สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – บทที่ 961 ก็มาสิ

บทที่ 961 ก็มาสิ

ท่าทีตำหนิติติงอย่างหยิ่งผยองนั้น สองวันมานี้กู้จื่อเฟยเจอมาไม่น้อยเลย

หากเป็นเมื่อก่อน เธอจะต้องด่ายอกย้อนกลับไปแล้วแน่นอน

แต่ตอนนี้….

กู้จื่อเฟยกัดฟันอย่างอดกลั้น แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ปล่อย ฉันมีธุระ ไม่มีเวลามายืดยาดอยู่กับเธอหรอกนะ”

ขณะกู้จื่อเฟยกำลังจะอ้อมผ่านไปด้านข้าง เย้นจือฮวนกลับก้าวไปด้านข้างสองก้าวทันที ขวางกู้จื่อเฟยไว้อีกครั้ง

สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเฉียบคม พูดเสียงดังอย่างร้ายกาจยิ่งกว่าเดิม

“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ? คนอย่างเธอ ไม่คู่ควรจะมาอยู่ตระกูลเย้น แล้วก็ยิ่งไร้คุณสมบัติที่จะไปป้วนเปี้ยนอยู่ต่อหน้าพี่เย้น

ถ้าเธอรู้จักอ่านสถานการณ์ ก็ไสหัวออกไปซะเดี๋ยวนี้เลย”

กู้จื่อเฟยจะอดทนสักแค่ไหน ในตอนนี้มันก็มาถึงขีดสุดแล้ว

เธอมองเย้นจือฮวนอย่างเย็นชา มุมปากยกยิ้มเย้ยหยันก่อนพูดขึ้น

“คุณหนูเย้นจือฮวน ขอถามหน่อยว่าคุณเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน?

ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ คุณก็เป็นแค่คุณหนูตระกูลสาขาของตระกูลเย้นไม่ใช่เหรอ ตอนนี้คนที่เป็นผู้นำตระกูล ก็ไม่ใช่คนของตระกูลของพวกคุณ

ฉันมาเป็นแขกในบ้านของเย้นโม่หลิน เจ้าบ้านเองก็ยังไม่ได้ว่าอะไร แล้วคุณมีคุณสมบัติอะไรถึงมาเจ๊าะแจ๊ะที่นี่งั้นเหรอ?”

เมื่อกู้จื่อเฟยเสียดสีอย่างเจ็บแสบขึ้นมากะทันหัน ทำให้เย้นจือฮวนตกตะลึงอย่างมากด้วยความประหลาดใจ ก่อนรู้สึกพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่

เธออยู่ที่ตระกูลเย้นก็เป็นคุณหนูที่ถูกยกย่อง ใครๆ ก็พูดด้วยความละมุนละม่อมทั้งนั้น ยังไม่มีใครกล้าเสียดสีเธอต่อหน้าขนาดนี้

แถมคำพูดนั้นยังระคายหูอย่างมาก มันทำให้แก้มของเธอร้อนผ่าวราวกับถูกตบเพราะยุ่งมากเรื่องอย่างนั้น

“คุณหนูกู้ คุณพูดแบบนั้นได้ยังไงกัน?”

เจียงเป้ยนีมายืนอยู่เบื้องหน้าเย้นจือฮวนแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นเดือดเป็นร้อน “จือหฮวนจะพูดยังไงเธอก็เป็นคนตระกูลเย้น คุณเป็นแค่แขก แขกจะมากดขี่รังแกเจ้าบ้านได้ยังไง?

คุณไร้มารยาทเกินไปหรือเปล่า?”

กู้จื่อเฟยอยากจะหัวเราะอย่างอดไม่ได้

เย้นจือฮวนชี้หน้าด่าเธอขนาดนั้น เธอก็ทำได้ แต่เธอแค่ตอกกลับไปแค่สองสามประโยคก็กลายเป็นไร้มารยาทไปแล้วงั้นเหรอ?

สองมาตรฐานได้อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดนี้ กู้จื่อเฟยเองก็เพิ่งได้พบได้เห็น

เธอพูดประชดประชัน “กดขี่รังแก? คุณเจียง ก่อนจะพูดต้องเปิดตามองด้วยนะคะ มารยาทน่ะจะมีด้วยกับแค่กับคนที่มีมารยาทเท่านั้น คุณหนูเย้นไร้มารยาทขนาดนี้ ก็ไม่แปลกที่ฉันจะปฏิบัติต่อเธอแบบนั้น

ว่าไปแล้ว ฉันต้องรักษามารยาทกับหมาที่เห่าหอนตัวหนึ่งด้วยเหรอคะ? ถ้ามันกัดฉัน ฉันยังต้องยิ้มแหยๆ ให้ด้วยหรือเปล่า?”

