“คุณผู้หญิงท่านนี้ ดูจะสนใจเกี่ยวกับสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้มากเลยนะ”
เสียงของผู้ชายคนหนึ่งจู่ๆ ก็ดังขึ้นข้างหลังเย้นหว่าน
เสียงขี้เล่นทุ้มต่ำลุ่มลึก มันทำให้รู้สึกอึดอัดและขุ่นเคืองชั่วขณะหนึ่ง
เย้นหว่านขมวดคิ้วไม่พอใจ เธอยังไม่ได้ยินชื่อเมล็ดแมกโนเลียเลย ก็ถูกคนขัดจังหวะเสียก่อนจะได้ความ
คำพูดของการ์ดหยุดลงเดี๋ยวนั้น เขาเห็นคนที่เข้ามา ก็พลันยืนตัวตรงทันที โค้งเก้าสิบองศาต่อผู้มาเยือน
“ท่านเสนาฯ”
น้ำเสียงสงบเสงี่ยม ทำให้เย้นหว่านตัวแข็งทื่อ
ท่านเสนาฯเหรอ
คนใหญ่โตที่เก็บรักษากุญแจเอาไว้ บังเอิญมาที่นี่แล้ว
งั้นเธอจะคุยกับเขาได้ไหมว่าอยากได้กุญแจอะไรนั่น
เมื่อคิดแบบนี้ เย้นหว่านจึงรีบหันไปทันที ถึงได้เห็นผู้ชายที่เดินเข้ามา
เขาน่าจะอายุประมาณสามสิบปี รอยยับย่นที่หางตาไม่ลึกมาก ดวงตาคมราวกับเหยี่ยว กระจ่างใส ทั้งยังดูจะลึกลับซับซ้อนจนน่าหวาดหวั่น
เขาสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม บรรยากาศเจือการคุกคามรุกราน แทบจะทำให้คนไม่กล้าเผชิญหน้า
แทบจะความรู้สึกแรกเลยที่เย้นหว่านรู้สึกได้ว่าคนคนนี้เป็นผู้ชายที่อันตรายมาก
ความคิดที่จะขอกุญแจจากเขา มลายหายวับไปแทบจะทันที
โดยสัญชาตญาณแล้วเธอไม่ต้องการดึงดูดความสนใจผู้ชายคนนี้เลย
เย้นหว่านฉีกมุมปากส่งยิ้มสุภาพและพยักหน้าเบาๆ “ท่านเสนาฯ”
พูดอย่างนั้นแล้วเธอก็ยืนเบี่ยงข้างเล็กน้อยเปิดทางให้
ทุกอิริยาบถเหมือนแค่คนสัญจรไปมา
คนที่อยู่ในตำแหน่งสูง มักไม่สนใจกับคนไปมาทั่วไป แทบไม่จำเป็นต้องมีการสื่อสารใดๆ เพิ่มเติม
ทว่าท่านเสนาฯกลับก้าวเท้าทีละก้าวเข้าหาเย้นหว่าน
เหลือระยะห่างเพียงครึ่งก้าวถึงได้หยุดลง
เขาก้มลงมองเย้นหว่าน มุมปากยกยิ้มชั่วร้าย เอ่ยถามว่า
“ผมทนไม่ได้ที่ทำให้สาวสวยผิดหวัง กุญแจของที่นี่อยู่ในมือผม ถ้าคุณอยากเข้าไปดู ผมก็จะพาคุณเข้าไปดู ดีไหมครับ”
เย้นหว่านตัวแข็งค้างด้วยความประหลาดใจ ลืมแม้กระทั่งว่าจะถอยกลับออกไป
เขาจะพาเธอเข้าไปเหรอ
เช่นนั้นเธอก็สามารถหาเมล็ดแมกโนเลียได้น่ะสิ
ความคิดพลุ่งพล่านในจิตใจ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เย้นหว่านจะปฏิเสธ แต่เมื่อเธอเลื่อนสายตาขึ้น ก็ปะทะเข้ากับสายตาชั่วร้ายและอันตรายของชายคนนั้น
สายตาที่ดุดันนั่นทำให้เย้นหว่านรู้สึกอึดอัดไปหมด
และก็รู้สึกถึงอันตรายด้วย
เธอเครียดมาก กัดบดฟัน และพูดอย่างแห้งๆ ว่า
“เมื่อครู่ฉันแค่สงสัยเท่านั้น ในเมื่อเป็นสถานที่สำคัญ ฉันก็จะไม่เข้าไป ท่านเสนาฯมาที่นี่เพราะมีเรื่องใช่ไหม ฉันจะไม่ถ่วงเวลาคุณแล้ว เชิญค่ะ”
เย้นหว่านขาแข็ง ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
แม้ว่าเมล็ดแมกโนเลียจะอยู่ข้างในในระยะที่เอื้อมถึง แต่เธอไม่ได้โง่พอที่จะเสี่ยง มิฉะนั้นแม้ว่าจะได้ยามาก็ไร้ความหมาย
อีกอย่าง เธอยังมีโอกาสที่จะกลับมาอีก
ท่านเสนาฯมองดูท่าทางเคารพแต่เหินห่างของเย้นหว่านแล้วมุมปากก็ยิ่งยกยิ้มชั่วร้ายหนักขึ้น
เขาโบกมือส่งสัญญาณให้การ์ดออกไป ในขณะเดียวกันก็ก้าวเท้าอย่างไม่เร่งร้อน เข้าไปใกล้เย้นหว่าน
น้ำเสียงของเขาเจ้าชู้อย่างเปิดเผย
“เดิมทีมาที่นี่ เพราะมีบางอย่างต้องจัดการ แต่พอเห็นคุณผู้หญิงสวยงดงามขนาดนี้ การอยู่เป็นเพื่อนคุณจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของผมในตอนนี้แล้วล่ะครับ”
หมายความว่าอะไร
เย้นหว่านหวาดกลัว รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เข้ามาใกล้อีกครั้ง จึงกระวนกระวายจนถอยหลังไปอีก
มองหน้าผู้ชายอีกครั้ง เห็นว่ารอยยิ้มนั้นชั่วร้ายมาก ในดวงตาเป็นลูกไฟแผดเผา เป็นผู้ชายที่เป็นภัยร้ายแรงต่อผู้หญิง
เย้นหว่านตกใจจนใจกระตุก
เธอคิดไม่ถึงว่าท่านเสนาฯคนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้ พบกันครั้งแรก กลับคิดจะทำเรื่องสกปรกกับเธอในสถานที่แบบนี้
เป็นพวกโรคจิตต่ำช้าจริงๆ
เย้นหว่านตวาดน้ำเสียงแข็งออกมาว่า
“ฉันไม่ต้องให้คุณเป็นเพื่อน ฉันยังมีเรื่องต้องทำ ขอตัวก่อน”
เย้นหว่านหันหลังกำลังจะวิ่งหนี
แต่เธอยังไม่ทันจะวิ่งไปได้สามเมตร แขนก็ถูกจับจากด้านหลัง แล้วกระชากอย่างหยาบคาย ดึงตัวเธอกลับมา
เธอกระแทกหน้าอกของชายหนุ่มทันที
เขาแข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า บนตัวเขามีกลิ่นยาสูบอบอวล
เย้นหว่านต่อสู้ดิ้นรนอย่างรุนแรงพร้อมกับกรีดร้อง
“คุณจะทำอะไร! อย่างมาแตะต้องตัวฉัน! ปล่อยนะ!”
แต่ท่านเสนาฯกลับไม่สนใจอาการต่อต้านของเย้นหว่าน ยิ่งเธอต่อต้าน ความเพลิดเพลินของเขาก็ยิ่งทวีรุนแรงขึ้น
เขาใช้กำลังกระชากแขนเย้นหว่านอย่างแรง บังคับให้เธอมาอยู่ตรงหน้าตนเอง ก้มหน้าลงมาข้างหูเธอ พูดด้วยวาจาชั่วร้ายวิกลจริต
“ผมชอบบังคับขืนใจผู้หญิงที่สุด คุณใช้แรงต่อต้านให้เต็มกำลังไปเลย มันจะได้ยิ่งมีรสชาติ”
ระหว่างที่พูด มือของเขาก็ไปดึงเสื้อผ้าของเย้นหว่านอย่างถือวิสาสะ
“แคว่ก!” เย้นหว่านได้ยินเสียงเสื้อผ้าของเธอถูกฉีกขาด
เธอขนลุกชัน ตัวสั่นไปหมด หนาวเย็นยะเยือก
ในความสับสนวุ่นวาย เธอขอความช่วยเหลือจากการ์ดแถวนั้น “ช่วยฉันด้วย ช่วย…”
คำพูดยังไม่ทันจบ เมื่อเห็นสถานการณ์แถวประตูเหล็ก ก็เหมือนกับเธอถูกสาดน้ำเย็นใส่หัว
แถวประตูเหล็ก ไหนเลยจะยังมีการ์ดอยู่
พวกเขาหายไปนานแล้วงั้นเหรอ
เช่นนั้นพวกเขาก็รู้แล้วว่าท่านเสนาฯต้องการทำอะไรกับเธอ แต่กลับไม่มีความตั้งใจจะเข้ามาขัดขวาง กลับกันยังให้พื้นที่อิสระ เพื่อให้ท่านเสนาฯยิ่งสะดวกมากขึ้นงั้นเหรอ
หัวใจเย้นหว่านถูกแช่แข็ง
“คุณปล่อยฉันนะ ปล่อย! ช่วยด้วย ช่วยด้วย——–”
สัมผัสใกล้ชิดของผู้ชาย ทำให้เย้นหว่านรังเกียจและหวาดกลัวจนสุดขีด หวีดร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างวุ่นวายตื่นตระหนก
แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่รอบๆ หรือแม้ว่าจะมี ทั้งหมดก็ล้วนเป็นการ์ดที่เลือดเย็นมาก
“ร้องเลย ร้องไห้คอแตก ยิ่งกรีดร้องดังเท่าไร ผมยิ่งชอบ”
ท่านเสนาฯดึงเย้นหว่านจนเธอล้มลงพื้น
พฤติกรรมหยาบโลนโอหังมาก
กระดูกทั่วทั้งร่างของเย้นหว่านถูกกระแทกจนเจ็บปวด แต่เธอยังไม่มีเวลาที่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวด ก็ต้องตื่นตระหนกเมื่อเห็นท่านเสนาฯกดทับมาบนร่างกายของเธอ
มือของเขาดึงรั้งเสื้อผ้าของเธอ กระทำกับร่างกายเธออย่างป่าเถื่อน
โดยรอบเงียบเชียบไร้ผู้คน ทำให้เย้นหว่านหวาดกลัวจนหนังศีรษะชา
เธอแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
แต่ยิ่งเธอล้มลง เขาก็ยิ่งตื่นเต้นและยิ่งรุกราน
เย้นหว่านกัดฟันแน่น บังคับให้ตัวเองนิ่งสงบลง “ฉันคือเย้นหว่าน เป็นผู้หญิงที่เซอร์ยุนซีจะแต่งงานด้วย ถ้าคุณแตะต้องฉัน ไม่กลัวว่าเซอร์ยุนซีจะจัดการคุณหรือไง”
“ช่วงนี้เขาทำเรื่องอะไรต่อมิอะไรให้ฉันตั้งเท่าไร เป็นที่เลื่องลือไปทั่วประเทศ เขาชอบฉันมากแค่ไหน ท่านเสนาฯคุณไม่รู้เหรอ”
“ถ้าวันนี้คุณแตะต้องฉัน ฉันรับรองเลยว่าคุณจะต้องถูกเซอร์ยุนซีแก้แค้นบ้าระห่ำทุกวิถีทางอย่างสาสม”
การกระทำที่ดุดันของท่านเสนาฯหยุดนิ่งไปเล็กน้อย
เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอเย้นหว่าน สายตานิ่งสงบมองเย้นหว่าน ใบหน้าเผยรอยยิ้มต่ำช้า
ทุกคำทุกประโยค ราวกับคำพูดของปีศาจ
“ถึงเขาสนใจคุณมาก แต่ถ้ารู้ว่าคุณไม่สะอาดแล้ว เมื่อแต่งงานกับคุณไม่ได้ เขาจะยิ่งเสียศูนย์มากขนาดไหนกัน”
เขาเลียริมฝีปาก หน้าตามีแต่ความสนอกสนใจ “ผมอยากเห็นเขาคลุ้มคลั่งจนแทบรอไม่ไหวแล้ว”
เย้นหว่านดวงตาเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ มองปีศาจตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ
เขารู้ เขารู้ว่าเธอเป็นใคร
แต่กลับยังต้องการดูหมิ่นเธอ เพื่อทำให้เซอร์ยุนซีอับอายขายหน้า!
เป็นความตั้งใจของเขา ตั้งใจทำให้เซอร์ยุนซีลำบาก ตั้งใจใช้เธอเป็นตัวกระตุ้น ในการทำร้ายเซอร์ยุนซี