บทที่577 คือใครกัน
เย้นหว่านขนลุกชันทั้งตัว เส้นผมตั้งโด่ ด้วยความหนาวเหน็บ
หยูซือห้านต้องการฆ่าโห้หลีเฉินอย่างเปิดเผย!
ด้วยสภาพของโห้หลีเฉินในเวลานี้ เมื่อตกไปอยู่ในมือของเขาแล้ว โอกาสที่จะรอดเพียงน้อยนิดก็ไม่เหลือแล้ว
เธอไม่อาจจินตนาการได้ ถึงสภาพของโห้หลีเฉิน ถูกมีดแทงเข้าร่างกายต่อหน้าต่อตาเธอ
เธอต้องบ้าอย่างแน่นอน
“แกกล้า ถ้าแกเริ่มลงมือกับโห้หลีเฉิน ฉันจะฆ่าแกก่อน”
มือเปล่าอีกข้างของเย้นหว่าน ก็ควานหามีดปอกผลไม้อันแหลมคมออกมาจากกระเป๋า
เธอพกมา ตอนที่เธอหนีออกจากประตู
ไม่คิดเลยว่า แวบเดียวก็สามารถใช้งานได้แล้ว แถมยังใช้งานแบบมีเลือดมากมายขนาดนี้
“อยากจะตายไปพร้อมกับฉัน ก็ต้องดูว่าแกจะมีคุณสมบัตินี้ไหม”
หยูซือห้านแสยะยิ้มถากถางอย่างเย็นชา
นิ้วมือ ชี้ไปทางผู้หญิงสองคนนั้นที่เพิ่งฆ่าโรเจสไป จากนั้นก็เดินมาทางเย้นหว่านหน้าตาขึงขัง
โรเจสเคยเรียนเทควันโดมา แต่ว่าฝีมือนั้นน้อยไปหน่อย ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับสาวใช้สองสาว ก็ถูกฆ่าตายแค่เสี้ยววินาที!
เย้นหว่านไม่มีความเป็นได้สักนิด ที่จะชนะพวกเธอทั้งสองคน
ทว่าได้แต่ยืนหมดหนทางหนี เธอไม่สามารถถอยหลังกลับแล้ว เพราะว่าบนตัวเธอยังต้องแบก ชีวิตของโห้หลีเฉินเอาไว้!
สีหน้าของเย้นหว่านกระวนกระวายใจ จนกัดฟันไว้แน่น มืออีกข้างก็ตวัดมีดไปมา
“พวกแกอย่าเข้ามา อย่าเข้ามา!”
เธอมีความสามารถใช้การสะบัดไปมา พร้อมทั้งการใช้ความเร็ว ถ้าอีกฝ่ายไม่ทันระวัง แล้วยังดื้อด้านอยากจะเข้ามาจับคน ก็จะโดนมันบาดจนได้รับบาดเจ็บโดยง่าย
โดยคนทั่วไปนั้น ต่างไม่เลือกที่จะดื้อด้านเข้ามาหา
ทว่า หนึ่งในหญิงสาวกลับยื่นมือออกมาทันที แถมไม่หลบหลีกมีดปอกผลไม้อันแหลมคมเลย เดินมุ่งหน้ามาหาเย้นหว่านทันที
ท่าฟาดฟันมีดอันหวาดหวั่นของเย้นหว่าน ก็บาดลงบนแขนของหญิงสาว
บาดแผลบาดลึกลงจนเห็นเป็นแผล พร้อมทั้งเลือดสดไหลออกมา
ทว่าหญิงสาวทำเหมือนไม่รู้จักความเจ็บปวดเช่นนั้น เพราะไม่มีการดึงมือของตนเองกลับไปเลย
แถมยังใช้แขนข้างที่ได้รับบาดเจ็บนั้น คว้าข้อมือของเย้นหว่านเอาไว้
พละกำลังอันแกร่งกล้า บีบจนกระดูกของเย้นหว่านจะขาดเป็นสองท่อน
เธอเจ็บจนต้องสูดลมหายใจเข้า พร้อมทั้งมองออกไปด้วยความหวาดกลัวและหมดหวัง เมื่อเห็นว่ามืออีกข้างหนึ่งของหญิงสาว ดึงมีดปอกผลไม้ออกไป
ตอนนี้อาวุธเพียงสิ่งที่สามารถปกป้องเธอได้ ไม่มีแล้ว
ใบหน้าของเย้นหว่านซีดเผือด ความทั้งหวาดกลัวมาก
ในเวลาเดียวกัน มืออีกข้างหนึ่งผู้หญิง ก็คว้าตัวของโห้หลีเฉินทันที
เย้นหว่านแผดเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว “อย่าแตะต้องตัวเขา!”
