บทที่453 เยินยอจนลืมตัว
หยูซือห้านยกปืนขึ้น เหนี่ยวไก “ปัง” เสียงดังขึ้น
กระสุนยิงออกไปโดนเป้าอย่างรวดเร็ว ในเครื่องข้างๆนั้น มีตัวเลขสีแดงปรากฏเด่นหราว่าสิบ
กรรมการทำสัญลักษณ์มือ กรรมการข้างๆ ก็ตะโกนว่า: “สิบแต้ม”
นัดแรกคือสิบแต้ม
เย้นหว่านแอบขมวดคิ้ว หยูซือห้านคนนี้ เป็นเหมือนกับที่ว่ากันไว้ ทักษะการยิงปืนแม่นยำ
นัดแรกคือสิบแต้ม ก็ทำให้หยูซือห้านมั่นใจขึ้นมามาก
เขายิ้มมองเย้นหว่าน และยกปืนขึ้นอย่างมั่นใจ เล็ง และเหนี่ยวไก
สิบแต้มอีกแล้ว
ต่อมา นัดที่ยาม ที่สี่ ที่ห้า……
“สิบแต้ม!”
กรรมการประกาศนัดที่เก้า มองดูสายตาของหยูซือห้าน ตั้งแต่ตอนแรกที่เข้มงวด จนเปลี่ยนเป็นนับถือ
ยิงเก้านัดได้สิบแต้มทั้งหมด ทักษะการยิงปืนดีมากจริงๆ เขาทำงานนี้มานานพึ่งเคยเจอคนแบบนี้เลย
หยูซือห้านมีเหงื่อซึมเล็กน้อยตรงหน้าผาก สีหน้ากลับดูได้ใจมาก โดนตรงกลางตั้งเก้านัด เป็นคะแนนที่เขายังไม่เคยได้มาก่อนเลย
ขออีกแค่นัดเดียว เขาก็จะได้หนึ่งร้อยแต้มแล้ว ทั้งยังเป็นไปตามคำขอของเย้นโม่หลิน ยังทำให้กู้ซึงไม่มีโอกาสได้ชัยชนะอีก และยังเสียหน้าอีกด้วย
ครั้งที่สิบนี้ เขาต้องโดนให้ได้!
“ให้ตายสิ หยูซือห้านเก่งขนาดนี้เลยเหรอ?”
กู้จื่อเฟยไม่รู้ว่าเดินไปข้างเย้นหว่านเมื่อไหร่ คว้าแขนเย้นหว่านไว้ พูดบ่นข้างหูเธอเบาๆ
เย้นหว่านขมวดคิ้วเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข ในใจกังวลอย่างมาก
หยูซือห้านคะแนนดีมากเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นผลดีกับโห้หลีเฉินมากเท่านั้น
ถ้าเขาได้หนึ่งร้อยแต้มจริง โห้หลีเฉินถึงจะได้99แต้มก็จะถูกเขาเหยียบลงไปได้ และโห้หลีเฉินยังไม่ถนัดเรื่องปืนอีกด้วย
แต่ตอนนี้ การยิงปืนเริ่มขึ้นแล้ว ไม่มีทางกลับหัวได้อีก
“น่าจะไม่ถูกสิบแต้ม น่าจะไม่ ไม่หรอก”
เย้นหว่านพูดเสียงเบา พึมพำเหมือนกำลังร้องขอ คาดหวังไม่ให้หยูซือห้านสำเร็จ
หยูซือห้านเห็นท่าทีที่ตื่นเต้นของเย้นหว่าน ใจเขาสั่นเล็กน้อย และกระตุกยิ้มขึ้นมา
รู้จักกันมานาน เย้นหว่านมองเขาแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย
ไม่ว่าทักษะการยิงปืนเขาจะน่าตกใจแค่ไหน ยังมีสาเหตุอื่น สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก
ในเมื่อเช่นนี้ เขาก็จะทำให้เธอได้เห็น ว่าเขาเก่งแค่ไหน
เธอไม่เลือกเขา จะต้องเสียใจตลอดชีวิตแน่
หยูซือห้านยกปืนขึ้นอีกครั้ง กลั้นหายใจ เล็งเป้า
“ปัง”
ทุกสายตาสะกดจ้องไปที่เดียวกัน กระสุนบินออกไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วดั่งสายฟ้าผ่าไปถูกเป้า
ต่อมา บนจอเครื่องก็ปรากฏตัวอักษรสีแดงขึ้นว่า เก้าจุดเก้า!
หยูซือห้านอึ้ง เก้าจุดเก้างั้นเหรอ?
“ยินดีด้วยคุณชายหยู รวมคะแนนแล้วได้ 99.9แต้ม!”
กรรมการประกาศออกมาด้วยเสียงที่ตื่นเต้น ใบหน้าที่เข้มงวดก็เก็บไว้ไม่อยู่อีก ในน้ำเสียงนั้น เต็มไปด้วยความนับถือ และยกย่อง
“ฉันทำงานนี้มาเป็นสิบปี เป็นกรรมการให้นักยิงปืนมานับไม่ถ้วน แต่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนทำคะแนนได้99.9! คุณชายหยู ทักษะการยิงปืนของคุณเป็นระดับเทพแล้ว ถือได้ว่าเป็นที่หนึ่งของวงการนี้เลยก็ว่าได้”
คำพูดของกรรมการ ทำเอาเย้นหว่านที่ตอนแรกยังดีใจอยู่ ก็ต้องตกฮวบลงมาอีกครั้ง
99.9แต้มก็ทำให้กรรมการตะลึงแล้ว ยังบอกว่าเป็นที่หนึ่งอีก แม้จะไม่ได้หนึ่งร้อยแต้ม ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว เป็นคะแนนที่ถือว่าดีมาก
อยากจะทำได้ดีกว่าเขา เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้
ด้วยคะแนนที่ดีของหยูซือห้าน คะแนนของโห้หลีเฉิน คงจะไม่โดดเด่นมาก คงจะถูกเหยียบมิด และเสียหน้า……
กู้จื่อเฟยเบะปากอย่างไม่พอใจ พูดว่า: “99.9 ก็ได้เป็นที่หนึ่งแล้วงั้นเหรอ? นั่นคงเป็นเพราะโลกนายแคบเกินไป ยังไม่เคยเจอเทพมือปืนที่แท้จริง!”
กรรมการมองกู้จื่อเฟยอย่างไม่พอใจ แต่ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นแขก เขาคงทำได้แค่ทนต่อไป
ก็พูดว่า: “คุณหนูพูดได้ดี โลกผมอาจจะแคบเกินไป ทักษะการยิงปืนผมวิจัยมานาน และหลงใหล ไม่ทราบว่าคุณหนูรู้จักเทพมือปืนที่ยิงสิบนัดได้สิบแต้มติด? ถ้ามีละก็ แนะนำให้ผมรู้จักหน่อยสิครับ”
แม้จะพูดอย่างเคารพ แต่ในคำพูดนั้น กลับมีความพอใจแฝงอยู่มาก
เขาเป็นคนวงใน รู้ดีว่าการจะยิงได้สิบนัดติดเป็นเรื่องที่ยากมาก และยังเป็นไปได้ยาก หยูซือห้านได้99.9ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว
คะแนนแบบนี้ เขาไม่อยากถูกคนที่ไม่รู้ดีมาพูดดูถูกได้
กู้จื่อเฟยพูดไม่ออก เธอจะรู้จักเทพมือปืนที่ไหนกัน?
จะหาก็คงหาไม่เจอหรอก
แต่จะให้หยูซือห้านอวดดีแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ต่อไปเขาคงจะเหยียบไปถึงหัวพี่ชายตัวเองแล้ว เธอก็เสียหน้ากันพอดีสิ
เธอหันไปมองหยูซือห้าน พูดอย่างดูถูกว่า: “แม้จะไม่ได้หนึ่งร้อยแต้ม ไม่ถึงมาตรฐานที่พี่เย้นว่าไว้ แต่99.9แต้มก็ถือเป็นคะแนนที่ไม่เลว คุณชายหยู ดูจะพอใจมากเลยนะ?”
คำพูดเดียว ก็รู้แล้วว่าเธอกำลังดูถูกเขาอยู่
ก็เหมือนกับการพยายามหาข้อผิดพลาด
การที่ได้คะแนนแบบนี้ สำหรับหยูซือห้านแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย และแน่ใจว่าไม่มีใครทำได้ดีกว่าเขาแล้ว
เขาอารมณ์ดีมากทีเดียว ใบหน้ากระตุกยิ้มอ่อนๆ
“ไม่ได้หนึ่งร้อยแต้มก็จริง แม้จะขาดไปแค่ศูนย์จุดหนึ่ง แต่เสียหลักจุดทศนิยมก็เหมือนเสียไปหนึ่ง ฉันยังต้องพยายามอีกมาก”
พูดแล้ว หยูซือห้านก็มองโห้หลีเฉิน “แม้คะแนน99.9จะถือว่าไม่เลว แต่ยังไงก็ขาดไปศูนย์จุดหนึ่ง คุณชายกู้ก็พูดได้มั่นใจขึ้น ดูแล้วคงจะทำได้หนึ่งร้อยแต้ม นายก็เสริมศูนย์จุดหนึ่งให้ฉันไปด้วยเลยสิ?”
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างแรง หยูซือห้านพูดให้โห้หลีเฉินเสริมศูนย์จุดหนึ่งให้เขา ก็คือให้โห้หลีเฉินยิงให้ได้หนึ่งร้อยแต้ม!
เขาพูดยกยอโห้หลีเฉินแบบนี้อีก เดี๋ยวถ้าโห้หลีเฉินได้แค่เก้าสิบเก้า ก็เสียหน้ากันพอดี
นี่มันเยิยยอจนจะลืมตัวแล้วนี่
น่าหมั่นไส้จริงๆ
เย้นหว่านโกรธจนกัดฟันกรอด เธอยื่นมือไปจับแขนเสื้อโห้หลีเฉินไว้ กังวลอย่างมาก อยากจะดึงเขาออกจากตรงนี้ไปทันทีเลย
โห้หลีเฉินหยิ่งยโสแบบนี้ ถ้าเสียหน้าขึ้นมา จะรับไหวได้ยังไง?
แค่คิดแล้วเย้นหว่านก็ยังรู้สึกเหมือนตัวเองโดนเลย เธอเจ็บปวดหัวใจมาก
โห้หลีเฉินรู้สึกได้ถึงได้ว่าเธอกำลังกังวล เขาก้มหน้าลง ยื่นมือไปตบมือเธอเบาๆ
“เธออยู่ข้างๆ คอยเงียบๆนะ”
พูดจบ โห้หลีเฉินก็เดินไปข้างหน้า ตรงไปทางที่ยิงปืน
แผ่นหลังที่สูงกว้างเดินออกไป เรียบสงบ จากการที่หยูซือห้านกดดัน เขาไม่ตื่นเต้นและแตกตื่นเลย
เดินไปตรงหน้า เขาไม่ได้หยิบปืนออกมาทันที แต่กลับเรียกกรรมการมา พูดเสียงเบา
กรรมการทำสีหน้าตกใจ เหมือนจะถามอีกรอบ
โห้หลีเฉินพยักหน้าอีกที เขาถึงเดินออกไปด้วยสีหน้าตกใจ ไม่นาน ก็พาคนมา เดินไปที่สนาม ย้ายเป้าที่ตอนแรกเรียงกันเป็นแนวนอน เรียงเป็นหลายๆชั้นใกล้ๆไกลๆออกไป
ดูจะไม่วุ่นวายมาก แต่เป้าหลายอันรวมกัน เทียบกับอันแรกแล้ว ระยะไกลกว่ามาก
แม้คนที่ไม่รู้เรื่องยิงปืนก็รู้ว่า ระยะไกลแบบนี้ ยากที่จะยิงโดนมาก ผิดพลาดมากเท่าไหร่ คะแนนยิ่งน้อยเท่านั้น
โห้หลีเฉินทำแบบนี้ เขาจะทำอะไรกันแน่?