เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว โห้หลีเฉินที่กำลังเคาะคีย์บอร์ดอยู่ก็หยุดชะงักไปสักพัก แล้วหันมาดูเย้นหว่านที่เพิ่งจะเข้ามา จากนั้นเสียงทุ้มต่ำก็ได้เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงไปว่า
“เป็นอะไรไป?”
“ฉัน…?”
เย้นหว่านอ้าปากและลังเลอยู่สักพัก แล้วจึงเอ่ยว่า “ไม่มีอะไร แค่ไปเข้าห้องน้ำคนเดียวก็เลยกลัว ๆ น่ะ”
เธอไม่ได้เล่าเรื่องผู้ชายที่อยู่ในห้องน้ำคนนั้นให้โห้หลีเฉินฟัง ทว่าโห้หลีเฉินที่อยู่ในสถานการณ์นี้เองกลับมีความรู้สึกที่ฉับไวมากเช่นกัน เธอไม่อยากจะเพิ่มความยุ่งยากให้เขาอีกแล้ว
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปาก แล้วพูดอย่างเป็นธรรมชาติมากเลยว่า
“ถ้าอยากไปห้องน้ำอีก ให้เรียกฉันไปเป็นเพื่อนเธอ”
ผู้ชายตัวโตคนหนึ่ง ไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง
พอคิด ๆ ดูแล้วภาพนั้นดูจะน่าอายเกินไปหน่อยไหม
ฉับพลันนั้นเย้นหว่านก็รู้สึกได้ถึงกระแสความอบอุ่นที่แล่นผ่านเข้ามาในใจ จึงได้ยิ้มและพยักหน้า “ตกลง”
เย้นหว่านเก็บเรื่องในใจเอาไว้ แล้วกลับไปที่ห้องพักของเจ้าหน้าที่
เธอเลื่อนประตูเปิด ทันใดนั้นก็นั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่อยู่บนเตียง
คำพูดของผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่แค่การข่มขู่ธรรมดาแน่นอน แต่เขาคิดจะทำอะไรกันแน่นะ?
ที่นี่เป็นการทรวงการต่างประเทศเพียงแค่กั้นไว้ด้วยประตู แล้วโห้หลีเฉินเองก็อยู่ห่างไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น
ต่อให้เขาคิดจะทำอะไร ก็คงจะทำอะไรได้ไม่มากนัก
เย้นหว่านคิดไม่ออก แต่จวบจนตอนนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนมีกลองตีรัวในใจ ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก
แม้แต่รองเท้าเธอก็ยังไม่ได้ถอด เพียงแค่นั่งอยู่บนเตียงด้วยจิตใจที่เคร่งเครียด เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหันทุกเวลา
ทว่าเวลาผ่านไปนานแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอเริ่มสงสัยว่าที่ผู้ชายคนนั้นพูดจะแค่พูดให้เธอตกใจกลัวก็เท่านั้น
แต่ยิ่งรอนานมากขึ้นเท่าไหร่ จิตใจที่เคร่งเครียดก็เริ่มทำให้คนรู้สึกเหนื่อยล้า จนกระทั่งเย้นหว่านได้เริ่มรู้สึกง่วงนอน
เปลือกตาของเธอจวนเจียนจะปิดอยู่รอมร่อและรู้สึกอยากหลับอย่างควบคุมด้วยเองไม่ได้แล้ว
ในตอนที่เปลือกตานั้นใกล้จะปิดแล้ว เสียงก็ดัง “เพี๊ยะ” เย้นหว่านตบไปที่หน้าของตัวเองหนึ่งที ฉับพลันนั้นก็ขับไล่ความง่วงของเธอไปได้ไม่น้อย
หลับไม่ได้ จะหลับไม่ได้
ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย ถ้าเผลอหลับไปก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องน่ากลัวอะไรขึ้นบ้าง เธอแค่ต้องทนให้ถึงที่สุดและผ่านคืนนี้ไปให้ได้
ล้างหน้าก็แล้วกัน ให้ตื่นสักหน่อย
แต่คงจะไม่ไปห้องน้ำคนเดียวแล้ว เย้นหว่านได้ใช้น้ำสะอาดภายในห้องตบเบา ๆ ที่ใบหน้า
ในตอนที่เธอเพิ่งจะเดินลงจากเตียงนั้น ก็มีสิ่งหนึ่งขยับ แล้วก็ได้เห็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ใช่ของในห้องพักเจ้าหน้าที่
งูหนึ่งตัว! เป็นงูจงอาง!
