บทที่458 ความอ่อนนุ่มที่โผล่เข้าอ้อมกอด
เย้นหว่านถึงแม้จะไม่รู้เรื่องแข่งรถมาก แต่ก็รู้ว่าถ้าปิดตาขับรถเป็นเรื่องที่อันตรายมากแค่ไหน
เธอตื่นเต้นจนกระโดดลงจากที่กั้น ตะโกนกับโห้หลีเฉินว่า:
“กู้ซึง นายจะทำอะไรน่ะ?! ปิดตาทำไมกัน รีบเอาผ้าลงเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ขับรถแบบนี้ เขายังอยากมีชีวิตรอดอยู่ไหมน่ะ
โห้หลีเฉินกระตุกยิ้ม ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นเล็กน้อย มองไปทางเย้นหว่าน
เสียงของเขาดูมั่นใจมาก “ฉันไม่เป็นไร การแข่งขันนี้ มีแต่ฉันที่จะชนะแน่”
น้ำเสียงมั่นใจนั้น ไม่เพียงแต่พูดให้เย้นหว่านได้ยิน แต่ให้หยูซือห้านได้ยินด้วย
หยูซือห้านไม่คิดเลยว่า กู้ซึงจะปิดตาแข่งรถกับเขา!
ต้องรู้ว่า ที่นี่เป็นทางเขาที่ด้านข้างเป็นเหว ถ้าขับเอียงไปเล็กน้อย ไม่ว่าชนภูเขา ไม่ก็ตกเหว
หรือไม่ก็ ถึงแม้จะขับรถตรงไป กลับตัดสินใจเรื่องระยะห่างไม่ได้ อาจจะวัดระยะทางผิดและชนเข้าด้วยกันก็ได้
กู้ซึงอยากจะทำอะไรกันแน่? กลัวว่าจะเผชิญหน้ากับอุบัติเหตุ ถึงได้ปิดตาเหรอ……ไม่เห็นจะได้ไม่กลัวงั้นเหรอ?
เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่คิดหมุนพวงมาลัย รนหาที่ตายงั้นเหรอ?
ความคิดนี้ ทำเอาหยูซือห้านใจสั่นไปตามๆกัน หน้าผากมีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย
ตั้งแต่เริ่มเขาก็ไม่คิดจะชนกับกู้ซึง และไม่อยากตายด้วย
แต่เขากลับไม่คิดจะยอมแพ้
เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลหยู ก็เป็นคนอยู่ในมุมมืดเหมือนกัน ความกล้าเผชิญหน้ากับความตายเขาคุ้นชินดี ถ้ายอมแพ้การแข่งขันนี้ นั่นก็เสียหน้ามาก ต่อไปจะไม่มีหน้าไปเจอใครอีกเลย
คิดไปแล้ว หยูซือห้านตอนนี้ไม่มีคำว่าถอยแล้วล่ะ
เขามองค้อนกู้ซึงอย่างแรง กัดฟันกรอดพูดเสียงดังว่า:
“คุณชายกู้ การแข่งรถเดิมพันชีวิต ไม่มีกฎว่าต้องปิดตานะ นายทำแบบนี้ ถ้าบอกออกไปแล้ว ฉันชนะนายก็ไม่สมเกียรติน่ะสิ นายเอาออกเถอะ”
การแข่งรถเดิมพันชีวิต เดิมพันกันที่ความกล้าของทั้งสองฝ่าย เห็นเขาท่าทางโหดเหี้ยม ถึงจะทำให้กู้ซึงกลัวหัวหดได้
โห้หลีเฉินนั่งอยู่บนรถอย่างใจเย็น กระตุกยิ้ม พูดประชดว่า:
“คุณชายพูดมาก เริ่มกันเถอะ”
พูดจบ โห้หลีเฉินก็เหยียบคันเร่งอย่างไม่ลังเล
รถพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เหมือนลูกศรที่ยิงพุ่งไปตรงหน้า
เย้นหว่านมองดูโห้หลีเฉินที่นั่งบนรถ จับมือกู้จื่อเฟยไว้แน่น หายใจถี่อย่างตื่นเต้น
กู้จื่อเฟยถูกเย้นหว่านจับมือไว้แน่นจนเจ็บไปหมด เห็นเย้นหว่านท่าทีตื่นเต้นมาก ก็จึงกัดฟันอดทนไปก่อน
เย้นโม่หลินสังเกตเห็นท่าทีของกู้จื่อเฟย สายตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
กู้จื่อเฟยดีกับเย้นหว่านอย่างจริงใจ แม้จะเสียงดังน่ารำคาญไปหน่อย แต่จิตใจก็ถือว่าใช้ได้เลย
คิดในใจแบบนี้แล้ว เย้นโม่หลินก็ถือหันกลับไปมองบนสนามแข่ง
การแข่งรถปิดตาแบบนี้ เขาพึ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลย
ก็รู้สึกตื่นเต้นไปด้วย อยากจะดูว่าสุดท้ายเป็นยังไง จะเป็นรถชนที่มีคนตาย หรือกู้ซึงจะชนะ……
เขาอึ้งเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไม เขากลับคิดว่ากู้ซึงจะแพ้ไม่ได้
ในทางภูเขานั้น รถสองคันเร่งความเร็วเหมือนกัน พุ่งเข้าหาอีกฝ่ายด้วยความเร็วสูงสุด
โห้หลีเฉินแม้จะปิดตาขับรถ แต่ก็บังคับพวงมาลัยได้เป็นอย่างดี พยายามควบคุมเป็นเส้นตรง พุ่งเข้าหาหยูซือห้านอย่างแม่นยำ
หยูซือห้านตื่นเต้นจนใบหน้าบิดเบี้ยวไปหมด สีหน้าเย็นชา พุ่งชนผีกฝ่ายด้วยความเร็ว
เขาแทบจะหยุดหายใจ
ความเร็วของรถเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ระยะห่างของรถทั้งสองคันใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ เพียงแค่เวลาหายใจไม่กี่นาที รถก็จะชนเข้าหากันแล้ว
และเพราะโห้หลีเฉินขับรถก่อน หัวรถของเขาผ่านเข้าไปเส้นกลางแล้ว
และความเร็วของเขา ไม่ลดลงเลย พุ่งชนหยูซือห้านอย่างไม่ลังเล
ไม่หมุนพวงมาลัย ตัดสินใจสู้กันจนตายไปข้าง
หยูซือห้านมองตาโต ตัวหดเกร็งอย่างรุนแรง
เขาไม่อยากแพ้! และจะแพ้ไม่ได้!
นี่เกี่ยวกับหน้าและศักดิ์ศรีของคุณชายตระกูลหยู!
ดวงตาเขาแดงก่ำ กล้ามเนื้อหดเกร็งจนเจ็บไปหมด ความเร็วของรถ มองดูรถสองคันจะพุ่งชนเข้าหากันในไม่กี่วินาที
“อย่านะ!”
เย้นหว่านทนไม่ไหวแล้ว น้ำตาไหลพรากออกมา เธอตะโกนร้องออกไปสุดเสียง
หัวใจเธอเต้นรัวไม่หยุด มองรถสองคันด้วยความกลัว เหมือนว่าจะชนเข้าด้วยกันแล้วอย่างนั้น
ไม่มีใครยอมหมุนพวงมาลัยเลย!
อยากตายกันมากเลยหรือไง?!
“เอี๊ยด”
ต่อมา เสียงแหลมคมของเบรกรถของดังขึ้น เหมือนดั่งสายฟ้าที่ระเบิดดังทะลุแก้วหู
เห็นหยูซือห้านหมุนพวงมาลัยอย่างแรง รีบขับรถไปข้างๆ และเบรกอย่างเร็ว
และข้างๆ โห้หลีเฉินขับรถไปตรงๆ ขับไปไกลกว่าหลายเมตรถึงหยุดลง
หยูซือห้านนั่งบนรถด้วยสีหน้าซีดเผือด มองดูรถแข่งที่ขับออกไปด้วยสีหน้าหวาดผวา
ภายในรถ กู้ซึงที่นั่งอยู่
เขากลับไม่คิดจะหมุนพวงมาลัยจริงๆด้วย!
เมื่อกี้ถ้าหยูซือห้านไม่รีบหมุน รถพวกเขาก็จะชนเข้าหากัน ถ้าชนแล้วคงได้มีคนตายจริงๆแน่
หยูซือห้านรู้สึกเย็นวูบวาบในใจ เขากลัวจริงๆ แอบดีใจที่ในเวลาสำคัญเขายอมแพ้ เลือกที่จะมีชีวิตต่อไป
ต่อมา ในใจก็รู้สึกได้ถึงความอับอาย
เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลหยู เป็นคนมีชื่อเสียงมาก กลับมาแพ้การแข่งขันรถให้กับคุณชายกระจอกๆของเมืองหนานงั้นเหรอ!
อับอาย เป็นเรื่องที่น่าอับอายจริงๆ!
หยูซือห้านจับพวงมาลัยแน่น บีบแรงจนพวงมาลัยแทบจะหักออก
เทียบกับความโกรธของหยูซือห้านแล้ว โห้หลีเฉินกลับดูใจเย็นมาก
เขาเอาผ้าปิดตาลง เปิดประตูรถและเดินลงมาด้วยท่าทีที่สง่างาม
ท่าทางใจเย็นของเขา เหมือนการชนะคราวนี้ อยู่ในความควบคุมของเขาแล้ว
ในขณะเดียวกัน โห้หลีเฉินที่พึ่งลงจากรถ ตรงหน้าก็มีคนพุ่งเข้ามา เหมือนระเบิดที่กระทบเข้าอ้อมกอดเขา
โผล่เข้ามาอย่างเร็ว กลิ่นหอมที่คุ้นชิน และเนื้อตัวที่อ่อนนุ่ม
โห้หลีเฉินรีบรับตัวเธอไว้และกอดไว้แน่น
เย้นหว่านกอดโห้หลีเฉินไว้แน่น น้ำตาขี้มูกแปดเปื้อนสูทของเขาหมด และด่าด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า: “ตาบ้า นายจะทำให้ฉันตกใจตายหรือไง!”
ภาพเมื่อกี้ยังคงอยู่ในสมองเย้นหว่านอยู่ เมื่อกี้สมองเธอว่างเปล่าไปหมด คิดว่าโห้หลีเฉินอาจจะตายได้
จนกระทั่งตอนนี้ กอดเขาอยู่แบบนี้ เธอถึงจะใจเย็นลงมาหน่อย แต่ร่างกายยังคงสั่นเทาเบาๆไม่หาย
เธอตกใจมากจริงๆ
โห้หลีเฉินกอดเธอเอาไว้ ตบหลังเธอเบาๆอย่างรู้สึกผิด
พูดปลอบประโลมเสียงเบาว่า: “ฉันไม่เป็นไรแล้วไง? ฉันตกลงกับเธอไว้แล้วว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน”
“ต่อไปนายอย่าทำเรื่องอันตรายแบบนี้อีกนะ!”
เย้นหว่านจับเสื้อโห้หลีเฉินไว้ พูดด้วยเสียงสะอื้น สีหน้าจริงจังและเด็ดขาด
แม้สุดท้ายจะไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ความอันตรายเมื่อกี้ เธอไม่อยากจะเผชิญอีกแล้ว