สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่823 ป่ายฉีเต้นรำไม่เป็น

บทที่823 ป่ายฉีเต้นรำไม่เป็น

นี่เป็นงานเลี้ยงวันเกิด ทั้งยังมีญาติมิตรมากันไม่น้อย ป่ายฉีนั้นมาเป็นครั้งแรกก็ควรจะเปิดตัวให้ดีๆ ให้ญาติพี่น้องได้รู้จักและยังจะช่วยให้พวกเขาเปิดเผยความสัมพันธ์ในอนาคตได้ง่ายขึ้นด้วย

แต่ที่พวกเขาสองคนแสดงออกกลับพยายามที่จะปิดบัง ดูท่าทีนั้นแล้ว เหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่มีความคิดที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์เลยแม้แต่น้อย

เป็นอย่างนี้ต่อไปแล้วต้องรอนานเท่าไหร่พวกเขาถึงจะวางแผนแต่งงานกันล่ะ?

เขาต้องรอนานเท่าไหร่ถึงจะได้อุ้มหลานล่ะ?

คุณท่านกู้เป็นกังวลอย่างมาก กลัวว่ากู้จื่อเฟยจะไม่สามารถแต่งงานได้ กว่าจะคว้าคนหนุ่มที่ดีพร้อมมาได้สักคน จะให้เขาวิ่งหนีไปแบบนี้ไม่ได้

รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้หรงหุบลงแล้วมองไปยังกู้จื่อเฟยอย่างเด็ดขาด

เขาเอ่ยถาม “ลูกไม่คิดจะให้ป่ายฉีเป็นคู่ของลูกจริงเหรอ?”

แม้จะเป็นประโยคคำถามแต่กลับแข็งกร้าวอย่างชัดเจน หากเธอไม่ตกลงเขาก็อาจจะโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันทีเลยก็ได้

กู้จื่อเฟยเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันใด

จ้องมองพ่อของตัวเองที่อยู่ๆ ก็ผิดปกติขึ้นมาอย่างตกตะลึง ไม่รู้เลยสักนิดว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมถึงต้องให้ป่ายฉีเป็นคู่ควงของเธอให้ได้กันล่ะ?

หากเป็นปกติเธอคงจะเถียงเขาไปแล้ว แต่วันนี้เป็นวันเกิดของเขา ด้วยความเป็นลูกกตัญญูกู้จื่อเฟยจึงไม่อยากทำให้เขาโกรธ

แต่จะให้ป่ายฉีเป็นคู่ของเธอ? เมื่อมองไปที่คนที่อยู่ข้างๆ แล้ว ภายในใจของกู้จื่อเฟยก็ปฏิเสธสุดฤทธิ์

บรรยากาษของเธอกับป่ายฉีเข้ากันไม่ได้ เข้าใกล้กันเป็นต้องมีเรื่องทะเลาะ

หากจะว่าไป คืนนี้นั้นก็มีแผนอื่นอยู่ด้วย ที่เย้นโม่หลินเป็นคู่ออกงานของเธอ จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการจะติดต่อกับฝู้เหวยข่าย

กู้จื่อเฟยกลัดกลุ้มอย่างมาก เธอสับสนไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับกู้หรงยังไง

ในตอนนั้นเอง น้ำเสียงเรียบใสน่าฟังของเย้นโม่หลินก็ดังขึ้นอย่างไม่หนักไม่เบา

“ป่ายฉีเต้นรำไม่เป็นครับ เขาเลยเป็นคู่ให้กับกู้จื่อเฟยไม่ได้”

“หา?”

เมื่อได้ยินดังนั้น กู้หรงก็ตกตะลึงไปจริงๆ เขานึกไม่ถึงเลยว่าจะยังมีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วย

ป่ายฉีเองดูไปแล้วก็เหมือนคุณชายตระกูลร่ำรวย ดูจากคุณชายเศรษฐีที่เมืองหนานก็ไม่มีใครที่เต้นรำในงานเลี้ยงเต้นรำไม่ได้เลยสักคน

ไม่นึกว่าป่ายฉีจะเป็นพวกนอกกลุ่ม?

กู้หรงค่อนข้างไม่อยากจะเชื่อ เขามองไปทางป่ายฉีอย่างไม่แน่ใจ “เธอเต้นรำไม่เป็นจริงๆ งั้นเหรอ?”

ป่ายฉี “…..”

เขาคือเจ้าชายแห่งฟลอร์เต้นรำเชียวนะ หากเต้นขึ้นมาก็สามารถดึงดูดความสนใจของสิ่งมีชีวิตเพศหญิงทั้งหมดในที่นั้นได้เลย จะเต้นไม่เป็นได้ยังไง?

ป่ายฉีกัดฟัน “ครับ ผมเต้นไม่เป็น”

ทันใดนั้นกู้หรงก็ผิดหวังอย่างมาก

คืนนี้เป็นงานเลี้ยงเต้นรำ เต้นรำไม่เป็นก็ไม่สามารถพากู้จื่อเฟยเข้าไปยังฟลอร์เต้นรำได้

เขาถึงได้เข้าใจแล้วว่าทำไมป่ายฉีจึงไม่เป็นคู่ให้กับกู้จื่อเฟย ที่แท้ก็มีเรื่องในใจที่พูดยากนี่เอง

ทันใดนั้น กู้หรงก็ลุกขึ้นเดินไปเบื้องหน้าป่ายฉีแล้วตบไหล่ของเขา

เอ่ยปลอบใจอย่างอ่อนโยน

“เต้นไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ของแบบนี้เดิมทีมันก็แค่เพื่อความบันเทิง กลับกันเต้นมากไปก็ทำให้ใจกระเจิดกระเจิงไปได้ ฉันชอบเด็กหนุ่มที่สงบนิ่งไม่ขี้เล่นอย่างเธอนี่แหละ”

ป่ายฉีนั่งอย่างแข็งทื่อ มุมปากแย้มยิ้มบางที่ถึงจะอึดอัดแต่ก็ไม่ลืมมารยาท

กู้จื่อเฟยเบิกตามองไปที่พ่อของตัวเองอย่างเหลือเชื่อ

เขาเพี้ยนไปแล้ว เพี้ยนไปแล้วแน่ๆ

วันนี้เจ้าตัวผิดปกติไปหมด ตาบอดไปแล้ว ถึงได้ไปชื่นชมป่ายฉีแบบนั้น

แขกใกล้จะมากันแล้ว กู้หรงยังมีเรื่องอีกมากมายต้องจัดเตรียมดังนั้นจึงไม่ได้อยู่พักที่นี่อีกนานนัก

หลังจากที่เขาบอกลาป่ายฉีแล้วก็จึงจากไปอย่างเนิบนาบ

ตอนที่เดินไปก็ยังหันหัวกลับมามองป่ายฉีอยู่หลายครั้ง รอยยิ้มและความพึงพอใจในสายตานั้นไร้การปิดบังโดยสิ้นเชิง

ผู้คนในที่นั้นมีท่าทีต่างกันไปและตกอยู่ในความเงียบที่แปลกประหลาด

ป่ายฉีนั้นถูกรังสีเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากตัวเย้นโม่หลินข่มขวัญจนขนลุกชัน เขาเป็นกังวลจริงๆ ว่าเขาโตมาหล่อเกินไป โดดเด่นมากไปแล้วจะถูกคนขี้อิจฉาบางคนฆ่าปิดปากเอาได้

เขารีบถามกับกู้จื่อเฟยอย่างเฉียบขาด

“กู้จื่อเฟย เกิดอะไรขึ้นกับพ่อเธอกันแน่? ทำไมเขาถึงพูดแปลกๆ หาเรื่องให้ฉันโดยเฉพาะเลย”

กู้จื่อเฟยเองก็กำลังมึนงง ไม่รู้เลยว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับกู้หรง

เธอส่ายหน้า “ก่อนนี้สายตาของพ่อฉันดีมาก จะมองใครก็จะจุกจิกมาก โดยหลักการแล้วก็ไม่น่าจะมีความรู้สึกที่ดีต่อนายขนาดนั้นสิ”

ป่ายฉี “…..”

“แน่จริงก็พูดคำนั้นออกมาอีกทีสิ” เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แผ่รังสีเย็นชาออกมา

เพิ่งจะถูกกู้หรงต้มอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว กู้จื่อเฟยยังกล้ามาเหยียบย่ำเขาอีก แล้วมีเหรอจะทนได้

เย้นหว่านที่ได้เฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมด กลับเหมือนเห็นจะอะไรมากกว่าเจ้าตัวอยู่ในนั้นอยู่เล็กน้อย

หลังจากที่สายตาของเธอวนไปๆ มาๆ ระหว่างกู้จื่อเฟยและป่ายฉีอยู่หลายรอบ เธอจึงเอ่ยขึ้น

“เหมือนฉันพอจะเดาเหตุผลออกแล้วล่ะ”

“เหตุผลอะไร?” ป่ายฉีรีบมองไปที่เย้นหว่านด้วยดวงตาเป็นประกาย

ตั้งตารอว่าเย้นหว่านจะสามารถหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลเพื่อให้เขาผ่านพ้นวิกฤติในตอนนี้ และบรรเทาความหึงหวงและความริษยาในใจของใครบางคนได้

เย้นหว่านมองป่ายฉีด้วยแววตาทอประกายอ่อนๆ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“คุณอากู้ถูกใจนายเข้าแล้วไงล่ะ”

“หา?”