ไม่รู้ว่ามันเข้ามาจากตอนไหน ขณะนี้กำลังเลื่อยขึ้นมาที่ปลายเตียงและเลื้อยเข้าไปในผ้าห่มอย่างว่องไว
เธอตื่นตระหนกจนหน้าถอดสี ฉับพลันนั้นรู้สึกตกใจเสียจนตัวเย็นวูบ เหงื่อเย็น ๆ ค่อยๆ ไหลผ่านแผ่นหลัง
ถ้าเมื่อกี้เธอไม่คิดที่จะลุกไปล้างหน้า แล้วลงจากหัวมุมของเตียง ก็ไม่มีทางเห็นงูที่เลื้อยเข้ามาในผ้าห่มของเธอเลยสักนิด
ถ้าหากเธอนอนหลับต่อไป แล้วถูกกัดขึ้นมาก็คงเป็นเรื่องที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว!
นี่เป็นงูพิษร้ายแรงเชียวนะ
ในหัวของเธออดคิดถึงคำพูดของชายที่อยู่ในห้องน้ำคนนั้นไม่ได้——ฉันแนะนำว่าให้เธอไปจากที่นี่ซะ กลับบ้านไป ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คืนนี้อย่าหวังว่าจะผ่านไปได้ง่ายๆ
นี่ก็คือคำเตือนของเขาอย่างนั้นเหรอ? ถ้าเธอไม่ไป เขาก็จะปล่อยงูเข้ามากัดเธอ!
เย้นหว่านอดที่จะตัวสั่นไม่ได้ สายตาจ้องมองดูงูตัวนั้นที่เลื้อยเข้าไปในผ้าห่มของเธอ
เธอตัวสั่นและถอยหลังไปหลายก้าว ใช้แผ่นหลังพิงประตูเอาไว้ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เตียงนั้นอีก
เธอยิ่งไม่รู้ด้วยว่าในห้องนี้ยังจะมีงูตัวอื่นอีกหรือเปล่า
อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว!
เย้นหว่านรีบทำเวลาและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จากนั้นเปิดประตูออก ฉับพลันนั้นก็วิ่งออกไป แล้วค่อยปิดประตู
อันที่จริงแล้วห้องพักเจ้าหน้าที่เป็นแค่ห้องว่างที่ปิดไว้มิดชิด ไม่ควรจะเป็นที่ที่มีงูเลื้อยเข้ามาได้ แน่นอนว่าชายคนนั้นจะต้องทำรูที่มองไม่เห็นเอาไว้แน่นอน
ส่วนทิศทางของรูนั้น แน่นอนว่าต้องทะลุมาจากห้องที่เขาพัก เขาปล่อยงูมาจากนั้นก็ค่อยอุดรูไว้
แต่ตอนนี้เย้นหว่านปิดประตูไว้แล้ว งูตัวนั้นก็ถูกขังไว้ในห้องพักเจ้าหน้าที่ทำให้ออกมาไม่ได้
ขอแค่เธอไม่เข้าไปในห้องพักของเจ้าหน้าที่ ก็คงจะไม่เป็นอะไรสินะ?
เย้นหว่านสูดหายใจเข้าลึกๆ ให้ร่างกายที่สั่นเทานี้ ไม่ต้องสั่นอย่างรุนแรงขนาดนั้นแล้ว
เสียงที่ทุ้มต่ำของโห้หลีเฉินดังขึ้นจากไม่ไกลว่า “เป็นอะไรไป? อยากเข้าห้องน้ำอีกแล้วเหรอ?”
เมื่อพูดอย่างนี้แล้ว โห้หลีเฉินก็ลุกขึ้นมาแล้วเดินไปหาเย้นหว่าน
เขาก้าวฝีเท้ายาวมาก ฉับพลันนั้นร่างที่สูงใหญ่ของเขาก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย้นหว่านแล้ว
ฉับพลันนั้นร่างของเย้นหว่านก็รู้สึกตึงเครียด พอคิดถึงงูพิษที่อยู่ในห้องแล้ว ก็กลัวว่าโห้หลีเฉินจะเข้าไปใกล้
เธอจึงได้รีบวิ่งไปหาโห้หลีเฉิน แล้วดึงแขนเขาไว้
“เปล่า ฉันแค่นอนไม่หลับน่ะ เลยจะออกมาดูนาย”
ในขณะที่พูด เย้นหว่านก็ออกแรงมากโดยไม่รู้ตัว แล้วลากโห้หลีเฉินเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของเขา
โห้หลีเฉินขยับคิ้วเล็กน้อย แล้วเดินตามเย้นหว่านไป
สายตาของเขาลึกล้ำ แล้วจ้องมองดูนางอย่างเงียบ ๆ แล้วเอ่ยเสียงต่ำว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
แววตาของเย้นหว่านทอประกายเฉียบขาด รู้สึกสับสนวุ่นวายใจ แล้วยิ่งกอดแขนของโห้หลีเฉินแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เธอกลัวจริง ๆ อีกนิดเดียวก็เกือบจะถูกงูกัดตายแล้ว
ตอนนี้ได้กอดแขนของโห้หลีเฉินเอาไว้ ได้ยืนอยู่ข้างกายเขา เธอถึงได้ค่อย ๆ รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาบ้างแล้ว
แต่ทว่า เธอก็ยังคงระงับความหวาดกลัวในใจเอาไว้ แล้วส่ายหัว
“ไม่มีเรื่องอะไรนี่ ฉันก็แค่นอนไม่หลับจริง ๆ ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนนายตอนทำงานเถอะ ดีไหม?”
ในตอนที่พูดอยู่นั้น เย้นหว่านก็มองไปข้างหน้าแวบหนึ่ง ไม่ได้สบตากับโห้หลีเฉินตรง ๆ เลยสักนิด
โห้หลีเฉินหรี่ตาลง
ตามปกติแล้วเวลาที่เย้นหว่านพูดโกหกหรือต้องการจะหลบหนีอะไร ก็มักจะมีท่าทางแบบนี้
เมื่อครู่นี้เธอจะต้องเจอเรื่องอะไรมาแน่ ๆ
สายตาที่มืดครึ้มและเยือกเย็นของโห้หลีเฉินมองไปที่ห้องเจ้าหน้าที่ที่กำลังปิดอยู่ ประกายเย็นชาที่แสนอันตรายวาบผ่านในดวงตา
เขาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “ได้ ฉันมีเรื่องอยากจะให้เธอช่วยฉันจัดการอยู่พอดี”
“อืม อืม”
เย้นหว่านตอบด้วยใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและร่างกายก็ยังคงตึงเครียดโดยที่ไม่รู้ตัวอยู่
มีคนทำร้ายเธอ
ในช่องว่างเดียวกัน ความรู้สึกนั้น ดูราวกับถูกปีศาจจ้องมองอยู่ในความมืดก็มิปาน
เธอสาบานเลยว่าวันนี้จะไม่อยู่ห่างจากเขาเกินหนึ่งร้อยเมตร
เย้นหวานและโห้หลีเฉินนั่งที่โต๊ะทำงานด้วยกันและถูกแสงไฟสาดส่องพอดี แต่พื้นที่ที่แสงส่องถึงมีไม่มากนัก เพียงแค่ส่องมาที่โต๊ะทำงานเท่านั้นเอง
เย้นหว่านถูกงูทำให้ตกใจเสียแล้ว แสงในตอนนี้จึงทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวเพราะมองรอบข้างได้ไม่ค่อยชัดเจนไม่รู้ว่าจะมีงูเลื้อยเข้ามาเงียบ ๆ หรือเปล่า
ถึงแม้เธอจะเข้าใจเหตุผลดีว่าคนคนนั้นไม่กล้าทำร้ายโห้หลีเฉินแน่นอน แต่จากความรู้สึกแล้วก็ทำให้เธอต้องเปิดไฟเพิ่มอีกดวง
ภายในห้องทำงานจึงดูสว่างขึ้นมาบ้าง
โห้หลีเฉินพิจารณาดูเธออย่างไร้ร่องรอย เม้มริมฝีปาก แต่ไม่ได้พูดอะไรและก็ไม่ได้ถามอะไรเช่นกัน
การนั้นก็มอบโน้ตบุ๊กให้เธอหนึ่งเครื่องอย่างเป็นธรรมชาติมาก “นี่คือข้อมูลที่ค้นพบแล้ว เธอลองดูไปตามลำดับ ว่าข้างในนั้นมีww เอกสารข้อมูลของtgหรือเปล่า”
“อืมๆ ได้”
เมื่อเริ่มทำงานแล้ว ก็มองดูที่ไฟล์เอกสารในคอมพิวเตอร์นั้น หลังจากที่เปิดดูก็มีไฟล์เอกสารหนึ่งกองโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้คลิกหนึ่งในนั้น แล้วก็เป็นไฟล์เอกสารอีกหนึ่งกอง มีรายการแต่ละประเภท เพียงไม่นานเย้นหว่านก็รู้สึกมึนหัวและตาลายและสมองบวมขึ้นมา
เธอมองดูด้วยความเวียนหัว แต่กลับยิ่งตั้งใจจดจ่อมากขึ้น ไม่กล้าพลาดสิ่งที่โห้หลีเฉินตามหา
ดังนั้นความสนใจทั้งหมดจึงได้ถูกดึงดูดกลับมาแล้ว ส่วนเรื่องที่หวาดกลัวก็จางหายลงไปมาโดยที่ไม่รู้ตัว