เพียงแค่แวบตาเดียวโห้หลีเฉินก็มองทะลุความคิดของเย้นหว่านไปได้ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ลุกขึ้นจากเตียงไปอย่างเป็นธรรมชาติ
เพราะถึงยังไง ดูไปมันก็เห็นได้แค่ข่าวทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้น
ในทีวีมันไม่มีทางที่จะปรากฏรูปที่มันเกินขีดจำกัดมากอะไรได้หรอก
พระราชวัง ห้องโถงสำหรับการไต่สวนภายใน
เรื่องมันเกี่ยวกับท่านดยุกกับท่านเสนาฯ บุคคลที่เป็นตัวแปรสำคัญของประเทศทั้งสองคน เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องในครั้งนี้ล้วนแล้วแต่จะเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นหนึ่งทั้งนั้น อีกทั้งยังมากันหลายคนอีกด้วย
ผู้บริหารระดับสูงเข้ามาดูการไต่สวนภายในกันไม่น้อยเลย
เป็นเมื่อก่อนหน้านี้ นอกจากเจ้าหน้าที่ในการไต่สวนภายในที่จะต้องมาอยู่แล้ว คนอื่นเขาจะไม่มากัน และมันก็มีคนที่ไม่กล้าดูอยู่ด้วยเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวของคนที่มีบรรดาศักดิ์ชั้นหวังนั้น เป็นเรื่องที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยากจะดูกัน
แต่เพราะภาพเมื่อวานนี้ มันกลับทำให้เรื่องนี้มันได้อัพเกรดขึ้นมาโดยสมบูรณ์
ท่านเสนาฯ ที่เป็นเหยื่อในเรื่องนี้ ในตอนนี้จู่ๆก็ได้กลายมาเป็นเป้าหมายในการพิพาทของประชาชนทั่วทั้งประเทศ
ถึงขนาดที่แม้แต่ด้านนอกศาลเองก็ได้มีหลายคนที่ได้จัดกลุ่มกันขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ ดึงแบนเนอร์ขึ้นมา เดินแสดงตัวกันออกมาสู่สาธารณะ เรียกร้องให้ท่านเสนาฯ ออกมาแถลง
และก็ยังมีอีกหลายคนที่เสนอให้แสดงให้เห็นออกมา โดยการที่จะต้องพิจารณาการถอดท่านเสนาฯ ออกจากตำแหน่ง เพื่อให้เขาได้ชดใช้พฤติกรรมที่ป่าเถื่อนของตัวเอง
ความโกรธของคนทั้งประเทศ ได้ทำให้ทางประเทศนั้นจำเป็นต้องให้ความสำคัญ
ถ้ามองจากแนวโน้มจากในตอนนี้แล้ว ท่านเสนาฯ นั้นมีโอกาสที่จะไม่ได้รับการคุ้นครองจากตำแหน่งทางราชการ ถึงขนาดที่ยังประสบเข้ากับปัญหาเรื่องที่กลุ่มประชาชนรวมตัวกันมาทำการประณามกันเข้ามา อย่างนี้แล้ว ท่านเสนาฯ ก็จะสูญเสียอำนาจไป ถ้าไม่มีอำนาจก็เป็นเพียงแค่พลเรือนธรรมดาทั่วๆไปแล้วล่ะก็ ท่านดยุกจะจัดการเขามันก็เป็นเรื่องปกติ อยากจะจัดการยังไงก็ทำ มันจะไม่มีการได้รับโทษอะไรเลย
และโทสะอันมหึมาของประชาชนในตอนนี้ มีหลายคนที่แทบจะเข้าต่อยท่านเสนาฯ สักยกให้ได้ ดังนั้นแล้วพฤติกรรมการต่อยตีท่านเสนาฯ ของท่านดยุกนั้น ก็ได้กลายมาเป็นพฤติกรรมของฮีโร่ ได้ใจประชาชนไปเต็มๆ
ถ้าให้ถกจากมุมนี้ของท่านดยุก สถานการณ์มันก็ได้ผกผันไปในทันที ครอบครองความได้เปรียบเอาไว้
ดังนั้นแล้วเดิมทีการตรวจสอบภายในการพิจารณาคดีของท่านดยุกในครั้งนี้ มีแนวโน้มอย่างมากที่จะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นการตัดสินคดีต่อท่านเสนาฯ ในวันนี้
ด้วยคลื่นลมของเมื่อวาน โอหยางฝู่เองก็ตระหนักได้ถึงอันตราย เมื่อวานจึงร้องขอยกเลิกการไต่สวนภายในครั้งนี้ไป เข้าไปเป็นฝ่ายยกโทษเรื่องที่เซอร์ยุนซีมาต่อยเขาไปด้วยตัวเอง
แต่เซอร์ยุนซีกลับยืนกรานออกมาว่าจะไต่สวนคดีให้ได้ ตัดสินใจเอาไว้ว่าไม่ตายก็จะไม่หยุด
เหล่าคนระดับสูงล้วนแล้วแต่จะเป็นคนจำพวกที่มีความสามารถในการแบ่งแยกทั้งนั้น กราบไหว้คนรวยเหยียบย่ำคนจน จากแนวโน้มที่คาดเดาว่าท่านเสนาฯ มีโอกาสสูงมากที่จะสูญเสียอำนาจไป แน่นอนว่าไม่ได้กลัวที่จะเข้าไปมุงดูท่านเสนาฯ อะไรขนาดนั้นอีกต่อไปแล้ว ทั้งหมดมันล้วนแล้วสามารถเข้าไปล้อมดูกันได้ทั้งนั้น
ทุกคนต่างก็อยากจะเข้าไปเป็นพยานกันสักหน่อย นี่คงจะเป็นนาทีประวัติศาสตร์ของประเทศเบียนหนาน
ท่านเสนาฯ หมดอำนาจลง
อย่างที่ทุกคนได้คาดกันเอาไว้ หลังจากที่การไต่สวนเริ่มต้นขึ้น นำโดยเซอร์ยุนซี นำภาพที่เป็นประเด็นทั้งหมดออกมาพูด กระทบเข้ากับร่างของท่านเสนาฯ ไปอย่างจัง
ทำให้เดิมทีที่เป็นการพิจารณาคดีต่อเซอร์ยุนซี มันได้กลายมาเป็นการพิจารณาคดีต่อตัวท่านเสนาฯ แทน
โจทย์กลับได้รับการปฏิบัติอย่างจำเลย
โอหยางฝู่ก็มีสีหน้าที่ย่ำแย่อย่างมากมาตั้งแต่แรก รอบตัวราวกับว่าได้ปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม บรรยากาศที่ดูโหดร้ายน่าสะพรึงกลัว
เหตุในครั้งนี้ เป็นเขาที่เป็นคนประกาศออกมาเอง
ในตอนที่ได้รู้มาว่าเซอร์ยุนซีพาเย้นหว่านไปที่เขตสวนพฤกษศาสตร์หลวงแล้ว เขาจึงลงมือประกาศเรื่องนี้ออกไปด้วยตัวเอง วางแผนเอาไว้ว่าจะใช้การทำร้ายเย้นหว่าน มาทำให้เซอร์ยุนซีทำผิดออกมา
เรื่องมันก็ได้ดำเนินไปตามที่เขาได้คาดเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าทั้งๆที่เป็นเหตุที่เขาประกาศออกมาเองแท้ๆ มันกลับถูกคนคิดตลบแผนกลับมาทำร้ายเขาอีกที
ภาพเหล่านั้นเขาใส่รหัสเอาไว้หลายชั้น ถึงแม้ว่าจะได้คอมพิวเตอร์ของเขาไปมันก็ไม่ง่ายที่จะเอาออกมาได้ แต่ไม่รู้ว่าใครกันที่แฮ็คเข้ามาในคอมของเขา แล้วเอามันไป
ทำร้ายกันจนเขาต้องมาเจอกับความล้มเหลว เมื่อตอนที่กำลังใกล้จะสำเร็จอยู่แล้ว ทั้งยังต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างนี้
นี่เป็นครั้งที่เขาได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่นั่งลำบากที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่ที่เขาได้รับตำแหน่งมาเลย
สูญเสียใจของประชาชนไป ผู้คนพากันเหยียบย่ำ
โอหยางฝู่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง จ้องมองเซอร์ยุนซีไปด้วยท่าทีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เขาเอ่ยเสียงเย็นออกมาว่า
“ใช่ ผมไม่ปฏิเสธครับว่าคนที่อยู่ในภาพพวกนั้นเป็นผมทั้งหมด เรื่องพวกนี้แท้จริงแล้วก็เป็นผมที่เป็นทำด้วยเช่นกัน”
การยอมรับออกมาทันที มันได้ทำให้ที่แห่งนั้นเกิดเสียงดังจอแจขึ้นมาทันที
เหล่าคนระดับสูงที่กำลังนั่งกันอยู่ตรงที่นั่งผู้ชม อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าถอนหายใจกันออกมา
โอหยางฝู่ยอมรับออกมาเอง มันก็เป็นหลักฐานที่เป็นที่แน่ชัดแล้ว การเสียเปรียบในวันนี้มันจะต้องทำให้เขาตกต่ำลงมาแน่
เซอร์ยุนซีนั่งอยู่ตรงฝั่งตรงกันข้ามอีกข้างหนึ่ง สบตาเข้ากับสายตาชั่วร้ายของโอหยางฝู่เข้าไปตรงๆ
แต่เขากลับไม่ได้เหมือนกับผู้คนที่อยู่ตรงนั้น ระแวดระวังตัวไปอย่างสบายๆ ทำการตัดสินใจออกมา
ถึงแม้ว่าตอนนี้สถานการณ์ทั้งหมดมันยังดีอยู่ แต่โอหยางฝู่เป็นใคร? สามารถอาศัยวิธีของตัวเองขึ้นไปนั่งตรงตำแหน่งท่านเสนาฯ ได้ ยิ่งใหญ่คับฟ้าไปทั่วทั้งประเทศเบียนหนานมาตั้งนานหลายปี ไม่ได้เป็นลูกพลับนิ่มที่จะสามารถบีบตายกันได้ง่ายๆ
ในเมื่อเขาได้ยอมรับมาอย่างสบายใจขนาดนั้นได้ แน่นอนว่าจะต้องยังเหลือลูกไม้อยู่อีก
และมันก็เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ เพราะต่อจากนั้นโอหยางฝู่ได้เอ่ยออกมาว่า
“ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังโสดอยู่ เนื่องด้วยความต้องการทางสรีระของผู้ชาย และยังมีความต้องการให้ข้างกายมีผู้หญิงอยู่ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากสถานะของผม ผู้หญิงเหล่านี้จึงเป็นฝ่ายเข้ามาพุ่งเข้ามายั่วยวนผมเอง ผมเพียงแค่ไม่ได้ปฏิเสธออกไปก็เท่านั้น เชื่อว่าผู้ชายหลายคนที่กำลังนั่งอยู่ในที่แห่งนี้ พวกเราผู้ชายแห่งประเทศเบียนหนาน ส่วนใหญ่แล้วคงจะไม่ปฏิเสธผู้หญิงที่เสนอตัวเข้ามาถึงที่กันหรอกใช่มั้ยล่ะครับ”
คำพูดนี้ พูดออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ เหมือนกับว่ามันเป็นความจริงอยู่แล้ว
ไม่เพียงแต่ว่าจะไม่ได้มีความละอายใจอยู่เลยแม้แต่น้อย ยิ่งรู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดาทั่วไปสุดๆอย่างหนึ่ง ดูถูกเหยียดหยามต่อตัวผู้หญิงถึงขีดสุด
ในทางตรงข้ามกัน คำพูดนี้ก็ดันเป็นเรื่องที่ธรรมดาอย่างมากในประเทศเบียนหนาน
ผู้ชายหลายคนที่ได้ล้อมดูกันอยู่นั้น ขนาดผู้หญิงเองก็ไม่มีการโต้แย้งกันออกมา
เซอร์ยุนซีขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย รู้ว่าโอหยางฝู่วางแผนที่จะหลุดรอดไปด้วยมุมมองนี้ เขาจึงเอ่ยปากพูดออกไปว่า
“การแก้ปัญหาความต้องการทางสรีระมันเป็นเรื่องปกติ แต่การข่มเหงผู้หญิง มันเป็นสิ่งที่เรียกว่าพฤติกรรมของผู้ชายทั่วๆไปด้วยหรือไง?”
คำพูดหยุดไป สายตาที่คมกริบของเซอร์ยุนซีมองคนที่อยู่ในที่แห่งนั้นไปรอบหนึ่ง เอ่ยเสียงดังก้องออกไป “นี่มันเดิมทีแล้วเป็นความวิปริตชัดๆ!”
ผู้คนที่เกือบจะถูกโอหยางฝู่ล้างสมอง ก็ได้นึกภาพที่ดูป่าเถื่อนพวกนั้นที่แพร่ออกมาในระลอกที่สองขึ้นมาอีกครั้ง
กลิ่นคาวเลือดมันได้ทำให้คนอื่นรู้สึกขนพองสยองเกล้ากันขึ้นมา
แต่โอหยางฝู่กลับยกยิ้มเย็นตรงมุมปากออกมา มองเซอร์ยุนซีไปด้วยความเหยียดหยัน
“ท่านชินหวังครับ นึกไม่ถึงเลยว่าท่านจะรักหยกถนอมบุปผาได้ถึงขนาดนี้นะครับ ช่วงนี้ก็ได้ข่าวมาตลอดเลยว่าเพื่อที่จะแต่งภรรยาคนหนึ่ง ท่านถึงกับจงใจยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งในเรื่องประเพณีดั้งเดิมที่ผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิงของประเทศเบียนหนาน เอาผู้หญิงมาอยู่ในตำแหน่งที่เทียบเท่ากับผู้ชาย เพราะว่าคุณ ผู้หญิงหลายคนของประเทศเบียนหนานตอนนี้จึงเริ่มมีการต่อต้านสามีตัวเองกันขึ้นมา วุ่นวายจนครอบครัวไม่มีความสามัคคีกันเลย คุณคิดที่จะเอาตัวเองเป็นแบบอย่าง นำพาการต่อต้านของผู้หญิงพวกนั้น ล้มล้างผู้ชายของประเทศเราหรือยังไง?”
คำพูดหยุดไป น้ำเสียงของเขาก็ได้เพิ่มความคมประหนึ่งหนามออกมา “บางทีก็อาจจะทำให้ประเทศเบียนหนานกลายไปเป็นโลกที่มีการยกย่องผู้หญิงแห่งหนึ่งเลยก็ได้?”
ยกย่องผู้หญิง?
คำนี้ แทบจะกระตุ้นต่อมประสาทของผู้ชายทุกคนในที่แห่งนั้นขึ้นมา
พวกเขาพากันตื่นกังวลกันขึ้นมา พร้อมกับแสดงท่าทีประหนึ่งศัตรูออกมา “อย่างนั้นมันจะได้ยังไงกัน! ผู้ชายอย่างพวกเราจะไปเป็นทาสของพวกผู้หญิงได้ยังไง!”
จากที่ผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิงมายังการที่ผู้หญิงเป็นใหญ่นั้น มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ พวกผู้ชายจะต้องไม่มีทางยอมรับกันได้โดยเด็ดขาด
เซอร์ยุนซีเม้มริมฝีปาก สายตาดูลุ่มลึกออกมา
นี่โอหยางฝู่กำลังเอาเรื่องของเขาเข้ามาเป็นเบาะรองรับให้กับตัวเอง ใช้คำพูดมาทำให้เขาเสียหาย แล้วมาทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ยึดตามหลักเหตุผล แล้วยังสามารถยืนอยู่เหนือศีลธรรมได้อีกด้วย นำพาผู้ชายกลุ่มนี้มาโจมตีเขา
คิดได้ไม่เลวเลย เล่นกับใจคนเก่งจริงๆ เหยียบย่ำจุดอ่อนของความเป็นมนุษย์ได้ดีจริงๆ
เซอร์ยุนซียิ้มเย็นออกมา มองเหล่าผู้ชายรอบๆที่มีอารมณ์พลุ่งพล่านกันออกมาไปอย่างเย็นชา