เย้นหว่านถูกเขามองจนขนลุก หลบหลังโห้หลีเฉินโดยจิตใต้สำนึก
ดวงตาของโห้หลีเฉินมีความเฉียบคมวาบผ่าน กวาดสายตามองเซอร์ยุนซีอย่างเย็นชา จับมือของเย้นหว่าน หันหลังเดินออกไปข้างนอก
เมื่อเห็นว่าโห้หลีเฉินจะไป เซอร์ยุนซีรีบตะโกนเรียก
“พี่ครับ รอแป๊บ”
โห้หลีเฉินหยุดฝีเท้า แต่ไม่ได้หันกลับไปมอง
เซอร์ยุนซีก็ไม่ได้สนใจ ปริปากถาม “เงื่อนไขสองข้อแรกนั่นฉันทำสำเร็จแล้ว เงื่อนไขข้อที่สามคืออะไร?”
ระหว่างที่พักฟื้น เขาสามารถเตรียมตัวกับการปฏิบัติเงื่อนไขข้อที่สาม
ถึงเวลานั้น รอแผลหายหน่อย รีบไปทำให้สำเร็จ ก็สามารถแต่งงานกับเย้นหว่านแล้ว
มุมปากของโห้หลีเฉินกระตุกขึ้นอย่างเย็นชา
พูดอย่างใจเย็นว่า “ไม่ต้องรีบ รอฉันกลับมาจะบอกนายเอง”
พูดเสร็จ ก็ไม่ให้โอกาสเซอร์ยุนซีได้พูดต่อ จับมือเย้นหว่านแล้วเดินออกไปโดยตรง
เซอร์ยุนซีมองผ้าม่านที่ปิดลง ถอนหายใจอย่างผิดหวัง
ไม่คิดว่าเงื่อนไขข้อที่สาม จะต้องเสียเวลาอีกแล้ว
เขาหันหน้าไปพูดกับฉู่ฉู่ที่อยู่ข้างๆเตียง “ฉู่ฉู่ คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม?”
ฉู่ฉู่พยักหน้าทันที “นายว่ามาเลย”
“เดี๋ยวรอหลังจากที่โห้หลีเฉินไป คุณช่วยเรียกเสี่ยวหว่านมาหาผมหน่อย”
ฉู่ฉู่อึ้งชั่วครู่ รู้สึกเสียดแทงในใจ
ก็ใช่ ตอนนี้ที่เธออยู่ดูแลเซอร์ยุนซี เพราะว่าโห้หลีเฉินครอบครองเวลาของเย้นหว่าน ดังนั้นเธอถึงได้มีโอกาสเท่านั้น
พอโห้หลีเฉินจากไป ทกสิ่งทุกอย่างก็คงกลับสู่ที่เดิม ควรจะเป็นเย้นหว่านมาดูแลเซอร์ยุนซีแล้ว
ส่วนเธอ ก็ถอยห่างไป
อดกลั้นต่อความรู้สึกไม่สบายใจในหัวใจ ฉู่ฉู่ฝืนยิ้ม แล้วพยักหน้า
“ได้ เดี๋ยวสักพักฉันไปเรียกเสี่ยวหว่านมาให้”
เป็นสิ่งที่เขาขอ เธอจะปฏิเสธได้อย่างไร?
เขาทั้งดีงามและสูงส่ง เป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถคาดหวังได้ตั้งแต่แรก
ในใจของฉู่ฉู่ ว่างเปล่าไม่มีอะไร
เย้นหว่านถูกโห้หลีเฉินดึงออกจากห้องโถง หลังจากเดินมาไกล ค่อยรู้สึกว่าจิตใจที่เฉียบแหลมและไม่เป็นมิตรของชายผู้นี้จางหายไปมาก
ดูออกว่า ในตอนที่โห้หลีเฉินเผชิญหน้ากับเซอร์ยุนซี ทนต่อเจตนาที่อยากจะฆ่าสุดขีด
ไม่งั้นละก็เซอร์ยุนซีคงตายไปแปดร้อยรอบแล้ว
เย้นหว่านโอบแขนของโห้หลีเฉิน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวาน เงยหน้ามองเขา แล้วพูด
“โห้หลีเฉิน ต่อจากนี้นายกะจะทำอะไร?”
