“ไม่ ไม่มีอะไร”
กู้จื่อเฟยรีบเก็บงำความรู้สึกบนใบหน้า เอ่ยยิ้มๆราวกับไม่มีเรื่องอะไร “อีกครู่หนึ่งฉันจะไปห้องพักผู้ป่วย แล้วค่อยวิดีโอคอลให้เธอดู”
เห็นท่าทางของกู้จื่อเฟยแล้ว เย้นหว่านก็มักจะรู้สึกว่าผิดปกติ แต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหน
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เย้นหว่านก็เอ่ยอย่างจริงจังว่า
“จื่อเฟย เธออยู่ที่นั่นมีอะไรที่ไม่ราบรื่นใช่หรือไม่? ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร ก็อย่าปิดบังฉัน โอเคไหม”
แม้ว่าเธอจะอยู่ห่างไกล แต่เย้นหว่านยังพยายามที่จะแบ่งปันความรู้สึกนั้นด้วย
กู้จื่อเฟยรีบส่ายหน้า “ที่นี่มีอะไรทำให้ฉันไม่ราบรื่นกัน พี่ชายเธออยู่ข้างกายฉัน เป็นเพราะเพิ่งจะมาถึงตระกูลเย้นจริงๆ คุณพ่อเธอถูกยิงเข้าเลยวุ่นวายไปหมด จึงยุ่งมากเป็นพิเศษเท่านั้นเอง ไม่มีเรื่องอื่นๆเลยจริงๆ”
เย้นหว่านมองกู้จื่อเฟยด้วยความลังเล “จริงหรือ?”
“สาบานด้วยคุณธรรมของฉันเลย เป็นความจริงแท้แน่นอน”
กู้จื่อเฟยชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว สาบานด้วยสีหน้าจริงจัง
จริงจังเสียจนบรรยากาศถูกเธอทำลายลง
เย้นหว่านยิ้มอย่างจนปัญญา “ที่เธอทำนั้นมันเย้ๆต่างหาก”
“เธอยังสามารถถือโอกาสถ่ายรูปฉันเอาไว้ด้วยได้ เก็บท่าทางสวยงามของฉันเอาไว้ไง”
กู้จื่อเฟยถือโอกาสได้คืบเอาศอก ล้อเล่นไปเรื่อย
เห็นท่าทางยิ้มแย้มในคลิปวิดีโอของเธอ พูดจายิ้มแย้มโวยวายได้ ก็คล้ายกับว่าไม่มีอะไรแตกต่างจากปกติ
เย้นหว่านจึงฝืนวางใจลงเล็กน้อย บางทีเธออาจจะคิดได้แล้ว
ไม่ง่ายเลยที่เย้นโม่หลินจะมีความรัก แต่งภรรยาตามที่คุณพ่อคุณแม่เฝ้ารอ ตอนนี้ไม่รู้ว่าชื่นชอบกู้จื่อเฟยมากขนาดไหนแล้ว
แม้ว่าพี่ชายจะเย็นชา แต่ว่าโดยสัญชาตญาณแล้วสามารถปกป้องดูแลกู้จื่อเฟยได้เป็นอย่างดี ไม่มีทางที่จะให้เธอได้รับความไม่เป็นธรรม
อาจจะเป็นความรู้สึกที่คิดไปเองเพราะยุ่งเกินไปจริงๆ
กู้จื่อเฟยเห็นเย้นหว่านมีทีท่าเหมือนคิดอะไร ก็ถามยิ้มๆว่า
“เสี่ยวหว่าน สถานการณ์ทางฝั่งเธอในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อเอ่ยถึงสถานการณ์ของตัวเอง เย้นหว่านก็มองท้องของตัวเองตามจิตใต้สำนึก ใบหน้าก็แย้มรอยยิ้มหวานซึ้งที่ปิดบังเอาไว้ไม่มิด
เธอเม้มริมฝีปาก เอ่ยเสียงเบาว่า
“จื่อเฟย ฉันตั้งครรภ์แล้ว”
“ตั้งครรภ์แล้ว?”
กู้จื่อเฟยมีท่าทีตื่นตะลึงทันที จากนั้นก็ยินดีจนเกือบจะกระโดดตัวลอย “จริงหรือ? เสี่ยวหว่าน นี่เป็นข่าวดีที่สุดที่ฉันได้ยินในช่วงนี้เลยจริงๆ!”
ยาทั้งสามประเภทของโห้หลีเฉินเพิ่งจะหาได้ครบ เย้นหว่านก็ตั้งครรภ์แล้ว
เรื่องดีๆทยอยตามกันมาไม่หยุด อนาคตเบื้องหน้าก็จะเจิดจรัสงดงาม
เย้นหว่านพยักหน้ายิ้มๆ “ฉันก็ประหลาดใจมากเช่นกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะตั้งครรภ์ในตอนนี้ เป็นไปได้ว่าเด็กคนนี้จะสงสารคุณพ่อของเขา คิดอยากจะเกิดเร็วหน่อยเพื่อให้คุณพ่อมีสุขภาพแข็งแรงเร็วขึ้น”
“จะต้องเป็นแบบนี้แน่นอน ฮ่าๆ”
กู้จื่อเฟยอารมณ์ดีด้วยความจริงใจ เมื่อคิดถึงอะไรบางอย่างได้ ก็รีบถามว่า
“เธอยังติดต่อเย้นโม่หลินไม่ได้ใช่ไหม”
“ใช่แล้ว ติดต่อไม่ได้ตลอดเลย”
“เขากำลังยุ่งน่ะ หลายวันมานี้ คาดว่ากระทั่งโทรศัพท์มือถือก็คงไม่มีเวลาดู ฉันจะช่วยเธอโดยการไปบอกเขาเอง”
กู้จื่อเฟยพูดและเริ่มออกเดิน
เย้นหว่านมองกู้จื่อเฟยด้วยความตื้นตันใจ ติดต่อเธอได้แล้วก็ดี ในที่สุดเธอก็สามารถติดต่อกับคนในครอบครัวได้แล้ว
ได้เห็นคุณพ่อ ได้บอกกับพวกเขาเรื่องข่าวคราวที่เธอตั้งครรภ์
เย้นหว่านเอ่ยว่า “เธอไม่ต้องรีบ เดินระวังหน่อย ฉันวางสายก่อนนะ เธอเดินดีๆ อย่าล้มเสียล่ะ”
กู้จื่อเฟยพยักหน้ารับคำแล้วถึงได้วางสายโทรศัพท์
เมื่อวางสาย รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้จื่อเฟยก็เลือนหายไปในชั่วพริบตาตามไป
เธอขมวดคิ้ว กัดริมฝีปากที่แห้งแตกเล็กน้อย
เย้นหว่านตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องดี ถ้าบอกกับเย้นเจิ้นจื๋อในตอนนี้ เขาจะต้องดีใจแน่นอน มีประโยชน์ต่ออาการบาดเจ็บของเขาเป็นอย่างมาก
แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้กลับยากที่จะได้พบกับเย้นเจิ้นจื๋อ
กู้จื่อเฟยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทำได้เพียงแค่เดินไปยังทิศทางบ้านพักของเย้นโม่หลิน
สถานการณ์ตอนนี้ของเธอในตอนนี้กระอักกระอ่วนลำบากมาก บางทีคงทำได้แค่ไปหาเย้นโม่หลินให้ช่วยเหลือแล้ว
เขารู้ว่าเย้นหว่านตั้งครรภ์แล้วจะต้องดีใจมากแน่นอน ภาระหน้าที่ที่อยู่บนตัวเขา อาจจะเบาลงเล็กน้อย
กู้จื่อเฟยเร่งฝีเท้าจนเกือบจะเป็นการวิ่งเหยาะๆ
ตอนที่เธอเกือบจะถึงบ้านพักกลับถูกคนขวางทางเอาไว้กะทันหัน
เบื้องหน้าก็คือหญิงสาววัยรุ่นสองคน อายุยี่สิบปี สวมเครื่องแต่งกายสั่งตัดรุ่นลิมิเต็ด ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยลักษณะท่าทางของกุลสตรีชนชั้นสูง
หญิงสาวที่สวมชุดกระโปรงสีไข่ห่าน เผยสีหน้าเยาะเย้ย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาหยามเหยียด
“โอ๊ะๆๆ นี่ไม่ใช่คุณกู้จื่อเฟยหรอกหรือ จะไปหาพี่เย้นอีกแล้วสินะ?”
กู้จื่อเฟยรู้จักสองคนข้างหน้านี้
คนที่พูดคือลูกพี่ลูกน้องของเย้นโม่หลิน ชื่อเย้นจือหฮวน มีตำแหน่งเป็นญาติต่างแซ่คนหนึ่งที่ไม่ต่ำต้อยในตระกูลเย้น ตั้งแต่เล็กก็ถูกเลี้ยงราวกับเป็นของล้ำค่า นิสัยจึงค่อนข้างเย่อหยิ่งจองหอง
ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นพี่สาวจากครอบครัวคุณตาของเย้นจือหฮวนมีท่าทางอ่อนโยนสง่างาม มองดูแล้วเป็นประเภทที่ทำความรู้จักได้ง่าย
แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอก ตอนที่เย้นจือหฮวนทำให้กู้จื่อเฟยลำบากใจต่างต่างนาๆ เธอไม่เคยเอ่ยปากตักเตือนอะไร เพียงแค่รักษารอยยิ้มเอาไว้ขณะดูเหตุการณ์
และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เธอเคยเป็นคนที่เกือบจะแต่งให้กับเย้นโม่หลิน
คราแรกที่กงจืออวีร้อนใจเรื่องการแต่งงานของเย้นโม่หลิน ก็หาโอกาสให้เขาพบปะดูตัวกับคุณหนูบางส่วน คนที่ได้รับความสำคัญมากที่สุดก็คือเธอเจียงเป้ยนี
ฐานะทางครอบครัวดี เบื้องหลังสะอาด นิสัยอ่อนโยนและมีความสามารถรอบด้าน
แต่ละด้านล้วนเหมาะสมที่จะเป็นอีกครึ่งหนึ่งของเย้นโม่หลิน กลายเป็นภรรยาของเขา และนิสัยอบอุ่นอ่อนโยนนี้ก็เป็นสิ่งที่กงจืออวีให้ความสำคัญมากที่สุด หลังจากแต่งงานแล้วก็สามารถรักใคร่ทะนุถนอม ถ้อยทีถ้อยอาศัย ให้เกียรติซึ่งกันและกันกับเย้นโม่หลินที่เย็นชาได้
ดังนั้น เจียงเป้ยนีก็เคยอาศัยอยู่ที่ตระกูลเย้นเป็นระยะเวลานานช่วงหนึ่ง เพื่อที่จะศึกษาดูใจกันไปเรื่อยๆกับเย้นโม่หลินจนรักกัน
ช่วงเวลานั้นคนส่วนใหญ่ล้วนคิดว่าเจียงเป้ยนีจะกลายเป็นภรรยาในอนาคตของเย้นโม่หลิน กระทั่งตัวเธอเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน
แต่ท่าทีของเย้นโม่หลินตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
เขาไม่เคยให้โอกาสใดกับเจียงเป้ยนี
จนถึงขั้นพูดได้ว่า เขาเพียงแค่ปฏิบัติต่อเธอด้วยท่าทีที่เคารพเหมือนกับแขกที่คุณแม่ของเขาเชิญมา นอกจากนั้น ภายในสายตาก็แทบจะไม่เห็นถึงการคงอยู่ของเธอ
และเป็นเพราะเช่นนั้น สุดท้ายเรื่องนี้ก็จบลงแบบค้างคาโดยที่ไม่มีบทสรุป
แต่หลายปีมานี้ เจียงเป้ยนีก็ไม่ได้มีความรัก แต่งให้ใครเช่นกัน ตั้งแต่ต้นจนจบเธอยังคงเฝ้ารอเพ้อฝันถึงเย้นโม่หลิน โดยไม่ได้ยอมแพ้
เธอเฝ้ารอโอกาสมาโดยตลอด
แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่เย้นโม่หลินกลับมาในครั้งนี้ จะพาผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่ากู้จื่อเฟยกลับมาด้วย
อีกทั้งยังเกือบจะกำหนดตัวคุณนายเย้นในอนาคตเอาไว้เรียบร้อย
จากสถานการณ์ เมื่อเทียบกับเย้นจือหฮวนที่ไม่ชอบและคอยหาเรื่องกู้จื่อเฟย เจียงเป้ยนีต่างหากที่มองกู้จื่อเฟยเป็นศัตรู และรังเกียจมากที่สุดคนหนึ่ง
“กู้จื่อเฟย สรุปว่าเธอรู้เหตุรู้ผลหรือไม่ ไร้ยางอายหรือไม่ เป็นเด็กสาวที่มาจากชนบทดินแดนที่ห่างไกลความเจริญอย่างที่คิดเอาไว้เลยจริงๆ ไม่เข้าใจภาพรวมของสถานการณ์เลยแม้แต่น้อย
ไม่รู้หรือว่าพี่เย้นยุ่งจนเท้าแทบไม่ได้แตะพื้นทั้งวัน กระทั่งพี่สาวฉันไปส่งข้าวให้ก็กินได้ไม่ถึงสองคำ เธอยังจะไปหาเขาอีก มีเจตนาจะทำให้ธุระของเขาล่าช้าสินะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้จื่อเฟยก็ขมวดคิ้ว
เจียงเป้ยนีเอาอาหารไปส่งให้กับเย้นโม่หลิน?
อาหารในสองวันนี้ของเย้นโม่หลินล้วนมีเจียงเป้ยนีเป็นผู้รับผิดชอบหรือ
ทำให้คนรู้สึกไม่สบอารมณ์จริงๆ
“ขึงตาอะไร นี่มันสายตาอะไรของเธอกัน?”
เย้นจือหฮวนชี้หน้าด่ากู้จื่อเฟย “กู้จื่อเฟย เธอก็ไม่ดูเลยว่าตัวเองมีสถานะอะไร คนจนที่เกิดจากสถานที่เล็กๆแห่งหนึ่ง อยู่ในตระกูลเย้นของพวกเราของควรจะรู้สึกต่ำต้อยแล้ว
ฉันเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยที่แท้จริงของตระกูลเย้น ใช้ฐานะทางสังคมเพียงแค่นิ้วเดียวก็สามารถซื้อเมืองทั้งเมืองของพวกเธอได้แล้ว เธออยู่ต่อหน้าฉัน ก็มีเพียงแค่ประจบประแจงอย่างไม่รู้สึกละอาย จะมาทำตัวยโสอวดดีอะไรต่อหน้าฉันกัน?!”