“คิดอะไรอยู่ ท่าทางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอะไรขนาดนี้”
ระหว่างที่กำลังคิด จู่ๆ ใบหน้าของเซอร์ยุนซีก็โน้มมาตรงหน้าเย้นหว่าน จนหน้าแทบจะแนบติดกัน
เย้นหว่านสะดุ้งตกใจ ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวอย่างรวดเร็วทันที
“คุณเข้ามาทำไมใกล้ๆ”
เซอร์ยุนซีมองตรงมาที่เย้นหว่าน พูดคำเลี่ยนๆ ออกมาอย่างไม่มีเขินอาย
“ผมชอบที่จะอยู่ใกล้ชิดคุณยิ่งใกล้ยิ่งดี”
เย้นหว่าน “……..” เธอไม่ชอบ
ถอยหลังไปอีกสองก้าว หลังจากรักษาระยะห่างที่ดูเหมือนจะปลอดภัยจากเซอร์ยุนซีแล้ว เย้นหว่านถึงได้พูดอย่างจริงจังว่า
“ขอบคุณคุณเรื่องเมื่อครู่ค่ะ”
ขอบคุณจากใจจริง การระแวดระวังก็จากใจจริงเช่นกัน
เซอร์ยุนซีไม่ยึดตามหลักเหตุผล ทำพฤติกรรมก้อร่อก้อติกทุกนาที มันทำให้เย้นหว่านปวดหัวจริงๆ
“ความสัมพันธ์ระหว่างเรา ไม่จำเป็นต้องพูดขอบคุณ” น้ำเสียงของเซอร์ยุนซีอ่อนโยนเต็มไปด้วยความรู้สึกรักใคร่อย่างมาก
เย้นหว่านหนังศีรษะชาขึ้นมาทันที
กลัวว่าประโยคถัดไปเขาจะพูดว่า ‘หลังจากที่เราแต่งงานกัน สามีภรรยาเป็นหนึ่งเดียว ผมจะทำทุกเรื่องที่ควรทำเพื่อคุณ’
เธอคงถูกความเลี่ยนฆ่าตายแน่
เพื่อป้องกันไม่ให้เซอร์ยุนซีพูดต่อไป เย้นหว่านจึงรีบชิงพูดว่า
“พี่ชายฉันกำลังรออยู่ ฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกัน”
พูดอย่างนั้นแล้วเย้นหว่านก็ชักเท้าจะเดินหนีไป
แต่เซอร์ยุนซีอาศัยข้อได้เปรียบที่ช่วงขายาว แค่สองสามก้าวก็เดินถึงตัวเธอ ไปเดินเคียงข้างเธอที่กำลังวิ่งก้าวเล็กๆ
“พอดีเลย ผมก็กำลังจะไปพบพี่ภรรยาในอนาคต”
ฝีเท้าของเย้นหว่านหยุดกะทันหัน เกิดอาการไม่สบายไปทั่วทั้งตัวขึ้นมาทันที
เซอร์ยุนซีจะหายตัวไปไม่ได้หรือไงเนี่ย
ถ้าโห้หลีเฉินเห็นเธอออกมานานขนาดนี้ แล้วยังกลับไปพร้อมกับเซอร์ยุนซีอีก จะต้องหึงแน่ๆ
ครั้งก่อนที่เธออยู่กับเซอร์ยุนซีตามลำพัง แม้ว่าจะมีคำอธิบายที่ชัดเจน ก็ยังคงถูกโห้หลีเฉินพลิกคว่ำพลิกหงายรังแกเอาทั้งคืน
เมื่อคิดขึ้นมาเย้นหว่านก็ใจปั่นป่วน
เธอหันหน้าไปมองเซอร์ยุนซี และพูดอย่างจริงจังยกหลักเหตุผล
“คุณไปกับฉันไม่ได้ เงื่อนไขที่สองยังไม่ลุล่วง พี่ชายฉันจะไม่พบคุณ”
เซอร์ยุนซีเต็มไปด้วยความเสน่หารักใคร่ “เสี่ยวหว่าน ที่แท้คุณก็เป็นห่วงผมขนาดนี้ คุณวางใจ เงื่อนไขที่สองผมทำสำเร็จแล้ว”
อะไรนะ
เย้นหว่านตกตะลึงอย่างไม่อยากเชื่อ ค่อนข้างสงสัยว่าตัวเองได้ยินผิด และยิ่งสงสัยเข้าไปอีกว่าเซอร์ยุนซีกำลังโกหกเธอ
ช่วงไม่กี่วัน ไปนอกประเทศเบียนหนานเพื่อขนกระบองเพชรสูงครึ่งคนกลับมา อย่างเร็วที่สุดต้องใช้เวลาเดือนกว่า
เขาเอากระบองเพชรกลับมาภายในเวลาไม่กี่วันได้อย่างไร
“อย่ามาล้อเล่น ถ้าคุณโกงพี่ชายฉันไม่ให้ผ่านหรอก”
เย้นหว่านแนะนำเขา
แต่ก็โชคดี เซอร์ยุนซีไปเอากระบองเพชรปลอมกลับมา กลับไปกลับมาคราวนี้ใช้เวลาอีกสองสามวัน รอกระทั่งหลอกเขาไปต่างประเทศอีกรอบ ก็ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว
ก่อนที่เธอจะจากไป ก็จะไม่มีทางต้องเจอเซอร์ยุนซีอีกแล้ว
และขณะที่เย้นหว่านกำลังคิดอย่างมีความสุข แต่ก็กลับต้องเห็นสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจหนัก บนเส้นทางด้านข้าง การ์ดสี่คนกำลังแบกต้นกระบองเพชรสูงครึ่งตัวคนเข้ามาหาเธอ
หนามยิ่งใหญ่ยิ่งคม กระบองเพชรก็ยิ่งอุดมไปด้วยความมีชีวิตชีวา
นี่ นี่ชัดเจนเลยว่าเป็นกระบองเพชรของจริง
เย้นหว่านนิ่งอึ้ง เธอไม่ได้มองผิดใช่ไหม
ทำไมประเทศเบียนหนานที่หนาวเย็นถึงมีกระบองเพชรพืชเขตร้อนได้!
เซอร์ยุนซีเห็นท่าทางทั้งประหลาดใจทั้งยินดีของเย้นหว่านก็ยิ่งภูมิอกภูมิใจ พูดอย่างโอ้อวดว่า
“เสี่ยวหว่าน นี่คือกระบองเพชรที่ผมไปเอามาจากทะเลทรายซาโมด้วยตัวเอง คุณชอบไหม”
เย้นหว่านอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรแล้ว
ทะเลทรายซาโม เป็นผืนทะเลทรายจริงๆ กระบองเพชรที่เติบโตก็เป็นกระบองเพชรของจริง
เงื่อนไขที่สองนี้ เธอตกตะลึงจนพูดไม่ออก
แต่ทะเลทรายซาโมนั่นไกลมาก เขาใช้เวลาไม่กี่วันยังสามารถนำกลับมาด้วยตัวเองได้เหรอ
เย้นหว่านมองเซอร์ยุนซีอย่างสงสัย “ประเทศเบียนหนานเส้นทางยากลำบากมาก หิมะตกหนักตลอดทั้งปี และสภาพอากาศเลวร้ายเกินกว่าเครื่องบินจะบินได้ ทะเลทรายซาโมอยู่ไกลขนาดนั้น ทำไมคุณเอามันกลับมาได้ เวลาไม่กี่วันไม่น่าพอ”
เซอร์ยุนซียิ้มพลางเข้าหาเย้นหว่านขึ้นอีกนิด แล้วอธิบายด้วยเสียงต่ำเป็นพิเศษ
“เส้นทางมันเป็นแบบนั้นจริง แต่ผมเป็นใคร ท่านดยุกของประเทศเบียนหนาน รู้ทางลัดที่เป็นเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดในการออกไปสู่โลกภายนอก”
เย้นหว่านเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ หัวใจเต้นแรงขึ้นทันที
เธอถามอย่างตื่นเต้น “เส้นทางอะไร อยู่ที่ไหนเหรอ”
มันสามารถนำไปสู้นอกดินแดนประเทศเบียนหนานได้อย่างรวดเร็ว แบบนี้ถ้าตอนที่เธอกับโห้หลีเฉินออกไป แล้วสามารถไปทางนั้นได้ ก็สามารถออกจากประเทศเบียนหนานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากวิกฤตบนเส้นทางหิมะ
เห็นท่าทางตื่นเต้นของเย้นหว่าน แทนที่เซอร์ยุนซีจะโฆษณาอย่างกระตือรือร้น
แต่เขาพูดน้ำเสียงนิ่งๆ ว่า
“มันเป็นความลับของราชวงศ์ ไม่สามารถบอกใครง่ายๆ ได้ ถ้าคุณอยากรู้จริงๆ ก็แต่งงานกับผมสิ ผมจะบอกคุณในคืนเข้าห้องหอ”
เย้นหว่าน “………”
อยากจะปิดผนึกปากเขาจริงๆ
เธอหายใจเข้าลึกแล้วก็ลึกอีก ก่อนจะฝืนยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “คุณบอกฉันหน่อยมันก็ไม่เสียหายอะไรเท่าไรหรอก ฉันจะไม่พูดไปแน่นอน”
แต่เซอร์ยุนซีกลับส่ายหน้าอย่างหนักแน่น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเหมือนสุนัขจิ้งจอก
“เสี่ยวหว่าน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมเห็นคุณสนใจอะไรมากขนาดนี้ ในเมื่ออยากรู้ขนาดนั้น ก็แต่งงานกับผมเลย ผมจะตอบสนองความอยากรู้ของคุณทันที”
เย้นหว่านรู้สึกว่าวันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว
เซอร์ยุนซีคนปัญญาอ่อนคนนี้คือคนที่ดวงเป็นปฏิปักษ์ของเธอ
เธอตัดสินใจแน่วแน่ ในเมื่อมันมีเส้นทางแบบนั้นอยู่ เช่นนั้นก็ให้โห้หลีเฉินไปตรวจสอบ เขาฝีมือเก่งกาจ ไม่ยากเกินไปที่จะหาได้
เย้นหว่านไม่สนใจเซอร์ยุนซีอีก เดินผ่านไปอย่างโมโห
เซอร์ยุนซีมองด้านหลังของเย้นหว่านแล้วถอนหายใจ แผนล่อลวงสะใภ้ล้มเหลวเสียแล้ว
เช่นนั้นก็ได้แต่ทำไปทีละขั้นตอน
เขาก้าวเท้าเดินตามหลังเย้นหว่านไป ขณะที่เดินก็พูดว่า
“เสี่ยวหว่าน คุณอยากเอากระบองเพชรไปปลูกที่ไหน ประเทศเบียนหนานหนาวเย็น การปลูกกระบองเพชรในสวนเลี้ยงดูยาก โดยทั่วไปแล้วพืชชนิดนี้ทั้งหมดจะปลูกในสวนพฤกษศาสตร์หลวง โดยเฉพาะการสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นทะเลทราย ถึงจะสามารถทำให้กระบองเพชรมีชีวิตคงอยู่ได้ต่อไป
แต่ผมคิดว่าในเมื่อคุณชอบ อย่างไรก็อยากปลูกไว้ในสวนเพื่อจะสามารถมองเห็นได้ทุกวัน งั้นผมก็จะสร้างโรงเรือนในสวนของคุณ แล้วเอาดินพิเศษจากพระราชวังสวนพฤกษศาสตร์ออกมา เพื่อให้คุณสะดวกในการปลูกเลี้ยงดู ดีไหม”
เพราะอย่างไรเสียการปลูกกระบองเพชรนี้ก็ต้องปรับปรุงสวนที่เย้นหว่านอยู่ เซอร์ยุนซีจึงต้องขอความเห็นชอบจากเย้นหว่านก่อนจะไปจัดการได้
แต่เย้นหว่านกลับจับประเด็นอื่นในคำพูดของเขา
สวนพฤกษศาสตร์หลวง
นั่นคือสิ่งที่โห้หลีเฉินเพิ่งตรวจสอบได้ไม่ใช่เหรอ มันคือสถานที่ที่มีเมล็ดแมกโนเลีย!
แต่สวนพฤกษศาสตร์หลวงสอดคล้องกับชื่อของเขา คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ไม่สามารถเข้าไปได้ มีเพียงคนในราชวงศ์เท่านั้น ถึงจะมีคุณสมบัติเข้าไปข้างในได้
ถ้าโห้หลีเฉินจะเข้าไป จะต้องลำบากในการเตรียมการณ์ แต่ตอนนี้เธอมีคนที่ใช้ประโยชน์ได้อยู่ตรงหน้า โอกาสมารออยู่ตรงหน้าแล้ว!
เย้นหว่านมองเซอร์ยุนซีด้วยดวงตาเปล่งประกายสดใส เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ก็ยังมีมุมน่ารักอยู่บ้างเหมือนกันนะ