เธอไม่สนใจข้อมือของตนเองที่ถูกผู้หญิงบีบไว้แน่นอยู่เลยสักนิด พลางใช้เท้าข้างหนึ่งถีบไปทางผู้หญิงอีกคนนั้นทันที
ส่วนผู้หญิงอีกคนที่ขมวดคิ้วอยู่พลันหลบหลีกทันควัน
จากนั้น ก็ใช้สายตาอันโหดเหี้ยมเย็นชาจ้องมองมาที่เย้นหว่าน “ฉันหมดความอดทนแล้ว ฉันจะจัดการสั่งสอนแกก่อนสักรอบ”
พูดไปเธอก็ใช้เท้าถีบตรงบริเวณท้องน้อยของเย็นหว่านอย่างไม่มีการลังเลแต่อย่างใด
ฝ่าเท้านั้นมันมีพละกำลังมากมายยิ่งนัก เย้นหว่านถูกถีบ วินาทีนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดรุนแรงมาก ร่างกายทนสภาพไม่ไหวจนซวนเซไปด้านหลังจนใกล้จะล้ม
ทว่าที่ไหล่ของเธอนั้น ยังแบกโห้หลีเฉินอยู่
ถ้าเธอล้มลง ก้อนหินตามพื้นพวกนั้น ก็จะทำให้ร่างกายอันอ่อนแอของโห้หลีเฉินได้รับบาดเจ็บจนเป็นแผล
เย้นหว่านได้แต่กัดฟันอดทนเอาไว้ ก็ไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ที่ยืนทรงตัว อยู่ที่เดิมได้เป็นอย่างดี
ความเจ็บปวดตรงช่องท้องของเธอ จนทำให้ใบหน้าซีดเผือด
ส่วนสติสัมปชัญญะเข้มแข็งไม่ยอมแพ้อย่างเต็มเปี่ยม
หยูซือห้านหรี่ตามอง นัยน์ตานั้นฉายแววตาอันดูถูกและร้ายกาจออกมา
เหมือนว่าเขาสัมผัสของเล่นที่ดูโหดร้ายได้ เลยยิ้มพูด “อย่าเพิ่งไปแตะต้องโห้หลีเฉิน ฉันอยากเห็นจริงๆ เย้นกว่านจะทนได้สักกี่น้ำ เพื่อที่จะปกป้องโห้หลีเฉินเอาไว้”
เขาย่อมชัดเจนดีว่า พละกำลังของลูกน้องของตนเองนั้นมือหนักขนาดไหน
ถ้าปกติแล้ว แค่ถีบออกไปแค่เท้าเดียวก็สามารถทำให้ตัวของเย้นหว่านกระเด็นจนกลิ้งอยู่บนพื้นแล้ว ขนาดจะลุกขึ้นยังไม่ปัญญาแล้ว นั่นก็คือเป็นการเอาชีวิตเธอไปครึ่งหนึ่ง
แววตาจองเย้นหว่านเคร่งขรึมลง ในใจอันแน่นไปด้วยความโกรธเกลียดอย่างหนักมาก ทำได้แค่กัดฟันทัน พร้อมทั้งหนักแน่นเข้าไว้
ทำร้ายเธอ ยังดีกว่าไปทำร้ายโห้หลีเฉิน
แม้ว่าสามารถทนได้ไม่กี่นาทีก็ตาม แค่ไม่กี่นาทีก็ดีแล้ว
ถ้าเห็นโห้หลีเฉินตายไปต่อหน้าต่อตาเธอ เช่นนั้นเธอควรตายอยู่ตรงหน้าเขาก่อนดีกว่า
สติอารมณ์ของเย้นหว่านตัดสินใจเฉียบขาด
ความเฉียบขาดของหยูซือห้านที่จงเกลียดจงชังทุกอย่างจนแผนเผามอดไหม้ จนทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง
เขาออกคำสั่ง “ลงมือ! เอาแบบจัดหนัก!”
ความหมายคือ ไม่ต้องยั้งมือเลย
แววตาของหญิงสาวสองคนทอประกายความโหดร้ายออกมา และมีความสุขอย่างเต็มเปี่ยม
พวกเธอกำหมัดไว้แน่นทั้งสองข้าง พลันมีเสียง “กรอบแกรบ” ดังออกมา แถมยังทำท่าวอร์มร่างกายก่อน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม ในการทรมานเย้นหว่านอย่างเต็มที่
ตอนที่อยู่ชานเมืองก่อนหน้านี้ พวกเธอเป็นหนึ่งในสี่สาวใช้ที่คอยดูแลเย้นหว่าน พวกเธอเป็นญาติกับหยูซือห้าน ก็ย่อมรู้ว่า สภาพของหยูซือห้านที่เปลี่ยนเป็นคนก็ไม่เชิงผีก็ไม่ใช่เป็นแบบนี้ ล้วนเป็นเพราะว่าเย้นหว่านเป็นคนทำร้ายทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้พวกเธอก็ทั้งโกรธเกลียดเย้นหว่านอย่างมาก แต่ก็ได้รับคำสั่งจากหยูซือห้าน ว่าได้ไปทำร้ายเธอ พร้อมทั้งเก็บงำ ความรู้สึกขยะแขยงและโกรธเกลียดเอาไว้
ตอนนี้ หยูซือห้านเอ่ยปากพูดแล้ว แน่นอนว่าพวกเธอต้องเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เอามาจัดการเย้นหว่านให้ตายไป
ในใจของเย้นหว่านรู้สึกหนาวเหน็บตีขึ้นมาเป็นระลอก
เธอกัดฟันเอาไว้ จากนั้นก็ยืดหลังตรง แถมไม่มีความรู้สึกสบายเลยสักนิด เพื่อที่จะแบกรับเอาไว้อย่างนี้
ขอแค่ไม่ทำร้ายโห้หลีเฉิน ให้เธอทำอะไรก็ยินยอมรับสภาพกับความเจ็บปวดอันแสนทรมาน
เย้นหว่านจ้องมองผู้หญิงทั้งสองคนที่เขยิบเข้าใกล้อย่างระแวดระวังตัว ตอนที่พวกเธอลงมือนั้น พลันยื่นมือออกมาข้างหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันช่วงด้านหน้าทรวงอกของตนเองเอาไว้
สามารถขวางได้นิดหน่อย ก็คือนิดหน่อยเท่านั้นเอง
แต่ว่าผู้หญิงสองคนนี้ จงใจที่จะทรมานเธอ
พวกเธอสองคนจัดการแยกแขนของเธอออกทันที จากนั้นก็ต่อยตรงบริเวณท้องน้อยของเย้นหว่านอย่างรุนแรงทันที เหมาะเจาะพอดี ที่เป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่เธอโดนเตะเมื่อครู่นี้
ความเจ็บปวดครั้งที่สอง มันเจ็บปวดรวดร้าวที่ตัวของเย้นหว่านสั่นเทาไม่หยุด
ในเวลาเดียวกัน ผู้หญิงอีกคนก็ใช้เท้าเตะตรงหัวเข่าของเธอ วินาทีนั้น ขาของเย้นหว่านก็ชาไปทั้งขาทันที
ตั้งแต่ขายาวไปจนถึงท้อง เธอเจ็บปวดทรมานจนทรุดตัวลง
ร่างกายก็สั่นเทา พร้อมทั้งส่ายไปส่ายมาจนไม่ไหว
รูปร่างของโห้หลีเฉินเป็นคนสูงใหญ่อยู่แล้ว บวกกับอาการสั่นของเธอ จนทำให้ทรงตัวได้ไม่ดีจนส่ายไปส่ายมา อีกนิดก็เกือบล้มไปกองกับพื้นแล้ว
เย้นหว่านตกใจจนหน้าซีดเผือด และก็ไม่ได้สนใจความเจ็บปวดที่อยู่บนตัวของตนเองไว้ พลันดอกเขาเอาไว้แน่นอย่างร้อนรน
ดวงตาของเธอแดงฉาน ใบหน้าซีดเผือด แต่มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก
“นอกจากพวกแกทำร้ายฉันให้ตายไปก่อน ไม่งั้น ฉันไม่มีทางให้พวกแกเข้ามาทำร้ายเขาได้!”
ไม่ว่าใครหน้าไหนทั้งนั้น
“งั้นแกก็ตายไปซะสิ!”
แววตาของหญิงสาวฉายแววตาโหดร้ายออกมา
กำปั้นของเธอเปลี่ยนรูปร่างไป พลันเอานิ้วสองนิ้วแทรกเข้าไปด้วย จนเห็นว่ามันนูนจนเด่นชัดออกมา จากนั้นก็ออกแรงอย่างหนักหน่วงพุ่งมาทางหน้าผากของเย้นหว่าน
ไม่ไกลนัก สีหน้าของหยูซือห้านเปลี่ยนไปทันที
การต่อสู้แบบนี้ เท่ากับว่าเย้นหว่านต้องตายแน่ๆ! เขาก็แค่อยากจะสั่งสอนเย้นหว่านเท่านั้นเอง ยังไม่อยากให้เย้นหว่านตาย
สมควรตาย——
ทว่าเขายังไม่ทันพูดห้ามปรามออกไปเลย ก็เห็นว่า กำปั้นของผู้หญิงกระแทกเข้ากับด้านหน้าของหน้าผากของเย้นหว่านแล้ว
เหตุการณ์ต่อไป ก็คงสมองเบลอจนหลุดลอย และก็เสียชีวิตอยู่ตรงนี้
เย้นหว่านใช้มือกอดโห้หลีเฉินเอาไว้ ไม่ทันที่จะป้องกันแล้ว ดวงตาของเธอเบิกตาจ้องมองกำปั้นของผู้หญิงที่พุ่งมีที่หน้าผากของตนเอง มันทำให้สัญชาตญาณเกิดความรู้สึกหวาดกลัวและอันตรายมาให้เธอด้วย
จนกระทั่ง เธอสัมผัสลมหายใจของความตายได้
“เย้นหว่าน แกสมควรตายซะ!”
เสียงของผู้หญิงคมกริบ พร้อมทั้งดุดันต้องการชีวิต
เธอไม่คิดยับยั้งความรู้สัก พลันกำปั้นพุ่งลงมาอย่างไม่มีการลังเล
“ปึก”
เสียงหนักเสียงหนึ่ง นิ้วกระดูกมือของผู้หญิงกระทบเข้ากับหลังฝ่ามืออันหนาใหญ่
ก็เห็นว่า ฝ่ามืออันเรียวงดงามน่ามองของฝ่ามือผู้ชายข้างหนึ่ง กำลังแนบชิดกับหน้าผากของเย้นหว่าน เพื่อปกป้องเธออยู่ …