“เธอกล้าว่าฉันเป็นหมาเหรอ?”

เย้นจือฮวนพลันพองขนขึ้นทันที เธอจ้องเขม็งไปที่กู้จื่อเฟยอย่างดุร้าย

กู้จื่อเฟยยิ้มเยาะอย่างเย็นชา “คุณร้อนตัวขนาดนี้ ก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นหมาแล้วสินะ?”

“เธอ เธอ เธอ….ฉันจะฆ่าเธอ!”

เย้นจือฮวนโกรธจนตาแดง และกำลังจะกระโจนใส่กู้จื่อเฟย เจียงเป้ยนีรีบคว้าตัวเธอเอาไว้

“จือหฮวน ใจเย็นก่อน อย่าโดนหล่อนยั่วโมโหสิ

หล่อนจงใจทำให้เธอทำร้ายหล่อนนะ หล่อนจะได้แสร้งทำเป็นน่าสงสารแล้ววิ่งไปฟ้องพี่เย้นยังไงล่ะ”

กู้จื่อเฟยเลิกคิ้ว เธอยังไม่ทันได้คิดถึงขั้นนั้นเลย เจียงเป้ยนีก็คิดไปแบบนั้นแล้ว

เรื่องเกี่ยวกับเย้นโม่หลิน หล่อนก็ช่างคิดจริงๆ เชียว

เมื่อเย้นจือฮวนได้ยินคำพูดนั้น จึงหยุดการกระทำที่จะพุ่งไปข้างหน้า เธอยังคงจ้องกู้จื่อเฟยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเดือดดาล

แต่เมื่อมองไปที่กู้จื่อเฟย ก็ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก

เธอก่นด่า “กู้จื่อเฟย ตัวซวยอย่างเธอก่อความเดือดร้อนให้พี่เย้นแล้วไม่น้อย ทำไมถึงยังมีหน้าเกาะพี่เย้นไม่ปล่อยอีก?”

คำว่าตัวซวยนั้น สะเทือนอารมณ์ของกู้จื่อเฟย

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป รังสีรอบกายพลันอึมครึมลงในทันที

ร่างกายของกู้จื่อเฟยขึงตึงราวกับคันธนู เธอกัดฟันแน่นแล้วเอ่ยอย่างเคร่งขรึม

“นั่นมันเรื่องของฉันกับเย้นโม่หลิน ไม่เกี่ยวกับคุณ อย่ามาขวางทาง หลีกไป”

น้ำเสียงของกู้จื่อเฟยเองก็เฉียบคมตามไปด้วยไม่น้อย

ออร่าที่ดุร้ายนั้น เกือบจะทำให้เย้นจือฮวนตกใจกลัว เธอคิดจะก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว

เจียงเป้ยนีขมวดคิ้วเล็กน้อย วางแขนลงบนไหล่ของเย้นจือฮวน ไม่เหลือร่องรอยที่จะหยุดการถอยหลังของเย้นจือฮวนอยู่เลย

เย้นจือฮวนตะลึง และมีความมั่นใจอีกครั้ง

เธอเอ่ยด่าต่อไป “อย่านึกว่าตอนนี้เธอวางยาเสน่ห์กับพี่เย้นแล้วจะแต่งเข้าตระกูลเย้นได้นะ ฉันจะบอกให้ ไม่มีทาง แม้แต่ช่องว่างก็ไม่มี

เพราะพอเธอมา ผู้นำตระกูลก็ถูกคนลอบสังหารจนเกือบจะตายมาแล้ว ตระกูลเย้นเองก็เผชิญกับการโจมตีอย่างหนักหน่วง เกิดวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อนในหลายสิบปีที่ผ่านมา

ทั้งหมดก็เป็นเพราะตัวซวยอย่างเธอพามาทั้งนั้น คนอับโชคอย่างเธอ ตระกูลเย้นไม่มีใครยอมรับเธอได้แน่นอน

ไม่มีใครยอมรับ ชีวิตนี้เธออย่าคิดจะแต่งกับพี่เย้นเลย”

สีหน้าของกู้จื่อเฟยยิ่งย่ำแย่ลง หัวคิ้วขมวดแน่น รอบกายเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึม

เธอไม่รู้ว่าคำพูดนั้นใครเป็นคนพูดออกมาก่อน แต่มันก็เหมือนกับไวรัส ที่แพร่กระจายไปหลังจากที่เธอมาที่ตระกูลเย้น

เดิมทีเธอมีความคืบหน้าจนได้มาเจอพ่อแม่สามีในอนาคต แต่ตอนนี้ ทุกคนในตระกูลเย้นล้วนเต็มไปด้วยความชิงชังต่อเธอและเห็นเธอเป็นตัวซวย

แม้แต่พวกคบรับใช้ก็มักจะมองเธอด้วยความรังเกียจและอยากจะไล่เธอออกไป

แต่เล็กจนโตกู้จื่อเฟยไม่เคยได้รับความรู้สึกคับอกคับใจแบบนี้มาก่อน ด้วยอารมณ์ของเธอนั้นอยากจะออกไปจากที่นี่อยู่ทุกนาที แต่ที่นี่ก็กลับเป็นบ้านของเย้นโม่หลินอีกด้วย

เธอไม่อยากจากเขาไป

เธอกำลังอดทน อดกลั้น อยากจะให้ช่วงเวลานี้มันหมดไปเร็วๆ เมื่อเย้นโม่หลินจัดการกับเรื่องยุ่งยากเสร็จแล้ว มันจะต้องดีขึ้นแน่นอน

ตอนนี้เย้นเจิ้นจื๋อถูกลอบสังหาร ตระกูลหยูมาโจมตีอย่างดุเดือด พวกเขายังต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย้นหว่านด้วย ทั้งตระกูลวุ่นวายกันไปหมด

เป็นธรรมดาที่จะไม่มีใครมาสนใจเธอ

และไม่มีใครพบว่า กู้จื่อเฟยกำลังถูกไล่ต้อนและขับไล่

แต่เธอก็ยังอดกลั้น เฝ้ารอและยืนหยัดไว้

“กู้จื่อเฟย ถ้าเธออ่านสถานการณ์ออกและยังมียางอายอยู่บ้าง ก็รีบๆ ไปซะเถอะ อย่ากลับมาให้พี่เย้นต้องไล่เธอออกไปด้วยตัวเอง จะได้ไม่ต้องขายขี้หน้า”

เย้นจือฮวนชี้ไปยังทางตรงข้ามแล้วเอ่ยถากถาง

ท่าทางนั้น เหมือนแทบอยากจะให้กู้จื่อเฟยหายไปจากตระกูลเย้นเสียเดี๋ยวนั้น และก็จะไม่เปิดทางให้เธอเช่นกัน

ในใจของกู้จื่อเฟยหนักอึ้ง ความรู้สึกคับข้องใจที่เกิดขึ้นในเวลานี้ มันแทบจะท่วมจนมิดศีรษะ

เธอกัดฟัน “หลีกไป”

เย้นจือฮวนยิ่งยืดอกลำพองใจ เธอกางแขนสองข้างออกอย่างฉับพลันขวางทางทั้งหมดเอาไว้

“ฉันไม่หลีก แล้วจะทำไม? เธอจะตีฉันงั้นเหรอ? ถ้าเธอตีฉันได้ ฉันก็ให้คนโยนเธอออกไปจากตระกูลเย้นได้”

ท่าทางเช่นนั้น เกือบจะเหมือนพวกคนทรามที่ไร้เหตุผล ไร้ซึ่งมาดคุณหนูผู้สูงส่งแห่งตระกูลเย้นเลยแม้แต่น้อย

กู้จื่อเฟยรู้สึกว่าหากเธอทะเลาะกับหล่อนต่อไป เธอคงอดไม่ได้ที่จะฟาดยัยผู้หญิงน่ารังเกียจคนนี้เข้าจริงๆ

เธอเองก็ไม่พูดเรื่องไร้สาระอีกต่อไป เธอก้าวไปข้างหน้าทันทีและกระแทกไหล่ของเย้นจือฮวนอย่างแรง

ด้วยความที่เธอแรงเยอะและเย้นจือฮวนก็ไม่ได้ตั้งตัว หล่อนจึงถูกชนจนถอยไปหลายก้าวด้วยความตกตะลึง

เย้นจือฮวนกรีดร้องด้วยความเดือดดาล “กู้จื่อเฟย เธอกล้าชนฉันงั้นเหรอ? ฉันจะให้คนมาตีเธอให้ตายเลยคอยดูสิ!”

“ก็เรียกมาสิ”

กู้จื่อเฟยหยุดฝีเท้าแล้วเบี่ยงตัวหันมา มอง เย้นจือฮวนด้วยสายตาเย็นชาและสีหน้าที่ไร้ซึ่งความกลัวจนถึงกับเย้ยหยันถากถาง

“ถ้าเธอทำได้ก็ลองดู หากถ้าว่าบนตัวฉันมีบาดแผลขึ้นมาที่ไหนสักที่ เย้นโม่หลินจะช่วยเธอ หรือปกป้องฉันกันล่ะ?”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

Status: Ongoing

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท