บทที่451 เรื่องที่ขอ
หยูซือห้านคิดไม่ถึงจริงๆว่า การเดิมพันแค่ครั้งเดียว กลับถูกกู้ซึงตลบหลังได้
เอาใจเย้นหว่านได้แล้วไม่ว่า ยังจะเหยียบตัวเองลงไปอีก
แผนสูงนักนะ!
ให้ตายสิ
หยูซือห้านรู้สึกเกลียดมาก พยายามกดอารมณ์ไว้ไม่ให้ระเบิดออกมา
พูดเสียงแข็งว่า: “ครั้งนี้ฉันกับกู้ซึงไม่แบ่งแพ้ชนะ ยังเหลืออีกสองตาถึงจะตัดสินได้ เริ่มตาต่อไปได้เลย”
หยูซือห้านเสียหน้าอย่างมาก รีบร้อนอยากจะเริ่มตาใหม่ ก็ไม่มีใครคัดค้าน
เย้นโม่หลินยืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ สายตามืดมน จ้องมองกู้ซึงอย่างละเอียด
คนคนนี้ ยิ่งดูก็ยิ่งถูกโฉลก
ตาที่สองเริ่มขึ้น ที่บังเอิญคือ เย้นหว่านได้เป็นเจ้ามืออีกครั้ง
คิดว่ายังมีอีกสามตาถึงจะตัดสินแพ้ชนะ ตานี้ก็เล่นต่อไป
ตานี้นอกจากเย้นหว่านมีไพ่ราชาจะต้องเป็นเจ้ามือแล้ว ที่เหลือก็เป็นไพ่ที่ไม่ดีทั้งหมด เป็นตาที่จะต้องแพ้อย่างแน่นอน
เย้นหว่านไม่คาดหวังอะไรทั้งนั้น เธอออกไพ่ตามปกติ
ตอนแรกคิดว่าจะเล่นต่อได้ไม่กี่นาทีก็แพ้แล้ว สุดท้าย คาดไม่ถึงเลย ไม่รู้ว่าไพ่ของโห้หลีเฉินกับหยูซือห้านก็ไม่ดี ทุกครั้งที่ก็ผ่านตลอด ให้ไพ่ของเธอทิ้งออกไปให้หมดก่อน
สุดท้าย เย้นหว่านก็ชนะอีก
กรรมการตัดสิน: “ตานี้ คุณหนูเย้นชนะ”
เย้นหว่านจ้องมองไพ่อย่างตกตะลึง และมองของโห้หลีเฉิน “นายยอมหรือเปล่าเนี่ย?”
“แค่นิดเดียวเอง”
โห้หลีเฉินโยนไพ่ในมือออกไป เขาพูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดูว่า “ก็เธอเล่นดีนี่นา”
ไพ่เสียขนาดนี้ถ้าไม่ยอม เธอจะชนะได้ยังไงกัน?
เย้นหว่านเข้าใจทุกอย่าง แต่ก็แอบยิ้มหวานในใจ เธอชอบที่โห้หลีเฉินเอ็นดูตัวเองอย่างไม่สนโลก
หยูซือห้านกำลังจะวางไพ่ลงก็ต้องชะงัก มองดูสายตาที่โกรธแค้นของโห้หลีเฉินที่แทบจะควบคุมไม่อยู่แล้ว
ตานี้ทั้งที่ไพ่เขาดีมาก ยอมให้เย้นหว่านอยู่เยอะมาก เย้นหว่านถึงชนะได้
ตอนแรกเขายังอยากประจบ แต่ยังไม่ทันได้พูด ก็ถูกคำพูดของโห้หลีเฉินกลืนกลับไป “ก็เธอเล่นดีนี่นา”
ถ้าเขาพูดอีก นั่นก็หมายความว่าเย้นหว่านไม่ได้พึ่งตัวเองชนะ ยังเอาเปรียบอีก ถ้าเขาพูดออกไป ไม่เพียงแต่ไม่เอาใจ ยังจะถูกรังเกียจอีก
หยูซือห้านอยากจะบีบไพ่ในมือให้แหลกละเอียดจริงๆ
กู้จื่อเฟยเห็นสีหน้าแบบนั้นของหยูซือห้าน ก็พูดหยอกด้วยรอยยิ้มว่า: “คุณชายหยู แพ้ติดกันสองตาแล้ว คุณแพ้ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ?”
พอพูดคำนี้ออกไป ความสนใจของทุกคนก็ตกไปอยู่ที่หยูซือห้าน
ก็เห็นท่าทีคิ้วขมวดและสีหน้าที่ตึงเครียดของเขา
สายตาเย้นโม่หลินมืดมนลงไปทันที ดวงตาคมดุจดั่งมีสายตาฟาด
หยูซือห้านตั้งสติอย่างเร็ว สีหน้าเปลี่ยนไป ในใจแอบพูดไม่ได้การแล้ว
แม้เขาจะไม่ยอม แต่ไม่ว่ายังไง ความรู้สึกแบบนี้ก็จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้!
เขารีบบีบรอยยิ้มออกมา และตอบด้วยรอยยิ้มว่า: “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน? เสี่ยวหว่านชนะ เขาดีใจ ฉันก็ต้องดีใจอยู่แล้ว ฉันแค่กังวลว่า ตาต่อไปถ้าเสี่ยวหว่านยังเป็นเจ้ามือ การแข่งขันของฉันกับกู้ซึง ก็คงไม่เห็นผลอะไร”
หยุดสักพัก เขาก็พูดเสริมไปว่า “แต่ว่าฉันคงจะคิดมากไป น่าจะไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนั้น ที่เสี่ยวหว่านจะได้เป็นเจ้ามือทั้งสามตา”
เขาพูดเองเออเอง ก็ตอบคำถามกู้จื่อเฟยได้ทั้งหมด
แต่ยังไงเขาหน้าดำเพราะอะไร ทุกคนรู้ดีในใจ และต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง
ประเด็นนี้ก็จะได้รู้กันเร็วๆนี้ ต่อไป ก็จะเริ่มตาที่สามแล้ว
บังเอิญมาก ตาที่สามเย้นหว่านยังคงได้เป็นเจ้ามือ
เพราะกฎของเกม เย้นหว่านยังเอาสิทธิเจ้ามือให้ใครไม่ได้
ตานี้เล่นเสร็จ เย้นหว่านชนะอีกแล้ว
ชนะสองแพ้หนึ่ง เย้นหว่านกลายเป็นผู้ชนะในสามคน
เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูก “งั้นตอนนี้ชนะแพ้ก็แบ่งออกมาไม่ได้ ทำยังไงดี?” เพิ่มการแข่งขันเหรอ?
โห้หลีเฉินมองดูเย้นหว่าน และพูดอย่างเรียบเฉย
“ยังไงก็ได้ งั้นก็เสมอกันแล้วกัน”
พูดแล้ว โห้หลีเฉินก็มองหยูซือห้าน “คุณชายหยู มีข้อโต้แย้งไหม?”
หยูซือห้านไม่มีข้อโต้แย้งอะไร? แม้จะเป็นเขาที่เสนอมาว่าเดิมพันด้วยไพ่ แต่ตั้งแต่เริ่มจนจบ ทุกอย่างก็ถูกกู้ซึงควบคุมไว้หมดแล้ว
แม้จะแพ้ชนะแพ้ไม่ได้ แต่เขาก็เสียเปรียบไปหลายครั้งมาก
ถ้าเล่นต่อไป กู้ซึงคงเตรียมขุดกับดักไว้ให้ตัวเองกระโดดลงไปเอง
อีกอย่าง เกมนี้หยูซือห้านก็พึ่งเรียนมาเมื่อวาน ยังไม่เก่งมากพอ ชนะกู้ซึงไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้เสมอกันได้ สำหรับเขาก็ดีมากแล้ว
แบบนี้ เขาก็สามารถใช้ผลสรุปสองต่อศูนย์เหยียบกู้ซึงได้ ทำให้เขาเสียหน้า
“ยังไงอีกสองตา ก็แบ่งชนะแพ้แล้ว จากนี้ไม่มีผลก็ไม่สำคัญอะไร”
หยูซือห้านพูดอย่างสุภาพบุรุษ
ผู้เข้าแข่งขันสองคนยังไม่มีข้อสงสัย คนอื่นก็คงไม่มีข้อสงสัยเหมือนกัน
เดิมพันไพ่ก็จบลงด้วยผลที่เสมอกัน
เย้นโม่หลินสังเกตดูสองคนอย่างมุมเงียบ จ้องมองกู้ซึง แอบส่ายหัวเบาๆ และพยักหน้า
เรื่องเล็กดูบุคลิกของคน ความสามารถนี้เย้นโม่หลินชำนาญมากอยู่แล้ว
การเดิมพันครั้งนี้ มองออกได้เลยว่า กู้ซึงกับหยูซือห้านต่างก็มีใจกับเย้นหว่าน
กู้ซึงฉลาดมาก เก่ง วางแผนได้ดี เขาควบคุมทั้งหมดไว้ในเงื้อมมือของเขา ถ้าด้วยฝีมือของเขา ชนะรวดเดียวสามตาก็ไม่ใช่ปัญหาเลย
แต่เขากลับสนใจอย่างอื่นมากเกินไป เช่นเย้นหว่าน อ่อนไหวง่าย ลังเลมากเกินไป
แม้จะเป็นแค่เกมไพ่ แต่จากเรื่องเล็กก็ไปใหญ่ได้ ในเรื่องใหญ่นั้น กู้ซึงอาจจะเป็นห่วงเย้นหว่านมากกว่า และดูเป็นคนจริงจังกับความรัก เพราะเหตุนี้ยอมสละผลประโยชน์มากมาย เด็ดขาด ให้ความสำคัญกับเย้นหว่าน ให้ความสำคัญกับความรู้สึก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็เป็นข้อบกพร่องที่สำคัญมากเหมือนกัน
ผู้ชายถ้าอยากประสบความสำเร็จ นี่ก็คือความอ่อนไหวที่ใหญ่ที่สุดของเขา ถ้าเผชิญเรื่องความเป็นความตาย ความอ่อนไหวและความรู้สึกของกู้ซึง จะกลายเป็นเหตุผลหลักที่พ่ายแพ้ของเขา
เย้นโม่หลินไม่มีหัวใจ จัดการทุกอย่างด้วยความเลือดเย็น ข้อนี้ของกู้ซึง เขาไม่พอใจอย่างมาก
ส่วนหยูซือห้าน ก็เป็นสามีในอนาคตของเย้นหว่านที่เลือกไว้เหมือนกัน
เขาก็ฉลาดมากเหมือนกัน จัดการทุกอย่างได้อย่างสะอาดและรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นยังทำทุกอย่างเพื่อให้สำเร็จ ในเรื่องงาน จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน แต่เขากลับให้ความสำคัญกับประโยชน์มากเกินไป เห็นผลประโยชน์สำคัญมากกว่าทุกสิ่ง
ถึงแม้เขาจะอยากแต่งงานกับเย้นหว่าน แต่ผลประโยชน์หนักกว่าความรัก เป็นการดีที่จะแต่งงานเพื่อธุรกิจกับเขา แต่ถ้าแต่งไปแล้วอยากมีความสุขทั้งชีวิต ถูกรักและห่วงใย ก็คงเป็นไปไม่ได้
เย้นโม่หลินถอนหายใจ สองคนนี้ ไม่สมบูรณ์แบบเลย เขาไม่อยากเก็บไว้เป็นน้องเขยเลยจริงๆ
น้องสาวของเขา ควรจะคบกับผู้ชายที่เลิศเลอที่สุดสิ……
“พี่เย้น คิดอะไรอยู่น่ะ? พวกเขาเดินไปไกลแล้วนะ”
กู้จื่อเฟยยืนอยู่ตรงหน้าเย้นโม่หลิน ยื่นมือไปส่ายอยู่ตรงหน้าเขาหลายที
เย้นโม่หลินได้สติ เห็นในห้องเดินออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงเขากับกู้จื่อเฟย
พวกเขาไม่รอเขางั้นเหรอ?
ใช้ไม่ได้เลย! สองคนนี้ไม่คู่ควรกับเป็นน้องเขยของเขา
“ไปเถอะ ฉันไปดูวิธีการแย่งของพวกเขาสิ ถ้าหนึ่งร้อยแต้มก็ทำไม่ได้ ก็ไม่สิทธิมาจีบเสี่ยวหว่านหรอกนะ”
กู้จื่อเฟยเบิกตาโพลงโตอย่างตกตะลึง หนึ่งร้อยแต้ม? นั่นคือเป้าเล็งสิบนัดตรงกลางเลยนะ! ฝีมือการยิงปืนนั้นต้องดีขนาดไหนกันเชียวถึงจะทำได้ นี่แกล้งกันชัดๆเลย?