สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่609 แคร์​สิ

บทที่609 แคร์​สิ

นิ้วมือของเย้นโม่หลินตกลงไปบนชีพจร​ของกู้จื่อเฟย ถึงค่อยๆปล่อยมืออย่างช้าๆ

เขามองดูกู้จื่อเฟยด้วยแววตาที่เข้มขรึม​ และพูดเสียงทุ้ม​ต่ำว่า

“ช่วงนี้​ คุณ​ผ่านมันมายังไง?”

กู้จื่อเฟยประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ทำไมจู่ๆถึงถามแบบนี้?หรือว่าร่างกายของเธอจะป่วยหนักเพราะเหตุนี้​จริงๆ​?

อารมณ์​ของ​เธอหดหู่​เล็กน้อย​ กัดฟัน​ พูดว่า​

“ร่างกายฉันเป็นอะไรกันแน่​ คุณ​พูดตรงๆเถอะ​ ฉันรับได้อยู่​แล้ว​”

ทีแรก​คิดว่า​เย้นหว่านตายไปแล้ว​ ถูก​เย้นโม่หลินรังเกียจ​และไล่ออก​ไป​ เธอก็เคยแบกรับมาแล้ว​ กู้จื่อเฟยรู้สึก​ว่า​ตอนนี้เธอแข็งแกร่ง​ไม่ใช่น้อยๆแล้วนะ

ยังมีเรื่องอะไรที่เธอไม่สามารถ​แบกรับ​ได้อีกล่ะ?

ต่อให้เป็นโรคที่รักษาไม่ได้​ก็ตาม…………

เย้นโม่หลินมองดูสีหน้าที่นิ่งสงบของ​กู้จื่อเฟย สีหน้ายิ่งดูแย่ลง

เขาตะคอก​เสียงดุดัน “กู้จื่อเฟย คุณ​ไม่แคร์ร่างกายคุณ​ขนาดนี้เลยหรอ?คุณ​แบกรับไหว คุณ​เคยคิดถึง​คนรอบข้าง​ของคุณบ้างมั้ย​?”

ฮ่า​?

คนรอบข้างเธอ?

กู้จื่อเฟยมองดู​เย้นโม่หลินอย่างมึนตึ๊บ​ หลังจาก​สักพัก​มุมปากยกรอยยิ้ม​ที่เศร้าโศก​ขึ้น​มา​

“คุณ​ไม่พูด คนที่เป็นห่วงฉันก็จะไม่รู้​”

ยิ่งไปกว่านั้น​ ช่วงนี้เธออยู่ที่ต่างประเทศ​ รอบตัว​ล้วนเป็นคนแปลกหน้า​ที่​ไม่รู้​จักกัน

เธอแทบจะถือได้ว่า​ ไม่มีคนรอบข้าง​เลยด้วยซ้ำ

เย้นโม่หลินพูดด้วยความเสียใจว่า “ผมไม่พูด?คุณ​ไม่รู้สึ​กเลยหรอว่าผมก็………..”

พูดไปแค่ครึ่งทาง​ เสียงของเย้นโม่หลินกลับติดไว้ที่คอดื้อๆ

เขาอยากพูด​อะไร?แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึก​ว่า​ประหลาด​ใจมากเลย

เขาก็เป็นห่วงกู้จื่อเฟยงั้นเหรอ?

ไม่ใช่หรอกมั้ง​ ความจริงเขาถือเป็น​แค่ความรับผิดชอบ​และชดใช้​ด้วยการยอมรับเธอ​ กับเธอก็ไม่ได้ถือว่า​สนิท​กัน​ ยิ่งไม่ใช่คนรอบข้าง​ที่มีความสัมพันธ์​แบบสนิท​สนม

ถือว่า​ไม่ใช่จริงๆ​

เพียงแต่ว่า​ช่างงุนงง​ ในใจเหมือนมีก้อนหิน​ทับเอาไว้​ ช่างหนักหน่วง​ทำให้เขาหายใจไม่คล่อง​

กู้จื่อเฟยมองดู​เย้นโม่หลินด้วยความสงสัย​ สีหน้า​ของ​เขาเข้มขรึม​และสลับซับซ้อน​อย่างมิอาจเข้าใจ​ได้​ เขาพูดแค่ครึ่งทาง​ หมายความว่าไง​หล่ะเนี่ย​?

เขา เป็นอะไรไป?

เผชิญ​กับสายตาที่มองมาด้วยความสงสัย​ของกู้จื่อเฟยเย้นโม่หลินทำหน้าตึงเครียด​แบบทำตัวไม่ถูก

พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เสี่ยวหว่านเป็นน้องสาวผม​ ผมจะไม่ปิดบัง​เพราะคุณ​ และโกหก​เธอเพราะเรื่องใดๆหรอกนะ”

เพราะฉะนั้น​ จะไม่พูดอะไร​

สีหน้ากู้จื่อเฟยขาวซีดทันที​ และ​รู้สึก​เศร้าใจ​เหลือเกิน​

คำพูดนี้​ ความสัมพันธ์​ที่ห่างเหิน​และสนิทสนม​มันชัดเจนเกินไป​แล้วนะ​

ในใจของเขาเน้นโม่หลิน กู้จื่อเฟยถือว่าไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน​ ยิ่งไปกว่านั้น​ไม่เข้าตาเลยด้วยซ้ำ​ ที่เขาแคร์​ และเป็นห่วงเป็น​ใย​ ก็มีแค่เย้นหว่าน และมีแค่เย้นหว่าน

แววตาของกู้จื่อเฟยมืดมน​และตกลงมา​ ไม่มีเรี่ยวแรง​ จู่ๆรู้สึก​ว่า​ ต่อให้เป็นโรคที่รักษาไม่หาย​ ก็ยังไม่ทำให้อารมณ์​ของเธอหดหู่​และเสียใจขนาดนี้​เลย

เย้นโม่หลินมองดูหน้าตาท่าทางกู้จื่อเฟยแบบนี้​ กลับรู้สึก​ว่า​โมโห​มาก​ยิ่งขึ้น

จู่ๆเขายื่นมือ​ จับไหล่ของกู้จื่อเฟยไว้​ และบีบบังคับ​ให้เธอเงยหน้า​ขึ้น​มา​

เขาจ้องมอง​เธอ​อย่างไม่คลาดสายตา​ พูดเหมือนกับออกคำสั่งว่า “กู้จื่อเฟย ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป​ ดูแลร่างกาย​ของคุณ​ให้ดีๆซะ​ อย่าอดมื้อกินมื้อ​ อย่าอดหลับอดนอน​ วันๆเอาแต่เศร้าโศกเสียใจจะไปช่วยกลบฝังบุปผา

มิเช่นนั้นร่างกายคุณ​แย่ลงเรื่อย​ๆ และล้มป่วย​ มีแต่จะทำให้ผม……….คนรอบตัว​คุณ​เป็นห่วงและเสียใจ​”

กู้จื่อเฟยมองดูหน้าตาที่หล่อเหลา​ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ​ กำลังจ้องมอง​ตัวเองด้วยสายตาที่ไม่คลาดเคลื่อน​

คำพูดที่เธอได้ยิน​ ทำให้เธอมึนตึ๊บ​ไปสักพัก​ ถึงมีปฏิกิริยา​ตอบสนอง​

นี่หมายความว่า คือ​ เธอไม่ได้เป็นโรคที่รักษาไม่หาย​ และไม่ได้ป่วยหนัก​ แค่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พักผ่อน​ อ่อนล้า​เกินไป​ จึงทำให้ร่างกาย​แย่ลง?

แววตาของเธอเปล่งประกาย​แสง​ ไม่น่าเชื่อ​ “แค่เนี้ย​?ฉันไม่ได้ป่วย?”

“คุณ​จะเอาไงอีก?ร่างกาย​ถูกคุณทารุณกรรม​แบบนี้แล้ว​คุณ​ยังรู้สึก​ว่า​ดีอีกหรอ​?”

น้ำเสียงเย้นโม่หลินหนักแน่น​เพิ่มขึ้น​ น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วย​ความไม่พอใจ​

หากเขาไม่ได้จับชีพจร​เธอ​ ซึ่งไม่รู้เลยว่านอกจาก​ผิวเผิน​แล้วเธอดูผอมบาง​ไปหน่อย​ โทรมไปหน่อย​ ร่างกายข้างในอาการแย่ไปหมด​แล้ว​

นี่ถ้าหากไม่พักฟื้น​ดีๆสักพัก​ ต้องเจ็บปวด​และเรื้อรัง​ชั่วชีวิต​อย่างแน่นอน​

กู้จื่อเฟยจ้องมอง​เย้นโม่หลินแบบเบลอๆ​ อย่างไม่มีปฏิกิริยา​ตอบสนอง​

หน้าตาเขาแบบนี้​ ดูๆไปแล้ว​ เหมือนกับ​เป็นห่วงร่างกาย​ของเธอ​ ยิ่งไปกว่านั้น​ทำให้เธอมีความรู้สึก​ผิดๆอย่างหนึ่งว่า​ เขาแคร์​สุขภาพ​ร่างกายของเธอ

แต่ว่า​ เป็นความรู้สึก​ผิดแน่นอน​หรอ​

เย้นโม่หลินเกลียด​เธอขนาดนั้น​ จะเป็นห่วงเธอได้ไงกันเล่า

เขาก็แค่รำคาญ กลัวเธอป่วย​ ทำให้เขาต้องลำบาก​ลำบน และทำให้เย้นหว่านเป็นห่วง

แววตากู้จื่อเฟยมืดมน​ ก้มหน้าก้มตา​ พูดด้วยเสียงแหบแห้ง​ว่า “ฉันรู้แล้วค่ะ”

ไม่รบกวน​คุณ​หรอก

มองดูหน้าตาที่เชื่อฟังของกู้จื่อเฟยแบบนี้​ เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว​แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว​ ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ มองเห็นเธอแบบนี้​ เขาก็รู้สึ​กว่า​ไม่สายไปทั้งตัว​

เหมือนกับว่าอัดอั้นตันใจ​ ทำให้เขาเสียใจ​ กลับไม่มีที่ระบาย

เขากำหมัดด้วยความโมโห​ หันไป​ จ้องมอง​ต้วนอานที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยสายตาที่ดุร้าย​

“ยังยืนซื่อบื้อ​อยู่​ทำไม?รีบไปต้มซุปบำรุงให้เธอดื่มสิ”

ต้วนอานมึนตึ้บ​ คุณ​ชายครับ​ ที่นี่บนเครื่องบิน​นะครับ​!ต่อให้เขาเตรียมพร้อม​ ที่สามารถ​เตรียมพร้อม​และไม่สามารถ​เตรียม​พร้อม​ก็เตรียมพร้อม​หมดแล้ว​ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเตรียม​หม้อดินยาบำรุงส่วนนี้หรอกนะ

ข้อเรียกร้อง​นี้​ ไร้เหตุผล​ชัดๆ

เย้นโม่หลินตะคอก​แบบรำคาญ “ซื่อบื้อ​อยู่​ได้?รีบไสหัวไป​!”

โมโห​อย่างตามใจ​ตัวเอง​

ร่างกาย​ของ​ต้วนอานกระตุกอย่างควบคุม​ไม่ได้​ บนหน้าผากมีเหงื่อ​ไหลออกมา​ทันทีทันใด​

เขาแทบจะไม่ได้คิดอะไรเลย​ ลุกขึ้น​มา​ก็เดินตรงไปข้างหน้า​

สวรรค์​ เขากล้าสาบานเลยว่า แค่เขายังไม่ปฏิบัติตาม​ ต้องถูกเย้นโม่หลินโยนลงไปจากเครื่องบิน​แน่นอน​

ให้ตายสิ อารมณ์​คุณ​ชายแปรปรวนและแย่จริงๆ!

นี่บนเครื่องบิน​นะ​ บินอยู่บนอากาศ​ ไม่มีวัตถุดิบ​อะไรเลย​ เขาจะเตรียม​ซุปบำรุงยังไง?

เสกออกมา​ดื้อๆงั้นเรอะ​?

อยากร้องไห้​ ตำแหน่ง​นี้​ยิ่งทำยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ เขาลาออกได้มั้ย​?

ด่าต้วนอานเสร็จ​ อารมณ์​ของ​เย้นโม่หลินถึงจะดีขึ้น​มานิดหน่อย​

เขาหันหน้า​ไป​ มองไปที่กู้จื่อเฟย กลับพบ​ จื่อเฟยดันหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง​ ทำหน้าเคร่งเครียด​ สีหน้า​เข้มขรึม​และห่างเหิน​

ต่อให้นั่งอยู่ตรงหน้าของเขา​ ระยะห่างไม่ถึงคืบ​ กลับเหมือนกับว่า​ ห่างจากเขาเหมือนกับราวฟ้า​กับ​ดิน​

ความรู้สึก​แบบนี้​ทำให้เย้นโม่หลินยิ่งหงุดหงิด​

สีหน้าเขาเข้มขรึม​มากขึ้น​ ตะคอกเสียงเย็น​ชาว่า “ต้วนอาน นายมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง​!”

ต้วนอานกระตุกไปทั้งตัว​ หน้าขาวซีดไปหมด​

แมร่ง​ บนเครื่องบิน​ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลย​ แม้แต่จะต้องทำซุปยังไงเขาก็ยังคิดไม่ออก​เลย​ด้วยซ้ำ ก็กำหนดเวลาเรียบร้อย​แล้ว​?

ครึ่งชั่วโมง​?

หลังจาก​ครึ่งชั่วโมง​ให้เขากระโดดลงไปจากเครื่องบิน​โดยตรงดีกว่า​!

“ง้อคุณ​หนูกู้ไม่สำเร็จ ก็ลามปาม​มาถึงผม​ ช่างไร้มนุษยธรรม​ไปแล้ว​”ต้วนอานบ่นๆอย่างฝืนทน

เสียงของเขาไม่ดังนัก​ แต่ว่าเพิ่งพูดจบไปเอง​ เสียงอันตราย​และเย็นชาของเย้นโม่หลินก็ดังขึ้น​มา​ซะแล้ว

“นายพูดว่า​อะไร​นะ?”

ต้วนอานกระตุกไปทั้งตัว​ เหงื่อไหลไม่หยุด

เขารีบพูดว่า​ “ผมไม่ได้พูดอะไรเลยนะครับ!ผมรีบไปเตรียม​ซุปเดี๋ยวนี้​เลยครับ!”

พูด​จบ​ เขาไม่กล้าอยู่​ที่นี่​ต่อไปด้วยซ้ำ​ เบียดเข้าไปข้างฝั่งคนขับโดยตรง

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท