สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่817 นั่งไหนดี

บทที่817 นั่งไหนดี

“อย่ามองนะ” เย้นหว่านหันกลับมาอย่างกะทันหันและปิดตาโห้หลีเฉิน

โห้หลีเฉินเดินตามหลังเธออยู่ก้าวหนึ่ง เดิมทีเขาก็ยังไม่ทันได้สังเกตเห็นอะไรแถมยังโดนปิดตาอีก ก็เลยยิ่งทำให้มองไม่เห็น

แต่เขาเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก จึงปล่อยให้เย้นหว่านปิดเอาไว้

ป่ายฉีที่เดินอยู่หลังสุด ถูกโห้หลีเฉินที่หยุดอย่างกะทันหันขวางเอาไว้จึงได้แต่ต้องหยุดตาม ด้วยตำแหน่ง เขาไม่รู้ได้เลยว่าสถานการณ์ในห้องตอนนี้เป็นยังไง

แต่เย้นโม่หลินกลับเดินไปข้างเย้นหว่าน เพียงมองแวบแรก ก็มองเห็นสภาพห้องได้อย่างชัดเจน

แผ่นผิวหนังนั้นปะทะเข้าในสายตาของของเขาอย่างไม่ได้สงวนไว้เลยแม้แต่น้อย

ดวงตาของเขาหม่นลงทันทีราวกับว่ามีเปลวไฟกำลังลุกโชน

ในเวลาเดียวกัน กู้จื่อเฟยเองก็ได้ยินเสียงพูดของเย้นหว่าน เธอจึงหันไปก่อนสบตาเข้ากับเย้นโม่หลินโดยไม่ทันตั้งตัว

เธอตัวแข็งทื่อ แสดงความตื่นตะลึงออกมาชั่วครู่

คือเย้นโม่หลิน

เธอตัวสั่น แม้ว่าหลังจากการโทรคุยกันเมื่อวานนี้เธอก็ได้เตรียมใจที่จะต้องเจอกับเขาแล้ว แต่เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเธอแบบนี้ เธอก็ยังควบคุมความตื่นตระหนกของหัวใจตัวเองไม่ได้

กว่าสามเดือนมาแล้ว เธอก็ได้พบกับเขาอีกครั้ง

หัวใจดวงนั้นที่ใกล้จะนิ่งงัน แต่ในชั่วพริบตาก็เหมือนมีเกลียวคลื่นซัดเข้ามา

ทว่า เธอก็ยับยั้งอารมณ์อย่างรวดเร็ว และกลับสู่ความสงบนิ่ง

ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้

“อ๊ะ! นายอย่ามองนะ!”

กู้จื่อเฟยตื่นตกใจจนรวบเสื้อผ้าที่เกือบเปลื้องออกจนหมดเข้าหาตัว ปกปิดตัวเองไว้อย่างไม่เต็มใจ

แต่ภายใต้ช่องว่างนั้น ก็ยังเผยสีขาวออกมาอยู่เล็กน้อย

ความวับๆ แวมๆ แบบนั้นกลับร้อนแรงและอันตรายมากกว่าเมื่อครู่เสียอีก

การหายใจของเย้นโม่หลิน หนักหน่วงขึ้นมาในพริบตา

ภายในร่างกาย เกิดความปั่นป่วนที่อธิบายไม่ได้

กู้จื่อเฟยมองเย้นโม่หลินที่ยังคงจ้องมาที่เธอ ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็รู้สึกร้อนเหมือนโดนโยนลงไปในน้ำเดือด ทั้งวิตกกังวลและอับอาย

เธอพูดออกมาอย่างขัดเคือง “คุณชายเย้น คุณ คุณหยุดมองเลยนะ”

เย้นโม่หลินตกตะลึงครู่หนึ่ง แล้วจึงได้สติขึ้นมา มองเธอด้วยความงุนงง

เขาขมวดคิ้ว สีหน้ายังคงเดิม

“รีบใส่เสื้อผ้าซะ มีเรื่องสำคัญต้องคุยกัน”

พูดจบ เขายื่นมือออกมา และขยับไปปิดประตูห้องของกู้จื่อเฟยอย่างไม่ได้เบามือนัก

สายตาอันแสนร้อนแรงนั้นจึงถูกปิดกั้นไป

ทันทีที่ประตูปิดลงกู้จื่อเฟยสูญเสียเรี่ยวแรงในทันที เสื้อผ้าที่ดึงเอาไว้เองก็ค่อยๆ หลุดจากมือของเธอตกลงบนพื้น

เรือนร่างที่สวยงามของเธอในตอนนี้ปรากฏในกระจกเต็มตัว

กู้จื่อเฟยมองไปทางประตู หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ บอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกอะไร

ความตื่นเต้นที่ได้เจอเขายังคงอยู่ เป็นความอึดอัดที่สับสนวุ่นวาย

หรือการแสดงออกที่ดูสงบของเขา ต่อให้เขามองร่างกายของเธอแล้วก็ไม่มีปฏิกิริยามากมาย ราวกับว่าสำหรับเขาแล้ว เธอไม่สามารถส่งผลกระทบต่อเขาได้ไม่ว่าทางใดก็ตาม

ใช่สิ เขาอยู่สูงส่ง หยิ่งทะนง ถึงเธอจะยืนอยู่ตรงหน้าของเขาแบบไม่ได้สวมอะไรเลย เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น

เพราะว่าทั้งในใจและในสายตาของเขา ไม่เห็นเธออยู่ในสายตา

กู้จื่อเฟยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เธอรู้ความจริงข้อนี้ดีอยู่แล้ว ทำไมเธอต้องมาหวั่นไหวอีกครั้งเพราะการพบกันครั้งนี้ด้วยล่ะ?

ช่างน่าเวทนาอย่างโง่เขลาจริงๆ

กู้จื่อเฟยที่ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เธอคุกเข่าลงหยิบชุดบนพื้นขึ้นมาสวมมันอีกครั้ง

หลังจากใส่เสร็จเรียบร้อย เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สามครั้ง เพื่อกดอารมณ์ทั้งหมดภายในจิตใจลงสู่ส่วนลึกที่สุด

ใบหน้าของเธอประดับไปด้วยรอยยิ้มก่อนจะเปิดประตู

เมื่อประตูเปิด พวกเย้นโม่หลินไม่ได้ยืนขวางประตูอยู่ หากแต่ชายทั้งสามคนนั้นหันหลังให้กับประตูโดยยืนพิงราวบันไดมองลงไปข้างล่าง

มีเพียงเย้นหว่านเท่านั้นที่ยืนหันหน้าเข้าหาประตู

เมื่อเห็นกู้จื่อเฟยแล้วเย้นหว่านก็ก้าวไปข้างหน้าทันที จับมือเธอและถามด้วยความเป็นห่วง

“จื่อเฟย เมื่อกี้นี้ไม่ได้ทำให้เธอกลัวใช่ไหม?”

เธอรีบไปหากู้จื่อเฟย จึงขึ้นไปชั้นบนโดยตรง แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่ปิดประตู

สายตาของกู้จื่อเฟยมองไปยังเย้นโม่หลินโดยไม่ได้ตั้งใจ ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย

เธอยิ้มและพูดออกมาโดยไม่ได้ใส่ใจมากนัก

“ไม่เป็นไร ก็แค่โดนมองหลัง ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก ปกติว่ายน้ำก็ใส่บิกินี่อยู่แล้ว โป๊กว่านี้ตั้งเยอะ”

บิกินี่ ?

เมื่อนึกถึงภาพนั้น ใบหน้าของเย้นโม่หลินก็หม่นมืดลงอีกครั้งในทันใด

ป่ายฉีที่ยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกถึงความเย็นยะเยือก เขารีบขยับไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากเย้นโม่หลิน

เขาจะรู้สึกอย่างไร วันนี้ก็ไม่ควรตามเขาไป มันอันตรายเกินไป

คุณชายข้างๆ ผู้นี้ ไม่แน่ว่าอีกเดี๋ยวคงจะระเบิดอยู่ตรงนั้น

โห่หลีเฉินมองไปที่เย้นโม่หลินอย่างมีเลศนัย จากนั้นหันกลับมา เดินไปที่ด้านข้างของเย้นหว่านและเอื้อมมือโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาทันที

พูดกับกู้จื่อเฟย “สะดวกไหม? พวกเราหาที่คุยกันเถอะ”

คงต้องเข้าประเด็นหลักกันแล้ว

กู้จื่อเฟยรู้ว่าเรื่องนี้มีความสำคัญมาก เธอเอ่ยอย่างไม่รอช้า

“ตอนนี้กำลังจัดงานเลี้ยง มีคนเยอะอยู่ทุกที่มันไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ คุยกันในห้องของฉันเถอะ โอเคไหม?”

เมื่อพูดอย่างนั้น ดวงตาของเธอที่มองไปยังโห้หลีเฉินก็สั่นไหวเล็กน้อย

ถึงยังไงการพูดคุยอะไรกันในห้องก็ไม่สมควร และที่สำคัญเป็นห้องของผู้หญิงด้วย

เธอไม่ได้คิดอะไร แต่สองสามคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างโห้หลีเฉินที่เกลียดความไม่ถูกต้อง และเย้นโม่หลินที่ไม่ชอบเธอ

รักใครก็จะรักทุกสิ่งของคนคนนั้นด้วย ตรงกันข้ามคือ เมื่อไม่ชอบเธอก็จะต่อต้านการอยู่ในห้องส่วนตัวของเธอ

สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ โห้หลีเฉินนั้นไม่ได้ใส่ใจและตกลงอย่างง่ายดาย

“ไปกันเถอะ..”

ขณะที่พูดเขาก็โอบเย้นหว่านไว้พร้อมกับเดินเข้าไปในห้อง

เย้นหว่านมองไปทางโห้หลีเฉินอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าเขาพูดง่ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เป็นเพราะรักใครก็จะรักทุกสิ่งของคนคนนั้นด้วยงั้นเหรอ? ดังนั้นจึงอดทนกับกู้จื่อเฟยมากขึ้น

เย้นโม่หลินถึงได้หันกลับมา ปราดเดียวก็มองเห็นกู้จื่อเฟย เธอสวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นกระโปรงตัวเมื่อครู่

แค่เห็นกระโปรงตัวนี้ ในหัวของเขาก็พลันฉายภาพที่ถอดไปครึ่งหนึ่งเมื่อครู่นี้อย่างควบคุมไม่ได้

การหายใจเริ่มไม่สะดวกนัก

ใบหน้าของเย้นโม่หลินเปลี่ยนเป็นสีเข้ม เขาเดินเข้าไปในห้องด้วยความรู้สึกกดดัน

บรรยากาศเย็นเยือกนั้น ทำให้ร่างของกู้จื่อเฟยแข็งทื่อไปเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้

เธอมองความอึดอัดของเขาออก

แน่นอนว่าสำหรับเขา ต่อให้เป็นการหารือธุระในห้องของเธอ มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

กู้จื่อเฟยกำหมัดแน่น ระงับอารมณ์ที่เอ่อล้นอยู่ภายในใจลงไปอย่างยากลำบาก

เธอยิ้มอย่างอึดอัดใจก่อนจะปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง

ในห้องของเธอมีโซฟาอยู่สามตัว ตอนนี้เย้นหว่านและโห้หลีเฉินนั่งอยู่ด้วยกันตัวหนึ่ง ป่ายฉีนั่งอยู่ที่โซฟาเดี่ยว เย้นโม่หลินนั่งอยู่ที่เก้าอี้นวม

เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ เธอรู้สึกสับสนเล็กน้อย

เย้นหว่านนั่งพิงพนักโดยที่ข้างๆ ไม่มีที่นั่งเหลือแล้ว โห้หลีเฉินนั่งกอดอยู่กับเธอ ข้างๆ นั้นยังเหลือที่นั่งอยู่อีกกว่าครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าเธอจะนั่งข้างโห้หลีเฉิน ยังไงก็คงไม่ดีนัก

ยังมีที่เหลืออยู่เพียงที่เดียวเท่านั้นคือข้างเย้นโม่หลิน

แต่เก้าอี้นวมตัวนั้นไม่ได้ใหญ่มาก ถ้าเธอนั่งลงไป ก็จะอยู่ใกล้กับเย้นโม่หลินมาก

เมื่อคิดว่าจะนั่งอยู่ข้างๆ เย้นโม่หลิน เธอก็อดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท