กู้จื่อเฟยพยักหน้า “อื้ม สิ่งสำคัญที่สุดคือความตั้งใจ ต่อให้ฉันทำออกมารสชาติแย่มาก พี่เย้นก็จะรู้สึกว่าอร่อยมาก”
เย้นหว่าน “……”
รู้สึกเป็นห่วงกระเพาะของพี่ชายเธอขึ้นมากะทันหัน
“จื่อเฟย ทำเค้กใหญ่หน่อยนะ ช่วยทำในส่วนของฉันด้วย”
ปีแรกที่กลับบ้าน จัดวันเกิดให้พี่ชาย แต่เธอกลับไม่สามารถฉลองให้เย้นโม่หลินที่นั่นได้
อารมณ์ของเย้นหว่าน หดหู่เล็กน้อย
กู้จื่อเฟยรีบพูดปลอบ “เอาน่า สาวท้องโตของฉัน เธออย่าเศร้าเลย อารมณ์ไม่ดีไม่ดีต่อลูกในท้อง เธอต้องมีความสุขสิ วางใจเถอะ วันเกิดของพี่ชายเธอฉันเหมาเอง รับรองว่าจะทำให้เขามีความสุขจนลืมไม่ลงไปชั่วชีวิต”
“มีแฟนแบบนี้อยู่ด้วย น้องสาวอย่างเธอก็ไม่สำคัญแล้ว ส่งใจมาให้ก็พอ ถ้าเธอมาไม่ได้จริงๆ ส่งอั่งเปามาก็ได้ ฉันช่วยเก็บไว้ให้พี่เย้นเอง ส่งใจมาแล้ว ตัวไม่อยู่ก็ไม่เป็นไรหรอกน่า”
อารมณ์ที่ตกต่ำของเย้นหว่าน ถูกปัดเป่าด้วยคำพูดไร้สาระของกู้จื่อเฟยทันที
ทั้งสองพูดคุยเม้าท์มอยกันต่ออีกครู่หนึ่ง ถึงวางสาย
ก่อนวางสาย กู้จื่อเฟยก็พูดขึ้นเป็นพิเศษ “เสี่ยวหว่าน ถ้าเธอเบื่อ ก็วิดีโอคอลมาคุยกับฉันได้นะ พี่สาวจะคุยกับเธอเอง”
เธอสามารถเข้าใจสถานการณ์และความรู้สึกของเย้นหว่านตอนนี้ได้เป็นอย่างดี
อยู่ในบ้านที่ไม่คุ้นเคย แม้แต่นอกลานยังมีแต่ศัตรูที่พร้อมจะจู่โจม เธอเหมือนกับนกน้อยที่ถูกขัง
เพียงคนเดียวที่พึ่งพาได้คือโห้หลีเฉิน ถ้าหากเขาไม่อยู่ เย้นหว่านก็ไม่มีแม้แต่คนจะพูดคุยด้วย จะรู้สึกเหงามาก
แม้ว่าสถานการณ์ของกู้จื่อเฟยจะไม่เหมือนกับเย้นหว่าน มีกงจืออวีที่เป็นมิตร แล้วยังมีป่ายฉีให้ทะเลาะ ปรับตัวให้กลมกลืนได้สะดวก
แต่ใบหน้าของเธอไม่ได้ฟื้นฟูในวันเดียว ก็เหมือนกับพันธนาการที่อยู่ในใจเธอ เธอก็ไม่กล้าเดินออกจากประตูลาน
เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าที่อยู่นอกประตูใหญ่ ถอนหายใจ
การต่อสู้ระหว่างตระกูลหยูกับตะกูลเย้น มันจะหยุดลงได้เมื่อไหร่กันแน่?
คืนวันแบบนี้ อยากให้จบลงให้เร็วที่สุดถึงจะดี
แต่กู้จื่อเฟยก็ไม่ใช่คนอารมณ์อ่อนไหว ไม่นานก็ปรับอารมณ์ได้ เริ่มเตรียมงานเลี้ยงวันเกิดสามวันหลังจากนี้
หลังจากที่เธอออกแบบเลย์เอาต์ของบ้านแล้ว ก็ให้คนไปซื้อของ จากนั้นก็เริ่มค้นคว้าวิธีการทำเค้ก
ใช้ใจทำเรื่องบางอย่างให้ดี เวลาก็จะผ่านไปเร็วมาก
ระยะเวลาสามวัน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้ ภายใต้การกำชับซ้ำแล้วซ้ำเล่าของกู้จื่อเฟย เย้นโม่หลินจึงกลับมาล่วงหน้า ตอนที่ฟ้ามืด
แต่ในอาคารหลักกลับไม่มีคนอยู่
กู้จื่อเฟยเร่งให้เขากลับมา ตามหลักแล้วต้องรอเขาอยู่ที่บ้าน ทำไมถึงไม่อยู่ล่ะ?
เย้นโม่หลินกำลังสงสัย จะโทรไปหากู้จื่อเฟย ตอนนี้ สาวใช้กลับเดินออกมา
“นายน้อย คุณกู้ตอนนี้อยู่ที่ลานของคุณค่ะ ให้คุณไปรับเธอที่นู่น”
วิ่งไปที่ลานของเขาโดยไม่มีเหตุผลทำไม?
เย้นโม่หลินคิดไม่ออก แต่ก็เดินก้าวใหญ่ไปทางด้านนอก
อาคารหลักกับลานของเย้นโม่หลินอยู่ห่างกันไม่ไกลมาก ไม่นานนัก เขาก็เดินมาถึงประตูลาน
เพียงแต่ที่แปลกคือ ประตูลานที่ปกติเปิดอยู่ตลอด ตอนนี้กลับปิดอยู่
อีกอย่างด้านนอกก็ไม่มีบอดี้การ์ดเฝ้าประตู
เรื่องอะไรกัน?
สถานการณ์ที่ผิดปกติทำให้การหายใจของเย้นโม่หลินตึงเครียดขึ้นมา กลัวว่ากู้จื่อเฟยอยู่ข้างในจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น รีบเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว เปิดประตูออก
เมื่อเขาเหยียบเท้าเข้าไป ทันใดนั้น—
“ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้น ริบบิ้นโบยบินเต็มท้องฟ้า
แต่ล่ะเส้นตกลงบนตัวเขา
เย้นโม่หลินประหลาดใจ เห็นลานที่เดิมทีเงียบเหงาว่างเปล่า ตอนนี้บนต้นไม้ถูกประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ เต็มไปด้วยบรรยากาศสนุกสนานราวกับเทศกาลปีใหม่
บนพื้นยังปูพรมแดง พรมทั้งสองฝั่ง มีคนยืนอยู่เต็ม ล้วนแต่เป็นเครือญาติและครอบครัว ในมือของเหล่ารุ่นเยาว์ถือพลุริบบิ้น รอยยิ้มเต็มหน้า
“นายน้อย สุขสันต์วันเกิด”
พวกเขาพูดขึ้นพร้อมกัน
เย้นโม่หลินผงะ แล้วถึงได้สติ วันนี้เป็นวันเกิดของเขา
นี่คือจะฉลองให้เขา?
เขาไม่ต้องการมันเลยสักนิดนี่
“พี่ใหญ่ เข้ามาเร็ว ยังมีเซอร์ไพรส์อีก”
ป่ายฉียืนอยู่หัวแถวของฝูงคน กวักมือเรียกเย้นโม่หลินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อเห็นเขา ในใจเย้นโม่หลินก็แน่ใจ ตอนนี้สามารถมั่นใจได้ ว่ากู้จื่อเฟยอยู่ที่นี่แล้วจริงๆ
เขาดึงริบบิ้นที่ติดอยู่บนผมหน้าม้าออก เดินก้าวโตเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทาง ก็เห็นกงจืออวีกับเย้นเจิ้นจื๋อ ยืนอยู่ด้านหนึ่ง มองยิ้มมาที่เขาอย่างปลื้มใจ
เย้นโม่หลินตอนนี้ถึงพบว่า คนใกล้ชิดที่สำคัญในครอบครัว มากันเกือบหมดเลย
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญแบบนี้ ยังหาเวลาว่างมาฉลองวันเกิดให้เขา
ถ้าตอนนี้ทางด้านตระกูลหยูทำการเคลื่อนไหวอะไร ก็พลิกฟ้าดินได้เลย
เย้นโม่หลินขมวดคิ้วเงียบๆ รู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม
เมื่อกำลังคิดที่จะเอ่ยปากพูดอะไร ตอนนี้ ภายในห้อง ก็มีเสียงหวานๆ ดังขึ้น
ไพเราะรื่นหู
“Happy birthday to you Happy birthday to you Happy birthday to you”
ตามเสียงเพลง เห็นเพียงกู้จื่อเฟยเข็นรถเข็นเล็กๆ เดินออกมาจากด้านใน
บนรถเข็น มีเค้กสามชั้นวางอยู่ พร้อมเทียนไขด้านบนเป็นประกาย
แล้วเธอก็เปลี่ยนรูปแบบการแต่งกายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สวมใส่กระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน เสื้อผ้าที่ดัดแปลงเป็นพิเศษ ปกปิดรูปร่างที่ผอมบางของเธอ ดูสง่างามสะดุดตาเป็นพิเศษ
บนใบหน้าใส่หน้ากากสีฟ้าที่เข้าชุดกัน ประดับประดาเหมือนผ้าคลุมหน้า มองดูแล้วสวยสดงดงาม
เย้นโม่หลินที่มองอยู่สติหลุด คำพูดที่อยากจะพูดก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับไม่มีโดยสิ้นเชิง
เขายกขา เดินไปทางเธอโดยไม่รู้ตัว
“พี่เย้น สุขสันต์วันเกิด”
กู้จื่อเฟยเข็นเค้กมาถึงตรงหน้าเย้นโม่หลิน พูดเสียงดัง อย่างมีความสุข
เย้นโม่หลินมองรอยยิ้มเต็มใบหน้าของกู้จื่อเฟย สีหน้าก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนโยนขึ้น “อื้ม ฉันมีความสุขมาก”
“หึ เห็นหรือยัง? ผมบอกแล้วว่าแค่กู้จื่อเฟยปรากฏตัว พี่ใหญ่ก็จะฉลอง partyวันเกิดนี้อย่างเชื่อฟัง”
ป่ายฉียืนอยู่ข้างกงจืออวี พูดอย่างประชดประชัน
กงจืออวียิ้มอย่างชื่นใจ เมื่อก่อนเธอก็เคยจัด partyวันเกิดให้เย้นโม่หลิน แต่หลังจากสามขวบ เขาก็มีอิสระในตัวเองไม่ฉลองอีกแล้ว ไม่เคยสนใจในงานฉลองแบบนี้
วันนี้ที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จัดงานเลี้ยงวันเกิดให้เขา ก่อนหน้านี้เธอยังกังวลนิดหน่อยว่าเย้นโม่หลินจะไม่ให้ความร่วมมือ จะหันตัวเดินจากไป
แต่ตอนนี้ดูแล้ว…..เด็กคนนี้ในที่สุดก็ถูกคนโค่นลงจนได้
ป่ายฉีสองมือกอดอก ขึ้นเสียงพูด
“พี่ใหญ่ การประดับประดาที่นี่กู้จื่อเฟยเป็นคนออกแบบจัดแจงเองทั้งหมด เค้กเธอก็ทำเองกับมือเลยนะ”
ได้ยินดังนั้น เย้นโม่หลินก็ค่อนข้างประหลาดใจ
มองกู้จื่อเฟยด้วยสายตาเป็นประกายเล็กน้อย “เธอทำเองเหรอ?”
เท่าที่เขารู้ กู้จื่อเฟยนอกจากทำข้างล่างแล้ว อย่างอื่นก็ทำไม่เป็น
ดังนั้น นี่เรียนทำเค้กเป็นพิเศษเหรอ?
กู้จื่อเฟยใบหน้าแดงก่ำ มองตรงไปที่เย้นโม่หลิน แสร้งพูดอย่างใช้อำนาจ
“ใช่น่ะสิ ไม่ว่าจะอร่อยหรือไม่อร่อย นายจะไม่ชอบมันไม่ได้ ต้องกินให้หมดนะ แต่ มันต้องอร่อยแน่นอน”
“อื้ม” เย้นโม่หลินเห็นด้วยอย่างจริงจัง “เธอทำอะไรก็อร่อยทั้งนั้น”
ความเห็นด้วยอย่างจริงจังนี้ ทำให้กู้จื่อเฟยเก้อเขินทันที นี่ไว้หน้าเธอเกินไปแล้ว ยังเอาใจอีกหน่อยได้ไหม?