สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่813 เวลาที่มากกว่า

บทที่813 เวลาที่มากกว่า

ในใจของฉู่ฉู่ยิ่งรู้สึกย่ำแย่เข้าไปอีก “ท่านดยุก คุณไม่ต้องแสดงต่อไปแล้ว เย้นหว่านก็ไปแล้ว ต่อหน้าฉัน คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ คุณไม่ต้องบังคับตัวเองให้แต่งงานกับฉัน ฉันกลับไปแล้วจะไปพูดกับคุณพ่อให้ชัดเจนเอง”

“พูดอะไร?”

เซอร์ยุนซีมองฉู่ฉู่อย่างประหลาดใจ สีหน้างงงวย ตามไม่ทันระบบความคิดของเธอเลยสักนิด

“เธอเป็นอะไรไป?” เขาถามอย่างเป็นห่วง แล้วเดินเข้าหาฉู่ฉู่

ฉู่ฉู่รีบถอยไปข้างหลังสองสามก้าวทันทีด้วยความตื่นตระหนก รักษาระยะห่างกับเขาอย่างอึดอัด

ดวงหน้าเล็กซีดขาว น้ำเสียงสะอึกสะอื้น

“ฉันรู้ว่าคำขอแต่งงานของคุณวันนี้ ล้วนพูดให้กับเสี่ยวหว่านฟัง คุณรู้ว่าเธอจะไปแล้ว อยากให้เธอจากไปอยากสบายใจ ไม่ต้องรู้สึกผิดค้างคา ดังนั้นถึงได้พูดว่าชอบฉัน อยากจะอยู่กับฉัน

ตอนนี้เสี่ยวหว่านไปแล้ว พวกเราเองก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งทำต่อไปอีก…”

เซอร์ยุนซีมองฉู่ฉู่อย่างแปลกใจ “ใครบอกว่าฉันแกล้งทำกัน?”

เขาหดหู่ ไม่เข้าเลยสักนิดว่าทำไมอยู่ๆ ฉู่ฉู่ถึงคิดแบบนั้น

เขาพูดอย่างจริงจัง

“คำขอแต่งงานของฉันวันนี้เป็นคำที่พูดกับเธอ ทั้งหมดมาจากใจจริง ไม่มีคำลวงแม้แต่น้อย ฉันชอบเธอ นั่นเป็นความจริง ที่อยากแต่งกับเธอ ก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน”

คำพูดอันหนักแน่นทำให้ฉู่ฉู่ตะลึง

เธอมองไปที่เซอร์ยุนซีด้วยแววตาเป็นประกาย เธอเตรียมพร้อมกับสิ่งเลวร้ายที่สุดแล้วแท้ๆ ตกอยู่ในนรกแล้วแท้ๆ แต่ว่าทำไม เขากลับบอกเธอว่ามันเป็นความจริง

ถ้าหากเป็นความจริง เธอก็คือคนที่มีความสุขที่สุดแล้ว

“แต่ว่า….” ฉู่ฉู่ส่ายหัว น้ำตาร่วงหล่อลงอย่างกลั้นไม่อยู่ “ฉันอยู่ออก ว่าในใจของคุณยังมีเย้นหว่านอยู่ ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้นี้คุณคงไม่จ้องไปที่ที่เธอจากไปอยู่ตลอด เหมือนอยู่ในภวังค์อย่างนั้น”

หากในใจไม่มีเธออยู่ จะไปมองอย่างอาลัยอาวรณ์ขนาดนั้นได้ยังไง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซอร์ยุนซีก็พลันตระหนักขึ้นได้

ที่แท้ก็เป็นเพราะอย่างนี้นี่เอง

เขาหน้าเจื่อนอย่างจนใจ แล้วอธิบายอย่างจริงใจ

“ฉู่ฉู่ ที่ฉันใจลอยเมื่อกี้นี้ เพราะเย้นหว่านสำหรับฉันแล้ว เป็นตัวตนที่พิเศษมาตลอด และในตอนนี้หล่อนจากไป สำหรับฉัน รู้สึกเหมือนกับได้ส่งความฝันไป

ไม่ใช่ว่าในใจฉันยังมีหล่อนอยู่ ฉันเพียงแค่นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น แม้จะไร้วาสนา แต่หล่อนก็มาถึงที่นี่ ก็เหมือนกับสีสันที่แตกต่างอย่างหนึ่งในชีวิต”

และที่เขาส่งเธอจากไปด้วยสายตา นั้นคือความคะนึงถึงต่อวันเวลาที่แสนพิเศษนั้น

เพียงแค่เท่านั้นเอง

แววตาของฉู่ฉู่เป็นประกายมากยิ่งขึ้น “เสี่ยวหว่านพิเศษมาก เธอเป็นหญิงสาวที่ยากจะลืมเลือน เมื่อเปรียบเทียบกับเธอแล้ว ฉันคงธรรมดาเกินไป…”

ธรรมดาจนน่าอายแทบแทรกแผ่นดินหนี

ภายใต้รัศมีแบบนั้นของเย้นหว่าน เธอจะไปเทียบเคียงเย้นหว่านได้ยังไง จะมาแทนที่ตำแหน่งของเย้นหว่านในหัวใจของเซอร์ยุนซีได้ยังไงล่ะ

แล้วเซอร์ยุนซีจะไม่รักเย้นหว่านแล้วชอบแค่เธอได้ยังไงกัน

“เธอไม่ได้ธรรมดา”

เซอร์ยุนซีกุมมือเล็กของฉู่ฉู่ แล้วดึงมันมาทาบที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง

จ้องมองไปที่เธอ พูดอย่างจริงจัง

“เย้นหว่าน หล่อนเหมือนกับแสงจันทร์จอมเจ้าเล่ห์ สุกใสพาให้ปรารถนา แต่กลับเป็นดั่งดวงจันทร์บนผิวน้ำ แต่เธอเป็นเหมือนดวงอาทิตย์อันอบอุ่นที่ห้อมล้อมหัวใจผู้คนตลอดเวลา ทำให้รู้สึกอบอุ่น และแท้จริง

ฉันชอบความรู้สึกที่อยู่กับเธอ นี่ถึงจะเป็นความรู้สึกของชีวิต นี่ถึงจะเป็นอนาคตที่เอื้อมไปได้ถึง”

คำพูดแต่ละคำนั้น ราวกับไออุ่นที่ไหลซึมเข้าสู่หัวใจ จัดการความสงสัยและความโศกเศร้าในหัวใจของฉู่ฉู่ไปอย่างสมบูรณ์

เธอโชคดีแค่ไหนถึงได้ใจจริงของเซอร์ยุนซี

เธอโถมเข้าหาอ้อมกอดของเซอร์ยุนซีด้วยดวงตาแดงผ่าว น้ำตายังไหลลงมาไม่หยุด แต่มันกลับไม่ได้ขมอีกต่อไปแล้ว มันหวาน

เซอร์ยุนซีมองหญิงสาวในอ้อมแขนด้วยแววตาอ่อนโยน ก่อนเอื้อมมือกอดเธอเอาไว้แน่น

เขาเงยขึ้นมองไปทางอุโมงค์ ภายในใจคำนึงถึงอย่างเงียบๆ

“เย้นหว่าน ลาก่อน”

——

ภายในอุโมงค์ เบื้องหน้าล้วนเป็นความมืดมิดไร้แสงไฟ แทบจะทำได้เพียงอาศัยแสงสะท้อนจากไฟรถในการมองทาง

แม้การมองเห็นจะไม่ค่อยดี แต่สุดท้ายก็ปลอดภัยและราบรื่นไปตลอดทาง

เย้นหว่านที่ซุกอยู่ในอ้อมแขนของโห้หลีเฉินถามขึ้น

“ยาตัวต่อไปอยู่ที่ไหน? ฉันจะไปหากันเมื่อไหร่?”

สิ้งที่เย้นหว่านคิดนั้นคือ หลังจากกลับไป หยุดพักสักหน่อยแล้วออกเดินทางทันที

แม้ว่าเมล็ดแมกโนเลียจะใช้เวลาเพียงสามเดือนก็หาเจอ แต่ยาสองตัวหลังยังไม่รู้ว่าจะหายากไหม และต้องใช้เวลานานเท่าไหร่

แววตาของโห้หลีเฉินหม่นลงเล็กน้อย เขาเม้มปาก

เอ่ยอย่างช้าๆ “ตำแหน่งของยา ยังไม่ได้ยืนยัน”

“อะไรนะ?”

เย้นหว่านลุกจากอ้อมแขนของโห้หลีเฉินขึ้นนั่งอย่างประหลาดใจ สีหน้าค่อนข้างตระหนก “หมายความว่ายังไง ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปตามหาตัวยาที่ไหนงั้นเหรอ?”

“ไม่ต้องร้อนใจไป” โห้หลีเฉินเอ่ยปลอบ “ก่อนที่จะมาฉันส่งคนไปหาแล้ว พวกเราอยู่ที่ประเทศเบียนหนานไม่มีสัญญาณ ไม่มีทางติดต่อภายนอกได้ และก็ไม่รู้ว่าพวกเขามีเบาะแสอะไรรึเปล่า

แต่ก็สามเดือนแล้ว ควรจะได้เบาะแสแล้วล่ะ”

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ หัวใจที่ขึ้นมาห้อยต่องแต่งถึงคอหอยของเย้นหว่านจึงได้ตกลงไปเล็กน้อย

คนที่โห้หลีเฉินบวกกับเย้นโม่หลินได้เตรียมไว้ ล้วนเป็นบุคคลที่สุดยอดทั้งนั้น ทุ่มเทค้นหากันในเวลาสามเดือน จะต้องมีเบาะแสอะไรบ้างอยู่แล้ว

ด้วยความคิดเช่นนั้น เย้นหว่านก็อยู่ในอุโมงค์ผ่านไปหลายวันอย่างขมุกขมัว ในที่สุดก็รอมาจนโทรศัพท์มือถือสามารถต่อสัญญาณจากภายนอกได้แล้ว

หมายความว่าระยะทางที่จะออกไป นั้นก็ไม่ไกลแล้ว

สิ่งที่เย้นหว่านกังวลมากที่สุดก็คือเรื่องของโห้หลีเฉิน เพิ่งจะลงจากรถพักผ่อนก็วิ่งไปหาป่ายฉีแล้ว

เขาถามอย่างเร่งรีบ

“ป่ายฉี ได้ข่าวอะไรรึยัง? หยิงหลิงกับคูหวงต่านอยู่ที่ไหน?”

ป่ายฉีเพิ่งวางโทรศัพท์ไป มองไปยังเย้นหว่านด้วยสีหน้าลำบากใจ

เอ่ยอย่างลังเล “เสี่ยวหว่าน เธออย่ากังวลไปก่อนนะ ยาสองชนิดนี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่าและมีอยู่น้อยมากในโลก ค่อนข้างจะหายาก…..”

คำปฏิเสธอ้อมๆ นั้น ยิ่งฟังก็ยิ่งทำให้หัวใจของเย้นหว่านจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ

เธอมองป่ายฉีด้วยแววตาสั่นระริกไม่สบายใจ ถามอย่างค่อนข้างตื่นตระหนก

“นายหมายความว่า ตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสอะไร อย่างนั้นเหรอ?”

ป่ายฉีอึกอัก มองไปยังเย้นหว่านอย่างวิตกกังวล พยักหน้าอย่างแข็งทื่อ

ก้อนหินที่ห้อนอยู่ที่หัวใจของเย้นหว่านนั้นตกลงมาในคราวเดียว

การร่วงกระแทกอย่างหนักหน่วง ทำเอาร่างของเธอสั่นสะท้านอย่างทนไม่อาจทนได้

ไร้เบาะแส ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด

สีหน้าของเธอซีดขาวอย่างรุนแรง ในใจทั้งลนลานและว้าวุ่น

ป่ายฉีมองอย่างเป็นห่วง เขารีบเอ่ยปลอบ “แค่ตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสเท่านั้นเอง เธออย่ากังวลไปเลย ไม่นานก็หาเจอแล้ว”

“ตั้งสามเดือนกว่าแล้ว ถ้าง่ายขนาดนั้น ก็ควรจะหาเบาะแสเจอได้แล้ว”

น้ำเสียงของเย้นหว่านแผ่วเบา ความรู้สึกของทุกคนต่างพังทลายลง

สามเดือนมาแล้วก็ยังหาไม่เจอเบาะแสเลยแม้แต่น้อย ก็หมายความว่า จะใช้เวลาอีกสามสิบเดือนก็อาจจะหาเจอได้ยาก

แต่โห้หลีเฉินจะมีเวลารอมากขนาดนั้นที่ไหนกัน ล่าช้าไปหนึ่งวัน ร่างกายของเขาก็ทรุดโทรมลงไปอีกหนึ่งส่วน ระยะห่างจากวันแห่งความตาย ก็จะยิ่งใกล้เข้ามาอีกก้าว

“โลกกว้างใหญ่ขนาดนั้น ต่อให้พวกเรามีคนมาก พละกำลังแข็งแกร่ง ก็ไม่พอที่จะพลิกหาไปทั่วทุกมุมอันห่างไกลบนโลกได้หรอก นั่นจึงจำเป็นต้องใช้เวลามากมายกับการทำงาน”

โห้หลีเฉินเดินไปด้านหลังเย้นหว่าน วางมือใหญ่ทั้งสองข้างลงบนไหล่ของเธอ อธิบายด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มและใจเย็น

“สามเดือนยังไม่เพียงพอ ตอนแรกคนของฉันเพียงแค่ค้นหาเส้นทางที่จะไปถึงประเทศเบียนหนาน ยังใช้เวลาสามเดือนกว่าถึงจะหาเจอ หยิงหลิงกับคูหวงต่านเป็นยาวิเศษ หาได้ยากมาก จำเป็นต้องใช้เวลามากกว่านี้อีกหน่อยถึงจะได้”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท