ในระหว่างที่กำลังคิดไปเรื่อยอยู่นั้นเอง จู่ๆฉู่ฉู่ก็สบเข้ากับสายตาที่คมกริบเหมือนกับของที่มีปลายแหลมยื่นออกมาของโห้หลีเฉินเข้า สายตาคู่นั้นเหมือนกับใบมีดที่แหลมคม ที่สามารถแทงทะลุไปถึงวิญญาณได้เลย
ถึงแม้ว่าการให้ความรู้สึกเป็นศัตรูออกมาไม่มากนัก แต่ฉู่ฉู่กลับตื่นกังวลขึ้นมาทันที ก้มหน้าลงไปอย่างตะลีตะลาน
ผู้ชายอย่างโห้หลีเฉิน ยิ่งใหญ่ไม่มีอะไรมาเทียบเคียงได้ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขา
โห้หลีเฉินเอ่ยเสียงทุ้มต่ำออกมา
“ฉู่ฉู่ ฉันต้องการให้เธอไปจัดการเรื่องหนึ่ง”
เป็นวิธีการพูดเป็นเชิงออกคำสั่ง ไม่อาจปฏิเสธออกไปได้เลย
ฉู่ฉู่ไม่กล้าปฏิเสธออกไป
เธอรีบเงยหน้าขึ้นไปทันที “เรื่องอะไร?” ถ้าเป็นเรื่องที่มีความสามารถที่จะทำได้ เธอจะต้องทำได้แน่
โห้หลีเฉินยื่นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งไปให้ฉู่ฉู่ ออกคำสั่งกับเธอไปเบาๆ
ฉู่ฉู่ฟังจบ กังวลอย่างมาก และก็ได้พยักหน้าออกไปรัวๆ
“คุณโห้วางใจได้เลยค่ะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยค่ะ พวกคุณ…”
เธอมองเย้นหว่านไปด้วยสายตาที่ดูหวั่นๆ “พวกคุณจะต้องระมัดระวังความปลอดภัยนะคะ”
เย้นหว่านเดินเข้าไปข้างหน้า กุมมือของฉู่ฉู่เอาไว้ บนใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มที่ดูผ่อนคลาย
“พวกเราจะปลอดภัยไร้กังวล เธอเองก็ต้องระวังความปลอดภัยด้วยนะ เรื่องต่อจากนี้ ก็ต้องรบกวนเธอแล้ว”
ฉู่ฉู่ ก็เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในแผนของโห้หลีเฉินด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ฉู่ฉู่ออกไปได้เพียงไม่นาน มันก็เป็นไปอย่างที่โห้หลีเฉินคาดการณ์เอาไว้ โอหยางฝู่มาแล้ว
นำกำลังคนมาด้วยทีมหนึ่ง ล้อมรอบบ้านเวนเดลล์ไปอย่างกำเริบเสิบสาน
ไม่มีการแจ้งจะเข้าไปเยี่ยมเยียน แต่ได้ถีบประตูเข้ามาโดยตรง
เวนเดลล์ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว ทั้งร่างได้มีการเตรียมการรับมือออกมาทันที เดินเข้าไปรับหน้าอย่างรีบร้อน
เห็นท่าทางที่ดูเหิมเกริมของโอหยางฝู่แล้ว แล้วมองดูการ์ดที่ดูดุร้ายน่ากลัวประมาณสิบคนที่ตามหลังเขามาอีกที คิ้วของเวนเดลล์ขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม
บนใบหน้าของเขา แสดงรอยยิ้มที่เป็นพิธีออกไป
“ไม่ทราบว่าท่านเสนาฯ จะให้เกียรติมาเยี่ยมเยือนกัน จึงไม่ได้ต้อนรับกันอย่างครอบคลุม ท่านเสนาฯ ท่านมาที่นี่มีธุระด่วนอะไรเหรอครับ? พวกเราเข้าไปดื่มชาด้านใน ค่อยๆคุยกันนะครับ”
โอหยางฝู่มองเวนเดลล์ไปอย่างเย็นชา ตะคอกออกไปเสียงเย็น
“ไม่เกี่ยวกับแก ไสหัวไป อย่ามาขวางทางบิดา”
พูดไป ไม่มีปราณีกันเลยสักนิด ผลักร่างของเวนเดลล์ออกไป ทั้งร่างเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
เวนเดลล์ไม่ทันได้เตรียมตัว เซถอยออกไปด้านหลังหลายก้าวกว่าจะยืนอย่างมั่นคงได้ กระดูกบนไหล่ที่โดนผลักไปมันกำลังเจ็บจนแสบร้อนไปหมด
เห็นโอหยางฝู่บุกเข้าไปด้านในอย่างกำเริบเสิบสาน เขาก็ข่มกลั้นความเจ็บเอาไว้ เอ่ยพูดออกไปเสียงดังว่า
“ท่านเสนาฯ ครับ นี่เป็นบ้านของผม! ร้ายดียังไงผมก็เป็นข้าราชการระดับสูงด้วยเหมือนกัน คุณบุกรุกเข้าบ้านผมมาอย่างเหิมเกริมอย่างนี้ มารยาทกับกฎหมายมันไม่สอดคล้องกันเลยใช่มั้ย?!”
ฝีเท้าของโอหยางฝู่ที่เดินเข้าไปด้านในได้หยุดลง
เขาผันร่างไป หันหน้าไปมองเวนเดลล์ สายตาชั่วร้ายจนเหมือนกับปีศาจร้าย
“ก็แค่นักการทูตกระจอกๆ ในสายตาของฉัน แกไม่ได้เป็นเหี้ยอะไรเลย ในเมื่อแกไม่รู้จักชั่วดี ฉันจะทำให้แกออกไปจากตำแหน่งเสียเดี๋ยวนี้ มันก็ไม่มีผลอะไรเลย”
เวนเดลล์เอ่ยออกไปด้วยความโกรธ “ผมใช้ความสามารถตัวเองจริงๆสอบเข้ามาเป็นนักการทูตท จนได้มาเป็นหัวหน้าการทรวงการต่างประเทศ และก็เป็นตำแหน่งที่กษัตริย์พระราชทานมาให้ด้วยพระองค์เอง อำนาจท่านเสนาฯ ของคุณถึงแม้ว่ามันจะใหญ่แต่มันก็ไม่ได้ถึงขั้นที่จะปิดฟ้าด้วยมือเดียว ถึงขนาดที่จะถอดหัวหน้ากระทรวงการต่างประเทศซี้ซั้วได้หรอกนะครับ”
“เหอะ ใครบอกว่าไม่ได้กัน?”
โอหยางฝู่ผันร่างออกไป สาวก้าวเท้าเข้าไปใกล้เวนเดลล์อย่างรวดเร็วอย่างกับดาวตก เต็มเปี่ยมไปด้วยออร่าของความบ้าคลั่งมืดทะมึนไปทั่วทั้งร่าง
“ที่ประเทศเบียนหนานแห่งนี้ ใครที่ตามฉันจะก้าวหน้า ใครขวางทางฉันคนนั้นตาย เวนเดลล์ แกหาเรื่องให้ฉันโกรธ ฉันไม่เพียงจะปลดแกออกจากตำแหน่ง แต่ยังจะเอาชีวิตแกไปด้วย!”
เวนเดลล์นิ่งแข็งไปทั้งร่าง เผชิญหน้ากับความอันตรายที่ร้ายแรงอย่างมาก แทบจะถอยหนีออกไปข้างหลังตามสัญชาตญาณ
เขานึกไม่ถึงเลยว่า โอหยางฝู่จะโหดเหี้ยมได้ถึงขั้นนี้ไปแล้ว
ไม่สนใจกฎหมาย ถึงขนาดที่แม้แต่ข้าราชการระดับสูงที่องค์กษัตริย์ทางพระราชทานตำแหน่งมาให้โดยพระองค์เอง ก็กล้าที่จะฆ่าด้วย
ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ดูหมิ่นประมวลกฎหมายของทั้งประเทศ
“นี่มันก็แค่เริ่มต้น”
สายตาของโอหยางฝู่ดูร้ายออกมายิ่งกว่าเดิม มันทั้งโหดเหี้ยมและโอหัง “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศเบียนหนาน ต่อไปฉันจะใหญ่สุดทุกคนต้องฟังคำสั่งฉัน ถ้าใครกล้าขัดคำสั่งฉัน มันก็จะมีเพียงแค่ความตายให้เท่านั้น”
เสียงพูดหลุดออกไป โอหยางฝู่ยกมือขึ้น
การ์ดที่อยู่ด้านหลังทั้งสองคนก็เดินออกมาทันที หนึ่งในนั้นกำลังถือมีดสั้นที่แหลมคมเล่มหนึ่งอยู่ เดินไปยังเวนเดลล์ที่ไม่มีอาวุธใดๆด้วยสายตาที่เยือกเย็น
นึกไม่ถึงว่าจะฆ่ากันโต้งๆตรงนี้เลย!
เวนเดลล์ตกใจช็อกออกมา กู่ร้องออกไปด้วยความโกรธ
“โอหยางฝู่ คุณกล้า! คุณกล้าฆ่าผม?! ผมเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเลยนะ คุณจะทำการสังหารข้าราชการระดับสูงอย่างเปิดเผยงั้นเหรอ คุณกำลังก่อกบฏอยู่นะ!”
โอหยางฝู่ยิ้มเย็นออกมา “ก่อกบฏก็ก่อกบฏสิ ฉันโอหยางฝู่ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว ถึงจะได้เป็นกษัตริย์ของประเทศเบียนหนานเลยไง!”
กำลังของตัวเองได้เปิดเผยออกมาในการไต่สวนภายใน โอหยางฝู่ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องระวังแล้ว ถ้าไม่ลงมือก่อน ควบคุมไปทั้งประเทศเบียนหนาน อย่างนั้นแล้วจะถูกอำนาจกษัตริย์กินรวบไปได้
เขาได้เตรียมพร้อมที่จะทำให้กษัตริย์ผู้สูงส่ง ไร้ซึ่งอำนาจที่แท้จริง ควบคุมให้กลายมาเป็นหุ่นเชิดที่อยู่ในกำมือของเขาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่เขาจะจัดการควบคุมทุกอย่าง เขายังต้องทำอีกเรื่องหนึ่ง
สายตาที่มืดครึ้มเยือกเย็นมองเข้าไปในลานบ้าน ประหนึ่งงูพิษที่กำลังหาเหยื่อของตัวเองอยู่
คนที่เขาต้องการจับไป ก็คือเย้นหว่าน
หลายปีมานี้ แอบกุมอำนาจลับๆมามากมาย แต่ก็รอจังหวะโจมตีมาตลอด จึงได้ระวังเซอร์ยุนซี
ท่านดยุกคนนี้ อำนาจในมือไม่น้อยไปกว่าเขาเลย
อีกอย่างเขาก็ไม่เคยจะเจอจุดอ่อนของเซอร์ยุนซีเลยไม่มีวิธีที่จะล้มเขาลงไปได้
แต่ตอนนี้ มันได้ต่างออกไปแล้ว
เย้นหว่านเป็นจุดอ่อนของเขา สามารถทำให้เซอร์ยุนซีพ่ายแพ้ยับเยินได้
ตอนนี้เขาเพียงแค่ต้องจับตัวเย้นหว่านเอาไว้ ควบคุมเอาไว้ในมือ เซอร์ยุนซีผู้ชายที่จมอยู่กับความรักจนไม่มีสติคนนั้น จะต้องห่วงหน้าพะวงหลังไม่กล้าจะทำอะไรเด็ดขาดออกมาแน่
ไม่มีศัตรูหมายเลขหนึ่งคนนี้แล้ว ประเทศเบียนหนานก็จะได้มาอย่างง่ายดาย
เวนเดลล์ถอยหลังออกไปไม่หยุด หลังพิงเข้ากับขาตั้งแจกันดอกไม้ ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว
ส่วนตรงหน้าของเขา การ์ดที่กำลังถือมีดคนนั้น ก็เข้ามาใกล้กันเรื่อยๆ
เขาแทบจะรู้สึกได้ถึงปลายแหลมของมีดได้เลยทีเดียว
“ลูกน้องของฉันทำงานเร็ว ไม่รู้สึกเจ็บเท่าไหร่หรอก ท่านรัฐมนตรี ไปตายซะเถอะ”
การลงมือของการ์ดทั้งเร็วและทั้งโหดเหี้ยม
มีดแหลมคมเข้ามาอยู่ตรงหน้าของเวนเดลล์ในชั่วพริบตา
“หยุดนะ!”
ในทันใดนั้นเอง เสียงตะโกนเสียงดังของผู้หญิงดังขึ้น
เย้นหว่านเดินออกมาจากด้านในห้องโถงใหญ่อย่างรีบร้อน มองมีดสั้นที่แหลมคมเล่มนั้นไปอย่างอกสั่นขวัญแขวน เข้าไปจ่ออยู่ตรงหน้าอกของเวนเดลล์อย่างน่าหวาดเสียว
การ์ดที่ถือมีดคนนั้นถูกขัด ก็ขมวดคิ้วออกมาอย่างไม่พอใจ จึงหันไปมองทางโอหยางฝู่อย่างขอความคิดเห็น
แต่โอหยางฝู่กลับไม่มองเขาเลยแม้แต่น้อย มองเย้นหว่านไปด้วยสายตาที่ร้อนแรง
ก็เหมือนกับหมาป่าที่ชั่วร้ายเห็นกระต่ายขาวตัวน้อยที่สดอร่อย อยากกินจนน้ำลายไหลออกมา
“เย้นหว่าน ในที่สุดเธอก็ออกมา ไม่ต้องให้ฉันต้องเข้าไปหาเธออีก”
บนใบหน้าของโอหยางฝู่ฉีกยิ้มออกมา แต่มันกลับเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
เขาก้าวขาออกไป เดินไปยังเย้นหว่านทีละก้าวๆ
การ์ดอีกแปดคนตามเขาอยู่ทางข้างหลัง และก็ได้แสดงท่าทางเตรียมเข้าไปล้อมตัวเย้นหว่านเอาไว้ทันที
เย้นหว่านสบเข้ากับสายตาที่โหดเหี้ยมของโอหยางฝู่ แล้วก็รู้สึกได้ว่าแผ่นหลังได้อาบไปด้วยเหงื่อเย็น ทั้งกลัวและยังรู้สึกรังเกียจไปด้วย
คนผู้นี้ต่างจากทุกคนที่เธอเคยรู้จักมา
เขากุมอำนาจมาก ฆ่าคนจนเป็นนิสัย เป็นปีศาจร้ายที่เดินอยู่ในโลกมนุษย์
เย้นหว่านตื่นกังวลจนลำตัวแข็งเกร็ง พยายามที่จะสงบลง แล้วเอ่ยพูดกับเขาออกไปด้วยเสียงที่ดุดัน
“คุณคิดจะทำอะไร?”
โอหยางฝู่เดินใกล้เข้าไปเรื่อยๆ คำพูดที่มีเจตนาร้ายพ่นออกมาจากปากทีละคำทีละประโยค “ต่อเรื่องเมื่อวันนั้นที่ยังทำกับเธอไม่เสร็จไง”
วันนั้น เรื่องที่ทำไม่เสร็จ!