แต่ เขามองโห้หลีเฉินที่ยืนอยู่ข้างหน้าด้วยแววตาที่สั่นไม่นิ่ง รู้สึกกลัวอย่างมาก
ขัดคำสั่งของโห้หลีเฉิน ตอนนี้ยังมาถูกจับคาหนังคาเขาต่อหน้าต่อตาเขาอีก เป็นสถานการณ์ที่แทบจะร้องขอชีวิตแล้ว ถ้าเขาตอบรับที่จะขายโรงแรมให้กับฝู้เหวยข่ายไปอย่างไม่กลัวตายอีกล่ะก็ ต่อให้มีเงิน ก็คงจะตายก่อนได้ใช้แน่ๆ
มองออกว่าชายวัยกลางคนกำลังลังเล ฝู้เหวยข่ายเปิดปากพูดขึ้น
“ถ้ามีเงินมากมาย ไปที่ไหนก็ได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ได้พัฒนาอาชีพต่อได้ไม่ใช่หรือไง? โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ จีนกว้างใหญ่ขนาดนี้ ไม่ได้มีแค่เมืองหนานที่นี่ที่เดียวสักหน่อย”
เขามองเยาะเย้ยโห้หลีเฉิน พูดสัญญากับชายวัยกลางคน“คุณวางใจได้ แค่ขายโรงแรมให้กับผม ผมรับประกันเลยว่าคุณจะได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองอื่นอย่างสงบสุขแน่นอน”
นี่เป็นทางหนีทีไล่ที่สะดวกสบายสุดๆอีกทางหนึ่งเลย
แววตาของชายวัยกลางคนสั่นไม่นิ่ง รู้สึกหวั่นไหวไม่น้อย
ริมฝีปากบางๆของโห้หลีเฉินโค้งเบาๆ มุมปากยิ้มอย่างเยาะเย้ย
มือที่จูงเย้นหว่านอยู่ จับๆเล่นๆ พร้อมกับเปิดปากพูดขึ้นอย่างสบายๆ
“ฉันไม่สนเรื่องที่นอกเหนือเมืองหนาน ขอแค่แก……”
เขามองชายวัยกลางคนพร้อมกับยิ้มๆ“มีชีวิตออกไปจากเมืองหนานให้ได้ก่อนก็แล้วกัน”
คำพูดที่ชัดเจนง่ายๆ ดูเหมือนจะยังยิ้มแย้มอีกด้วย
แต่ราวกับมีดหนึ่งเล่มที่กำลังจ่ออยู่ที่คอ อีกนิดเดียวก็จะตัดหัวของคนคนนั้นจนขาดแล้ว
ชายวัยกลางคนสั่นสะดุ้งไปทั้งตัว สีหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ
เขาสองขาอ่อนแรง“ปึ้ง”ล้มลงบนพื้นทันที
ขอร้องอ้อนวอนด้วยความหวาดกลัว“คุณโห้ ขอโทษครับขอโทษครับ เพราะผมเห็นแก่เงินมากเกินไป ถึงได้กล้ามีความคิดชั่วร้ายแบบนี้ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่กล้าอีกแล้ว อย่าว่าแต่สิบเท่าเลย ต่อให้ราคาร้อยเท่าผมก็ไม่มีทางขายให้กับเขาแน่นอนครับ ผมจะอยู่ข้างเดียวกับคุณตลอดไป คุณเป็นคนใหญ่คนโตมีอำนาจมากมาย ช่วยไว้ชีวิตผมสักครั้งเถอะครับ”
ชายวัยกลางคนหวาดกลัวถึงขั้นสุด ตัวสั่นไม่หยุด
พอเห็นแบบนี้แบบนี้ ฝู้เหวยข่ายก็โกรธแค้นสุมทรวง
รู้สึกหัวเสียกับความรู้สึกอัดอั้นที่มีเงินแต่กลับใช้ไม่ได้ ที่นี่ อำนาจและความน่าเกรงขามของโห้หลีเฉินแข็งแกร่งยิ่งกว่าความล่อตาล่อใจของเงินทอง
พวกนักธุรกิจเหล่านี้ กลัวเขาจนเข้ากระดูกดำ
ฝู้เหวยข่ายกัดฟันกรอดๆ มองโห้หลีเฉินอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดขึ้น
“เขากลัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะกลัวคุณหรอกนะ โห้หลีเฉิน คุณจะสามารถทำให้ทุกโรงแรมทั้งเมืองหนานต่างพากันเกรงกลัวคุณได้เหรอ? การปะทะต่อสู้กันครั้งแรกนี้ ผมจะขอลองสู้วัดกับคุณดูสักตั้ง ดูว่าผมจะสามารถซื้อโรงแรมที่นี่ได้หรือเปล่า!”
ฝู้เหวยข่ายไม่ยอมแพ้ไปทั้งแบบนี้ จะต้องเอาคืนโห้หลีเฉินให้ได้
โห้หลีเฉินยิ้มอย่างเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง กวักมือ เว่ยชีเดินเข้ามาจากข้างๆ
ในมือของเขา ถือสัญญาที่เพิ่งจะทำเสร็จอยู่หนึ่งฉบับ
เขายื่นออกมาตรงหน้าของชายวัยกลางคนที่สั่นกระส่ายอยู่บนพื้น ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อ
“เซ็นนี่ซะ”
นี่มันอะไร?
ชายวัยกลางคนรับสัญญามาด้วยความสงสัย หลังจากที่เห็นเนื้อหาข้างในชัดเจนแล้ว สีหน้าของเขาก็ดูไม่ดีทันที
นิ้วมือที่ถือสัญญาอยู่สั่นไปหมด หันไปมองโห้หลีเฉินด้วยความตกใจกลัวอยู่ไม่สุข
“คุณ คุณโห้ คุณล้อเล่นใช่ไหม? ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ ผมไม่กล้าขายโรงแรมให้กับฝู้เหวยข่ายอีกแล้วครับ คุณเป็นคนใหญ่คนโตมีอำนาจมากมาย ช่วยไว้ชีวิตผมสักครั้งเถอะครับ”
โห้หลีเฉินยกมุมปากอย่างเย้ยหยัน“ฉันเป็นคนที่ความอดทนมีจำกัดตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
เขาจูงมือของเย้นหว่าน หันมองนาฬิกาข้อมือของเธอ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างหมดความอดทน“เสียเวลามาหนึ่งนาทีแล้ว ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์”
พอได้ยินแบบนี้ เว่ยชีก็รีบแย่งสัญญามาจากมือของเขาทันที เปลี่ยนราคาที่จะซื้อโรงแรมจากห้าสิบเปอร์เซ็นต์ลดเป็นสี่สิบเปอร์เซ็นต์
ชายวัยกลางคนมองสัญญาด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ชักจะอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด
โรงแรมแห่งนี้เป็นทรัพย์สินทั้งหมดของขอบครัวของเขา ให้ขายทิ้งไปแค่ครึ่งราคา เขาก็เหมือนกับเสียเลือดเสียเนื้อของตัวเองไป
สี่สิบเปอร์เซ็นต์นี่ยิ่ง……
ไม่อยากจะคิดเลย
หลังจากที่เว่ยชีเปลี่ยนราคาเสร็จแล้ว ก็ทิ้งลงมาตรงหน้าชายวัยกลางคน พร้อมกับพูดเตือนขึ้น
“แกน่าจะรู้วิธีการของคุณโห้นะ การที่แกกล้าฝ่าฝืนคำสั่งขนาดนี้ อุตส่าห์ให้เงินแกเก็บข้าวเก็บของหนีไป ก็เมตตามากแล้วนะ ถ้าแกยังไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกอีก สี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็จะไม่มีแล้วเหมือนกัน”
การทำลายโรงแรมทิ้งซะ ให้เขาล้มละลายไม่สามารถพลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้ มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่สุดแล้ว
ถึงขนาดที่มีคนนับไม่ถ้วนก็เคยเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถใจเช่นนี้มาแล้วเหมือนกัน
ช่วงหลายปีมานี้แม้ว่าโห้หลีเฉินจะนิ่งสงบลง ไม่ได้โหดเหี้ยมรุนแรงขนาดนั้นแล้ว แต่เรื่องชั่วร้ายที่เขาเคยทำมา ก็ยังฝังรากลึกอยู่ในใจของผู้คนอยู่
ชายวัยกลางคนรู้ซึ้งถึงความเหี้ยมโหดนี้เป็นอย่างดี ถ้าเขายังกล้าดื้อดึงไม่รู้ว่าอันไหนควรไม่ควรต่อไป มันก็คงจะไม่ใช่แค่สี่สิบเปอร์เซ็นต์จริงๆแล้วแน่ๆ แต่จะไม่มีชีวิตเลยต่างหาก
“ผมเซ็นครับๆ”
กัดฟันพูดแบบนี้ออกมา
ชายวัยกลางคนมือสั่นกระส่าย เซ็นชื่อของตัวเองลงไปในสัญญา
เว่ยชีหยิบสัญญามาอีกครั้ง ตรวจสอบหนึ่งรอบ ก่อนจะปิดผนึกไปอย่างพออกพอใจ จากนั้น ก็มองชายวัยกลางคนอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดเสียงดัง“เห็นชัดเจนกันแล้วใช่ไหม นี่เป็นจุดจบของการฝ่าฝืนคำสั่งคุณโห้”
ตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวย จบสิ้นไปจนหมด
เงินสี่สิบเปอร์เซ็นต์นี้อาจจะยังไม่พอใช้หนี้ของชายวัยกลางคนเลยด้วยซ้ำ จากเศรษฐีตระกูลร่ำรวยกลายเป็นคนยากไร้ภายในชั่วพริบตา
แค่ในเวลาไม่ทันไร สามารถทำให้เถ้าแก่ที่ใหญ่โตล้มละลายกลายเป็นคนยากจนได้
นี่ก็คือจุดจบของการมายุแหย่กับคุณโห้นั่นเอง
พวกพนักงานคนอื่นๆที่อยู่ในล็อบบี้ ต่างก็พากันหวาดกลัว ทุกคนต่างก็เสี่ยงอันตรายกันทั้งนั้น
เรื่องนี้กระจายไปทั่วเมืองหนานอย่างรวดเร็ว พวกนักธุรกิจที่ใจหวังจะพึ่งแต่ลาภลอยพวกนั้น ไม่มีคนไหนที่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งแม้แต่คนเดียว
ที่น่าสังเวชก็คือชายวัยกลางคน ส่วนคนที่ถูกข่มขู่คุกคามจริงๆกลับเป็นฝู้เหวยข่าย
สีหน้าของเขาดูไม่ได้ถึงขั้นสุด ราวกับถูกผงขี้เถ้าโปะหน้าเอาไว้
เห็นได้ชัดว่าวิธีการในตอนนี้ของโห้หลีเฉิน กำลังตบหน้าของเขาอยู่ ทำให้เขารู้สึกอับอาย
เขาพูดข่มขวัญแล้วว่าจะสู้กับโห้หลีเฉินให้ถึงที่สุด แต่ยังไม่ทันได้เริ่ม ก็กำหนดจุดจบไว้เรียบร้อยแล้ว
การกระทำที่เชือดไก่ให้ลิงดูของโห้หลีเฉินในวันนี้ ต่อให้เขาจะเสนอราคาสูงลิ่วขนาดไหน ทั้งเมืองหนานก็ไม่มีใครกล้าขายโรงแรมให้กับเขาเป็นแน่
แค่ยืนอยู่บนเส้นสตาร์ท เขาก็แพ้ไปเรียบร้อยแล้ว
ไฟที่สุมทรวงของฝู้เหวยข่ายแทบจะระเบิดออกมา จ้องเขม็งโห้หลีเฉินด้วยสายเหี้ยมโหด กัดฟันกรอดๆ
“โห้หลีเฉิน อย่านึกว่าคุณมีอำนาจอิทธิพลที่เมืองหนานแล้ว จะทำอะไรก็ได้ ยโสโอหังแบบไม่มีขีดจำกัดขนาดไหนก็ได้นะ ผมจะบอกคุณให้ เหนือฟ้ายังมีฟ้า!จีนกว้างใหญ่ มีพลังอำนาจที่สามารถบดขยี้เมืองเล็กๆแบบเมืองหนานได้เลย!”
“อ๋อ?”โห้หลีเฉินยกคิ้วอย่างขี้เล่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน“มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณเหมือนกัน”
“นี่คุณ!”
ฝู้เหวยข่ายโมโหดเกรี้ยวกราด นิ้วมือชี้ไปที่โห้หลีเฉิน สั่นอย่างรุนแรง
เขาโกรธจนแทบจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไป
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าที่ที่ตัวเองมา ไม่มีรากฐานอำนาจที่สามารถโยกย้ายได้ เขาก็จะถูกโห้หลีเฉินสกัดกั้นเอาไว้แล้วอย่างนั้นเหรอ?!
ให้ตายสิ
“พอใจในสภาพปัจจุบันไม่คิดจะปรับปรุงอะไรใหม่ๆแล้ว ในชีวิตนี้คุณก็จำกัดอยู่ได้แค่ในเมืองหนาน ที่เล็กๆแบบนี้สินะ!”
“เมืองหนานธรรมชาติดีสวยงาม อยู่ที่นี่ ดีจะตาย”
โห้หลีเฉินยิ้มอย่างขี้เล่น“แต่คุณนี่สิ อย่ามัวแต่อยู่ที่นี่ตลอดเวลา มันเคืองลูกกะตาของผม รีบไสหัวออกไปซะตั้งแต่ตอนนี้เลย”
ฝู้เหวยข่ายสีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง เหมือนกับมีสำลีเปียกติดอยู่ในคอ รู้สึกลำบากทรมานจนแทบจะร้องขอชีวิต อัดอั้นเหมือนจะตายให้ได้
เขาพูดตะคอกด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด
“คุณอยากให้ผมไป ผมก็จะไม่ไป!โห้หลีเฉินต่อให้คุณมีอำนาจค้ำฟ้า คุณก็จะมายุ่งกับอิสระในการใช้ชีวิตของผมไม่ได้ ผมจะอยู่ที่เมืองหนาน แล้วคุณจะทำอะไรได้?”