ปากบอกจะช่วยเซอร์ยุนซีจัดการสถานการณ์ทีหลัง แต่เย้นหว่านเข้าใจดี โห้หลีเฉินไม่ได้เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น
เขาคงมีแผนของเขา
มองดูท่าทางน่ารักละเอียดอ่อนของเย้นหว่าน อารมณ์ของโห้หลีเฉินดีขึ้นมาบ้าง
ความเย็นชาวาบผ่านสายตาของเขา พูดอย่างเย็นชา “ไปบ้านโอหยางฝู่ ค้นบ้านและยึดทรัพย์”
“ค้นบ้านและยึดทรัพย์?”
เย้นหว่านประหลาดใจเล็กน้อย ยังคงสับสน “แม้ว่าตอนนี้โอหยางฝู่จะถูกจับ แต่ยังไม่ถูกพิจารณาคดี ตามลำดับขั้นตอนแล้ว ตอนนี้ยังค้นบ้านและยึดทรัพย์ไม่ได้หรอกมั้ง?”
อีกอย่าง ค้นบ้านและยึดทรัพย์ต้องได้รับคำสั่งจากกษัตริย์ก่อน
โห้หลีเฉินยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “รอพวกเราไปถึงบ้านของโอหยางฝู่ ก็พอแล้ว”
คำพูดนี้ หมายความว่าอย่างไร?
เย้นหว่านไม่เข้าใจ แต่ก็ได้สังเกตคำหนึ่งในคำพูดของโห้หลีเฉิน พวกเรา
เธอตกใจ “นายจะพาฉันไปด้วย?”
นี่เป็นเรื่องระหว่างผู้ชายไม่ใช่เหรอ พาเธอที่เป็นผู้หญิงไปทำธุระด้วย จะดีเหรอ?
“แน่นอน”
โห้หลีเฉินพูดได้ชิวมาก ราวกับว่านี่เป็นเรื่องปกติทั่วไป
เพ้อเจ้อ เซอร์ยุนซีอยู่ที่นี่ เขาจะปล่อยให้เย้นหว่านอยู่คนเดียวได้อย่างไร? เปิดโอกาสให้เซอร์ยุนซีเหรอ อย่าได้คิดเลย
อีกอย่าง ซาอินติยังไม่ได้จัดการ ราวกับงูพิษที่แอบซ่อนในความมืดที่พร้อมจะฉกคนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ระแวงไม่ได้
ในระหว่างนี้ โห้หลีเฉินไม่ปล่อยให้เย้นหว่านอยู่ลำพังเด็ดขาด
เป็นไปตามคาดของโห้หลีเฉินไว้ ในขณะที่โห้หลีเฉินและเย้นหว่านพร้อมทั้งบอดี้การ์ดอีกสี่คนถึงบ้านของโอหยางฝู่ ก็เห็นองครักษ์ในวังเดินเข้ามาด้วยท่าทีดุดัน ล้อมรอบทั้งบ้านของโอหยางฝู่
นี่คือ พระราชาลงคำสั่งให้ค้นบ้านและยึดทรัพย์
เย้นหว่านถึงจะเข้าใจว่า ระหว่างทางที่พวกเขามา โห้หลีเฉินได้ส่งคนของเซอร์ยุนซีเข้าไปรายงานในวัง หลังจากที่ขังโอหยางฝู่ เขาได้วางแผน ให้พระราชาใช้เวลาที่รวดเร็วที่สุดควบคุมแรงกำลังอำนาจของโอหยางฝู่
เพียงหนึ่งชั่วโมง ท่านเสนาฯที่เคยมีอำนาจสูงส่งมาก่อน ถูกถอนออกจากตำแหน่งและตัดสินความผิด ยังถูกค้นบ้านและยึดทรัพย์
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพื่อตัดสินคดีอาชญากรรมของเขา
ต้องประหารชีวิตเขา
เหตุผลที่การกระทำของพระราชานั้นรวดเร็วแบบนี้ และเด็ดเดี่ยวมากนั้น สมเหตุสมผลอยู่แล้ว
ในระหว่างการพิจารณาคดีภายใน โอหยางฝู่ได้เปิดเผยกองกำลังในที่ลับทั้งหมดของเขา เพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งทำให้พระราชาระแวง ทุกคนต่างรู้ดีว่า กำลังจะมีรัฐประหารครั้งใหม่เกิดขึ้นในไม่ช้า
ในสภาวะตื่นตัวที่อันตรายและตึงเครียดนี้ กลับได้รับแจ้งรายงานว่า โอหยางฝู่ถูกจับกุม พลาดท่าเสียแล้ว
ผู้ที่มีอำนาจสูงกว่าก็ต่างรู้สึกเห็นด้วย แทบจะเหยียบย่ำเขาให้ตายในทุกวินาที
วิกฤตครั้งนี้ผ่านไปอย่างง่ายดาย
คนที่ต้องตาย คือโอหยางฝู่
หลังจากที่หัวหน้าองครักษ์มาถึง ก็รีบทำความเคารพโห้หลีเฉินอย่างเคารพ
“คุณโห้ พวกผมได้รับคำสั่งมาค้นบ้านโอหยางฝู่ ปฏิบัติการที่ละเอียดล้วนฟังแผนของคุณ ขอให้คุณสั่ง”
ในขณะที่องครักษ์กลุ่มนี้มาถึง ก็ได้รับคำสั่ง ในตอนที่ค้นบ้านและยึดทรัพย์ จะให้โห้หลีเฉินจัดการ
พวกเขามาแล้ว ก็รีบมองหาเจ้านาย และก็แปลก เรื่องแบบนี้ โห้หลีเฉินกลับพาผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย
เย้นหว่านยืนข้างๆโห้หลีเฉินอย่างมีมารยาท สำหรับการพิจารณามองขององครักษ์เธอทำเหมือนมองไม่เห็น
ยังไงแล้ว เธอก็แค่หนอนตามก้นโห้หลีเฉินเท่านั้น
แต่ดูจากแนวโน้มนี้แล้ว โห้หลีเฉินจะค้นบ้านโอหยางฝู่และยึดทรัพย์เอง ซึ่งหมายความว่า กุญแจในสวนสวนพฤกษศาสตร์หลวง ก็อยู่ในบ้านนี้
และนี้ก็เป็นเพียงหนึ่งเหตุผลที่สามารถเชิญให้โห้หลีเฉินออกตัวจัดการด้วยตัวเอง
เย้นหว่านนึกถึงเซอร์ยุนซีที่พักฟื้นอยู่ที่บ้านของเวนเดลล์ ในตอนที่โห้หลีเฉินจากไป เขาให้สัญญาว่ากลับไปค่อยบอกเงื่อนไขข้อที่สามกับเขา
ตอนนี้ดูท่าแล้ว……
แต่การออกมาในครั้งนี้ เธอและโห้หลีเฉินอาจจะไม่กลับไปแล้ว
เงื่อนไขข้อที่สามนี้ ลิขิตไว้ว่ารอไม่ถึงแล้ว
สำหรับความช่วยเหลือจากเซอร์ยุนซีในช่วงนี้ และใจที่มีต่อเธอ เย้นหว่านรู้สึกละอายใจไม่มากก็น้อย ตอนนี้ไปโดยไม่บอกลา หวังเพียงว่า เซอร์ยุนซีจะมองเห็นความดีของฉู่ฉู่
ฉู่ฉู่เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง ถ้าหากเขารักฉู่ฉู่ขึ้นมา อนาคตก็คงจะมีความสุขมากแน่ๆ
เธอถูกลิขิตไว้แล้วว่าเป็นคนต้องจากไป
“คิดอะไรอยู่?”
โห้หลีเฉินสังเกตเห็นเย้นหว่านที่ใจลอยอยู่ข้างๆ ถามเสียงทุ้มต่ำ
เย้นหว่านรีบส่ายหน้า ยิ้มแล้วพูด “เปล่า แค่จะไปแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย”
กลัวว่าโห้หลีเฉินไม่เชื่อ เย้นหว่านพูดต่ออีกว่า
“นายว่าถ้าพวกเราออกไปทันทีที่ได้รับยา ออกไปทางอุโมงค์ จะเจอพี่ชายฉันในอุโมงค์ไหม? งั้นพวกเราก็สามารถกลับไปด้วยกัน แต่ว่าพี่ชายฉันพวกเขาเดินทางมาไกลกว่าจะถึงประเทศเบียนหนาน แต่กลับยังไม่ทันได้เข้าประเทศเบียนหนานก็ต้องกลับไป คาดว่าคงใจคอเหี่ยวแห้งแน่ๆ”