กลับมา”
แววตาของโห้หลีเฉินหมองลง “เอาคีย์การ์ดมาให้ผม”
“นี่……”ผู้จัดการลังเล ห้องนี้มีคนเข้าอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้รับอนุญาต จะบุกเข้าไปก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยดี
โห้หลีเฉินไม่ทน “ผมจะไม่พูดอีกเป็นครั้งที่สาม”
เสียที่ทุ้มต่ำนั้นคุกคามอย่างน่ากลัว
ผู้จัดการตัวสั่น รู้สึกว่าใต้ฝ่าเท้านั้นมีความเยือกเย็นผุดขึ้น แล้วก็ไม่กล้าพูดอะไรไร้สาระอีก รีบส่งคีย์การ์ดห้องให้กับโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินหยิบคีย์การ์ด เดินไปเสียง “ติ้ด”ดังขึ้นแล้วประตูห้องก็เปิดออก
นี่เป็นห้องสวีทที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา สว่างและกว้างขวาง
โห้หลีเฉินก้าวเท้ายาวเข้าไป สายตาไปอยู่ที่กระเป๋าเดาทางแล้วก็เครื่องสำอางในห้อง
เพราะเขาไม่เคยเห็นยี่ห้อที่เย้นหว่านใช้มาก่อน
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปาก ในใจรู้สึกแปลกๆ แล้วก็นั่งลงไปบนโซฟาอย่างเคร่งขรึม
เว่ยชีตามเข้ามา สำรวจไปรอบนึง แล้วก็ไม่เจอใคร
เขาลังเลไปสักพัก แล้วถามว่า “คุณผู้ชายครับ คุณหนูเย้นหว่านไม่อยู่ครับ เราจะรอเธอกลับมาที่นี่ไหมครับ”
“อื้ม”
โห้หลีเฉินเสียงทุ้มต่ำ
ในเมื่อคุยกันไว้แล้วว่าเย้นหว่านจะพักที่นี่ เดี๋ยวเธอก็คงกลับมา เขาก็รออยู่ในห้องเป็นกระต่ายหมายจันทร์ละกัน
แต่แค่ไม่รู้ว่า ผู้หญิงคนนั้น พอเจอเขาแล้ว จะมีปฎิกิริยายังไง
ตกใจหรือว่าเซอร์ไพรส์กัน
โห้หลีเฉินเม้มปากรอคอยเป็นอย่างมาก