“เขาอยากให้นายเป็นลูกเขยของเขา”

ป่ายฉี “……” ยิ่งกว่าฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ ทันใดนั้นทุกคนต่างก็อยู่ในสภาพย่ำแย่

กู้จื่อเฟย “……” มุมปากกระตุก ทำไมอยู่ๆ สายตาของพ่อเธอถึงได้ห่วยแบบนี้ขึ้นมาได้นะ?

สีหน้าของเย้นโม่หลินที่เดิมทีก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ทันใดนั้นก็ยิ่งหม่นลงไปอีก รังสีเย็นยะเยือกอันน่าหวั่นกลัวผุดขึ้นมาทั่วร่าง

ป่ายฉีสั่นสะท้านไปทั้งตัวในทันใด ใบหน้าซีดแทบกลายเป็นสีขาว

เขารีบลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวตรงข้าม เพื่อรักษาระยะห่างที่เพียงพอต่อความปลอดภัยกับกู้จื่อเฟย

จากนั้นก็หันไปแสดงความซื่อสัตย์จริงใจต่อเย้นโม่หลิน “วิสัยทัศน์ของคุณลุงเขาต่างจากพวกเราน่ะ คุณอากู้ต้องมองพลาดไปแน่ๆ ฉันกับกู้จื่อเฟยไม่มีความรู้สึกอะไรกับอีกฝ่ายเลยสักนิด มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้”

เย้นโม่หลินเม้มริมฝีปากโดยไม่ได้พูดอะไร มีเพียงบรรยากาศเย็นเยือกรอบตัวนั้นที่ยังหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

ป่ายฉีรู้สึกว่าฝ่าเท้าเย็นเฉียบ แต่ที่หน้าผากกลับมีเหงื่อออก

เขาถูกใส่ความนะ ทำไมอยู่ๆ ต้องมารนหาความคับแค้นมากมายขนาดนี้ด้วย? ให้ตายเถอะ

เย้นหว่านมองเย้นโม่หลินอย่างสงสัย เธอไม่ค่อยเข้าใจ ดูเหมือนว่าเย้นโม่หลินจะอารมณ์ไม่ดีแถมเหมือนจะโกรธนิดๆ ด้วย

แต่เขากำลังโกรธอะไรอยู่ล่ะ?

เขาก็ไม่ได้ชอบกู้จื่อเฟย ถึงคุณอากู้จะถูกใจป่ายฉีแล้วจับคู่ป่ายฉีกับกู้จื่อเฟย ด้วยความหยิ่งทะนงของเขาก็ไม่น่าจะมาสนใจอะไรนี่นา

แต่ปฏิกิริยาของแบบนี้เขา หรือว่า….

เป็นจอมเผด็จการที่ต่อให้ตัวเองจะไม่ต้องการก็ไม่ยอมให้คนอื่นได้ไปงั้นเหรอ?

——

งานเลี้ยงวันเกิดถูกจัดขึ้นในสวนดอกไม้ด้านหลังคฤหาสน์ งานเลี้ยงกลางแจ้งจัดแต่งอย่างงดงามชวนฝัน

ทั้งหมดเป็นสไตล์โรแมนติกทั้งสิ้นและโน้มเอียงไปทางวัยรุ่นอย่างมาก ดูไม่เหมือนกับการอวยพรวันเกิดของกู้หรง แต่เหมือนกับจัดปาร์ตี้ให้กู้จื่อเฟยมากกว่า

เมื่อเวลามาถึง เหล่าแขกเหรื่อก็ทยอยกันมา

สวนดอกไม้เองก็เริ่มครึกครื้นขึ้นมา ผู้คนยืนจับกลุ่มกันสามคนบ้างสองคนบ้าง พูดคุยหัวเราะกัน

แต่สายตาของพวกเขานั้นต่างมองไปยังทางเดียวกันทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ

นั่นคือชิงช้าที่พันด้วยเถาวัลย์ดอกไม้ตัวหนึ่ง

ในขณะนั้น หญิงสาวที่สวมชุดกระโปรงยาวสีน้ำเงินกำลังนั่งอยู่บนชิงช้า เธอแกว่งชิงช้าไม่สูงไม่ต่ำใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม งามเรืองรองราวกับแสงตะวัน

เป็นคนที่งดงาม

ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือชายร่างสูงสวมสูทสีดำคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างชิงช้า รูปร่างนั้นดีเหมือนนายแบบมืออาชีพ ส่วนใบหน้านั้นก็หล่อเหลาจนทำเอาคนแทบคลั่ง

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท