บทที่563 จากไป
แววตาของเย้นหว่านมองเขาอย่างไร้ความปรานี
“แต่ไหนแต่ไรฉันก็ไม่เคยคิดว่าชีวิตของฉันสูงส่งกว่าใครอยู่แล้ว ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตให้ดี อยู่กับคนที่ฉันรัก เป็นนายที่มาย่ำยีมันครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงได้ทำให้เรื่องมันมาถึงจุดในวันนี้”
เดิมที เธอและหยูซือห้านไม่จำเป็นต้องหันดาบเข้าหากันเลย สามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่ข้องเกี่ยวกันไปชั่วชีวิต
แต่เขาก็เข้าไปพัวพันทำร้ายคนอื่นไม่ยอมรามือเพื่อการแต่งงานทางผลประโยชน์
“ตอนนี้นายจะให้พวกเขาไปให้พ้น แล้วปล่อยฉันไป หรือจะให้ฉันฆ่านาย แล้วค่อยถูกพวกเขาฆ่าอีกที”
เย้นหว่านจ้องหยูซือห้านอย่างเด็ดเดี่ยว ท่าทีดุร้าย
คมกรรไกรของเธอติดอยู่บนคอของหยูซือห้านตลอดเวลา นิ้วมือที่สั่นเล็กน้อย ยิ่งสั่น เลือดจากคอของหยูซือห้านก็ยิ่งไหลมากขึ้น
ราวกับว่าหากเธอไม่ใส่ใจเพียงเล็กน้อย แล้วแทงเข้าไปอีกนิด ก็ปลิดชีวิตของหยูซือห้านได้แล้ว
เหล่าสาวใช้ต่างอยู่ไม่สุข ระมัดระวังอย่างมาก พยายามหาช่องโหว่เล็กน้อยเพื่อจับเย้นหว่าน แต่เย้นหว่านนั้นเด็ดเดี่ยวเกินไป เด็ดเดี่ยวจนแทบบ้าคลั่ง
หากพวกหล่อนกระตุ้นหรือพยายามทำอะไรเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้มือของเย้นหว่านสั่น แล้วปลิดชีวิตของหยูซือห้านได้
หากเป็นเมื่อก่อน เย้นหว่านเอามีดจ่อคอหยูซือห้าน ก็ไม่เห็นว่าจะสามารถทำร้ายเขาได้แม้แต่น้อย แต่ตอนนี้หยูซือห้านบาดเจ็บสาหัส ร่างกายอ่อนแอมาก แม้แต่การเคลื่อนไหวหนัก ๆ ก็ยังหอบ
“เย้นหว่าน เธอรีบปล่อยคุณชายหยูเดี๋ยวนี้ เธออาจจะยังมีทางรอด!”
เย้นหว่านขมวดคิ้ว “เลิกพูดไร้สาระซะ! จะปล่อยฉันไปตอนนี้ หรือจะให้ฉันฆ่าเขา!”
เธอมองเหล่าสาวใช้ด้วยแววตาดุร้าย ไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย
และมือเล็กที่สั่นเทาของเธอก็ถือกรรไกรอยู่ ดูเหมือนมันจะเข้าไปข้างในเล็กน้อย เลือดของหยูซือห้านยิ่งไหลมากขึ้น
เหล่าสาวใช้แต่ละคนมองอย่างอกสั่นขวัญแขวน
หมอที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วแน่นอย่างหวั่นใจ “คุณเย้น ระวังหน่อย คุณชายของเราในตอนนี้ร่างกายอ่อนแอมาก ไม่อาจได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว ถ้าคุณยังไม่เอากรรไกรออกมาอีก อาจจะฆ่าเขาจริง ๆ ก็ไม่ได้นะครับ”
ท่าทีของเย้นหว่านชะงักเล็กน้อย ก้มหน้ามองหยูซือห้าน
เพียงแค่เห็นผ้ากอซที่คอของเขาถูกย้อมเป็นสีแดงไปหมด หน้าอกของเขาก็เปียกเช่นกัน เลือดยังคงไหลออกมาจากรูเล็ก ๆ ที่คอของเขา
และความรู้สึกในตัวเขานั้นเฉื่อยชากว่าเมื่อครู่มาก
หัวใจของเย้นหว่านบีบรัด มองกรรไกรในมือตัวเองอย่างลังเล เธอจ่อเข้าไปมากเกินรึเปล่า?
ต้องเอาออกมาหน่อยมั้ยนะ?
ขณะที่เธอลังเล สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าเธอไม่ไกล แต่ละคนท่าทีเฉียบขาด ร่างกายเตรียมพร้อมจะกระโจนไปข้างหน้าได้ทุกเมื่อ
ขอแค่เย้นหว่านดึงกรรไกรออกเพียงนิดเดียว ห่างจากหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ พวกหล่อนก็สามารถลงมือจัดการเย้นหว่านและช่วยหยูซือห้านได้ในทันที
ขอแค่เย้นหว่านดึงกรรไกรออกแค่นิดเดียว….
ท่ามกลางสายตาคาดหวังของคนหลายคน เย้นหว่านก็เงยหน้าขึ้น พูดด้วยเสียงคมชัด
“ฉันไม่สน พวกเธอรีบปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเขา!”
พูดดังนั้น นิ้วสั่น ๆ ของเธอก็สะเทือนรูเล็ก ๆ ในลำคอของหยูซือห้านอีกครั้ง
เลือดสด ๆ ยิ่งไหลทะลักออกมา
แววตาของหยูซือห้านสั่นระริก ยิ่งอ่อนแรงลงไปมาก
เย้นหว่านเพียงแค่ไม่รู้อะไรจึงไม่กลัว!
เธอรู้รึเปล่า ว่าถ้าเธอขยับเข้าไปอีกนิด ก็จะถึงหลอดเลือดแดงใหญ่ของเขาแล้ว! ถึงเธอจะไม่ได้ต้องการจะฆ่าเขาจริง ๆ ก็เอาชีวิตเขาได้เพราะความไม่ตั้งใจ
หยูซือห้านโกรธจนเส้นเลือดดำเต้นตุบ แทบอยากจะกระทืบเย้นหว่านสักที
แต่ตอนนี้ร่างกายของเขาไร้เรี่ยวแรง ทำอะไรไม่ได้เลย
เงียบไปสักพัก เขาก็กัดฟันพูด “ได้ ฉันจะปล่อยเธอไป!”
แต่จะไปได้ไกลสักเท่าไหร่ ก็ไม่รับประกันนะ!
สาวใช้ตกตะลึง มองไปที่หยูซือห้านด้วยความตื่นตระหนกและสับสน “คุณชาย ถ้าเธอไปแล้ว แผนของเรา….”
“ฉันมีความพอดี”
หยูซือห้านเอ่ยขัดคำพูดของสาวใช้เสียงต่ำ
เขาเหล่มองเย้นหว่าน เอ่ยอย่างชัดเจน ๆ “ออกไปจากประตูนี้แล้ว ตรงไปทางขวา ก็จะเป็นทิศทางของประตูใหญ่”
หยูซือห้านประนีประนอม
ทำให้เย้นหว่านเกินความคาดหมายเล็กน้อย แต่ก็กลับดีใจในความคาดหมายนั้น
แม้หยูซือห้านจะเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยม แต่ยังไงเขาก็ยังห่วงชีวิตตัวเอง
เขากลัวตาย แต่เธอไม่กลัว
งั้นเธอก็มีโอกาสที่จะสู้
หลังจากรับคำสั่งของหยูซือห้าน แม้ว่าเหล่าสาวใช้จะไม่เต็มใจ แต่ก็ยังไม่กล้าขัดขืน พวกหล่อนทั้งหมดออกจากห้องอย่างระมัดระวังและยืนอยู่ห่าง ๆ
เย้นหว่านมือหนึ่งยังคงถือกรรไกร คงท่าทางสอดอยู่ในคอของหยูซือห้านเหมือนเมื่อครู่ เธอก็รู้ ว่ากรรไกรนี้ไม่ได้คมเหมือนมีด ยิ่งไปกว่านั้นคอของหยูซือห้านก็พันผ้าก๊อซไว้หมด หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เธอไม่มีโอกาสจะปาดคอเขาด้วยซ้ำ
ดังนั้นก่อนจะพ้นอันตราย เอากรรไกรไว้ที่คอของเขาไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่า
เย้นหว่านใช้อีกมือหนึ่งผลักรถเข็น เข็นหยูซือห้านไปข้างนอกทีละก้าว
เธอเดินอย่างไม่ช้าไม่เร็ว ประสาทตึงเครียด พุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การเคลื่อนไหวของคนอื่น ๆ
ตอนนี้เธอตัวคนเดียว นอกจากนี้ที่แห่งนี้ของหยูซือห้าน ก็ไม่รู้ว่ามีคนซ่อนอยู่อีกเท่าไหร่ อาจมีพลซุ่มยิงอยู่ด้วยซ้ำ
เธอต้องเพ่งสมาธิเต็มที่ ใช้ความรอบคอบและระมัดระวังร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ถึงจะสามารถออกไปจากที่นี่ได้
สาวใช้ยืนห่างออกไปห้าเมตร จับตามองการเคลื่อนไหวของเย้นหว่าน คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว
“เย้นหว่าน คุณชายสัญญาจะปล่อยเธอไปแล้ว เธอก็เอากรรไกรออกแล้วห้ามเลือดให้คุณชายสักทีสิ”
แม้ว่าเลือดนี้จะไหลเยอะ ดูน่ากลัว แต่ที่จริงแล้วรูนั้นไม่ได้ใหญ่มาก ทั่วร่างของหยูซือห้านถูกไฟไหม้ขนาดนี้แล้วยังไม่ตาย รูเล็กแค่นี้ก็คงไม่ตายหรอก
แต่สาวใช้คนนั้น กลับยังย้ำถึงสองครั้งให้เธอเอากรรไกรออก
เห็นท่าทางวิตกของพวกหล่อนแล้ว เย้นหว่านก็ยิ่งจับกรรไกรแน่นขึ้น กดแน่นอยู่กับคอของหยูซือห้าน
“ในเมื่อพวกเธอเป็นห่วงขนาดนั้น งั้นฉันก็ยิ่งเอากรรไกรออกไม่ได้ ถ้ายังอยากเฆ้นหยูซือห้านมีชีวิตรอด ให้ดีก็อย่าเล่นลูกไม้อะไรเลยดีกว่า”
เหล่าสาวใช้สูดหายใจ สีหน้าสิ้นหวัง
ไม่นึกว่าเย้นหว่านจะทำตรงกันข้าม!
สายตาเย็นเยือกของหยูซือห้านทิ่มแทงสาวใช้เหล่านั้นอย่างเย็นชา มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเธอพูดซ้ำไปซ้ำมา เย้นหว่านก็คงไม่หมกมุ่นจะเอากรรไกรมาจ่อคอเขาขนาดนี้
รูเล็ก ๆ นี้ฆ่าคนไม่ได้จริง ๆ แต่กลับสามารถกำจัดเขาได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อเห็นเหล่าสาวใช้สงบลงแล้ว เย้นหว่านถึงได้เบาใจลงเล็กน้อย
เธอยังเข็นหยูซือห้านก้าวตามทางเดินไปข้างนอกอย่างไม่หยุดยั้ง
ตามที่เขาพูด เลี้ยวซ้ายไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็เดินออกจากทางเดินมาถึงประตูห้องโถงใหญ่
ด้านนอก เป็นถนนกว้างขวางเส้นหนึ่ง
สาวใช้เดินตามอย่างระมัดระวังห่างออกไปไม่กี่เมตร ชี้ไปที่เฟอร์รารี่ตัวท็อปที่ประตูแล้วพูด
“เย้นหว่าน เราเตรียมรถเอาไว้ให้เธอแล้ว ปล่อยคุณชายของเราได้แล้วใช่มั้ย?”
ยังอยู่ที่ประตูอยู่เลย จะให้ปล่อยอะไรกัน?
เย้นหว่านไม่สนใจเธอ มองไปที่เฟอร์รารี ซึ่งประสิทธิภาพดีมากอย่างแน่นอน เป็นรถที่ดีมากทีเดียว
แต่รถนี่ดีเกินไป ขับไปบนถนนจะโดดเด่นมาก จะต้องตกเป็นเป้าแน่และคงจะถูกสกัดจับได้ตลอด