สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 434 ลูกพี่ลูกน้องจากแดนไกลหรือ

บทที่ 434 ลูกพี่ลูกน้องจากแดนไกลหรือ

บทที่ 434 ลูกพี่ลูกน้องจากแดนไกลหรือ

นี่ทำให้เย้นโม่หลินที่ได้ยินรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก น้องสาวของเขา ทำไมถึงได้เลือกง่ายๆแบบนี้กัน

เขาโกรธจนเสียจนอยากจะตำหนิเธอ เมื่อเบนสายตาไป กลับมองสีหน้าของเย่หว่านด้วยความประหลาดใจ

สายตาเป็นประกายที่มองไปทางชายหนุ่ม ท่าทางโง่งม ไม่มีอะไรแตกต่างกันเหมือนหญิงสาวบ้าผู้ชายที่พบเจอยามปกติ

เย้นโม่หลินตกตะลึงจนเสียงหายไปทันที

เขามองชายหนุ่มอย่างไม่อยากจะเชื่อ รูปร่างหน้าตาคนคนนี้ถือว่าไม่เลวเช่นกัน ถือว่าฝืนให้ผ่านด่านได้ แม้ว่าจะพูดจาเหลาะแหละไปเสียหน่อย……..หรือว่า น้องสาวของเขาจะชื่นชอบผู้ชายประเภทนี้กัน

เย้นหว่านที่เห็นสายตาคลุมเครือและสงสัยของพี่ชายตัวเองแล้วก็ได้สติกลับมา เมื่อครู่ชายคนนี้เอาเปรียบเธอไปมากแค่ไหน

อะไรที่เรียกว่าเธอตกหลุมรักแรกพบกับเขากัน เธอเพียงแค่สงสัยว่าเขาใช่โห้หลีเฉินหรือไม่เท่านั้นเอง

ถ้าเขาไม่ใช่โห้หลีเฉิน เธอก็ไม่มีความสนใจในตัวเขาแม้แต่น้อย

เย้นหว่านถมึงตาใส่ชายหนุ่มด้วยความอับอายไปครั้งหนึ่ง และเบนสายตาหลบไปอย่างรวดเร็ว

“พี่คะ พี่มาที่นี่ได้อย่างไรคะ เมื่อครู่คุณผู้ชายคนนี้ช่วยหนู หนูก็เลยขอบคุณเขา พี่กลับไปต้อนรับแขกที่ห้องโถงใหญ่ก่อนเถอะค่ะ”

ใบหน้าของเย้นหว่านมีรอยยิ้ม คิดจะไล่เย้นโม่หลินไปก่อน

ชายหนุ่มมองเย้นหว่านนิ่งๆ มุมปากโค้งขึ้นคล้ายยิ้ม คล้ายไม่ยิ้มอย่างลึกซึ้ง

เย้นโม่หลินมุมปากกระตุกเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเย้นหว่านเขม็ง

คิดจะไล่เขาไปอย่างร้อนใจขนาดนี้ ก็เพื่อที่จะสานสัมพันธ์กับผู้ชายคนนี้เป็นการส่วนตัวหรือ

ชายคนนี้ก็มองไม่ออกว่ามีจุดไหนที่หล่อเหล่ามากเป็นพิเศษ เย้นหว่านจะตกหลุมรักเขาได้อย่างไรกัน

เขาไม่สามารถให้เย้นหว่านถูกอารมณ์ชั่ววูบให้ทำอะไรลงไป จะต้องตรวจสอบให้เธอก่อนถึงจะได้

“แค่ก……..” เย้นโม่หลินกระแอมไอให้คอโล่ง มองไปทางชายหนุ่มด้วยสายตาคมปลาบ

“ในเมื่อคุณช่วยน้องสาวของผม ก็เป็นผู้มีพระคุณของผมเช่นกัน ผมควรจะรับรองขอบคุณคุณถึงจะถูก ไม่ทราบว่า คุณผู้ชายชื่ออะไรครับ มาจากที่ไหนหรือ”

คำพูดนี้แม้ว่าจะเป็นการถามเพื่อตรวจสอบข้อสงสัยในทะเบียนบ้าน แต่เย้นหว่านกลับอยากรู้เสียยิ่งกว่าเย้นโม่หลิน

เธอหันหน้าไป มองเขาด้วยแววตาระยิบระยับ การเฝ้ารอคอยและประกายในนัยน์ตานั้นแทบจะปกปิดไม่มิด

ชายหนุ่มยิ้ม ตอบนิ่งๆว่า “ผมชื่อกู้ซึง มาจากเมืองหนานในจีน”

“เมืองหนานหรือ!”

เย้นโม่หลินคิ้วขมวดเข้าหากันทันที สายตาที่มองไปทางชายหนุ่มก็คมปลาบขึ้น เต็มไปด้วยความระมัดระวัง

“ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้เชื้อเชิญคนจากเมืองหนานมา ท่าน มาร่วมงานเลี้ยงฉลองในคืนวันนี้ได้อย่างไรครับ”

ในใจของเย้นหว่านมีสองคำผุดตามขึ้นมา ความสงสัยในใจนั้น ได้รับการยืนยันมากขึ้นเรื่อยๆ

กลิ่นอายที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับโห้หลีเฉินมากขนาดนี้ ทั้งยังมาจากเมืองหนาน เขาคือ……..

“พี่เย้นลืมฉันไปแล้วหรือคะ ทำให้ผู้คนรู้สึกเจ็บปวดเสียจริง พี่ยังเชื้อเชิญฉันด้วยตัวเอง ทำไมถึงได้ไม่มีความจริงใจขนาดนี้กัน”

เสียงของหญิงสาวที่งดงามดังขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่งกะทันหัน

เห็นเพียงแค่เธอสวมชุดกระโปรงสีแดง สวมหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าไปมากกว่าครึ่ง และสวมรองเท้าส้นสูงเดินก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม

แต่ละก้าวที่เคลื่อนไหว กระโปรงสีแดงเพลิงก็ขยับเคลื่อนตาม เหมือนกับเปลวไฟเจิดจ้าบาดตากองหนึ่ง

งดงามเสียจนทำให้ผู้คนหลงใหล

เย้นโม่หลินมองเธอ เกือบจะสติหลุดไปในเสี้ยววินาที

เย้นหว่านมองไปทางหญิงสาวด้วยความประหลาดใจ และค้นพบอย่างน่าตะลึงว่า ผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่เธอพบในงานเลี้ยงเมื่อครู่นี้หรอกหรือ

ตอนนั้นเธอเห็นเงาร่างที่คล้ายคลึงกับโห้หลีเฉินเป็นอย่างมาก ก็รู้สึกประหลาดใจเสียจนคิดว่าโห้หลีเฉินมาด้วย สุดท้ายกลับเห็นหญิงสาวที่สวมชุดกระโปรงสีแดงคนนี้เดินไปที่ข้างกายเขา ยืนอยู่ด้วยกันกับเขาอย่างสนิทสนม

เย้นหว่านหน้าเผือดสีทันที นึกว่าตัวเองจำคนผิดแล้ว

พูดแบบนี้………

เย้นหว่านมองไปทางชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริดแล้วถึงได้รู้สึกว่า ส่วนสูง โครงร่างของเขานั้น เหมือนกับโห้หลีเฉินไม่มีผิด

บนโลกใบนี้ จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เลยหรือ

“ให้ตายเถอะ วันนี้ฉันแต่งตัวสวยจนทำให้ผู้คนทั้งงานตกตะลึงขนาดนี้แล้ว เสี่ยวหว่าน เธอกลับไม่มองฉันให้มากหน่อย แต่ไปมองผู้ชายป่าเถื่อนคนอื่นแล้วหรือ”

หญิงสาวกรีดร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ เต็มไปด้วยความคุ้นเคยมาก

เย้นหว่านใจสั่นเล็กน้อย หันหน้าไปมองอีกครั้ง ถึงได้สังเกตเห็นถึงใบหน้าที่อยู่ใต้หน้ากากอีกครึ่งนั้น คุ้นตาเป็นอย่างมาก

“กู้จื่อเฟยหรือ เธอคือกู้จื่อเฟยหรือ”

เย้นหว่านร้องออกมาอย่างประหลาดใจ ไม่กล้าที่จะเชื่อเลยว่า จะได้พบกับกู้จื่อเฟยในที่แห่งนี้จริงๆ

เธอควรจะอยู่ที่เมืองหนานไม่ใช่หรือ

“เหอะ ยังดีที่เธอจำชื่อของฉันได้ ฉันนึกว่าเธอมีผู้ชายป่าเถื่อนแล้ว จะลืมเพื่อนสนิทอย่างฉันไปจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิกเสียแล้ว”

เย้นหว่านไม่ถือสาเลยแม้แต่น้อย ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและกู้จื่อเฟย แต่ก่อนก็มักจะหยอกล้ออย่างสนุกสนานกันเป็นประจำ

ซึ่งการจากกันเป็นเวลานานขนาดนี้ และได้กลับมาพบกันอีกที่ต่างแคว้นแดนไกล กู้จื่อเฟยที่ยังคงมีท่าทีและนิสัยเช่นเดิมนี้ กลับทำให้เย้นหว่านรู้สึกสนิทสนมและคุ้นเคยมากกว่าเดิม

เธอก้าวขึ้นไปข้างหน้าสองก้าวด้วยความปีติยินดี ยื่นมือออกไปกอดกู้จื่อเฟยเอาไว้

“จื่อเฟย ฉันคิดถึงเธอจะตายแล้ว ได้พบกับเธอ ฉันดีใจมากจริงๆ!”

“ไอหยา เธออย่ากอดฉัน เครื่องแต่งหน้าของฉัน อ๊า ทรงผมของฉันถูกเธอทำเละเทะหมดแล้ว”

ถึงปากกู้จื่อเฟยจะร้องโวยวาย ผลักเย้นหว่านออกอย่างรังเกียจ แต่ว่าบนใบหน้า สีหน้าที่แสร้งทำเป็นไม่พอใจนั้นกลับแสร้งทำต่อไปไม่ไหว ล้วนกลายเป็นรอยยิ้มที่ปิดบังไม่อยู่

“ยังจะพูดถึงภาพลักษณ์อีก แต่งตัวเสียงดงามเย้ายวนขนาดนี้ คิดจะไปยั่วยวนใครกัน”

เย้นหว่านเอ่ยล้อเล่น ดึงหน้ากากที่อยู่บนหน้าของกู้จื่อเฟยออก

เดิมเธอก็สวยอยู่แล้ว แต่เมื่อตั้งใจแต่งตัวด้วยความประณีต ก็งดงามเสียจนเหมือนภูติแห่งเปลวไฟเลยทีเดียว

กู้จื่อเฟยแสร้งบิดไปบิดมากระแทกเข้ากับเย้นหว่าน ท่าทางขวยอายเจือไปด้วยแววขลาด แต่กลับเอ่ยพูดอย่างชัดเจนว่า “ฉันจะยั่วยวนใครได้กัน ใจของฉัน ไม่เคยเปลี่ยนไปตั้งแต่แรกเริ่ม ในนั้นบรรจุชายหนุ่มหล่อเหลาเอาไว้เต็มดวงนานแล้ว”

พูดแล้ว เธอก็กะพริบตากลมโตปริบๆให้กับเย้นโม่หลิน เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน

เย้นโม่หลินชะงักเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาแข็งค้าง

นี่มันเหลวไหลเกินไปแล้วจริงๆ

เขาเบนสายตาไปทางร่างของกู้ซึงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ พลางเอ่ยว่า “เขาเป็นอะไรกับคุณหรือ คู่ควงหรือว่าแฟน”

ต้องสอบถามความสัมพันธ์ให้ชัดเจน จะได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีสิทธิ์ที่จะตามจีบเสี่ยวหว่านหรือไม่

ใบหน้าของกู้จื่อเฟยปรากฏรอยยิ้มคล้ายกับแมวขึ้นมากะทันหัน สวมรองเท้าส้นสูงเยื้องกรายไปเบื้องหน้าเย้นโม่หลิน

ยิ้มสดใส พลางเอ่ยว่า “พี่เย้น พี่ถามแบบนี้ เพราะสนใจสถานการณ์ความรักของฉันหรือคะ”

เขาหมายความว่าอย่างนั้นที่ไหนกัน! ผู้หญิงคนนี้คิดไปเองเก่งจริงๆ!

เย้นโม่หลินหงุดหงิด หน้าอกเต็มไปด้วยความอึดอัดเดือดพล่าน สิ่งที่เขาไม่ถนัดที่สุดก็คือรับมือกับผู้หญิง ผู้หญิงคนอื่นนั้นไม่มีโอกาสที่จะมาพูดจาหยอกล้อต่อหน้าเขาแบบนี้ แต่ว่าเธอกลับเป็นถึงเพื่อนสนิทของเสี่ยวหว่าน เขาไม่สามารถปิดปากเธอแล้วโยนออกไปได้

เห็นสีหน้าเย้นโม่หลินไม่ค่อยดี กู้จื่อเฟยกลับยิ้มเบิกบานยิ่งกว่าเดิม

เธอยื่นนิ้วไปจิ้มหน้าอกของเย้นโม่หลิน ยิ้มยั่วยวน พลางเอ่ยว่า

“พี่วางใจเถอะค่ะ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องจากแดนไกลของฉัน มาเป็นเพื่อนฉันเท่านั้น พวกเราไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างชายหญิงใดๆ”

เย้นโม่หลินชะงักไปทันที ร่างกายแข็งค้าง

สีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างมาก ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่กล้ามือไม้อยู่ไม่สุขกับเขา กู้จื่อเฟยคนนี้ช่าง……..ไร้ซึ่งความหวาดกลัวมากเกินไปเป็นพิเศษแล้ว!

เขารู้สึกเสียใจในภายหลังขึ้นมากะทันหัน ไม่ควรไปรับกู้จื่อเฟยในเมืองหนานใช่หรือไม่

กลัวว่าเธอจะยังโอ๋ให้เย้นหว่านอารมณ์ดีไม่พอ ก็ทำให้เขาโมโหตายเสียแล้ว

เย้นหว่านหันหน้าไป มองไปทางกู้ซึงอย่างครุ่นคิด

ลูกพี่ลูกน้องจากแดนไกลของกู้จื่อเฟยหรือ

เธอไม่รู้เลยว่ากู้จื่อเฟยมีลูกพี่ลูกน้องจากแดนไกลคนนี้จริงหรือไม่ แต่กลับรู้ว่า การเข้าร่วมงานแบบนี้ ก่อนหน้านี้ กู้จื่อเฟยไม่มีความเคยชินที่จะพาญาติสนิทมาเป็นคู่ควง

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท