บทที่ 624 ตรวจสอบเหรอ
“อะไรนะ”
ผู้คนต่างมีสีหน้าตื่นตกใจ ไม่อยากจะเชื่อ
หยูฉู่สองขมวดคิ้วอย่างแรง สายตามองโห้หลีเฉินอย่างสับสน ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า
“คำพูดนี้ของหยูซือห้าน หมายความว่าอะไร”
หยูซือห้านถูกปลดแล้ว ถ้าโห้หลีเฉินไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้ นับจากนี้ตระกูลหยูก็จะไม่เลี้ยงดูทายาทคนอื่นอีก แบบนี้ต่อไป ตระกูลหยูก็อาจจะไร้ผู้สืบสกุล
มือของเย้นหว่านที่กุมมือของโห้หลีเฉินเอาไว้ ก็จับแน่นขึ้นมาทันที
สีหน้าขาวซีดเหมือนกระดาษในชั่วพริบตา
วันที่ถูกบีบบังคับให้แต่งงานนั้น โห้หลีเฉินถูกหยูซือห้านวางยากินยาที่ทำให้เป็นหมันเพื่อช่วยเธอ ตอนนั้นที่ยาออกฤทธิ์ เจ็บปวดจนแทบขาดใจ
ช่วงที่ผ่านมานี้ เย้นหว่านพยายามลืมเรื่องนี้ ไม่อยากคิดยิ่งไม่อยากพูดถึง แค่อยากจะอยู่ด้วยกันสองคนจนแก่เฒ่ายิ่งดี
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า หยูซือห้านจะพูดออกมา ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้
เย้นหว่านไม่สนใจเรื่องลูกได้ แต่เรื่องทายาทของตระกูลหนู กลับต้องมีลูกสืบสกุลจึงจะมีคุณสมบัติเป็นทายาทได้
ถ้าทำไม่ได้ โห้หลีเฉินก็ยังถูกปลด และยังต้องได้รับบทลงโทษที่ทารุณโหดร้าย
หลายครั้ง ที่เย้นหว่านเกลียดกฎระเบียบที่ไร้ความเมตตาปรานีของตระกูลหยู
“ไม่เป็นไร”
โห้หลีเฉินสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเย้นหว่าน เหล่มองไปที่เธอ สายตาลึกล้ำอบอุ่น “ยานั้นไม่ได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ภายในร่างกายของผม ป่ายฉีได้เจาะเลือดผมไปตรวจแล้ว ผลตรวจออกมา จึงจะรับรองได้ว่าตกลงมันทำลายทั้งหมดไปแล้วหรือยัง ยังสามารถมีลูกได้อีกหรือไม่”
ดังนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถมั่นใจได้
ความรู้สึกท้อแท้ในใจเย้นหว่าน ก็กลับมีความหวังขึ้นมา สายตาเธอเปล่งประกายไม่หยุด ในใจขึ้นๆลงๆกระวนกระวาย
และยังมีการสัมผัสที่น่าประหลาดใจ
ที่แท้ตอนที่เธอปิดปากไม่ยอมเอ่ยเรื่องนี้นั้น โห้หลีเฉินก็ได้ตรวจร่างกายกับป่ายฉีรู้แต่แรกว่ายังพอมีความหวัง เธอก็คงถามตั้งนานแล้ว ไม่ต้องมาทำให้เขาไม่สบายใจอยู่คนเดียว
เย้นหว่านจับมือโห้หลีเฉินแน่น แต่ละคำ หนักแน่นไม่หวั่นไหว
“ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ฉันก็จะอยู่กับคุณ ตลอดชีวิต”
เสียงของเธอไม่ได้จงใจลดเสียงเบาลง คนที่อยู่ใกล้ต่างก็ได้ยิน
สายตาของโห้หลีเฉินอบอุ่น
สีหน้าของบรรดาผู้อาวุโสแต่ละคนของตระกูลหยูก็คิดพิจารณาในใจต่างไปแต่ละคน
สีหน้าของเย้นโม่หลิน แค่เพียงชั่วพริบตาก็ดำอย่างกับก้นหม้อ
สายตาที่มองโห้หลีเฉินและเย้นหว่านดำมืด ความโกรธที่อยู่ภายในพลุ่งพล่าน
เย้นหว่านก็ยังใจกว้างมากจริงๆ ต่อให้โห้หลีเฉินมีลูกไม่ได้ ก็ยังรักเขาไม่เสื่อมคลาย
คิดอย่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!
น้องสาวช่างไร้เดียงสา ก็มีเพียงพี่ชายอย่างเขานี้มาเพื่อปกป้อง ถ้าโห้หลีเฉินเป็นหมัน ต่อให้เขาต้องใช้ไม้แข็งก็ต้องแยกพวกเขาออกจากกัน
“ไม่มีทางที่จะไม่ออกฤทธิ์ในร่างกาย! ยานั้นของฉันพอเข้าปากก็จะเริ่มออกฤทธิ์ทันที โห้หลีเฉินเพิ่งจะกินเข้าไปก็มีปฏิกิริยาอย่างเห็นได้ชัด ร่างของเขาถูกทำลายเสียหายแล้ว ไม่มีทางมีลูกได้ ไม่มีทางเด็ดขาด!”
หยูซือห้านตะเบ็งเสียง ตะโกนอย่างมั่นใจ
ในเมื่อตอนนี้เขาถูกเหยียมจมโคลนแล้ว เขาก็ไม่มีทางให้โห้หลีเฉินได้อยู่อย่างสงบสุข
“รอผลตรวจของป่ายฉีก่อน อย่างไรก็ตาม ผลเป็นอย่างไร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับแก!”
เย้นโม่หลินเดินมาตรงหน้าหยูซือห้าน มองลงมาที่เขา
สายตาเย็นยะเยือกจนทำให้คนตกใจกลัว
เขายกมือขึ้น สั่งการอย่างหงุดหงิดว่า
“เอาตัวเขาไป”
หนูซือห้านสั่นไปทั้งตัว ตรงหน้ามืดมิด
ถูกนำตัวไป เขาก็ไม่มีทางรอดแล้ว
จะต้องถูกเย้นโม่หลินทรมานจนตายแน่นอน ตระกูลหยูก็ไม่มีทางปกป้องเขาแล้ว
“ไม่ ท่านผู้นำ โห้หลีเฉินต้องเป็นหมันแล้วแน่นอน! ถ้าเขาเป็นหมัน ตระกูลหยูจะต้องไร้ลูกหลานสืบสกุล! เพื่อความก้าวหน้าที่ยาวนานของท่านผู้นำคุณต้องช่วยผม ต้องช่วยผมให้ได้นะ……”
หยูซือห้านตะโกนอย่างตื่นกลัว แต่คนที่แบกเปลเขาไปกลับไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อย กดเข้าไว้ด้วยหน้าตาไร้ความเมตตาปรานี แบกไป
เสียงของเขาตะโกนอย่างคมชัด แต่กลับยิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ
ยิ่งเบาลงเรื่อยๆ
ที่ดังอยู่ในหูของผู้คนตระกูลหยู ยิ่งชัดเจนว่า ไม่มีความหมายเลย
โห้หลีเฉินไม่สามารถมีลูกได้ ความจริงแล้วสามารถเป็นทายาทได้หรือไม่เป็นประเด็นสำคัญของเรื่อง แต่หยูซือห้านต้องการยั่วโมโหเย้นโม่หลิน ก็สมควรตายแล้ว
“หยูซือห้านคือคนที่ผมเห็นมาตั้งแต่เด็กจนโต เป็นเด็กที่ผมอบรมเลี้ยงดูด้วยตัวเอง ก่อนที่พวกคุณจะลงโทษเขา ให้ผมไปเยี่ยมเขาสักครั้งได้ไหม”
สายตาท่านอาวุโสผมสีเงินมองไปทางที่หยูซือห้านถูกแบกออกไปอย่างสับสน พูดด้วยเสียงกังวานใส
เสียงเขาดังมาก หยูซือห้านที่ถูกแบกออกไปไกลแล้ว ก็ยังได้ยินประโยคนี้
เขารวบรวมเรี่ยวแรงหันหน้ามองมา ก็สบตาเข้ากับสายตาของท่านอาวุโสผมสีเงิน
ไม่ค่อยชัดเจน แต่สายตาที่ลึกล้ำนั้น กลับทำให้ในใจหยูซือห้านสั่นไหวเล็กน้อย
ท่านอาวุโสใหญ่คือคนที่รับผิดชอบอบรมเลี้ยงดูหยูซือห้านเป็นหลักตั้งแต่เด็ก อาจจะเรียกได้ว่าเลี้ยงเขาโตด้วยมือตัวเอง อบรมเลี้ยงดูมาจนถึงตอนนี้ และก็เป็นคนที่ตั้งความหวังกับเขาไว้สูง คนที่สนับสนุนเขาที่สุด
ท่านอาวุโสใหญ่เป็นคนมุ่งมั่นพยายาม มีเป้าหมายชัดเจน หากเป็นโห้หลีเฉินในสถานการณ์ที่เขาคิดว่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นทายาทตระกูลหยู ท่านอาวุโสใหญ่ก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆ
ถ้าหาก ฝากความหวังไว้ที่ท่านอาวุโสใหญ่ เขาอาจจะมีโอกาส……
แววตาหดหู่ของหยูซือห้าน พลันมีความหวังริบหรี่ขึ้นมา
มุมปากเย้นโม่หลินยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ ท่าทางดูถูก เหยียดหยามอย่างยิ่ง
“ในเมื่อผมก็ไม่ได้คิดจะฆ่าเขาให้ตายทันที ยังอยากจะทรมานอีกสักระยะ คุณจะเยี่ยม ก็จะให้คุณไปเยี่ยมสักครั้งก็ไม่เป็นไร”
พูดพลาง สายตาอันตรายของเย้นโม่หลินกวาดตามองทุกคนของตระกูลหยูรอบๆ แต่ละคำ หยิ่งยโสบีบบังคับอย่างบ้าอำนาจ
“พวกคุณใครอยากจะมาเยี่ยม ก็ได้ ให้พวกคุณได้เห็นคนที่มันกล้าทำร้ายองค์หญิงน้อยของตระกูลเย้นเรา ว่ามันต้องเจอกับจุดจบแบบไหน!”
คำนี้ เหมือนตบหน้าหนึ่งฉาด ตบไปที่ใบหน้าของท่านอาวุโสผมสีเงิน
เขาเต็มไปด้วยริ้วรอยตีนกาสีหน้าที่ย่ำแย่ ความโกรธที่สุงทีละชั้นๆในอก
วันนี้ เขา แล้วยังตระกูลหยู ต่างล้วนต้องมาพบกับความอัปยศอดสูที่ไม่เคยมีมาก่อน ถูกคนบีบให้อยู่ในสภาพแบบนี้ กลับไม่กล้าโต้แย้งเลยสักคำ
ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน!
ถ้าต่อไปให้โห้หลีเฉินเป็นทายาทตระกูลหยู ไม่แน่ว่าตระกูลหยูคงต้องใช้นามสกุลเย้นเหมือนกันแล้ว
เขากัดฟันกรอด มองผู้คน พูดว่า
“ในเมื่อเรื่องที่โห้หลีเฉินจะเป็นหมันหรือไม่ยังไม่แน่นอน อย่างนั้นเรื่องทายาท ก็รอให้ผลตรวจออกมาก่อน ค่อยตัดสินใจเถอะ”
เขาไม่อะไรให้คำนึงถึงมากนักและไม่มีโอกาสจะโต้แย้ง พูดต่ออีกว่า
“ผลการตรวจจะออกได้เมื่อไหร่ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ อย่าได้ยื้อเวลาออกไปมากนักเลย ถูกแล้ว หมอของตระกูลหยูเราก็เป็นผู้มีอำนาจ หลักการในโลกทางการแพทย์ ไม่แน่ว่าอาจจะมีวิธีรักษานะ อีกเดี๋ยว ก็เรียกมา ตรวจด้วยกันเสียเลยเถอะ”
แต่ว่าผลตรวจของป่ายฉี เขาไม่เชื่อถือ
ความสามารถทางการแพทย์ของป่ายฉีไม่มีใครกล้าสงสัย แต่ใครใช้ให้ตระกูลเย้นตอนนี้เป็นพวกเดียวกับโห้หลีเฉินเล่า ป่ายฉีก็อาจจะทำเพื่อตระกูลเย็น ละเมิดจรรยาบรรณแพทย์พูดโกหก
ถึงเวลาโห้หลีเฉินเป็นหมัน แต่กลับยังดำรงตำแหน่งทายาทท่านผู้นำ ก็ไม่ได้